เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1342
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่1342 ของที่ระลึก
“อยากให้ของขวัญงั้นหรอ? ฉันว่าเธอเอาตัวเธอให้เขาไปก็ดีอยู่นะ”
“!!”
เสี่ยวเหยียนเห็นข้อความนี้ ก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที
พระเจ้า ใครก็ได้บอกเธอที ทำไมหลินสวี่เจิ้งถึงพูดอย่างนี้? ได้ยินแล้วมันน่าอายจะตายไปเข้าใจหรือเปล่า?
เสี่ยวเหยียนก็เลยไม่อยากสนใจเขา แล้วไม่ตอบเขากลับไปเลย
แต่หลินสวี่เจิ้งก็ได้เป็นฝ่ายส่งข้อความมาหาเธออีกครั้ง
“น้องเสี่ยวเหยียน ทำไมจู่ๆถึงนึกอยากให้ของขวัญหานชิงขึ้นมา?”
เสี่ยวเหยียนเห็นข้อความนี้ เดิมทีไม่อยากจะสนใจเขา แต่พอคิดๆดูแล้วก็ตอบกลับไปดีกว่า
“ไม่มีอะไรนี่ ก็แค่คิดว่าฉันกับเขาก็คบกันมานานแล้ว เราสองคนไม่มีของที่ระลึกอะไรกันเลย ก็เลย…อยากให้อะไรเขาสักหน่อยไง”
ของที่ระลึกสินะ?
เห็นคำพวกนี้แล้ว หลินสวี่เจิ้งก็รู้สึกว่าใจของเขาได้สงบลง
เมื่อกี้นี้ตอนเขาเห็นคำว่าของขวัญ ก็คิดอยู่สักพัก และก็ได้พบว่าอีกไม่นานก็จะเป็นวันเกิดของเพื่อนสนิทแล้ว ตอนแรกเขาก็ยังกังวลอยู่มากว่าเสี่ยวเหยียนจะฉลองวันเกิดให้เขา
แต่ตอนนี้พอถามไปก็ได้รู้ว่าไม่ใช่ หลินสวี่เจิ้งจึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอกทันที
เสี่ยวเหยียนตอบไปได้ดี ไม่มีช่องโหว่เลยสักนิด หลินสวี่เจิ้งก็เลยไม่สงสัยเลย เพราะถึงยังไงคนเขาก็เป็นหญิงสาว ตอนที่คบหากับแฟนตัวเอง อยากจะให้ของขวัญสักอย่างเพื่อเป็นที่ระลึก ก็ไม่มีอะไรที่จะไม่ได้นี่
แต่หลินสวี่เจิ้งก็คิดว่าเขาต้องเตือนเสี่ยวเหยียนสักหน่อยจะดีกว่า
“น้องเสี่ยวเหยียน เธอคงไม่คิดจะถือโอกาสให้ของขวัญหานชิงเนื่องในโอกาสวันเทศกาลอะไรหรอกใช่มั้ย?”
เขาไม่ได้พูดว่าวันเกิดไปตรงๆ พูดเพียงแค่วันเทศกาลออกไป ถ้าเสี่ยวเหยียนมีความคิดนี้อยู่ ก็คงจะสามารถนึกโยงไปได้ หลินสวี่เจิ้งคิด
แต่ความคิดของคนเรานั้นไม่เหมือนกัน เสี่ยวเหยียนจะไปรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่หลินสวี่เจิ้งคิดอยู่นั้นคืออะไร?
ดังนั้นแล้วหลังจากที่เขาถามมา สิ่งที่เสี่ยวเหยียนคิดนั้นกลับเป็นช่วงมีเทศกาลอะไรที่ไหน?
