เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1295
บทที่1295 แอบฉวยโอกาสเธอแล้วยังไง
พอได้เห็นฉากนี้เข้า เจียงเหมยก็เลือดขึ้นหน้าทันที
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ทั้งๆที่ต่อหน้าทุกคนพูดว่าเป็นแค่เพื่อน แต่ทำไมพออยู่ต่อหน้าตัวเองถึงพูดว่าเป็นแฟนกัน หรือว่าพวกเขาจงใจแสดงละครต่อหน้าเธอ
พอคิดถึงตรงนี้ เจียงเหมยก็พูดอีกว่า “เสี่ยวไป๋ เธออย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ เธอกำลังจงใจลากให้เขามาเล่นละครกับเธอ ท่าทางของพวกเธอสองคนทั้งสองคนไม่เหมือนแฟนกันเลยสักนิด เธอคิดว่าฉันไม่เคยมีความรักหรือไง ตอนที่เธอโอบเขา ตัวเขาแข็งทื่อเสียขนาดนั้น ไม่ได้กอดตอบเธอด้วย ตอนที่เขาจับนิ้วมือเธอ เธอก็สะดุ้งตกใจ พวกเธอทั้งสองคน จะต้องแกล้งทำแน่ๆ”
พอเจียงเสี่ยวไป๋ได้ฟังคำพูดเหล่านั้นแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ พอเห็นแบบนั้นเจียงเหมยก็เริ่มรู้สึกสนุกขึ้นมาบ้าง
คิดไม่ถึงเลยว่าสายตาของเจียงเหมยจะดีขนาดนี้ ขนาดเรื่องนี้เธอยังมองออกได้ ดูท่าว่าตัวเธอกับเซียวซู่คงยังเข้าขากันได้ไม่ดีพอ
แต่ว่าเธอก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพราะอย่างไรเดิมทีก็แค่การเสแสร้งเท่านั้น แล้วแบบนั้นจะทำไม เพราะเธอบอกว่าเซียวซู่เป็นแฟนของตัวเอง ถึงแม้พวกเขาจะไม่เชื่อเธอ ก็ทำอะไรเธอไม่ได้อยู่ดี
“เจียงเสี่ยวไป๋ เธอกล้าจูบเขาแรงๆไหมล่ะ”
จู่ๆเจียงเหมยก็พูดประโยคนั้นออกมา
เจียงเสี่ยวไป๋หนังตากระตุกทันที “ห๊ะ ?”
“คนรักกันแค่จูบกันมันเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ ถ้าขนาดจูบเขาเธอยังไม่กล้า งั้นก็แสดงว่าพวกเธอไม่ใช่แฟนกัน สมัยนี้แล้วยังหอมแก้มกันอีก เธอคิดว่าเป็นยุคโบราณเหรอ”
ให้ตายสิ
หลังจากเจียงเสี่ยวไป๋ได้ฟังคำพูดของเธอแล้วก็แทบจะด่ามารดาในใจ จากนั้นก็หัวเราะเสียงเย็นออกมาทีหนึ่ง
“ฉันว่านะเจียงเหมย เธอยังมีงานอดิเรกชอบดูคนอื่นเขาจูบกันอีกด้วยเหรอเนี่ย เธอมีงานอดิเรกพิเศษแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เธอเป็นเด็กผู้หญิงนะ ในฐานะที่เป็นพี่น้องกันฉันขอเตือนว่าให้เธอแก้ไขงานอดิเรกนี้เสียเถอะ ไม่อย่างนั้น เดี๋ยวจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”
เธอตอกกลับเจียงเหมยไปอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
เจียงเหมยถูกเธอทำให้โกรธจนหน้าเริ่มซีด อยากจะหันหลังเดินจากไปมาก แต่พอเห็นเจียงเสี่ยวไป๋บ่ายเบี่ยงขนาดนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มอย่างได้ใจ “เธอไม่กล้าสินะ ฉันก็บอกแล้วว่าพวกเธอไม่ใช่แฟนกันหรอก เสี่ยวไป๋ เธอบอกหน่อยสิว่าทำแบบนี้ทำไม ถึงแม้จะไม่ได้มีงานดีๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับความรักจากคุณยาย เธอก็ไม่เห็นจำเป็นต้องหาผู้ชายมาแสดงละครแบบนี้เลย เสียเงินไปเท่าไหร่เหรอ คุณเซียวคะ เจียงเสี่ยวไป๋เสียเงินจ้างคุณไปเท่าไหร่เหรอคะ ฉันให้คุณได้เป็นสองเท่าเลยนะ ไม่เพียงแค่นั้น ฉันยังให้อย่างอื่นได้อีกด้วยนะ”
