เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1416
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่1416 ล่าถอยหรือว่าใจอ่อน
ตอนที่กลับมาถึงบ้าน ร่างของเสี่ยวเหยียนก็ยังสั่นออกมา ถึงขนาดที่ว่ารู้สึกหนาวขึ้นมามากๆ
หลังจากที่เธอเปิดฮีตเตอร์ ก็เข้าไปซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม
คงเพราะเจอเรื่องที่ทำให้กลัวมา ดังนั้นแล้วถึงแม้ว่าจะทั้งฮีตเตอร์กับผ้าห่มแล้ว เสี่ยวเหยียนก็ยังรู้สึกว่าไม่มีความรู้สึกปลอดภัยอะไรเลย
เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เธอต้องบอกหานชิงหรือเปล่า ถ้าเกิดว่าเธอคิดไปเองล่ะ? ถึงตอนนั้นเธอจะกลายเป็นผู้หญิงที่ตัดสินคนอื่นมั่วซั่ว อีกอย่างตอนหลังจากที่สวี่เย็นหวั่นวิ่งมาหาก็ยังหอบหายใจแฮ่กๆออกมาเลย ดูจากสายตาของเธอแล้วก็ดูกังวลมากเหมือนกัน
ถ้า ถ้าเธอคิดอยากจะทำอะไรตนขึ้นมาจริงๆ เธอจะสามารถเดินออกมาจากร้านกาแฟได้อย่างราบรื่น กลับบ้านมาซุกตัวอยู่ในผ้าห่มได้อย่างราบรื่นอยู่หรอ?
อย่างนั้นแล้วตกลงเธอต้องบอกเรื่องนี้กับเซียวซู่หรือเปล่า?
ในหัวของเสี่ยวเหยียนคิดวุ่นไปหมด ในใจของเธอก็นึกกลัวขึ้นมาไม่หยุด ตอนนี้สิ่งที่เธอได้สันนิษฐานเอาไว้ก็คือสวี่เย็นหวั่นคงจะคิดจะทำอะไรบางอย่างกับเธอจริงๆ แต่ในช่วงเวลาสำคัญเธอก็ได้เบรกเอาไว้ คงเป็นเพราะความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก่อขึ้นมาได้ทันเวลาพอดี หรือคงจะกลัวรับผิดชอบผลที่ตามมาไม่ไหว
แต่ไม่ว่าจะเป็นผลแบบไหนก็ล้วนแล้วแต่จะหมายความว่าเธอเคยมีความคิดอย่างนี้ทั้งนั้น
ถ้าตอนนั้นสวี่เย็นหวั่นไม่ได้คิดให้ดีแล้วมาเปิดประตูให้ อย่างนั้นแล้วสิ่งที่จะเข้ามาทักทายเธอหลังจากนั้นจะเป็นอะไรอีกกัน?
เสี่ยวเหยียนแทบจะไม่กล้าคิดด้วยซ้ำ หลับตาลงขดตัวอยู่ในผ้าห่มแน่น
หลังจากที่สวี่เย็นหวั่นออกมา ไม่ได้เดินไปหาเสี่ยวเหยียน แต่ได้เดินตรงไปหาเห้อเหลียนจิ่ง
เห็นเธอไปแล้วกลับมา เห้อเหลียนจิ่งนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจขายาวไขว้เข้าหากัน ริมฝีปากก็ยังยิ้มจางๆออกมา
“คุณหมายความว่าอะไร!?”
หลังจากที่สวี่เย็นหวั่นเดินเข้าไป ก็ถามเขาออกไปตรงๆ
เห้อเหลียนจิ่งเลิกคิ้วออกมาเล็กน้อย “ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าผมพูดไปแล้วหรอ? ผมจะช่วยคุณไง ผมช่วยคุณจัดการให้ไง เป็นไงล่ะ?”
“วันนี้ตอนที่คุณลงมือเคยถามฉันสักคำมั้ย?” สวี่เย็นหวั่นถามเขาไปด้วยความโมโห “อีกอย่าง วันนั้นฉันก็ไม่ได้ตอบตกลงคุณเลยนะ เป็นคุณที่พูดเพ้อเจ้ออยู่นั่นเองต่างหาก!”
ได้ยินอย่างนั้น เห้อเหลียนจิ่งลุกขึ้นเข้าไปใกล้สวี่เย็นหวั่น หรี่ตาสำรวจเธอ “ทำไม นี่คุณคิดจะถอย หรือว่าใจอ่อนขึ้นมาล่ะ?”
สวี่เย็นหวั่นไม่พูดอะไรออกไป เม้มริมฝีปากแดงของตัวเองอยู่ตรงนั้น
ไม่รอให้เธอได้ตอบกลับมา เห้อเหลียนจิ่งก็ได้เดินเข้าไปโอบรัดไปตรงช่วงเอวของเธอ โน้มตัวเข้าไปประชิดเธอ
“คุณหนูสวี่กลัวว่าหลังจากที่ทำเรื่องพวกนี้ลงไปคนอื่นจะดูถูกดูแคลนคุณ? หรือว่าคุณคิดว่ามีคุณธรรมจิตใจสูงส่ง หยิ่งทะนงเสียจนคิดว่าไม่มีใครสู้ตัวเองได้แล้ว ไม่มีความสำคัญที่จะต้องทำเรื่องพวกนี้?”
