เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1291
บทที่1291 เขาเป็นแฟนของเธอ
ผู้ที่มาเยือนก็คือลูกคนโตตระกูลเจียง
ถึงแม้วันนี้จะเป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณหญิงใหญ่เจียง แต่ช่วงเช้าลูกคนโตของตระกูลเจียงมีประชุมสำคัญ ดังนั้นจึงไปจัดการธุระให้เรียบร้อยก่อนจึงรีบมาที่นี่
ตอนที่ทุกคนรู้ว่าเขาไปทำอะไรมา ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกคนโตตระกูลเจียงนั้นช่างกตัญญูจริงๆ ขนาดงานยุ่งมากยังหาเวลามาจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้คุณแม่ แถมยังรีบมาทันทีที่เสร็จงาน
มนุษย์ก็แบบนี้ หากมีใครที่ประสบความสำเร็จ แล้วเขาทำอะไรเพียงเล็กน้อยก็จะได้รับคำชมมหาศาล แต่กลับลืมไปว่า นี่เป็นความกตัญญูและหน้าที่ที่ลูกชายพึงกระทำอยู่แล้ว
แล้วจะมีสิ่งใดที่มีค่าหรือไม่มีค่ากัน
ประธานจ้าวได้ยินเสียง พอหันกลับไปแล้วพบว่าเป็นลูกคนโตตระกูลเจียง ก็ยิ้มออกมาทันที “ท่านประธานเจียง”
พอเจียงเหย็นหมิงถูกประธานจ้าวเรียก ก็รู้สึกเกรงใจเล็กน้อย เพราะถึงแม้บริษัทของเขาจะประสบความสำเร็จอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับบริษัทตระกูลจ้าวแล้ว ก็ดูไม่มีอะไรเลย อีกอย่างเขาอยากจะร่วมงานกับบริษัทตระกูลจ้าวมาตลอด แต่ว่าบริษัทตระกูลจ้าวมักจะเย็นชาใส่เสมอ ไม่ค่อยจะสนใจเขาสักเท่าไหร่
เหมือนกับในครั้งนี้ เจียงเหย็นหมิงจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้กับแม่ของตัวเอง คิดไม่ถึงเลยว่าประธานจ้าวจะมาร่วมงานด้วย เขาเลยรู้สึกเป็นปลื้มมาก ดีใจจนไม่รู้จะพูดอะไรดี
“ประธานเจียงจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้คุณหญิงท่านหรือครับ”
ประธานเจียงลูบจมูกอย่างเก้อเขิน “ใช่ครับ ทำไมวันนี้ประธานจ้าวถึงมีเวลามาร่วมงานล่ะครับ ?”
“คือว่า ผมมาคุยเรื่องโครงการใกล้ๆแถวนี้ แล้วได้ยินว่าที่นี่กำลังครึกครื้น ก็เลยแวะมาดูน่ะครับ”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็แวะเข้าไปดื่มเหล้าสักหน่อยสิครับ” เจียงเหย็นหมิงเชิญชวนประธานจ้าวอย่างระมัดระวัง
ประธานจ้าวมีรอยยิ้มประดับใบหน้า พอได้ยินกลับไม่ได้ตอบกลับไปทันที แต่กลับมองไปทางทิศทางที่เซียวซู่อยู่
ความหมายที่ต้องการจะถามนั้นชัดเจนมาก เจียงเหย็นหมิงเองก็มองออกได้ทันที ว่านี่ประธานจ้าวกำลังขอความเห็นของเขาอยู่
เจียงเหย็นหมิงมองตามสายตาของประธานจ้าวไป อีกฝ่ายเป็นคนหนุ่ม แต่กลับทำให้ประธานจ้าวสนอกสนใจได้แบบนี้ เห็นได้ชัดว่ามีที่มาไม่ใช่เล็กๆเลย
เขาเป็นนักธุรกิจ ก็เลยรีบเอ่ยปากเชิญชวนเซียวซู่ทันที “คุณผู้ชายท่านนี้เป็นผู้ร่วมงานของประธานจ้าวหรือครับ วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณหญิงท่าน ยังไงก็เข้าไปดื่มด้วยกันสักแก้วไหมครับ”
ที่จริงพอคุยเรื่องโครงการนี้เสร็จเซียวซู่จะต้องกลับไปสะสางงานที่บริษัทต่อ เพราะว่าที่บริษัทยังมีงานอีกมากมายกองอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เดิมทีในใจก็อยากปฏิเสธ แต่ปากกลับเปลี่ยนเป็นพูดว่า “ครับ”
