เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1413
บทที่1413 อย่าให้เสียน้ำใจ
ทำไมถึงต้องล็อกประตูอีก?
หึ เขามีหน้ามาถามอีกนะ? เจียงเสี่ยวไป๋แอบกลอกตาให้เขาไป ไม่ได้ตอบคำถามของเขา
จากนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจของเซียวซู่ใกล้เข้ามาเล็กน้อย เสียงนุ่มเหมือนราวกับมีแดนดิไลออนที่กำลังกวนใจเธออยู่ไม่มีผิด “ยังโกรธฉันอยู่อีกหรอ?”
เชอะ ใครโกรธเขากัน?
เจียงเสี่ยวไป๋ยังคงไม่พูดอะไร เซียวซู่ก็เข้าใกล้เข้าไปอีก “ฉันรู้ว่าเธอยังไม่นอน เมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจ ฉันรับรองว่าครั้งหน้าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีกแน่นอน”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็เบิกตากว้างออกมา ที่แท้เขาก็นึกว่าตนกำลังโกรธเรื่องที่เขาจูบตนอยู่สินะ?
เหอะๆเจ้าสุนัขตัวผู้นี่ เจ้าสุนัขตัวผู้ที่ซื่อบื้อไม่รู้ถึงความรู้สึกระหว่างชายหญิงเลย!
เธอสมองป่วยจริงๆถึงได้ตกลงคบกับเขา!
เจียงเสี่ยวไป๋กลอกตาออกมาต่อ ครั้งนี้เธอขี้เกียจสนใจเขาแล้วจริงๆ นอนเสียดีกว่า ฟังเขาพูดต่ออีก เธอกลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือดไม่ช้าก็เร็ว
หลังจากที่เซียวซู่พูดคำพูดพวกนั้นออกมา ก็ได้พบว่าเจียงเสี่ยวไป๋ยังไม่ค่อยจะดูสนใจเขานัก คิดถึงสิ่งที่เขาทำลงไปเมื่อกี้นี้ มันก็เกินไปจริงๆ นึกอยากจะขอโทษก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดยังไงอีก สุดท้ายคิดไปคิดมา เขาก็ถามคำถามนึงออกไป
“จูบฝันดีของวันนี้ ยังต้องการอีกมั้ย?”
เจียงเสี่ยวไป๋ “?”
หลังจากที่ความเงียบภายในห้องผ่านไป ในที่สุดเจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้พลิกตัวหันไปเผชิญหน้ากับเซียวซู่ แสงไฟไม่สว่าง แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้อีกฝ่ายมองเห็นชัดได้
“คุณเป็นหมูหรือไง?” เจียงเสี่ยวไป๋ถามเขาไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก
เซียวซู่นึกว่าเธอจะโกรธตนขึ้นมาอีก ทำได้เพียงหลุบสายตาไปอย่างกระดากอาย “งั้นก็นอนเถอะ”
เจียงเสี่ยวไป๋ “???”
เหอะๆ ฉันบอกคุณจะตายแล้ว ไอ้สุนัขตัวผู้นี่!
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเสียงเย็นออกมา โต้เขากลับไปทันที “อยากจูบฝันดีอะไรกันห๊ะ ทางที่ดีชั่วชีวิตนี้คุณอย่ามาจูบฉันหรือแตะต้องฉันอีก”
และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการรับรู้ของตัวเซียวซู่มันผิดหรือเปล่า ทำไมถึงได้รู้สึกว่าคำพูดนี้ของเจียงเสี่ยวไป๋ฟังดูเหมือนกับว่าจะมีการประชดประชันปะปนอยู่ด้วยไม่มีผิด? เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเขานั้นจะไม่เข้าใจผู้หญิง อยู่หน้าเย่โม่เซินผู้ชายที่แมนทั้งแท่งอย่างนั้น เขาคิดว่าตัวเองนั้นเข้าใจผู้หญิงมากแล้ว แต่ตอนนี้มาเผชิญหน้ากับเจียงเสี่ยวไป๋ที่เจ้าเล่ห์เสียอย่างกับจิ้งจอกนี่ เซียวซู่สับสนขึ้นมา
ตกลงเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?
“เธออยากให้จูบฝันดี?”
ถามจบ เซียวซู่ก็รู้สึกว่าสายตาของเจียงเสี่ยวไป๋ดูดุดันขึ้นกว่าเดิม เหมือนกับอยากจะฆ่าเขาไม่มีผิด ไม่ทำก็คือไม่ทำแต่ถ้าจะทำแล้วเขาต้องทำให้ถึงที่สุด เซียวซู่ขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงกับเธออีก จึงได้กุมเธอเข้ามาจูบลงไปบนหน้าผากของเธอไปทีนึง จากนั้นก็พาเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตน “นอน”
ไม่ได้ปล่อยโอกาสให้เจียงเสี่ยวไป๋ได้ตอบกลับเลยสักนิด
เจียงเสี่ยวไป๋ที่ถูกเซียวซู่กดเข้ามาซุกอยู่ตรงหน้าอกก็มีสีหน้ามึนงงออกมา เมื่อกี้เธอพูดอะไรแล้วหรือยัง?
