เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1241
บทที่ 1241 ไม่อยากจาก
ในที่สุดก็รวบรวมความกล้าพูดทุกสิ่งในใจที่อยากพูดออกมา
ตอนที่พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็ทำท่าโก่งคออ้วกออกมาแล้วมองหานชิง ในแววตาราวกับมีแววยั่วยุอยู่เล็กๆ
หานชิงนิ่งไปเล็กน้อย
คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมีมุมเจ้าเล่ห์แบบนี้ด้วย
ยังไงก็อยากจะเล่นแล้ว หานชิงเองก็ไม่มีปัญหาอะไรถ้าอยากจะหยอกเธอบ้าง ตอนแรกมือของเขาใช้เช็ดเหงื่อให้เธอแทน หลังจากนั้นก็ตกลง มาพาดอยู่ตรงไหล่ของเธอ ในตอนนี้หลังจากที่ฟังคำพูดของเธอแล้ว มือของเขาก็กางออกแล้วกดลงไปบนหลังต้นคอขาวของเสี่ยวเหยียนแล้วดึงเอาไว้ “เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ ได้ยินไม่ชัด พูดอีกครั้งสิ?”
เสี่ยวเหยียน“……”
มือของเขากำลังดึงหลังคอของตัวเองอยู่นะ อุณหภูมิบนมือของเขาส่งมายังตัวเธอโดยไม่มีอะไรกั้น ในสถานการณ์แบบนี้ราวกับว่ากำลังข่มขู่เธออยู่อย่างไรอย่างนั้น เสี่ยวเหยียนไหนเลยที่จะกล้าพูดอีก กะพริบตามองเขา ไม่ได้พูดต่อ
หานชิงหรี่ตาลง ลมหายใจก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“ไม่มีเสียงแล้ว? เมื่อกี้ความกล้ายังมีอยู่เยอะนี่?”
เสี่ยวเหยียน“……”
“หุ่นดี? กล้าแต่งตัว? เป็นสเปคของผม?”
เสี่ยวเหยียนเรี่ยวแรงยิ่งอ่อนลง ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะหานชิงยังดึงคอไว้อยู่ ไม่อย่างนั้นในตอนนี้หัวของเธอก็คงจะตกลงไปกองอยู่บนพื้นแล้ว
“คุณเป็นยังไง คุณยังไม่รู้เหรอ?” มืออีกข้างของหานชิงเคาะลงบนหัวของเธอ “ตามจีบผมมาตั้งนานขนาดนี้ เคยเห็นว่ารอบๆตัวผมมีผู้หญิงคนอื่นนอกจากคุณเหรอ? เด็กน้อยใจร้ายจริงๆเลยนะ”
ประโยคสุดท้ายนั่นดูจะสนิทสนมกันเกินไปหน่อยนะ เหมือนกับว่ามีอะไรที่กระแทกเข้ามาที่ใจของเสี่ยวเหยียนอย่างรุนแรง เธอก็รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา เหมือนกับแมวที่ตะปบมือไปบนปกคอเสื้อของหานชิงแล้วค่อยๆเลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ พูดเสียงเบา “ฉัน ฉันก็แค่หยอกๆเล่น แถม……หุ่นฉัน….ก็….ก็ไม่ได้แย่ไปกว่าเธอ……”
ประโยคหลังนั้นยิ่งพูดยิ่งเสียงเบา เหมือนกับยุงอย่างไรอย่างนั้น ถ้าเกิดว่าไม่ใช่ทั้งสองคนอยู่ใกล้กัน หานชิงก็แทบจะไม่ได้ยิน
หลังจากพูดจบ ใบหน้าของสาวน้อยก็แดงเถือกใบทั้งหน้า เหมือนกับลูกพืชที่สุกงอมในฤดูร้อน ชมพูอ่อนๆ ดูชุ่มฉ่ำมากกว่าปกติทำให้คนใจเต้น
มองเห็นท่าทางแบบนี้ของเธอ หานชิงก็กลืนน้ำลายลงคอ พบว่าตัวเองนั้นโดนใบหน้าแดงๆของเด็กสาวทำให้ใจเต้นเข้าให้แล้ว แอบขัดขืนอยู่ภายในใจเงียบๆ สติและความยับยั้งชั่งใจที่เคยภูมิใจในตอนเมื่อก่อนไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว หลังจากนั้นในที่สุดก็ยอมฟังเสียงหัวใจของตัวเอง ก้มหัวลงไปจูบเธอ
เพียงแต่ยังไม่ทันจะโดนริมฝีปากของเธอ เสี่ยวเหยียนก็หลบไปเสียก่อน เสี่ยวเหยียนมองเขาที่อยู่ใกล้เธอประมาณหนึ่งนิ้วแล้วว่าขึ้น “เมื่อกี้หลินชิ่นเอ๋อมาแล้วแหละ ฉันด่าเธอไปแล้วยกหนึ่งเลย”
“อืม”
หานชิงตอบรับหนึ่งคำ แล้วก็ตามหาริมฝีปากของเธอต่อ เสี่ยวเหยียนหลบด้วยใบหน้าแดงก่ำ หลบไปก็พูดไป “คุณแค่ตอบรับแบบนี้เหรอ?”
