เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1264
บทที่ 1264 เตรียมการ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสี่ยวเหยียนเบิกตาโตกว้างขึ้นมาทันที: “เมื่อครู่คุณเชิญฉันไปที่บ้านไม่ใช่เหรอ? ทำไมเปลี่ยนคำพูดแล้วล่ะ คุณไม่จริงใจเลย…”
เมื่อพูดจบ หล่อนก็จับหน้าผากตัวเอง และก้มหน้าลง ไม่สนใจเขาอีก
สาวน้อยก้มหน้าคอตก เผยให้เห็นถึงท้ายท้อยกลมๆ หานชิงหุบยิ้มและยื่นมือไปนวดท้ายทอยให้หล่อน
“ทำไมผมจะไม่จริงใจล่ะ? ตอนนี้ดึกแล้ว กลับบ้านไปคงไม่สะดวก ไปที่บ้านผมดีกว่า โคงโคงรอคุณอยู่นะ”
โคงโคง!? โคงโคง!!
เมื่อนึกถึงแมวอันแสนน่ารัก เสี่ยวเหยียนรู้สึกเลือดสูบฉีด มีพลังขึ้นมาทันที หล่อนเงยหน้าขึ้นพร้อมสายตาอันแสนร่าเริง แต่คิดไม่ถึงเลยว่า จะรู้สึกเสียใจขึ้นมาอีกครั้ง
“ดูเหมือนว่า โคงโคงจะไม่ค่อยชอบฉัน ไม่ยอมให้ฉันได้ลูบหัวเขาเลย”
“งั้นก็คงเป็นเพราะ คุณลูบมันบ่อยๆเกินไป มันกลัวขนร่วง”
หานชิงพูดพลาง ลูบหัวของหล่อนพลาง
เสี่ยวเหยียนโกรธจนตีมือของเขา: “งั้นคุณก็อย่ามาลูบหัวของฉันสิ ฉันก็กลัวผมร่วงนะ!”
มือของหานชิงถูกสะบัดออกไป ก็ไม่โกรธอะไร กลับดึงตัวสาวน้อยเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก “งั้นก็ไปหาโคงโคงแล้วกัน ไปกันเถอะ ลุงหนานรอพวกเราอยู่ด้านนอก”
“โอเค”
ตอนที่ถึงบ้านพักของหานชิง ก็ดึกมากแล้ว เป็นเพราะต้องเดินทางทั้งวัน ทุกคนจึงต่างพากันรู้สึกเหนื่อยล้า หานชิงก็ไม่ได้รบกวนอะไรหล่อน หลังจากที่บอกราตรีสวัสดิ์หล่อนก็ปล่อยให้หล่อนพักผ่อน
ตอนแรกเสี่ยวเหยียนจะไปหาโคงโคง แต่ใครจะไปคิดเมื่อโคงโคงเห็นหล่อนก็วิ่งหนีหายไปทันที ไม่ว่าหล่อนจะหลอกล่อหรือร้องเรียกยังไงมันก็ไม่ยอมออกมา
หล่อนจึงทำได้เพียงแค่นอนอยู่บนเตียงคนเดียวตามลำพัง เงยหน้ามองเพดาน และถอนหายใจยาวๆ
เดิมทีคิดว่าคืนนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเสียอีก…
คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีเพียงแค่บอกฝันดีและแยกย้ายกันไปนอน…
เฮ้อ…
นี่หล่อนมัวแต่คิดเพ้อเจ้ออะไรอยู่เนี่ย? นี่มันกี่โมงแล้ว เขาหลับไปแล้ว แต่หล่อนกลับคิดฝันเพ้อเจ้อให้เกิดเรื่องอะไรอยู่อีก?
หล่อนกลายเป็นคนหื่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่??
เสี่ยวเหยียนแทบจะบ้าคลั่งอยู่ภายในใจ พลิกตัวไปอีกด้านและหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มตัว หลังจากนั้นหนึ่งนาทีก็เลิกผ้าห่มออกและลุกขึ้นมานั่ง
แย่แล้ว
ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นวันนั้นจนถึงวันนี้ ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว แต่หล่อนไม่ได้กินยาคุมเลย และไม่รู้ว่าตัวเองจะท้องหรือไม่
ความเป็นไปได้ที่โดนครั้งเดียวแล้วท้องนั้นต่ำมาก…
แต่คืนวันนั้น พวกเขาทั้งสองไม่ได้ทำแค่ครั้งเดียวนี่นา…
เสี่ยวเหยียนจิ้มนิ้วของตัวเอง กัดริมฝีปากครุ่นคิด ผ่านไปสักพักก็ล้มตัวลงนอนไปบนเตียง หล่อนกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าท้องขึ้นมาก็ดี หานชิงยังไม่กลัวว่าหล่อนจะท้อง แล้วหล่อนจะกลัวทำไมล่ะ?