พูดถึงตอนสุดท้าย เธอก็แอบกะพริบตาปริบๆให้เซียวซู่เพื่อเป็นสัญญาณ จากนั้นก็อวดรูปร่างของตัวเอง
เจียงเสี่ยวไป๋ “……”
อยากอาเจียนเสียจริง หลายปีมานี้เจียงเหมยคนนี้ผ่านอะไรมากันแน่ เพื่อแข่งขันกับเธอ ขนาดร่างกายตัวเองก็ยังยอมอุทิศให้แบบนี้
เจียงเสี่ยวไป๋กำลังจะพูด แต่ตรงปลายศีรษะก็มีเสียงแผ่วเบาเสียงหนึ่งลอยมา
“ขออภัยด้วยครับ ผมไม่สนใจผู้หญิงที่ไม่รู้จักรักตัวเอง”
น้ำเสียงเย็นชา ไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย คำพูดที่พูดออกมาก็เยือกเย็นเข้ากระดูก ราวกับสว่านน้ำแข็ง ที่เจาะเข้าไปในหัวใจของเจียงเหมย
ส่วนเจียงเสี่ยวไป๋ตอนได้ยินประโยคนี้เข้า ก็เกือบจะหลุดหัวเราะออกมา
คำพูดนี้ช่างโหดร้ายมาก พูดว่าเจียงเหมยไม่ใช่ผู้หญิงที่รักตัวเอง แต่เจียงเสี่ยวไป๋กลับรู้สึกว่าด่าหล่อนแบบนี้รู้สึกสะใจมาก ใครใช้ให้เจียงเหมยหล่อนคิดจะมาอ่อยคนอื่นก่อนกัน
“เธอ พวกเธอ!” เจียงเหมยโกรธจนขอบตาแดงก่ำ พูดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียว
“ดีเลยเจียงเหมย อย่ามาทำตัวไม่รักตัวเองแถวนี้อีกเลย รีบกลับเข้าไปล้างหน้าแล้วแต่งหน้าเสียใหม่เถอะ วันนี้แขกที่มาเยือนไม่ใช่น้อยๆเลยนะ ข้างในยังมีชายโสดอีกหลายคนนะ ถึงแม้เธอจะเหงา แต่ก็อย่าเอาแต่เล็งแฟนของคนอื่นเขาสิ”
สุดท้ายเจียงเสี่ยวไป๋ก็ทำให้เจียงเหมยโมโหจนวิ่งหนีไปได้
หลังจากที่เจียงเหมยวิ่งหนีไปแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง แล้วน้ำเสียงก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ในที่สุดก็ทำให้เธอโมโหจนหนีไปได้แล้ว ขอบคุณคุณมาที่ให้ความร่วมมือกับฉัน”
เธอเงยหน้าขึ้นมองเซียวซู่ เซียวซู่ก็กำลังก้มหน้าลงมองเธอพอดี ดวงตาทั้งสี่สบตากัน ทั้งสองคนถึงได้พบว่าพวกเขาอยู่ใกล้ชิดกันมาก จนแทบจะสูดหายใจร่วมกันอยู่แล้ว
เซียวซู่เม้มริมฝีปากบาง แล้วพูดเสียงเย็นชาว่า “นี่เป็นเรื่องที่รับปากเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จะพูดขอบคุณไปทำไม”
เจียงเสี่ยวไป๋กะพริบตาปริบๆ “คุณนี่ไม่รู้จักรับความดีเลยนะ พูดขอบคุณกับคุณ ยังไม่ชอบใจอีกเหรอ”
เซียวซู่ทำสีหน้าเคร่งขรึม “เธอฉวยโอกาสฉันอีกครั้งแล้วนะ”
“ฉวยโอกาส ? หมายถึงที่ฉันหอมแก้มคุณเมื่อกี้น่ะเหรอ” เจียงเสี่ยวไป๋เขย่งปลายเท้า แล้วเป่าลมใส่แก้มเซียวซู่เบาๆทีหนึ่ง เซียวซู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้เบี่ยงหลบ
เจียงเสี่ยวไป๋มีรอยยิ้มบางๆที่มุมปาก “ฉวยโอกาสคุณแล้วทำไมเหรอ ถ้าคุณรู้สึกว่าขาดทุน ก็ฉวยโอกาสกลับไปสิ”
ใบหน้าได้ใจของสาวน้อยอยู่เพียงแค่คืบ ดวงตาที่สวยงามคู่นั้นเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและชัยชนะ ราวกับว่ามั่นใจว่าเขาไม่มีทางทำอะไรกับเธอได้ เขาไม่กล้าทำอะไรอย่างไรอย่างนั้น ดังนั้นถึงได้กล้าทำตัวไร้ยางอาย และใจกล้าขนาดนี้