ได้ยินอย่างนั้น สวี่เย็นหวั่นก็เงยหน้าขึ้นไปอย่างรวดเร็ว “คุณพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง?”
“หรือว่าจะไม่ใช่?” เห้อเหลียนจิ่งยิ้มชั่วร้ายออกมา “ไม่อยากให้ตระกูลสวี่ได้รับความอับอาย ก็เลยไม่ควรค่าให้ใช้วิธีการแบบนี้ แต่คุณลืมไปแล้วหรอ? ผมบอกว่าผมจะลุยให้คุณเอง ผมจะพยายามอย่างหนักแทนคุณเอง ถ้าเกิดเรื่องมันหลุดออกไป ทั้งหมดก็เป็นฝีมือผมทั้งนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับคุณ คุณจะกลัวอะไร?”
พูดไปพลาง เห้อเหลียนจิ่งยังเอื้อมมือออกมาจัดผมตรงหน้าผากสวี่เย็นหวั่นให้ดีไปพลาง สวี่เย็นหวั่นหลบเลี่ยงสัมผัสของเขาไปทันที พร้อมกัดฟันเอ่ยออกมา “คุณอย่ามาแตะต้องฉันซี้ซั้วนะ”
พูดจบก็ถอยออกไปก้าวใหญ่ รักษาระยะห่างจากเห้อเหลียนจิ่ง
“พูดให้ดีหน่อย คุณหลุดออกไปฉันเองก็หนีไปไหนไม่พ้นเหมือนกัน คุณนึกว่าเอาเรื่องทั้งหมดโยนใส่คุณไปทั้งหมดแล้ว จะไม่มีใครสงสัยฉันเลยหรอ? คุณไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ฉันรู้จักกับคุณ คนที่สายตาแหลมคมแค่มองก็รู้ว่าคุณทำเรื่องพวกนี้เพื่อฉัน ในเมื่อจุดเริ่มต้นมันเกิดขึ้นเพราะฉันแล้ว ถึงแม้ว่าคุณจะโยนเรื่องทั้งหมดเข้าตัวคุณไปมันจะมีประโยชน์อะไรกันล่ะ?”
“อ้อ?” เห้อเหลียนจิ่งเลิกคิ้วออกมาเล็กน้อย “คำพูดที่คุณหนูสวี่พูดออกมาพวกนี้ คุณสามารถเข้าใจได้ว่าคุณไม่อยากให้ผมแบกรับความผิดทั้งหมดเองงั้นหรอ? กำลังเป็นห่วงผม?”
เป็นห่วงเขา?
สวี่เย็นหวั่นยิ้มเย็นออกมา “คุณอย่าคิดมากไปหน่อยเลย!”
เธอจะไปชอบเพลย์บอยอย่างนี้ได้ยังไง? เปลี่ยนผู้หญิงอย่างกับเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่มีการให้เกียรติผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าเธอจะต้องเป็นโสดไปชั่วชีวิตเธอก็ไม่มีวันจะคบกับคนพรรค์นี้แน่
“งั้น ก็เป็นเพราะคุณหนูสวี่ของเรามีจิตใจงดงามสินะ ก็เลยไม่อยากให้ทำร้ายคนอื่น?”
สวี่เย็นหวั่นหันหน้าไป “ฉันไม่ใช่คนใจดี ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรเลย คุณไม่ต้องมายกยอประจบสอพลอฉันหรอก ฉันไม่อยากทำเรื่องพวกนี้ เพียงแค่เพราะว่าเธอท้องอยู่ก็เท่านั้น และอีกอย่างลูกในท้องของเธอก็เป็นลูกของหานชิง ฉันเคยบอกคุณแล้วไงว่าฉันไม่อยากทำร้ายหานชิง”
“งั้นขอเพียงแค่เธอท้องอยู่ คุณก็จะไม่ลงมือกับเธอ? ถ้าเธอไม่ท้องล่ะ คุณก็คิดจะลงมือกับเธอสินะ?”
สวี่เย็นหวั่นไม่พูด
เห้อเหลียนจิ่งเข้ามาประชิด “แล้วทำไมเมื่อก่อนหน้านี้คุณถึงไม่ลงมือกันล่ะ?”