คิดไปคิดมา เสี่ยวเหยียนก็ส่ายหน้าตอบปฏิเสธออกไป “ช่วงนี้ไม่มีวันเทศกาลพิเศษอะไรนี่”
ฟังมาถึงตรงนี้ หลินสวี่เจิ้งก็เบาใจ
ดูเหมือนว่าจะเพียงแค่อยากให้ของที่ระลึกกันเฉยๆไม่ได้มีอะไร
ต่อจากนั้นหลินสวี่เจิ้งก็ได้พูดคุยให้คำปรึกษาอย่างจริงจังกับเสี่ยวเหยียนขึ้นมา
“ฉันกับหานชิงรู้จักกันมานาน ไม่เคยเห็นเขารู้สึกอยากได้อะไร ฉันก็เลยขอแนะนำว่าเธอไม่ต้องคิดจะหาของที่เขาชอบให้กับเขาหรอก ให้หาอันที่เธอคิดว่ามันมีค่าให้เก็บสะสมหรือมีค่าให้นึกถึง ของที่เป็นตัวแทนของสองคนก็ได้”
“หืม?” สำหรับคำแนะนำนี้เสี่ยวเหยียนได้รู้สึกแปลกใจอย่างมาก “พี่หลิน ทำไมพี่ถึงรู้เยอะจัง สุดยอดไปเลย”
ทันทีที่ข้อความส่งออกไป เสี่ยวเหยียนก็รู้ตัวขึ้นมาว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป
หลินสวี่เจิ้งรักภรรยาของเขาขนาดนั้น หลังจากที่เธอเสียชีวิตไปก็เศร้าหงอย ไม่ได้แต่งงานใหม่อีกเลย และก็ไม่ยอมให้ผู้หญิงอื่นเข้าใกล้
เห็นได้ว่าเขาใส่ใจต่อภรรยาของเขา งั้น…เรื่องพวกนี้เมื่อก่อนเขาก็คงเคยทำมาก่อน
ถึงแม้ว่าจะพูดว่าตัวเองพูดผิดไป แต่จะให้ยกเลิกข้อความตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว อีกอย่างถ้ายกเลิกข้อความเห็นได้ชัดว่ามันจะยิ่งส่อพิรุธกว่าเดิมไปอีก
ไม่แน่ว่าหลินสวี่เจิ้งอาจจะไม่ได้คิดไปถึงตรงนั้นก็ได้ แต่หลังจากที่เห็นเธอยกเลิกข้อความไป ก็ไปสะกิดต่อมเศร้าของหลินสวี่เจิ้งขึ้นมาก็ได้
ดังนั้นแล้วเสี่ยวเหยียนก็ทำได้เพียงแสร้งทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถามต่อออกไป “แล้วพี่มีคำแนะนำอะไรดีๆหรือเปล่า?”
เมื่อกี้มีช่วงนึง ที่หลินสวี่เจิ้งคิดถึงภรรยาที่จากไปของตนจริงๆ
เมื่อก่อนตอนทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน แน่นอนว่าหลินสวี่เจิ้งจะเป็นคนคิดของพวกนี้อยู่เสมอ แต่ภรรยาตัวน้อยของเขาก็จะเหมือนกับเสี่ยวเหยียน ซื้อพวกของที่ระลึกของสะสม บอกว่าจะให้มันเป็นของที่เก็บเอาไว้ระลึกความทรงจำของทั้งสองคน
ความทรงจำที่เป็นความเจ็บปวดที่ปะปนไปด้วยความสุขทั้งยังแฝงไปด้วยความขมขื่น
แต่ในขณะเดียวกันก็มีความสุขไปด้วยเช่นกัน
หลินสวี่เจิ้งรู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับว่าได้ย้อนกลับไปในตอนที่ทั้งสองคนเพิ่งจะคบกันอีกครั้ง
เขาเริ่มพิมพ์ลงไป ปลายนิ้วกดอยู่บนหน้าจอ เอาเรื่องที่เขาทำให้ภรรยาตอนนั้นบอกต่อให้กับเสี่ยวเหยียนเรื่องแล้วเรื่องเล่า
“อันนี้มันไม่มีอะไรเจาะจง จะเป็นที่ที่พวกเธอทั้งสองคนเคยไปมา มีของเล็กๆน้อยๆที่มีค่าต่อความทรงจำ จะเป็นความทรงจำที่มีค่าที่พวกเธอทั้งสองคนได้เก็บรักษากันเอาไว้ก็ได้ สรุปก็คือมีของคล้ายกันอยู่มาก ส่วนจะให้อะไรนั้นฉันไม่สามารถให้คำแนะนำเธอได้มาก เพราะถึงยังไงพวกเธอคบกัน พวกเธอเจออะไรกันมา เธอรู้ดีกว่าฉันเสียอีก”
เสี่ยวเหยียนมองคำพวกนี้แล้วอยู่นาน ใช่แล้ว เจออะไรมาตัวเธอรู้ดีที่สุด
“ฉันรู้แล้วค่ะ ขอบคุณพี่หลินที่ชี้แนะนะคะ”
เก็บโทรศัพท์กลับไป เสี่ยวเหยียนก็เริ่มกลับมาคิดเรื่องที่ช่วงนี้ทั้งสองคนได้เจออะไรกันมาบ้าง
สถานที่ที่พวกเขาได้ไปด้วยกันเหมือนจะไม่เยอะ ครั้งแรกครั้งเดียวที่ทั้งสองคนได้ออกไปเที่ยวกันตามลำพังด้วยกันหรือว่าอันที่หานมู่จื่อจัดการให้พวกเธอ
แต่…ตอนที่เธออยู่บนเกาะไม่ได้นึกจะซื้อของที่ระลึกอะไรเลย
เดิมทีในตอนนั้นบนเกาะมีของขายหลายอย่าง แต่เธอกลับนึกไม่ถึงเลย
จนถึงตอนนี้เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ มันจะไปมีประโยชน์อะไร!