ทำไมไอ้ผู้ชายซื่อบื้อคนนี้จู่ๆถึงได้เริ่มฉลาดขึ้นมา? ทั้งๆที่สิ่งที่เธอพูดไปคือให้เขาอย่ามาแตะต้องเธออีกนี่ ทำไมเขาถึงเข้ามาจูบกันล่ะ
แต่อารมณ์ของเจียงเสี่ยวไป๋ดีขึ้นมาหน่อยนึงแล้ว อันที่จริงเซียวซู่ก็ไม่ใช่คนหัวทึบอะไร ทั้งยังนับว่าเป็นคนที่ยังพอเยียวยาได้อยู่ หลังจากที่ใจสงบลง เจียงเสี่ยวไป๋หลับตานอนหลับไปอย่างรวดเร็ว
เซียวซู่ได้ยินเสียงลมหายใจของคนที่อยู่ในอ้อมกอดค่อยๆมั่นคงขึ้น ก้มหน้าจูบลงไปบนกลางกระหม่อมของเธอเบาๆ คืนนี้เขาเกินไปหน่อยจริงๆ จากนี้ไปก็ควบคุมตัวเองให้ดีหน่อยแล้วกัน
ตั้งแต่ที่รู้ว่าเซียวซู่ได้ปล่อยให้หญิงสาวนอนไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว เหลียงหย่าเหอเจอกับเจียงเสี่ยวไป๋อีกที กับเธอนั้นสามารถพูดได้เลยว่าค่อนข้างที่จะสนิทสนมกันเป็นพิเศษ ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันต่างๆนานา กลัวว่าเธอจะหนาวจะหิวอะไร วันนี้ให้กระโปรงเจียงเสี่ยวไป๋มาตัวนึง พรุ่งนี้ให้สร้อยข้อมือมาอีกเส้นนึง วันมะรืนก็ให้ผ้าพันคออีก มีของขวัญมอบให้มาอย่างไม่ขาดสาย ตอนแรกเจียงเสี่ยวไป๋ก็แค่คิดเสียว่าเธอชอบตนก็เลยรับมาทั้งหมด วันแล้ววันเล่านี้ เจียงเสี่ยวไป๋นั้นรู้สึกงงมากเลยจริงๆ
อีกทั้งเหลียงหย่าเหอก็ยังหยิบออกมาให้อย่างใจกว้างสุดๆ สกินแคร์ของเกอร์แลงแพงเสียขนาดนั้น ตัวเจียงเสี่ยวไป๋เองก็ยังตัดใจซื้อไม่ลงเลย แต่เหลียงหย่าเหอกลับซื้อมาให้เธอชุดนึงได้อย่างง่ายดาย
เธอนึกขึ้นมาว่าตนกับเซียวซู่ก็แค่ลองคบกันดูเท่านั้น หลังจากนี้ก็ไม่แน่ว่าจะได้คบกันจริงๆ ก็รู้สึกว่าการรับของขวัญมาแบบนี้ทำให้เธอไม่สบายใจเลยจริงๆ ก็เลยไม่ขอรับอีก ถึงขนาดที่อยากจะเอาของขวัญที่รับมาเมื่อก่อนหน้านี้คืนกลับไปเลยทีเดียว
เหลียงหย่าเหอพอได้ยินอย่างนั้น ก็โกรธขึ้นมาทันที
“หลักที่ให้ของไปแล้วยังจะเอากลับคืนอีกมีที่ไหนกัน? เสี่ยวไป๋ หนูคิดว่าของที่ป้าให้ไปไม่ดีใช่มั้ย? ถ้าหนูคิดว่าไม่ดีล่ะก็ หนูก็ทิ้งมันไปเถอะ”
เจียงเสี่ยวไป๋ “?”
ของแพงขนาดนั้น เธอจะทิ้งมันลงหรอ?
เจียงเสี่ยวไป๋ทำได้เพียงอธิบายออกไปอย่างจนใจ “คุณป้าคะ ไม่ใช่ว่าของมันไม่ดีหรอกนะคะ แต่เป็นเพราะว่ามันมีค่าเกินไป หนูรับเอาไว้ไม่ได้จริงๆ”
“ทำไมถึงรับเอาไว้ไม่ได้ล่ะ? เสี่ยวไป๋ของเราเป็นเด็กดีขนาดนี้ ป้าบอกว่าหนูรับเอาไว้ได้หนูก็รับเอาไว้ได้สิ หนูไม่ต้องคิดมากไปหรอก ในอนาคตถ้าหนูกับเซียวซู่เลิกกัน ป้าก็ไม่เอาของพวกนี้กลับหรอก”
เอ่อ เจียงเสี่ยวไป๋ตะลึงขึ้นมาเล็กน้อย ทำไมเหลียงหย่าเหอถึงได้พูดเลยเถิดไปถึงนู่นได้กัน?
