เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1249
บทที่1249 คุณมีโรคที่ซ่อนอยู่หรือเปล่า
อยู่ๆหานชิงก็กดจูบลงมา
โลกใบนี้เงียบลง ทุกสรรพสิ่งไร้เสียง
เหลือเพียงแค่หัวใจที่เต้นเพราะว่าความรัก
ตึก——
ตึกๆ——
เสี่ยวเหยียนรู้สึกเหมือนว่าหัวใจของตัวเองแทบจะทะลุออกมาจากหน้าอก เหมือนกับลูกกวางที่พุ่งชนไปมั่วๆ มือของเธอโดนหานชิงลากขึ้นอยู่ตรงเหนือศีรษะ ในตอนนี้แม้แต่เล็บก็สั่นอย่างไม่รู้ตัว
ทั้งๆ……ทั้งๆที่เป็นตัวเองแท้ๆที่พูดจนฮึกเหิมยุเขาก่อน
ตอนนี้จะกลัวก็ไม่ทันแล้ว แต่ว่าเสี่ยวเหยียนกลัวก็กลัว แต่กลับไม่ได้มีความรู้สึกเสียใจเลยสักนิด
อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา เพราะฉะนั้นอุณหภูมิริมฝีปากของหานชิงก็เลยสูงมาก ดูเหมือนจะร้อนแผดจนทำให้เสี่ยวเหยียนเจ็บตัว ในตอนแรกเริ่มเธอกังวลเล็กน้อย ในท้ายที่สุดก็ค่อยๆปิดตาลงจากการนำทางของหานชิง
จูบของเขาราวกับไฟ แผดเผาอยู่บนริมฝีปากของเสี่ยวเหยียน หน้าผาก จมูก ลำคอ……
สถานการณ์ยิ่งดีและดีขึ้นเรื่อยๆ
ความร้อนๆกระจายจากลำคอไปสู่หัวไหล่
และตอนที่เสี่ยวเหยียนนึกว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้น และพัฒนาไปอย่างราบรื่น อยู่ๆบนตัวก็กลายเบาลง ทุกๆสัมผัสกับอุณหภูมิอยู่ๆก็หายไป เธอเพิ่งจะลืมตาขึ้น ก็มองเห็นหานชิงดึงผ้าห่มผืนหนึ่งมาคลุมตัวเธอไว้
“??”
เสี่ยวเหยียนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มองเขาด้วยความงงเล็กน้อย
“นี่ นี่คือทำอะไรคะเนี่ย?”
หานชิงปรายตามองเธอเล็กน้อย เห็นว่าคิ้วของเธอราวกับไหม ริมฝีปากแวววาว ลำคอขาวก็มีร่องรอยของตัวเองอยู่ ภายในใจก็หงุดหงิดขึ้นมามากกว่าปกติ
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ควบคุมได้ดีมาก แต่กลับเป็นว่าเพราะคำพูดแค่สองสามคำของเธอ และก็การกระทำอีกเพียงเล็กน้อยก็สามารถที่จะพังทลายได้
หานชิงจ้องมองเธออยู่นาน ริมฝีปากบางของหานชิงเม้มจนเป็นเส้นตรง มองออกว่าเขาอดทนอย่างทุกข์ทรมาน
“เด็กโง่ ตอนนี้ยังไม่ได้”
ไม่ได้? หมายความว่ายังไง? เสี่ยวเหยียนไม่เข้าใจ แต่ว่าดูจากความหมายของหานชิง ชัดเจนว่าก็คงจะไม่ทำต่อไปแล้ว เธอคิดที่จะเปิดผ้าห่มออก หานชิงกลับดูเหมือนว่าจะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว เลยใช้ผ้าห่มม้วนตัวเธอเอาไว้ ม้วนจนเธออยู่ในสภาพม้วนกลม
เสี่ยวเหยียน“……”
“อยู่ตรงนี้นิ่งๆ คืนนี้ผมจะใช้ห้องน้ำ”
พูดจบ หานชิงก็ลุกขึ้นแล้วก็จากไป ทิ้งไว้เพียงแต่เสี่ยวเหยียนให้ตะลึงอยู่ตั้งนานสองนานตรงที่เดิม รอจนกว่าเธอจะตั้งสติกลับคืนมาได้ ก็ได้ยินเสียงประตูปิดลงดังปึง แล้วก็กดล็อก
ในตอนนี้ เธอถึงได้นึกอะไรขึ้นได้ อยากจะลุกขึ้น แต่กลายเป็นโดนผ้าห่มม้วนจนแน่น ไม่มีหนทางแล้ว เสี่ยวเหยียนทำได้เพียงแค่หมุนตัวรอบหนึ่งถึงจะออกมาจากผ้าห่มได้
เธอรีบพุ่งตัวไปทางห้องน้ำ เดินไปได้สองก้าวถึงได้รู้ว่าเสื้อของตัวเองนั้นโดนเลิกขึ้นสูง แม้แต่กระดุมก็โดนแกะออก
คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เสี่ยวเหยียนก็หน้าแดง วุ่นอยู่กับการจัดการเสื้อผ้าของตัวเอง จากนั้นถึงได้เดินไปอยู่ตรงหน้าห้องน้ำ
ลองไปหมุนลูกบิดประตู กลายเป็นว่าโดนล็อกไปแล้ว ภายในห้องน้ำมีเสียงแปะๆของน้ำดังออกมา
เสี่ยวเหยียนตบประตู แล้วก็ตะโกนไปด้วย “คุณออกมานะ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันยินยอมอ่ะ ตกลงว่าคุณใส่ใจเรื่องไหนกันแน่? ฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่งยังไม่สนใจ คุณเป็นถึงชายฉกรรจ์จะสนใจอะไร? หานชิง คุณรีบเปิดประตูนะ!”