ถ้าท้องขึ้นมา…ทั้งสองก็คงได้แต่งงานกันอย่างสมเหตุสมผล?
เมื่อคิดถึงตอนนี้ เสี่ยวเหยียนอดไม่ได้ที่จะกอดหมอนและกลิ้งไปมา
งื้อ…เขินจังเลย!
--
เช้าวันต่อมาหานมู่จื่อได้รับสายจากผู้หญิงคนนั้น
ความหมายของหล่อนก็คือ รบกวนมาหลายวันขนาดนี้ รู้สึกเกรงใจมากจริงๆ ดังนั้นจึงไม่อยากอยู่ที่โรงแรมแล้ว บอกว่าช่วงนี้หางานได้หนึ่งอย่าง ที่นั่นมีที่พักให้ด้วย ดังนั้นหล่อนจึงจะย้ายออกไปภายในหนึ่งถึงสองวันนี้ และยังบอกว่ารอให้ตัวเองได้เงินเดือนก่อนแล้วจะนำเงินที่หานมู่จื่อจ่ายแทนหล่อนมาคืนให้ และจะเลี้ยงข้าวอีกด้วย
หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเกรงใจเป็นอย่างมาก
หานมู่จื่อคิดว่า ยังไงทั้งสองตระกูลก็เคยรู้จักกันมาก่อน เรื่องแค่นี้ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ไม่อยากให้หล่อนต้องคิดมาก
แต่อีกฝ่ายกลับรู้สึกว่า บุญคุณต้องได้รับการตอบแทน
ถ้าไม่ได้เจอหล่อน เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองจะตกต่ำไปถึงขนาดไหน
หานมู่จื่อรู้สึกเห็นใจมาก ไม่รู้ว่าหล่อนต้องผ่านเรื่องอะไรมาเยอะขนาดไหน เมื่อเห็นกิริยาท่าทางของหล่อน ก็รู้ว่าโตมาในบ้านที่มีการอบรมสั่งสอนดีและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีอีกด้วย แต่ทำไมถึงตกต่ำได้ถึงขนาดนี้ล่ะ
แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้บอกอะไร หานมู่จื่อก็ไม่กล้าถามจริงๆ เพราะยังไงก็เป็นเรื่องส่วนตัวของหล่อน
หลังจากพูดคุยกับหานมู่จื่อสักพัก หญิงสาวคนนั้นก็ถามถึงหานชิง
ถามว่าพี่ชายของหล่อนจะกลับมาเมื่อไหร่ หานมู่จื่อตกตะลึงไปทันที ผู้หญิงคนนี้ดูเรียบร้อยมาก ช่วงสองสามวันนี้ไม่ได้ทำอะไรเลย เงียบจนทำให้หล่อนเกือบลืมไปแล้วว่าหล่อนมีตัวตนอยู่ด้วย
ตอนนี้จู่ๆก็ถามถึงหานชิงขึ้นมา มู่จื่อคิดในใจ หล่อนคงเชื่อใจพี่ชายของตัวเองมาก และเมื่อคืนเขาก็กลับมาแล้ว
หานมู่จื่อเป็นคนโกหกใครไม่ค่อยเป็น
ดังนั้นจึงพูดตอบกลับไป: “พี่ชายฉันกลับมาเมื่อคืน แต่ตอนนี้น่าจะยังพักผ่อนอยู่ เดี๋ยวรอให้เขาตื่นแล้ว ฉันจะบอกเรื่องนี้กับเขา แล้วค่อยจัดเวลาให้พวกเธอได้เจอกัน ดีไหม?”
ผู้หญิงคนนั้นรีบพูดขอบคุณทันที: “ขอบคุณค่ะ มู่จื่อ…ขอบคุณเธอมากเลยนะ”
ต่อมาเมื่อถึงตอนบ่าย หลังจากหานมู่จื่อแน่ใจแล้วว่าหานชิงตื่นแล้ว จึงโทรบอกเขาเรื่องนี้
หานชิงเงียบไปสักพัก พูดชื่อหนึ่งออกมา
“เย็นหวั่น?”
เย็นหวั่น?