ได้ยินอย่างนั้น สวี่เย็นหวั่นหายใจติดขัดขึ้นมา
“เมื่อก่อนมีโอกาสดีๆตั้งเยอะ ในตอนที่เธอยังเชื่อใจคุณอยู่ ไม่มีความสงสัยใดๆต่อคุณ ตอนนั้นคุณควรลงมือทำไปโดยไม่มีใครรู้เห็น มันจะไม่มีใครสงสัยมาที่คุณได้เลย”
เห้อเหลียนจิ่งตอนที่พูดคำพวกนั้นออกมาริมฝีปากก็ยังประดับไปด้วยรอยยิ้ม เหมือนกับว่ากำลังพูดเรื่องที่มันง่ายดายเรื่องหนึ่งอยู่ โดยพื้นฐานแล้วก็ไม่ใช่คนคิดร้ายกับคนอื่น สวี่เย็นหวั่นแทบไม่อยากที่จะเชื่อ หลังจากที่สูดหายใจเข้าลึกๆแล้ว ก็พูดทิ้งเอาไว้ประโยคนึง “ประสาท ฉันขี้เกียจพูดกับคุณให้มากแล้ว”
พูดจบ เธอก็ผันร่างเดินออกไป
แต่เห้อเหลียนจิ่งกลับรีบเดินตามเข้ามา ขายาวเดินเข้ามาประชิดร่างเธอ “วันแต่งงานของพวกเขาก็ใกล้เข้ามาแล้ว ถ้าคุณคิดจะรอลงมือหลังเธอคลอดลูกแล้วล่ะก็ เกรงว่าคงจะต้องรอหลังจากที่เธอแต่งงานไปแล้ว ถ้าเกิดรอให้พวกเขาได้แต่งงานกันแล้ว ถึงตอนนั้นคุณทำเรื่องพวกนั้นไป คุณคิดว่ามันจะยังมีความหมายอยู่อีกหรอ?”
คำพูดของเขาแฝงไปด้วยการยุยง ทำลายการข่มใจตัวเองของสวี่เย็นหวั่นออกมาไม่หยุด เธอกัดลงไปบนริมฝีปากตัวเองแน่น เหมือนราวกับว่าไม่ได้ยินคำพูดของเขาก็ไม่ปาน เท้าก็ก้าวเดินออกไปด้วยความรวดเร็ว
ตอนเย็น
ตอนที่หานชิงกลับมา ก็ได้พบว่าภายในห้องมืดสนิท แม้แต่แสงจากโคมไฟเองก็ไม่มีเลย
เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เอากุญแจวางไว้บนเคาน์เตอร์ที่อยู่ข้างๆ จากนั้นก็กดสวิตช์ที่อยู่บนกำแพง
ผู้หญิงคนนั้นไปไหนกัน?
วันนี้ทั้งวันไม่ส่งข้อความมาหาเขาเลย ตอนนี้กลับบ้านมาในบ้านก็มืดสนิท หรือว่าจะยังอยู่ที่ร้าน? ในระหว่างที่กำลังคิดอยู่นั้น หานชิงก็ได้เดินขึ้นไปชั้นบน
เพราะว่าคาดเดาเอาไว้ว่าเสี่ยวเหยียนก็คงจะยังยุ่งอยู่ที่ร้าน หานชิงก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปหา
หลังจากที่โทรไป หานชิงก็ได้ผลักประตูเข้าไปในห้องพอดี จากนั้นตรงผ้าห่มผืนนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ต่อจากนั้นบนเตียงก็มีเงาร่างคนเด้งตัวขึ้นมา เหมือนกับสะดุ้งตกใจเอามากๆไม่มีผิด
“อ๊ะ——“
เสี่ยวเหยียนที่เอาแต่นอนขดอยู่ในผ้าห่ม ตอนหลังก็ง่วงแล้วนอนหลับไป แต่ในฝันนั้นได้หลับไปอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ฝันเห็นตัวเองตัวเองถูกขังอยู่ในห้องน้ำ ประตูไม่ว่าจะเปิดยังไงก็เปิดไม่ออก ไม่ว่ายังไงก็ออกไปไม่ได้สักที สักพักก็ฝันเห็นสวี่เย็นหวั่นถือมีดเดินเข้ามาหาเธอ หลังจากนั้นแทงเข้ามาอย่างรวดเร็ว เลือดสดๆสาดกระเด็น
จากนั้นสวี่เย็นหวั่นก็ยืนอยู่ตรงนั้น สายตาทั้งเยือกเย็นและทั้งเย็นชา
“ให้ฉันแย่งผู้ชายกับแก ฉันจะให้แกตายศพไม่สวยเลย”
“อ้ากๆ!”
เสี่ยวเหยียนที่กำลังอยู่ในความฝันอยู่นั้นหวาดกลัวจนกรีดร้องออกมา แต่ก็ไม่มีกำลังที่จะต่อต้านออกไปได้ เธอในความฝันนั้นก็เหมือนกับหุ่นเชิดที่มีคนคอยควบคุมเอาไว้
ภาพในช่วงหลังนั้นเต็มไปด้วยเลือด หลังจากที่เธอตกใจตื่นขึ้นมา ก็หอบหายใจอย่างแรง เหงื่อเย็นไหลซึมผ่านเสื้อผ้าออกมา
สิ่งที่น่ากลัวเลยก็คือในตอนนี้ภายในห้องนั้นมืดสนิท แต่จู่ๆประตูก็ถูกผลักเข้ามา เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์เองก็ดังขึ้นมาพร้อมกัน
เสี่ยวเหยียนในตอนนี้หลงเหลืออยู่แค่เพียงความคิดเดียว นั่นก็คือภาพเหตุการณ์ในความฝันดูเหมือนว่ามันใกล้จะเกิดขึ้นมาแล้วไม่มีผิด