เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1298
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่1298 คู่หมั้นของประธานหาน
ทำไมถึงเร็วขนาดนี้ เจียงเสี่ยวไป๋หันไปมองด้านนอกด้วยความประหลาดใจ แล้วก็พบว่ามาถึงใต้ตึกของบ้านเธอแล้ว
ให้ตายสิ เดิมทีคิดจะเถียงกับเขาอีกสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าจะถึงเร็วขนาดนี้ อีกอย่างเขายังทิ้งประโยคหนึ่งอย่างไร้น้ำใจว่าให้เธอลงจากรถ
ถ้าตอนนี้เธอยังนั่งอยู่ในรถต่อ ก็ต้องยิ่งน่าเกลียดเข้าไปใหญ่น่ะสิ
แต่ว่าตอนนี้เจียงเสี่ยวไป๋กำลังงอนอยู่ เลยนั่งอยู่กับที่ไม่ยอมขยับ เธอใช้สมองครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ แล้วจู่ๆก็ยกมุมปากแล้วพูดว่า “จู่ๆฉันก็ไม่อยากลงรถแล้ว ฉันอยากไปบ้านคุณ”
เซียวซู่ “?”
“จู่ๆฉันก็คิดได้ว่าพวกโน๊ตบุ๊คคอมพิวเตอร์ของฉันอยู่ที่บ้านคุณหมดเลย ฉันกลับมาบ้านก็ไม่มีอะไรทำ ดังนั้นก็ต้องรบกวนคุณไปส่งฉันเอาของที่บ้านคุณไง”
ไม่รู้ว่าทำไม เซียวซู่ถึงได้รู้สึกว่าเธอกำลังจงใจเอาคืนตัวเอง แต่ว่าก็หาข้อบกพร่องจากคำพูดของเธอไม่ได้เลย เลยได้แต่เม้มปาก แล้วถามว่า “เธอแน่ใจใช่ไหม”
“ใช่สิ” เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า กะพริบตาปริบๆ ทำสีหน้าใสซื่อบริสุทธิ์แล้วถามว่า “หรือว่าไม่ได้เหรอ”
“ทำไมไม่บอกล่วงหน้า”
“ฉันก็เพิ่งคิดได้ตอนมาถึงที่นี่ แล้วจะให้บอกล่วงหน้าได้ยังไง ถ้าคุณลืมแล้ว คุณจะบอกล่วงหน้าได้เหรอ”
เซียวซู่ตัดสินใจที่จะเงียบ แล้วกลับรถ จากนั้นก็ขับไปเงียบๆ
เห็นท่าทางอมทุกข์ของเขา ในใจของเจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกสะใจเพียงใดคงไม่ต้องพูดถึง นั่งพิงเก้าอี้แล้วฮับเพลงคนเดียวอยู่อย่างนั้น
ดังนั้นถึงได้บอกแล้วว่า เซียวซู่นั้นเป็นคนที่น่ารังแกมากจริงๆ
--
ช่วงนี้เสี่ยวเหยียนอยู่ไม่สุขเท่าใดนัก
เพราะเธอมักจะคอยกังวลเรื่องท้องของตัวเอง อีกไม่นานก็จะถึงเวลาช่วงประจำเดือนของเธอแล้ว เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ไหม รู้สึกกังวลเล็กน้อย แล้วก็รู้สึกคาดหวังอยู่บ้าง แถมยังมีความตื่นเต้นอยู่ด้วย
แล้วจากนั้นเสี่ยวเหยียนก็ยังเริ่มวาดฝันอีกว่า ถ้าหากตัวเองตั้งครรภ์ขึ้นมา จะเป็นลูกสาว หรือว่าลูกชาย
ถ้าเป็นลูกชาย อาจจะเกเรไปหน่อย เลี้ยงดูยาก
อย่างไรก็เป็นลูกสาวดีกว่า เลี้ยงง่ายกว่าบ้าง อีกอย่างคนต่างก็ว่ากันว่าลูกสาวนั้นเป็นเสื้อแจ็คเก็ตของคุณแม่
แต่พอคิดดูอีกที ถ้าหากตัวเองมีลูกชายที่น่ารักเหมือนเสี่ยวหมี่โต้ว แบบนั้นมีลูกชายก็ไม่เลวเหมือนกัน
แต่ว่าเธอก็ค่อนข้างอยากได้ลูกสาวอยู่เหมือนกัน