ที่ตอบกลับมามีเพียงเสียงน้ำ
เสี่ยวเหยียนโมโหจนมากๆแล้ว สีชมพูอ่อนบนใบหน้า ส่วนหนึ่งเป็นความเขินแต่มากกว่านั้นคือความโกรธ
ทั้งๆที่ทำไปได้ตั้งครึ่งทางแล้วแท้ๆ แต่เขากลับยั้งมือ ยอมที่จะมาอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ มาบอกว่าตอนนี้ไม่ได้
ถึงแม้ว่าจะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่ว่าอย่างน้อยเธอก็เคยเห็นประสบการณ์พวกนี้มาบ้างนี่
ถึงเวลาแบบนั้นแล้ว เขากลับยังสามารถหยุดยั้งตนเองได้
แค่คิดว่ากำลังแช่น้ำเย็นๆแล้วก็อดทนกับความทรมานไปด้วย หัวใจของเสี่ยวเหยียนก็โดนบีบคั้นไปด้วย ใบหน้าหมองเศร้าของเธอร้องไห้แล้วก็ชนเขากับประตู
“คุณเปิดประตูสิ พูดสิ คุณตอบคำถามของฉันสิ ตกลงอะไรคือตอนนี้ไม่ได้? ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไรสักหน่อยนี่ คุณใส่ใจขนาดนี้……มีเรื่องอะไรที่พูดไม่ได้หรือเปล่า……”
พูดถึงในตอนท้าย น้ำเสียงของเด็กสาวยังคงมีเสียงร้องไห้ปนอยู่ด้วย
อยู่ๆ เสียงน้ำในห้องน้ำก็หยุดลง
เมื่อกี้เพราะรีบร้อน น้ำตาของเสี่ยวเหยียนก็เลยหยดลงมา เธอตบประตูไปเตรียมพร้อมจะพูดต่อ แต่ประตูห้องน้ำกลับโดนเปิดออกเสีย
ประตูเพิ่งจะเปิดออก เสี่ยวเหยียนก็พุ่งตัวไปด้านหน้าโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเพื่อกอดหานชิง
หานชิงยังไม่ทันจะได้เช็ดหยดน้ำที่เกาะอยู่บนตัว เด็กสาวก็เอาหัวเข้ามาซุกอกเขา ทำให้เขาไม่มีทางเลือก
เสี่ยวเหยียนกอดเขาเอาไว้ เห็นว่าเธอเริ่มยกขึ้นมา แล้วออกแรงมากมายกอดเขาอีกครั้ง พูดขึ้นด้วยเสียงเศร้า “หานชิง คืนนี้ถ้าคุณยังกล้าที่จะผลักฉันออก ฉันก็จะออกไปจากห้องนี้ทันที คุณก็นั่งรอความเสียใจได้เลย!”
มือที่ยกขึ้นมากึ่งหนึ่งของหานชิงก็หยุดลงไปแบบนี้เสีย ชั่วครู่ มือใหญ่กดวางลงบนหัวของเธอ คลุมและนวดเบาๆ
“หัดที่จะขู่ฉันแล้วนะ” เสียงของเขาแหบแห้งจนฟังไม่ออก ยังมีน้ำเสียงแห่งความเหนื่อยล้าและหน่ายใจติดมาด้วย “ดึกขนาดนี้ เธอจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ?”
เสี่ยวเหยียนทำเสียงหึออกมาครั้งหนึ่ง พูดขึ้นเสียงอู้อี้ “คุณสนใจด้วยเหรอว่าฉันจะไปไหน ถ้าเกิดว่าคุณไม่ต้องการฉันล่ะก็ อย่างนั้นฉันไปไหนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ”
เสียงที่ดังขึ้นจากบนหัวยิ่งเหนื่อยหน่ายมากขึ้น “ใครไม่ต้องการเธอแล้ว? คิดอะไรตุตะทั้งวัน?”