เขารับปากไปเสียงอย่างนั้น
เซียวซู่รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็หรี่ตาขึ้น ทำไมตัวเขาถึงได้รับปากไปแบบนั้น
พอรู้ตัวอีกที เซียวซู่ก็หันไปมองค้อนเจียงเสี่ยวไป๋ทีหนึ่ง
เจียงเหย็นหมิงค่อนข้างดีใจ เดิมทีเห็นว่าชายหนุ่มคนนี้ดูหน้าตาไม่ยิ้มแย้ม คิดว่าเขาจะปฏิเสธเสียอีก คิดไม่ถึงว่าเขาจะรับปาก
ดูท่าว่าครั้งนี้เขาจะมีความหวังที่จะได้ร่วมงานกับบริษัทตระกูลจ้าวแล้ว
“เชิญด้านในเลยครับ”
เมื่อเจียงเหย็นหมิงเดินเข้าไปด้านในแล้ว พอคนในงานเห็นว่าเขาปรากฏตัว ทุกคนต่างก็กรูเข้ามาหา หลังจากที่เจียงเหย็นหมิงทักทายกับทุกคนไม่กี่คำแล้ว ก็เดินเข้าไปกล่าวอวยพรต่อคุณหญิงใหญ่เจียง
เขาแต่งตัวเป็นทางการ พูดจาสบายๆ ความรู้สึกไม่ค่อยพอใจของคุณหญิงใหญ่เจียงที่ถูกเสี่ยวไป๋กับเจียงเหมยก่อเรื่องวุ่นวายให้ก่อนหน้านี้หายไปจนสิ้น
มองดูลูกชายที่ยอดเยี่ยมของตัวเองคนนี้ ก็รู้สึกปลื้มอกปลื้มใจจนเผยออกมาทางสีหน้าและแววตา
หลังจากที่เจียงเหย็นหมิงกล่าวอวยพรวันเกิดให้คุณหญิงใหญ่เจียงแล้ว ก็กล่าวแนะนำประธานจ้าวให้ทุกคนได้รู้จัก ตอนที่เขาพูดออกมาว่านี่คือประธานจ้าวของบริษัทตระกูลจ้าว ทุกคนในงานต่างก็ถอนหายใจกันออกมา
พอแนะนำประธานจ้าวเสร็จแล้ว เขาก็แนะนำเซียวซู่ต่อ ดังนั้นจึงทำได้แค่ใช้สายตาเอ่ยถามเขาเท่านั้น “คุณผู้ชายท่านนี้ ไม่ทราบว่าคุณชื่อ ?”
ประธานจ้าวสีหน้าดูมีชีวิตชีวา ขณะที่กำลังจะบอกฐานะของเซียวซู่ออกไป เซียวซู่กลับเอ่ยปากเรียบๆ “เซียวซู่ครับ”
เขาเพียงแค่บอกชื่อตัวเองออกมาเท่านั้น ไม่ได้บอกที่มาของตัวเอง ดังนั้นประธานจ้าวก็เลยปิดปากลงทันที ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก
ส่วนเจียงเหย็นหมิงก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมบอกที่มาของตน บอกมาแค่ชื่อเพียงเท่านั้น
แต่เขาก็ยังสามารถมีปฏิกิริยาตอบรับได้อย่างรวดเร็ว และพูดอธิบายว่า “ท่านนี้คือเพื่อนของประธานจ้าว และเป็นผู้ร่วมงานด้วย คุณเซียว”
พอผู้คนในงานได้ยินแบบนั้นแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองชายหนุ่มทีหนึ่ง
เขารูปร่างสูงโปร่ง สีหน้าเย็นชา รอยแผลเป็นบนใบหน้าทำให้เขาดูเยือกเย็นขึ้นหลายระดับ ดูแล้วไม่น่าเข้าหา แต่ว่าออร่าบนตัวนั้นทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะมองไปทางเขาหลายต่อหลายครั้ง
ทุกคนต่างก็เป็นคนมีไหวพริบ ประธานจ้าวเป็นใคร คนที่สามารถคุยเรื่องโครงการกับประธานจ้าวได้ แล้วยังมีท่าทีสงบนิ่งแบบนี้ ฐานะจะต้องสูงเท่านั้นไม่มีต่ำแน่นอน
และตอนนี้เจียงเสี่ยวไป๋ก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มที่มุมปาก
ใครสามารถบอกเธอได้บ้าง ว่าจู่ๆเซียวซู่มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เขาต้องไปเจรจาธุรกิจไม่ใช่หรือ ทำไมจู่ๆถึงได้โผล่มางานเลี้ยงวันเกิดของคุณยายเธอแบบนี้ได้
คำถามตอนนี้ก็คือ เธอจะแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเขาดี หรือทำอย่างไรดี