เขายังคงหาอยู่ พอเสี่ยวเหยียนเอียงคอ ริมฝีปากบางของหานชิงก็ประทับลงไปบนแก้มของเธอ ราวกับว่าเริ่มหมดความอดทนเล็กน้อย เขายื่นมือของมาแล้วจับศีรษะของเธอเอาไว้แน่น เสียงทุ้มดังขึ้น “อย่าขยับ”
เสี่ยวเหยียนคิดอยากจะหันหน้า แต่ว่าโดนเขาล็อกเอาไว้ ไม่แม้แต่จะสามารถขยับได้ ทำได้เพียงมองเขาที่ขยับเข้ามาใกล้ตาปริบๆ
“คือว่า……ฉันบอกกับคุณว่าฉันด่าเธอไปแล้ว คุณไม่คิดจะมีปฏิกิริยาอะไรหน่อยเหรอ?”
ปฏิกิริยา?
หานชิงหรี่ตาลง ก้มลงมาจูบลงบนริมฝีปากของเธอครั้งหนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น น้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “ก็แค่คนคนหนึ่งที่ไม่สำคัญ คุณหวังว่าผมจะมีปฏิกิริยายังไงเหรอ?”
คนที่ไม่สำคัญ?
ได้ยินคำตอบนี้ ความไม่พอใจภายในใจของเสี่ยวเหยียนหายไปทั้งหมด หัวคิ้วเลิกขึ้นไปอย่างห้ามไม่อยู่
เธอยึดคอเสื้อของหานชิงเอาไว้ “นี่เป็นสิ่งที่คุณพูดเองนะ เธอเป็นคนที่ไม่สำคัญ ถ้าเกิดว่าวันไหนเธอมายั่วคุณ คุณห้ามสนใจเธอ”
หานชิงหัวเราะอย่างจำใจด้วยเสียงทุ้มต่ำ “คุณไม่เชื่อผมขนาดนี้เลย?”
เสี่ยวเหยียนส่ายหน้า “ฉันแค่กลัวว่าคุณจะขายหน้า”
ยังไงเสียในวันนั้นเธอจงใจที่จะเอาหน้าอกมาส่งให้เขาฟรีๆ ตอนแรกเสี่ยวเหยียนคิดว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ว่าหลังจากที่รู้จุดประสงค์ของเธอ เสี่ยวเหยียนก็รู้ว่านั้นน่ะจงใจ
เธอกำลังใช้ร่างกายของตัวเอง ใช้ความเซ็กซี่ที่มีมาตั้งแต่เกิด ไปยั่วยวนชายคนหนึ่ง
นี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมาจนถึงตอนนี้ เสี่ยวเหยียนทำปากจู๋ แล้วประกาศกร้าวออกมา “คุณเป็นของฉัน อย่าให้เธอโดนคุณ”
คุณเป็นของฉัน……
คำพูดนี้ราวกับว่าเป็นจุดกำเนิดแสงสว่างที่ลอยเข้าไปในร่างกายของหานชิง ทำให้ดวงตาสีดำมืดของเขาเต็มไปด้วยประกายของความขบขัน
“อืม ผมเป็นของคุณ……”
ก้มหน้าลงจูบเธอ
ในขณะเดียวกันเสี่ยวเหยียนก็ปิดตาลง แล้วกอดเขากลับไปอย่างแรง
ทั้งสองคนก็จูบตอบกันไปมาอย่างนี้บนชายหาด แสงอาทิตย์ที่ทอแสงอ่อนราวกับค่อยๆรวมเข้ามาจากหลายทิศทาง หมุนล้อมรอบตัวทั้งสองคน
จากที่ไม่ไกลหลินชิ่นเอ๋อมองภาพที่สวยงามนี้ โกรธจนกำหมัดแน่น เล็บจิกจนฝังลึกลงไปภายในเนื้อ
ทำไมกัน แค่เด็กอมมือไม่รู้ประสาคนหนึ่งกลับถึงได้รับความสนใจจากผู้ชายที่ดีเด่นขนาดนี้ หน้าตาของเธอไม่ได้โดดเด่นเลยแม้แต่น้อย มากสุดก็ได้แค่เด็กผู้หญิงที่ดูสะอาดสะอ้านระดับหนึ่ง หุ่นก็ไม่ดี แต่ต่อหน้าเขากลับดูแข็งแกร่งขนาดนั้น
ที่อยู่ใกล้ๆก็ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นหรือไง? ยังจะมาพูดว่าไม่สนใจคนสวยอะไรอีก ถุย!