“ถ้าเกิดว่าคุณต้องการฉัน ก็คงไม่ผลักฉันออกในเวลาแบบนั้น แถมยังไม่สนใจฉันอีก” เสี่ยวเหยียนพูดไป แล้วก็เงยหน้าไปสบตากับหานชิง “คุณบอกมาตามตรงนะ คุณมีโรคอะไรแอบซ่อนอยู่ใช่ไหม?”
“……..” หัวคิ้วขิงหานชิงขมวดเข้าหากัน มองเด็กสาวของตนด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย
เขาก็เพียงแค่คิดว่าในสถานการณ์แบบนี้อาจจะทำให้เธอเสียใจได้เท่านั้น สมองเธอกลับเติมแต่งให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตออกมาได้ ขนาดที่ว่าคิดถึงด้านโรคร้ายที่แอบซ่อนทางนี้ก็คิดออกมาได้ หานชิงยื่นมือออกไป หยิกแก้วของเด็กสาวอย่างแรง
“พูดอะไรมั่วซั่ว? นี่หวังว่าจะให้แฟนของตัวเองเป็นโรคอะไรอย่างนั้นเหรอ?”
ใบหน้าของเด็กสาวโดนบีบ รู้สึกเจ็บเล็กน้อย เธอย่นจมูกโดยไม่รู้ตัวแล้วว่าขึ้น “ถ้าเกิดว่าไม่มีโรคอะไรที่แอบซ่อนอยู่ อย่างนั้นทำไมคุณถึงไม่ทำต่อ?”
“แม่เด็กน้อยแบบเธอนี่มันจริงๆเชียว……”
หานชิงถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่ง โน้มตัวลงมากอดไหล่บอบบางของเธอเอาไว้ ในน้ำเสียงลึกๆแล้วดูหมดพลัง
“ไม่มีเหตุผลที่ดีมารองรับ ใบรับรองยังไม่ได้เอาเลยนะ จะถูกต้องตามประเพณีได้ยังไง?”
หืม?
ตอนแรกเสี่ยวเหยียนไม่เข้าใจ พอได้คิดแป๊บหนึ่งก็เข้าใจความหมายของเขา เธอใบหน้าแดงฉ่า อยู่ๆก็ร้องดังจนทำให้คนตกใจ
“นี่ นี่คือ…..คุณกำลังขอฉันแต่งงานเหรอ?”
“……..” รอยยิ้มของหานชิงหายไป ความคิดของเด็กสาวต่างจากความคิดของคนทั่วไป แต่ว่า ความจริงแล้วเขาก็มีความหมายแบบนั้น เขาไม่ใช่คนที่จะรักใครได้ง่ายๆ ถ้าเกิดว่าเลือกแล้วก็ไม่มีทางเปลี่ยนไป ไม่อย่างนั้นในตอนแรกเขาก็คงไม่นิ่งได้นานแบบนั้น ในตอนหลังก็เป็นเพราะว่าเขาควบคุมความรู้สึกไม่ได้ ในตอนที่ตัดสินใจจะคบกับเธอก็ได้ตัดสินใจแล้วเหมือนกัน
เสี่ยวเหยียนถามจบ ถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองถามคำถามที่โง่เง่าขนาดนั้น คนเขาก็แค่พูดออกมาเฉยๆ ไม่ได้มีความหมายว่าจะขอแต่งงานเสียหน่อย แต่เธอกลับคิดไปเองเข้าใจผิดเอง
น่าอายจริงๆ!!
เสี่ยวเหยียนกัดปากของตัวเองไว้ “ข.. ขอโทษค่ะ…..เมื่อกี้ฉันเข้าใจผิดไปเอง ฉัน……..”
“เด็กโง่ อย่างนี้จะนับว่าขอแต่งงานได้ยังไง?” หานชิงบีบหลังต้นคอของเธอเบาๆ น้ำเสียงยังคงทุ้มต่ำเหมือนเดิม ในชาตินี้ของหานชิง เขาเคยรักเพียงแค่คนเดียวคือแม่เด็กน้อยคนนี้ ถ้าเกิดว่าให้มาขอแต่งงานในเวลาแบบนี้ สถานที่แบบนี้ อย่างนั้นไม่ใช่ว่าจะทำให้เธอน้อยใจเอาเหรอ? ขอแต่งงานเป็นเรื่องที่สำคัญขนาดไหน อย่างน้อยก็ต้องยิ่งใหญ่เป็นทางการและตระเตรียมด้วยความตั้งใจ