“วางใจเถอะ ป้าก็เหมือนกับหนู เป็นผู้หญิงด้วยกัน ผู้หญิงคนไหนที่ไม่หวังให้แฟนของตัวเองกับพ่อแม่สามีในอนาคตรักใคร่เอ็นดูกันล่ะ? ถ้าหลังจากนี้หนูคบกับเซียวซู่จริงๆนะ หลังจากนั้นป้าจะให้หนูเยอะกว่านี้อีก”
เหลียงหย่าเหอความจริงก็ใช้ชีวิตมาอย่างมีความสุข สามีก็ดีกับเธอ ลูกชายเองก็กตัญญู เงินที่หามาได้ส่วนใหญ่ก็มาอยู่ในมือเธอทั้งนั้น เหลียงหย่าเหอเองก็ไม่คิดจะจ่ายไปหมดเอง จึงได้เก็บสะสมมันทั้งหมด รอจนลูกชายแต่งงานไปแล้วค่อยซื้อบ้านให้เขา แต่ตอนนี้ยังไม่ได้แต่งงาน มีลูกสะใภ้ดีๆอย่างเจียงเสี่ยวไป๋อยู่ตรงหน้า แน่นอนว่าจะต้องรักษาเอาไว้ถึงจะสามารถคุยเรื่องแต่งงานได้
ใช้เงินเขามาซื้อของให้เจียงเสี่ยวไป๋ เหลียงหย่าเหอไม่รู้สึกเสียดายเลยแม้แต่น้อย
“คุณป้าคะ ฉัน…”
“เสี่ยวไป๋ อย่าปฏิเสธเลย ถ้าหนูพูดอีก ป้าจะโกรธแล้วนะ”
เจียงเสี่ยวไป๋จำต้องยอมแพ้ไป แต่เธอรับของของเขามาเยอะแยะขนาดนั้นไม่อาจรับมาเปล่าๆได้หรอก เธอจึงหาเวลาไปห้างซื้อผ้าพันคอแพงๆให้เหลียงหย่าเหอผืนนึง
เหลียงหย่าเหอหลังจากที่ได้รับก็ดีใจมาก สวมแล้วก็คุยโวว่านี่เป็นผ้าพันคอที่ลูกสะใภ้ในอนาคตซื้อให้เธอ มีมูลค่าสูงอะไรทำนองนั้น
อันที่จริงผ้าพันคอชนิดนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ซื้อเป็นครั้งแรก ใช้เงินเก็บของเธอจ่ายไปมากโข ถ้าตามปกติแล้ว เธอคงจะต้องเสียดายจนร้องไห้ออกมาแน่
อันที่จริงของฟุ่มเฟือยพวกนี้ปกติเธอไม่ซื้อมันหรอก แต่เพราะเหลียงหย่าเหอซื้อของให้เธอเยอะมากเกินไปจริงๆ ตอนที่เจียงเสี่ยวไป๋ซื้อมันไปก็เลยไม่ได้เสียดายอะไรนัก
แต่การเสียดายมันก็เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว อันที่จริงถ้าเลือกได้ล่ะก็ เธอเลือกที่จะเก็บเงินพวกนี้เอาไว้ อนาคตเจอเรื่องฉุกเฉินอะไรก็จะได้หยิบมาใช้ได้ ไหนเลยที่จะเอาแต่ซื้อๆๆอย่างบ้าคลั่งเหมือนอย่างตอนนี้กัน?
เฮ้อ ช่างมันเถอะ ถึงยังไงก็เป็นแม่ของแฟน คนเขาเอ็นดูตนขนาดนี้ เธอเองก็อย่าไปทำให้คนเขาต้องเสียน้ำใจสิ
การเตรียมการบริษัทของสวี่เย็นหวั่นค่อยๆเข้าสู่ทางปกติ หลังจากที่แผนงานได้ตกลงกันแล้ว ไม่มีคนมีปากเสียงขึ้นมาอีก ทุกคนต่างก็ทำงานของตัวเองไปอย่างสบายใจ
วันแต่งงานของหานชิงกับเสี่ยวเหยียนก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
สวี่เย็นหวั่นก็อดไม่ได้ที่จะส่งข้อความไปหาเสี่ยวเหยียน
ก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าเสี่ยวเหยียนจะโยนซิมการ์ดทิ้งไปแล้ว แต่ภายหลังหลังจากที่ถูกหานชิงพากลับมาแล้ว เธอก็ไปที่ร้านเพื่อเอาหมายเลขบัญชีโทรศัพท์กลับมาอีก เพราะถึงยังไงก็ใช้มาตั้งหลายปี ใช้มันมาจนชินไปแล้ว
ดังนั้นในตอนที่เสี่ยวเหยียนได้รับข้อความจากสวี่เย็นหวั่น ก็ยังแปลกใจอยู่ ครั้งที่แล้วหลังจากที่เธอนั่งบนที่นั่งข้างคนขับของตนแล้วถูกเสี่ยวเหยียนด่าไปแล้วนั้น เสี่ยวเหยียนก็ยังคิดเลยว่าหลังจากนั้นเธอจะไม่มารบกวนเธออีกแล้ว แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะยังมาหาตนอีก