เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1429
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่1429 พ่อยังอยู่ข้างใน
เพราะว่าเมื่อกี้ตอนที่คานถล่มลงมา พ่อหานผลักหานชิงไปด้านข้าง
“พ่อ! ” หลังจากที่หานชิงถูกผลักออกมาแล้ว ก็เซและล้มลงกับพื้น หน้าตาบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แต่ว่าไม่นานเขาก็เห็นพ่อของตัวเองถูกคานบ้านทับ ด้านบนของคานบ้านนั้นคือไฟทั้งนั้น ตอนที่ไฟไหม้เสื้อผ้าและผิวหนังของพ่อหานนั้น หานชิงน้อยก็ตื่นตระหนกจนไม่สนใจอะไรแล้ว แล้วก็รีบวิ่งเข้าไปทันที
หานชิงน้อยคิดอยากจะพยุงหานชิงให้ลุกขึ้นมา แต่ว่าพ่อหานที่วิงเวียนอยู่แล้ว เหมือนกับว่าไม่รู้สึกตัว แล้วพอโดนคานหนักๆ หล่นลงมาทับอีก เขาก็หมดสติไปในทันที
“พ่อ พ่อรีบลุกขึ้นมาเร็ว! ” หานชิงร้อนรนอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะเรียกยังไงพ่อก็ไม่ตอบสนองเลย และก็ไม่สนใจเขา เขาจับมือของพ่อหานและต้องการจะลากเขาไปที่ประตู แต่ว่าก็ลากไม่ไป สุดท้ายหานชิงน้อยก็คิดอะไรขึ้นมาได้ ลุกขึ้นและก็ผลักคานที่กำลังทับพ่อหานอยู่
คานนั้นหนักมาก และก็ลวกมือมาก หานชิงตัวน้อยพึ่งจะเอามือเข้าไปผลัก ก็ได้ยินเสียงเนื้อถูกไฟลวก เจ็บปวดจนเขาดึงมือกลับในทันที หลังจากนั้นก็ก้มหน้าเป่าฝ่ามือของตัวเอง
เจ็บมากเลย
หานชิงตัวน้อยน้ำตาเกือบร่วงเพราะความเจ็บปวด
แต่ว่าเขาก็คิดอะไรขึ้นได้ แต่ฝ่ามือของตัวเองแตะโดนนิดหน่อย ก็เจ็บขนาดนี้แล้ว แล้วคาดทั้งอันทับอยู่บนร่างกายของพ่อเขา พ่อเขาจะไม่ยิ่งเจ็บไปกว่างั้นเหรอ?
หลังจากคิดได้แบบนี้แล้ว ต่อให้หานชิงน้อยจะทั้งเจ็บและกลัว ก็ยังเอามือไปผลักคานนั้นอย่างกล้าหาญ ความเจ็บปวดเสียดแทงมาจากฝ่ามือของเขา แต่ว่าเขาก็ไม่กล้าปล่อย เขารวบรวมแรงทั้งร่างกายของตัวเองและผลักมันออก
เขาจะช่วยพ่อ พ่อต้องเจ็บมากแน่ๆ มันเป็นเพราะเขาไม่ดีเอง ถ้าเกิดว่าเขาไม่หยิบสมุดออกมาวาดรูป ก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
“ฮือๆๆ พ่อ รีบลุกขึ้นมาเร็ว พ่อครับ……”
สติของพ่อหานค่อยๆ กลับมาเล็กน้อย ก็ได้ยินเสียงเสี่ยวชิงตะโกนเรียกเขาอยู่ข้างหู เหมือนกับเสียงครวญครางที่สิ้นหวังของสัตว์ตัวน้อย เสียงนั้นเหมือนกับมีดที่กรีดเข้ามาที่หน้าอกของเขา
พ่อหานลืมตาขึ้นด้วยความยากลำบาก สุดท้ายก็สามารถเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้าได้อย่างชัดเจน
ลูกชายของเขา เพื่อที่จะผลักคานที่ทับอยู่ที่ตัวของเขาออก มือขาวๆ น้อยๆ คู่นั้นของเขาถูกเผาจนเสียโฉม แปลวไฟพุ่งไปที่ชายกางเกงของหานชิงน้อยอย่างไร้ปรานี แต่ว่าเขาไม่ได้รู้ตัวเลย เขายังคงเอาแต่ผลักคานที่ทับอยู่บนตัวเขาออก
ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!
เขาเป็นผู้ชาย ไม่ใช่สิ เขาไม่ใช่เป็นแค่ผู้ชาย แต่ว่าเขายังเป็นสามี ยังเป็นพ่อคน!
เขาจะมานอนอยู่แบบนี้ แล้วปล่อยให้ลูกชายของเขาต้องเจ็บปวดแบบนี้ได้ยังไง!
ไฟมันลุกไหม้ไปใหญ่โตแล้ว คนรอบข้างก็รู้แล้วเหมือนกัน ต่างก็พากันวิ่งออกมา แล้วก็รีบกลับไปโทรแจ้งตำรวจ บางคนก็ตื่นตระหนกมาก กลัวว่าไฟไหม้ในครั้งนี้จะกระทบกระเทือนถึงตัวเอง
“เสี่ยวชิง” พ่อหานพูดด้วยความยากลำบาก หานชิงยังคงพยายามผลักคานออก ไปได้ยินเสียงก็หันมามองทันที หลังจากนั้นก็วิ่งมาด้านหน้าเขา “พ่อ พ่อตื่นแล้วเหรอครับ”
เนื้อบนหลังของพ่อหานถูกไฟเผาจนไม่รู้สึกแล้ว ความเจ็บปวดแสนสาหัสแทบทำให้เขาอยากจะเป็นลมตายไปตอนนี้ แต่ว่าเขาไม่สามารถปล่อยลูกชายที่พยายามช่วยเขาอย่างสุดกำลังไว้แบบนี้ได้ ได้แต่พูดกับเขาว่า “ลูกอยู่ที่นี่ไม่ได้ อาศัยโอกาสตอนที่ไฟยังไม่ไหม้ไปถึงประตู รีบวิ่งออกไปซะ”
ปกติแล้วหานชิงน้อยเชื่อฟังคำพูดของพ่อตัวเองเสมอ เดิมทีถ้าเขาได้ยินประโยคนี้ น่าจะวิ่งไปที่ประตูโดยที่ไม่ได้สงสัยอะไร แต่ว่าไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม หลังจากที่เขาได้ยินประโยคนี้แล้ว ดวงตาเขาก็เบิกกว้างในทันที แล้วก็ส่ายหัวอย่างรุนแรง เขาเอาแต่ส่ายหัวไม่หยุด
“ไม่ ผมไม่ไป”
“เชื่อฟังพ่อ เสี่ยวชิง” พ่อหานคลี่ยิ้มออกมา ยื่นมือไปเช็ดขี้เถ้าที่ใบหน้าของหานชิงออก พอเห็นมือที่เสียโฉมของเขา เขาก็รู้สึกปวดใจอย่างมาก แต่ว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่ควรจะมาเสียใจ เขาได้แต่เกลี้ยกล่อมหานชิงอย่างแผ่วเบา
“เสี่ยวชิง พ่อไม่ได้ให้ลูกทิ้งพ่อ แต่ว่าลูกคนเดียวแรงมันน้อยไป ลูกไม่สามารถผลักคานนี้ออกให้พ่อได้หรอก ดังนั้นอาศัยตอนที่ไฟยังไม่ลามไปถึงประตู รีบวิ่งออกไปซะ แล้วก็เรียกพวกเขาเข้ามาช่วย แบบนี้พ่อก็จะได้รับความช่วยเหลือแล้วไง”
พอได้ยินดังนั้น สายตาของหานชิงน้อยก็เป็นประกายขึ้นมาทันที “พวกเขาจะมาช่วยพ่อเหรอครับ? ”
พ่อหานคลี่ยิ้มและพยักหน้า “แน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่าเสี่ยวชิงต้องไปเรียกพวกเขามาช่วยพ่อ เข้าใจไหมครับ? ”
พอได้ยินว่าทุกคนจะมาช่วยพ่อ แน่นอนว่าหานชิงเองก็รู้ว่าแรงของตัวเองไม่สามารถผลักคานหนักๆ นี้ออกไปได้ เมื่อกี้เขาผลักอยู่นานมาก แต่ว่ามันก็ไม่ได้ขยับเลย ถ้าเกิดว่าคุณลุงคุณป้าข้างบ้านยอมช่วยล่ะก็ ถ้ายังงั้นมันก็ต้องดีมากแน่ๆ
หานชิงหันหลังเตรียมจะวิ่งออกไป แต่ว่าก็หันกลับมามองพ่อหานด้วยความลังเล พ่อหานคลี่ยิ้มออกมา แล้วก็เร่งเขาอย่างอ่อนโยน “รีบไปเถอะ รีบไปรีบมา พ่อจะรู้ลูกอยู่ตรงนี้”
ใช่ ตอนนี้พ่อเจ็บปวดมาก เขาต้องรีบไปรีบมา เรียกคุณลุงคุณป้าเข้ามาช่วยพ่อของเขา!
พอคิดได้แบบนี้ หานชิงน้อยก็พูดกับพ่ออย่างจริงจังว่า “พ่อครับ พ่อต้องรอเสี่ยวชิงกลับมาให้ได้นะ! ”
หลังจากนั้น หานชิงก็บินไปที่ประตู น่าจะเพราะว่ามีเป้าหมาย ดังนั้นก็เลยวิ่งเร็วมาก พ่อหานก็มองแผ่นหลังเล็กๆ ของเขาอยู่แบบนี้ สายตาของเขาอาลัยอาวรณ์ แม้แต่ตอนที่หานชิงหายไปแล้ว เขาก็ยังคงมองอยู่แบบนั้น
หลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้าของพ่อหานก็บูดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ก่อนหน้านี้เพราะว่าหานชิงอยู่ เขาก็เลยไม่กล้าแสดงความเจ็บปวดออกมาให้เห็น เจ็บจังเลย สติสัมปชัญญะของเขาเริ่มหย่อนยานลงเรื่อยๆ เขารู้สึกได้ว่าตัวเองเริ่มจะไม่ไหวแล้ว แขนขาอ่อนแรง แผ่นหลังก็ถูกเผาไหม้
ที่เขาให้หานชิงออกไปนั้นที่จริงก็มีเจตนาที่เห็นแก่ตัว เขาหวังว่าหานชิงจะเรียกคนมาช่วยเขาได้ เขาเองก็ไม่อยากตายอยู่ที่นี่ เขารับปากภรรยาว่าจะดูแลเธอกับลูกไปชั่วชีวิต ถ้าเกิดว่าเขาตายไปแบบนี้ แล้วต่อไปสองคนนั้นจะเป็นยังไง?
ดังนั้น เขาจะตายไม่ได้
ขอแค่มีความหวัง เขาก็ต้องดิ้นรน เขาก็ต้องคว้ามันไว้
แน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเขาหวังว่าหานชิงจะออกไปจากที่นี่ ถ้าเกิดว่าเขาไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้จริงๆ อย่างน้อยลูกชายของเขาก็ไม่ตกอยู่ในอันตราย ขอแค่เขาออกไปได้ ก็พอแล้ว
พอคิดได้แบบนี้ อารมณ์ของพ่อหานก็ดีขึ้นเยอะ แต่ว่าอาการบาดเจ็บยังคงทำร้ายใบหน้าของเขาอย่างรุนแรง เหงื่อแตกออกมา
ไม่พอใจจริงๆ เลย ถ้าเกิดว่าตายไปแบบนี้ ถ้าเกิดว่าเขาตายไปแล้วปัญหาต่างๆ มันก็พลอยสิ้นสุดไปด้วย แต่ว่าคนที่ยังหลงเหลืออยู่นั่นแหละที่ต้องทุกข์ทรมานมากที่สุด การต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนที่รักทั้งวันทั้งคืน เขาจะทนได้ยังไง เขาทนไม่ได้จริงๆ
ดังนั้น พ่อหานได้แต่หวัง ว่าพระเจ้าจะอวยพร อวยพรให้หานชิงพาคนมาช่วยเขาออกไปได้ไวๆ
เมื่อเพื่อนบ้านหลายคนยืนอยู่หน้ากองไฟนั้น ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นร่างเล็กๆ วิ่งออกมาจากกองไฟ ก็ตกใจเป็นอย่างมาก
“นี่ นี่คือหานชิงใช่ไหม? หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? แล้วพ่อกับแม่หนูล่ะ? ”
“พระเจ้า ทำไมมือของหนูเป็นแผลขนาดนี้? พ่อกับแม่ของหนูยังอยู่ข้างในไหม? ”
ผู้ใหญ่หลายคนล้อมเข้ามา หานชิงน้อยหอบเหนื่อย แล้วก็มองดูพวกเขาอย่างน่าสงสาร “คุณลุงคุณป้าครับ พ่อ พ่อของผมอยู่ข้างใน เขาได้รับบาดเจ็บ ช่วยพ่อผมหน่อยนะครับ! ”
ผู้ใหญ่หลายคนนั้นได้ยินก็ตะลึงไปในทันที “พ่อหนูยังอยู่ข้างในเหรอ?