ในขณะที่เจียงเสี่ยวไป๋กำลังลังเล ตู้เซียวหยู่ก็แอบย่องไปข้างเธอเงียบๆ แล้วเอ่ยถามเสียงเบาว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน นั่นไม่ใช่เซียวซู่เหรอ เขามาปรากฏตัวพร้อมกับคุณลุงของลูกได้ยังไงกัน”
พอได้ยินแบบนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็กระแอมออกมาเบาๆทีหนึ่ง “หนูจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ”
“ลูกบอกว่าเขาเป็นแฟนลูกไม่ใช่เหรอ ถ้าลูกไม่รู้แล้วใครจะรู้อีก หรือว่าเขาไม่ได้บอกลูก”
เจียงเสี่ยวไป๋ “……”
ด้วยความที่กลัวว่าคุณแม่จะสงสัย เจียงเสี่ยวไป๋ก็เลยรีบอธิบายว่า “โธ่ ก็ตอนที่หนูเรียกเขามา เขางานยุ่งมาก ดังนั้นหนูก็เลยบอกเขาไปว่าไม่ต้องมา หนูรู้แค่ว่าเขาต้องทำงาน แต่หนูไม่รู้รายละเอียดงานของเขานี่คะ ที่มาปรากฏตัวพร้อมกับพวกคุณลุงกับประธานจ้าว คาดว่าก็คงแวะมาเพราะคุยเรื่องงานกันเสร็จแล้ว เมื่อกี้คุณแม่ก็ได้ยินที่คุณลุงถามว่าเขาเป็นใครไม่ใช่หรือคะ จะต้องไปเจรจากับประธานจ้าวเสร็จแล้ว เลยมาด้วยกันแน่ๆ”
เพราะเธอเป็นคนหัวไว เลยพูดให้เรื่องราวผ่านไปได้ด้วยดี
แต่จู่ๆตู้เซียวหยู่กลับพูดขึ้นว่า “งั้นลูกก็ไปทักทายเขาหน่อยสิ ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นแฟนลูกนะ”
มุมปากของเจียงเสี่ยวไป๋กระตุกทันที “คุณแม่คะ แบบนั้นไม่ดีมั้งคะ ตอนนี้เขาเป็นแขกของคุณลุง ถ้าหนูเข้าไปทัก ทุกคนจะมองหนูยังไง”
เพี้ยะ
ตู้เซียวหยู่ตบหลังศีรษะของเจียงเสี่ยวไป๋ไปทีหนึ่ง “ยัยบ้า เขาเป็นแฟนของลูกก่อน ถึงจะไปเป็นแขกของคุณลุงลูก ลูกเข้าไปคุยกับแฟนของตัวเองไม่กี่คำแล้วจะเป็นอะไรไป หรือว่าลูกโกหกแม่ ?”
“คุณแม่คะ หนูจะไปโกหกแม่ได้ยังไง เขาเป็นแฟนของหนูจริงๆ แต่ว่าถ้าออกไปตอนนี้จะเด่นเกินไป อีกเดี๋ยวพวกเราค่อยไปหาเขาได้ไหมคะ แม่วางใจเถอะค่ะ หนูบอกแล้วว่าเขาเป็นแฟนของหนูเขาไม่มีทางหนีไปไหนหรอก นะคะ”
แต่ตู้เซียวหยู่กลับไม่ยอมหลงกลของเจียงเสี่ยวไป๋อีกต่อไปแล้ว สองมือกอดอก แล้วพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “ได้ งั้นลูกไม่ต้องไปหาเขาแล้ว ฉันจะรอดูสิว่าแฟนของลูกคนนี้จะเป็นคนยังไง ดูสิว่าอีกเดี๋ยวเขาจะมาหาลูกก่อนหรือเปล่า”
เจียงเสี่ยวไป๋ “……”
แม่ของเธอช่างเป็นคนที่พูดคำไหนก็คำนั้นเสียจริง จนเธอไม่รู้จะพูดอะไรต่อดีแล้ว
“ตามใจแม่แล้วกันค่ะ”
เธอทำได้เพียงตอบกลับคำหนึ่งอย่างเหนื่อยหน่าย
เพราะเจียงเหย็นหมิงได้มาถึงงานแล้ว ดังนั้นงานเลี้ยงก็เลยเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ทุกคนต่างก็นั่งลงประจำที่ ทางโรงแรมก็เริ่มเข้ามาเสิร์ฟอาหาร
ตอนที่เลือกที่นั่ง ประธานจ้าวถูกเจียงเหย็นหมิงไปนั่งตรงโต๊ะหลัก เซียวซู่มาด้วยกันกับเขา เลยถูกเชิญไปพร้อมกัน
ระหว่างนั้นตู้เซียวหยู่ก็เอาแต่จ้องเขม็งไปทางเซียวซู่ “แฟนของลูกคนนี้ เขาดูเหมือนว่าจะมองไม่เห็นลูกนะ เสี่ยวไป๋ ลูกรีบพูดมาให้ชัดเจนนะ เขาเป็นคนที่ลูกหามาเพื่อแกล้งหลอกแม่ใช่ไหม”