วินาทีต่อมา เซียวซู่มองไปที่ใบหน้าอันสดใสของเด็กสาว และริมฝีปากชุ่มชื่นสองกลีบนั้น แล้วค่อยๆโน้มศีรษะลงไปใกล้เธอช้าๆราวกับถูกผีอำ
เจียงเสี่ยวไป๋มั่นใจในความเย็นชาของเขา ว่าไม่มีทางทำอะไรตัวเองเป็นแน่ ไม่ว่าตัวเองจะกลั่นแกล้งเขาอย่างไร เขาก็ไม่มีทางทำเรื่องที่เกินเลยต่อตัวเองเด็ดขาด
เพราะอย่างไรเขาก็เป็นคนที่ถูกตัวเองลูบหูเบาๆก็ยังหน้าแดง จะทำเรื่องอย่างอื่นออกมาได้อย่างไร
แต่ว่าตอนนี้ พอมองดูเขาค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ตัวเอง รอยยิ้มบนใบหน้าของเจียงเสี่ยวไป๋ก็ค่อยๆจางหายไป
เพราะนี่ไม่เหมือนสิ่งที่เธอคิดเอาไว้เลย ภายใต้การคาดเดาของเธอ เซียวซู่น่าจะหน้าแดงแล้ว จากนั้นก็ผลักเธอออก แล้วพูดประโยคหนึ่งออกมาว่า “เธอโลกสวยไปแล้ว”
จากนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็จะทำเสียงเยาะเย้ย แล้วทำท่ารังเกียจคำพูดของเขา ว่าพูดคำอื่นนอกจากนี้เป็นไหม
แต่เรื่องแบบนี้กลับไม่เกิดขึ้น เธอเห็นเซียวซู่กำลังเข้ามาใกล้ตัวด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ลมหายใจของทั้งสองใกล้กันขึ้นเรื่อยๆ จนอีกนิดเดียวเขาก็จะจูบเธอเข้าแล้วจริงๆ
ก่อนที่เซียวซู่ใกล้จะจูบเธอแล้วนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็เริ่มมีแววหวาดหวั่นในสายตา แล้วเปิดปากถามเขาว่า “คุณคิดจะทำอะไร”
เซียวซู่หยุดลง แววตามืดสนิท “ก็เธอบอกให้ฉันฉวยโอกาสกลับมาไม่ใช่เหรอ”
เจียงเสี่ยวไป๋เบิกตาโต “ฉันบอกคุณฉวยคุณก็ฉวยเหรอ คุณเปลี่ยนไปว่าง่ายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะ” ถึงแม้ว่าจะอยู่ใกล้ขนาดนี้แล้ว ถึงแม้ว่าดวงตาเขาจะมืดสนิทแล้ว แต่ใบหน้าของเซียวซู่ก็ยังคงไร้ความรู้สึก ราวกับหุ่นยนต์ที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก
“คงปล่อยให้เธอฉวยโอกาสฉันต่อไปเรื่อยๆ แต่ฉันกลับไม่ได้อะไรเลยไม่ได้หรอก”
ขณะพูด เขาก็ขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม เจียงเสี่ยวไป๋ตกใจจนกรีดร้องออกมาทีหนึ่ง แล้วผลักเขาออกอย่างแรง
แต่เธอกลับลืมไปว่าทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก เมื่อกี้ตอนคุยกันก็ลืมที่จะแยกออกจากกัน อีกอย่างตัวเองยังเขย่งเท้าอยู่ด้วย ดังนั้นตอนที่ผลักเขาออก ร่างกายของตัวเองก็เลยสูญเสียการทรงตัวแล้วล้มไปด้านหลัง
เซียวซู่เห็นเธอกำลังจะล้มลงกับพื้น ก็ใจกระตุกขึ้นมา มือใหญ่ยื่นออกไป แล้วดึงเธอกลับเข้าสู้อ้อมอกของตัวเองอีกครั้ง
ฟุบ!
ใบหน้านุ่มนิ่มของเจียงเสี่ยวไป๋ขนเข้ากับแผ่นอกของเซียวซู่อย่างแรงอีกครั้ง เจ็บจนน้ำตาของเธอแทบจะร่วงลงมา
“เท้าไม่ได้แพลงใช่ไหม ?” เซียวซู่ขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น
เจียงเสี่ยวไป๋กัดฟัน แล้วผลักเขาออกเพื่อยืนด้วยตัวเองอีกครั้ง “ไม่ใช่เรื่องของคุณ”