เมื่อได้ยินชื่อนี้ หานมู่จื่อรู้สึกขึ้นมาทันทีว่า เป็นชื่อที่ฟังดูอ่อนหวานมาก
หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ: “ฉันลืมถามชื่อหล่อนไป หล่อนคงรู้สึกเกรงใจจึงไม่ได้บอกตัวเองชื่ออะไร ที่แท้ก็ชื่อเย็นหวั่นงั้นเหรอ?”
“น่าจะใช่ เท่าที่จำได้น่าจะเป็นชื่อนี้ แต่…” หานชิงก็หยุดชะงักไป จากนั้นก็อธิบายให้หานมู่จื่อฟัง: “เมื่อก่อนตระกูลสวี่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลหานของพวกเรามาก ถือได้ว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน เพียงแต่ตอนที่คุณแม่เสียไปได้ไม่นาน พวกเขาก็อพยพไปอยู่ที่อื่นกันหมด ไปที่แคนนาดา จากนั้นทั้งสองตระกูลก็ขาดการติดต่อกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆหล่อนจะกลับมา และไม่รู้ว่าตอนนี้ คุณลุงสวี่กับคุณน้าสวี่จะเป็นยังไงบ้าง พวกเขามากันหมดเลยเหรอ?”
“เอ่อ…” หานมู่จื่อบอกไปว่าเห็นแค่คนนี้คนเดียว ไม่ได้บอกว่ามีคนอื่นด้วย หานชิงคงไม่รู้ว่าหล่อนตกอับน่าเวทนามากขนาดไหน จากนั้นหล่อนจึงพูดอธิบายลักษณะให้เขาฟัง
“ตกอับ?” หานชิงเงียบไปทันที จากนั้นจึงพูดต่อ: “เกิดอะไรขึ้น?”
“เรื่องนี้…ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” หานมู่จื่อนึกถึงคำพูดที่สวี่เย็นหวั่นพูดกับพนักงานต้อนรับขึ้นมา หล่อนจึงรู้สึกกังวลเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเสี่ยวเหยียน
“พี่ พวกพี่จะเจอกันไหม? ฉันให้หล่อนไปพักอยู่ที่โรงแรม ถ้าจะเจอกัน ฉันจะจัดการให้”
“อื้ม”
หานชิงตอบตกลง
เวลาห้าโมงเย็น หานมู่จื่อจัดเตรียมอาหารเย็นให้พวกเขา และให้เย่โม่เซินดูแลเสี่ยวโต้วหยา จากนั้นหล่อนกำลังจะออกไปข้างนอกคนเดียว
สุดท้ายเย่โม่เซินผู้แสนดี บอกว่าไม่สบายใจให้หล่อนไปคนเดียว จะพาเสี่ยวโต้วหยาออกไปด้วยให้ได้
จากนั้น เสี่ยวหมี่โต้วก็บอกว่าตัวเองไม่เจอคุณลุงมานานแล้ว คิดถึงเขา ก็อยากจะออกไปด้วยเช่นกัน
เดิมทีเป็นแค่การเจอกันของคนสามคน แต่สุดท้ายกลับต้องเพิ่มไปอีกสามคน
อื้ม เย่โม่เซินกับลูกน้อยทั้งสอง
หานมู่จื่อเหลือบมองสองพ่อลูกเย่โม่เซินและเสี่ยวหมี่โต้วด้วยสายตาอันแสนโกรธเคือง พูดบ่นออกมา: “นี่ฉันเป็นคนจัดการให้พวกเขาเจอกันแท้ๆ แต่พวกเธอจะตามไปให้ได้ เดี๋ยวทำให้คนอื่นทำตัวไม่ถูกขึ้นมาแล้วจะทำยังไง?”
เย่โม่เซินพูดด้วยสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์: “แค่ไปหาญาติพี่น้อง ไม่ได้ไปออกเดท มีอะไรน่าอายกันล่ะ?”
พูดแบบนี้ก็ถูก ไม่ใช่หนุ่มสาวไปออกเดทกันสักหน่อย แค่ไปกินข้าวด้วยกันเท่านั้น คงไม่เป็นอะไรหรอก
เสี่ยวหมี่โต้วที่ยืนอยู่ข้างๆ นานๆครั้งจะเห็นดีเห็นงามกับผู้เป็นพ่อ “นั่นสิหม่ามี๊ อีกอย่างน้าเสี่ยวเหยียนก็จะเป็นน้าสะใภ้ของผมในอนาคต คุณลุงไปหาผู้หญิงคนอื่น ผมต้องช่วยเป็นหูเป็นตาดูคุณลุงแทนว่าที่น้าสะใภ้ของผม”