เฮ้อ……นี่เธอคิดอะไรอยู่
เสี่ยวเหยียนทิ้งตัวลงบนเตียง ยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเอง แล้วม้วนตัวด้วยความเขินอาย ตอนที่กลิ้งไปครึ่งหนึ่ง เธอก็รีบหยุดลง แล้วกุมท้องตัวเองเอาไว้
อย่างไรก็อย่ากลิ้งไปเรื่อยจะดีกว่า ถ้าเกิดในท้องเธอมีลูกน้อยขึ้นมาจริงๆ แล้วได้รับบาดเจ็บจะทำอย่างไร อิอิ เสี่ยวเหยียนแอบขำเบาๆ
พอหัวเราะได้เพียงครึ่งเดียวก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนบ้า เธอเลยลุกขึ้นไปนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มองดูตัวเองในกระจก
ตอนนี้เธอมีความสุขมาก อิ่มเอมมาก
แล้วจู่ๆเสี่ยวเหยียนก็คิดถึงหานชิงขึ้นมามาก ดังนั้นเลยตัดสินใจไปหาเขาที่บริษัท
ที่จริง ในกรณีปกติเสี่ยวเหยียนไม่มีทางไปหาหานชิงในเวลางานเด็ดขาด เพราะว่าจะเป็นการไปรบกวนเขา แต่ว่าตอนที่เสี่ยวเหยียนไป ถ้าหากหานชิงกำลังทำงาน เธอก็จะนั่งรอในห้องทำงานเงียบๆ ไม่มีทางไปรบกวนหานชิงเด็ดขาด
รอให้เขาทำงานเสร็จแล้ว เธอค่อยคุยกับเขา หรือว่าเอาของฝากไปให้เขา
เหมือนวันนี้ ตอนที่เสี่ยวเหยียนออกจากบ้าน ก็เอาซุปไก่ที่ตัวเองเตรียมไว้ใส่กระติกเก็บความร้อนไว้ รอทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจึงออกเดินทางไปที่บริษัทตระกูลหาน
คนในบริษัทตระกูลหานต่างก็รู้จักเสี่ยวเหยียนแล้ว ดังนั้นตอนที่เสี่ยวเหยียนมา พอทักทายพนักงานหน้าเคาน์เตอร์แล้วก็เดินไปทางช่องทางเฉพาะของผู้บริหารได้เลย
พอเห็นเงาของเธอเดินไปแล้ว พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ก็อดไม่ได้ที่จะส่งข้อความไปทางกลุ่มแชท
“น่าอิจฉาแฟนของท่านประธานหานจังเลย ได้มองดูท่านประธานหานจากระยะใกล้ๆทุกวัน แถมยังเอากับข้าวฝีมือตัวเองไปให้ประธานหานทานได้อีกด้วย ฉันแค่มองดูยังรู้สึกอิจฉาแทบตายเลย ทำไมถึงได้มีผู้หญิงที่โชคดีขนาดนี้นะ”
“หน้าเคาน์เตอร์น่ะพอเถอะ ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะลืมประธานหาน ต่อไปเธอห้ามพูดถึงเขาอีกนะ”
“ใช่น่ะสิ ก่อนหน้านี้ที่พวกเราเกือบจะก่อเรื่องเข้าก็เพราะเธอ ปรากฏว่าพอไปถึงร้านชาวบ้านเขาเธอก็แอบหนีไปอย่างขี้ขลาด ตอนนี้เธอยังมาพูดเรื่องพวกนี้อีก มีเจตนาอะไรกันแน่”
“ถึงแม้ว่าประธานหานจะมีแฟนแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่ตายใจจะทำยังไงดี เทพบุตรที่สงบเยือกเย็นขนาดนั้น ทำไมจู่ๆถึงได้มีแฟนได้นะ จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่อยากเชื่อเลย ฉันขอให้พวกเขาเลิกกันได้ไหม”
“……พระเจ้าเธอนี่น่ากลัวจริงๆ คิดจะสาปแช่งคนอื่นเหรอ รวมฉันไปด้วยคนหนึ่งสิ!”