โธ่เอ๊ย เสี่ยวเหยียนกุมหัว คิดจนปวดหัว
ผ่านไปสองวัน บริษัททัวร์โทรมาหาเธอ บอกเธอว่าอัลบั้มรูปในการเดินทางและบันทึกได้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เธอหาเวลาเข้าไปเอา
หลังจากที่เสี่ยวเหยียนรับสายโชคดีที่ไม่มีธุระอยู่พอดี ช่วงบ่ายก็เลยเข้าไปเอาบันทึกกับอัลบั้มรูป
ในตอนที่ได้รับบันทึกกับอัลบั้มรูปนั้นเอง เสี่ยวเหยียนก็เกิดแรงบันดาลใจขึ้นมาทันที
ระหว่างเธอกับหานชิงถึงแม้ว่าจะเจออะไรกันมาไม่เยอะ แต่ในส่วนน้อยก็ยังถือว่ายังมีอยู่ เธอสามารถเอาของพวกนี้มาทำเป็นสมุดเล่มหนึ่ง แล้วจดบันทึกขึ้นมา มันก็เทียบเท่ากับสิ่งของที่ระลึกของทั้งสองคนได้เลยนี่
คิดไปแล้วก็มีความสุข
“จริงสิ คุณนายหาน นี่เป็นของฝากเล็กๆน้อยๆที่เป็นประจำท้องถิ่น เป็นสิ่งที่บริษัทของเราได้เตรียมเอาไว้ให้คุณกับนายหานครับ”
นึกไม่ถึงว่าจะมีของฝากประจำท้องถิ่นแถมให้ด้วย เสี่ยวเหยียนประหลาดใจเอามากๆ หลังจากที่รับของแล้วก็มีใบหน้าดีใจออกมา “บริษัทของพวกคุณใส่ใจมากเลยนะคะ ขอบคุณนะคะ! ฉันชอบมากเลย”
พนักงานยิ้มออกมาเสียอย่างกับไม่ได้ตั้งใจจะทำ “คุณนายหานชอบก็ดีครับ งั้นถ้าครั้งหน้าคุณนายหานกับนายหานอยากร่วมการเดินทางอย่างนี้อีก อย่าลืมมาที่บริษัทของเราอีกนะครับ หรือว่าจะมีเพื่อนห่างๆ ก็แนะนำมาที่นี่ได้นะครับ”
“ไม่มีปัญหาค่ะ” เสี่ยวเหยียนรับปากไปอย่างใจกว้าง จากนั้นพนักงานก็ให้เสี่ยวเหยียนเข้าแอปไปแสดงความคิดเห็นชมเชยให้บริษัทพวกเขา เสี่ยวเหยียนเองก็ไม่ได้ปฏิเสธไปเช่นเดียวกัน ให้การประเมินไปย่อหน้าใหญ่อย่างใจกว้างสุดๆ ชื่นชมเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานของบริษัทพวกเขากับพนักงานทั้งหมดเสียจนออกนอกทะเล
สุดท้ายพนักงานก็มีความสุขเสียจนเหมือนกับกำลังล่องลอยอยู่บนก้อนเมฆ เดินไร้สติหายไปด้วยความพออกพอใจ
รอจนเขาเดินออกไปแล้ว เสี่ยวเหยียนก็หยิบถุงกลับบ้าน
เพราะว่าแรงบันดาลใจได้ถูกกระตุ้น เสี่ยวเหยียนก็เลยเริ่มหยิบสมุดมาเขียนแผนการ
สุดท้ายคิดคำนวณซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสี่ยวเหยียนก็ได้พบว่าเวลามันไม่พอ เพราะว่าระยะห่างจากวันเกิดของหานชิงเหลือเพียงแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น เสี่ยวเหยียนก็เลยจำต้องอดนอนแล้วเร่งมือทำมันเพื่อให้เสร็จทันเวลา
เพราะว่าหานชิงนั้นไม่ขาดอะไรเลย ของขวัญที่เสี่ยวเหยียนทำให้เขาก็พลอยไม่ได้คิดเรื่องระหว่างราคากับประสิทธิภาพ ระดับการใช้งานจริงอะไรไปด้วย ถึงยังไงมันก็ทำมาจากความทรงจำที่มีค่านี่นะ
ดังนั้นแล้วเธอก็ยังต้องพับนกกระเรียนอีก9999ตัว
เพียงแต่ระดับความยากนี้อยู่ในระดับสูง จะพับให้เสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์คิดไปแล้วมันก็น่ากลัวอยู่ แต่เรื่องที่เสี่ยวเหยียนคิดจะทำนั้นจะไม่มีทางยอมแพ้ เธอก็เลยเริ่มพับนกกระเรียนหนึ่งพันตัวไปอย่างไม่รู้วันรู้คืน เพื่อทำสิ่งของมีค่าต่อความทรงจำนี้
เพราะสิ่งนี้ก็ยังอดนอนไปด้วย ขอบตาดำไปหมด