หลินชิ่นเอ๋อขากถุยแรงๆอยู่ในใจ
นั่นเป็นเพราะว่าผู้ชายของแกยังไม่เคยได้ลองลิ้มรสผู้หญิงแบบนี้ไง รอให้เขาได้รู้ว่าในตอนที่กำลังมีความสุขที่สุดแล้วอยู่ๆก็มีเรื่องให้เศร้าใจที่สุดก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นก็คงไม่ต้องการแกอีกแน่ๆ
ในดวงตาของหลินชิ่นเอ๋อมีแววตาขบขันเป็นประกายออกมา เกิดความคิดขึ้นภายในใจ
ในตอนเย็นมีปาร์ตี้ริมหาด สามารถมาเข้าร่วมได้ตามอัธยาศัย เสี่ยวเหยียนลากหานชิงไปอย่างอารมณ์ดี จากนั้นก็ได้พบเข้ากับคู่สามีภรรยาอีกหลายคู่ที่อยู่บนเรือก่อนหน้านี้ และหนึ่งในนั้นก็มีคู่หนึ่งที่เป็นคนถ่ายรูปให้เสี่ยวเหยียนเมื่อตอนบ่าย
หลังจากที่เธอมองเห็นเสี่ยวเหยียนก็ค่อยๆขยับเข้ามา แล้วเริ่มเม้ามอย “เป็นยังไงบ้างล่ะ? ผู้หญิงคนนั้นไม่มียุ่งกับคุณแล้วใช่ไหม?” เสี่ยวเหยียนคิดถึงเรื่องที่ตัวเองด่าหลินชิ่นเอ๋อไปเมื่อตอนบ่าย เอียงคอไปมา “ถ้าเกิดว่าเธอมองอารมณ์ของคนอื่นออกก็คงจะไม่มาวุ่นวายแล้วละมั้งคะ?”
หญิงคนนั้นหัวเราะ “อืม? ฟังแล้วเหมือนว่าคุณจะจัดการกับเธอไปแล้ว?”
ฟังจบ เสี่ยวเหยียนหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่ไหว อธิบายแทนตัวเอง “ที่ไหนกันล่ะคะ? ฉันไม่ใช่คนชอบใช้กำลังค่ะ ก็แค่พูดคุยกันนิดหน่อย”
“แค่คุยกันแต่สามารถที่จะจัดการคนอื่นได้ ก็ถือว่าคุณน่ะเก่งสุดยอดไปเลยนะ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณดูเป็นคนนุ่มนิ่มอ่อนแอ เหมือนกับลูกแมวน้อยที่ยังไม่โต แต่กลับสามารถที่จะจัดการกับคนอื่นได้?”
ได้ยินว่าอีกฝ่ายแกล้งหยอกตัวเองว่าเหมือนลูกแมวอ่อนแอ ในใจของเสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าไม่พอใจมาก อดไม่ได้ที่จะบ่นขึ้นมา “ฉันดูอ่อนมากเลยเหรอคะ?”
หญิงคนนั้นพยักหน้า “ดูแล้วดูอ่อนแอจริงๆ ดูเหมือนกับว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่ดูไม่รู้จักไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง อายุยิ่งน้อยอีก แถมยังไม่รู้ประสา สามียังดูโต สุขุม เก่งกาจแบบนี้ คุณว่าถ้าเธอไม่เล็งตัวคุณแล้วจะเล็งใคร?”
เสี่ยวเหยียน“…….ต้องโทษฉันสินะ?”
“เอาเถอะน่า ตอนเย็นก็เที่ยวให้สนุกเถอะ ฉันไปก่อนล่ะ”
เสี่ยวเหยียนพยักหน้าเพื่อแสดงคำขอบคุณ หลังจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปส่งไปให้หานมู่จื่อ แบ่งปันความสุขในค่ำคืนนี้กับเธอ
ทางด้านหานมู่จื่อส่งเครื่องหมายจุดจุดจุดกลับมาให้ ดูแล้วเหมือนอารมณ์จะไม่ดี
เสี่ยวเหยียนงุนงงอยู่บ้าง เลยถามเธอว่าเป็นอะไร?
ใครจะไปรู้ หานมู่จื่อไม่ได้ตอบคำถามแถมยังถามกลับอีก
“ทริปเที่ยวของพวกแกอีกห้าวันก็จบแล้วใช่ไหม?”
อีกห้าวันก็จบแล้วเหรอ? เสี่ยวเหยียนกะพริบตาปริบๆ ภายในใจก็เริ่มมีความรู้สึกไม่อยากให้มันจบ