“พอได้แล้วมั้ง ข้อความพวกนี้ถ้าคนอื่นมาเห็นเข้า แล้วแคปรูปไปประจานพวกเราล่ะก็ จบเห่แน่”
ดังนั้นทุกคนก็เลยพาก็กดยกเลิกข้อความ
“ฮ่าฮ่าฮ่าดูท่าว่าเมื่อเทียบกับผู้ชายแล้ว ยังไงงานก็ยังสำคัญกว่าอยู่ดีนะ”
“แล้วไม่ใช่หรือไง เทพบุตรไม่มีแล้วก็ยังหาใหม่ได้ แต่งานดีๆแบบนี้ถ้าไม่มีแล้ว ต่อไปฉันจะไปหาเงินที่ไหนมาซื้อซื้อซื้อได้ล่ะ”
คนในกลุ่มต่างก็พูดคุยกันอยู่แบบนั้น
“ไม่ถูกนะ ฉันเคยได้ยินหน้าเคาน์เตอร์บอกว่า ช่วงก่อนมีผู้หญิงหน้าตาสวยคนหนึ่งมาที่หน้าประตูบริษัทของพวกเรา แล้วบอกว่ามาหาประธานหาน จากนั้นหน้าเคาน์เตอร์เธอยังหัวเราะเยาะหล่อนด้วยไม่ใช่เหรอ จากนั้นผู้หญิงคนนั้นยังบอกอีกว่าเคยหมั้นกับประธานหานของพวกเราเอาไว้ตอนสมัยเด็กๆอีก”
“อย่าพูดถึงอีกเลย ผู้หญิงหน้าไม่อายนี่มีเยอะจริงๆ กล้ามาบอกว่าเคยหมั้นกับประธานหานของพวกเราได้ แถมยังเป็นสมัยเด็กด้วย ฉันจะบอกพวกเธอนะ ถ้าหล่อนเคยหมั้นกับประธานหานมาก่อนจริงๆ งั้นสมัยเด็กฉันก็คงเคยเป็นเพื่อนสนิทของประธานหานแล้วล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
“หน้าเคาน์เตอร์ เธอนี่จริงๆเลยนะ……ฉันได้ยินมาว่าตอนที่หล่อนมาวันนั้นหล่อนแต่งตัวแย่มาก แต่ฉันรู้สึกว่าที่หล่อนพูดน่าจะเป็นเรื่องจริงนะ”
พนักงานหน้าเคาน์เตอร์จ้องมองข้อความนั้น แล้วก็รู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อถือ
“เธอลองเดาดูสิ ถ้าหากเธอแค่อยากจะมายั่วยวนประธานหานของพวกเรา ทำไมถึงไม่แต่งตัวให้สวยดูดีมาล่ะ ทำไมต้องแต่งตัวซอมซ่อแบบนั้นด้วย”
“อาจจะเป็นไปได้ว่าเธออยากจะลองวิธีที่แปลกใหม่ดูบ้าง เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เหมือนคนอื่นไง”
“ไม่เหมือนคนอื่นเขาไม่ได้เล่นกันแบบนี้นะ ฉันรู้สึกว่าที่หล่อนพูดนั้นเป็นความจริง”
“ข้างบน+1 ฉันก็รู้สึกว่ามีโอกาสสูงที่จะเป็นเรื่องจริง
พอจู่ๆพวกเขาก็พูดกันแบบนี้ ในใจของพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ก็เริ่มโอนเอนขึ้นมา เอามือเท้าคางตัวเองแล้วเริ่มครุ่นคิดขึ้นมา หรือว่าจะเป็นเรื่องจริง แต่ว่า ทำไมหล่อนถึงต้องแต่งตัวซอมซ่อแบบนั้น พนักงานหน้าเคาน์เตอร์คิดไม่ตกจริงๆ
และในขณะนั้นเอง ภายในแผนกบางแห่ง เจี่ยงเหวินเหวิน หรือก็คือหนึ่งในสาวน้อยที่กำลังคุยอยู่ในกลุ่มนั้น ตอนที่เธอกำลังยิ้มแล้วมองดูเนื้อหาที่ทุกคนคุยกันอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามาได้”
ประตูถูกเปิดออก สวี่เย็นหวั่นในชุดสูทพนักงานก็เดินเข้ามา
“พี่เหวินเหวินคะ นี่คือข้อมูลที่คุณต้องการ ฉันจัดการให้เรียบร้อยแล้วค่ะ”
พอได้ยินแบบนั้น เจี่ยงเหวินเหวินก็เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ข้อมูลที่ฉันขอมีไม่น้อยเลยนะ เธอจัดการเสร็จในเวลาอันรวดเร็วขนาดนี้เลยเหรอ ฉันคิดว่าเธอจะเอามาส่งพรุ่งนี้เสียอีก”
สวี่เย็นหวั่นนำเอกสารไปวางบนโต๊ะเงียบๆ แล้วยิ้มบางๆ ไม่ได้ตอบอะไร
เจี่ยงเหวินเหวินหยิบเอกสารขึ้นมา แล้วลองเปิดพลิกดู พบว่าเค้าโครงข้อมูลและทุกอย่างเรียบร้อยมาก ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ทำได้ไม่เลว เธอพึ่งเข้ามาได้ไม่นาน พยายามเข้านะ เพื่อก้าวขึ้นสู่ที่สูง”
สวี่เย็นหวั่นยิ้มบางๆ แล้วพยักหน้าอย่างอ่อนน้อม
เจี่ยงเหวินเหวินเห็นท่าทางของเธอ แล้วก็ยิ่งรู้สึกพอใจ จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาว่า “เด็กผู้หญิงน่ะ ยังไงก็พึ่งตัวเองไว้แหละดี เธอรู้จักแฟนของประธานของพวกเราไหม”