เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1436
บทที่ 1436 ทะเลาะ
เจียงเสี่ยวไป๋กลับไปแล้ว
ตอนออกไป หล่อนไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมา และไม่มองหน้าเซียวซู่แม้แต่น้อย อีกทั้งไม่มีท่าทีลังเลเลยสักนิด ทั้งยังมั่นใจมากอีกด้วย
มองดูเงาด้านหลังของหล่อน มือทั้งสองของเซียวซู่ที่อยู่ด้านข้างกำหมัดขึ้นมาทันที
เขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไปจากชีวิต เป็นความรู้สึกที่ไร้เรี่ยวแรง อยากจะจับแต่จับไม่ได้ จิตสำนึกบอกเขาว่าควรตามไปอธิบายให้เจียงเสี่ยวไป๋เข้าใจ
แต่ทว่า เขากลับก้าวเท้าไม่ออก
ต่อมาเซียวซู่จึงคิดว่า เสี่ยวไป๋ไม่น่าจะเป็นคนเอาแต่ใจ ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนกัน รอให้จัดการเรื่องเสร็จก่อน กลับไปค่อยอธิบายกับหล่อนให้ดีๆ หล่อนจะต้องเข้าใจแน่นอน
หลังจากคิดได้เช่นนี้ เซียวซู่จึงรู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย
จากนั้นเซียวซู่จึงกลับไปคนเดียว หานมู่จื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น จึงขมวดคิ้วขึ้น
แม้ว่าการที่เซียวซู่เป็นห่วงเสี่ยวเหยียนนั้นจะถือเป็นเรื่องดี แต่พูดตามเหตุผลแล้ว เขาเจ็บหนักขนาดนี้ และเขากับผู้หญิงคนนั้นดูมีความสัมพันธ์กันแบบไม่ธรรมดาทั่วไป
แต่ตอนนี้ มีเพียงเซียวซู่กลับมาเพียงคนเดียว
ผู้หญิงคนนั้นกลับไปแล้วงั้นเหรอ?
ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่ ประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออก หมอและพยาบาลปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าพวกเขา
หานชิงเดินเข้าไปเป็นคนแรก เซียวซู่ตามหลังไปติดๆ แต่หานมู่จื่อกับเย่โม่เซินกลับถูกกันไว้ด้านหลัง
“คุณหมอ ภรรยาของผมเป็นอย่างไรบ้างครับ?”
“คุณหมอ หล่อนเป็นอย่างไรบ้างครับ?”
เซียวซู่กับหานชิงต่างพูดออกมาพร้อมกัน
คุณหมอมองดูคนเจ็บทั้งสองตรงหน้า ขมวดคิ้วขึ้น ดูเหมือนไม่พอใจเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่พยาบาลที่อยู่ด้านข้างจึงรีบพูดอธิบายขึ้น: “พูดยังไงก็ไม่ฟัง ไม่ว่ายังไงสองคนนี้จะออกมาให้ได้ คงเป็นห่วงคนเจ็บด้านในมากจริงๆ”
“วุ่นวายจริงๆเลย!” คุณหมอพูดบ่น แต่ไม่นานนักก็ใจเย็นลง ถามต่อ: “ใครคือญาติของคนเจ็บครับ?”
คำถามนี้ เซียวซู่ตอบไม่ได้ อ้าปากค้างแต่กลับพูดอะไรไม่ออก
“ผมครับ” หานชิงตอบด้วยสีหน้าเป็นธรรมชาติ: “ผมเป็นสามีของหล่อนครับ”
“สามีใช่ไหมครับ? ภรรยาของคุณท้อง คุณรู้รึเปล่า?”
ตึง——
ทะ…ท้อง?
เหยียนเหยียนท้องแล้ว??
แม้ว่าบทที่เขาอยู่กับเสี่ยวเหยียนเคยจูบและกอดกัน แต่หานชิงคอยควบคุมตัวเองไว้ตลอด แม้ว่าครั้งที่แล้วอยากจะทำบางอย่างกับหล่อน เสี่ยวเหยียนก็ผลักเขาออกไปทันที
ดังนั้น ถ้าหล่อนท้อง ความเป็นไปได้อย่างเดียวก็คือบทที่ทั้งสองไปเที่ยวด้วยกันครั้งนั้น
ครั้งนั้นด้วยฤทธิ์ของยา เขาควบคุมตัวเองไว้ได้แท้ๆ แต่เหยียนเหยียน แม่สาวน้อย…
เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้น หานชิงยังรู้สึกว่าเรื่องคืนนั้นบ้าบิ่นเกินไปจริงๆ ดังนั้นเมื่อกลับมาเขาจึงเตรียมจัดงานแต่ง และแหวนหมั้นกับชุดแต่งงานทันที
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่างานแต่งครั้งนี้จะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
“ตอนนี้ร่างกายของภรรยาคุณอ่อนแอมาก ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะรักษาลูกของคุณไว้ได้รึเปล่า”
ไม่รอให้หานชิงได้มีความสุขกับการได้เป็นพ่อคน คำพูดตอนท้ายของหมอกลับเหมือนน้ำเย็นหนึ่งถังที่รดลงมาบนหัวของหล่อนอย่างจัง
“หล่อนสูดควันไฟไปค่อนข้างเยอะ ตอนนี้ยังต้องเฝ้าดูอาการต่อ ทางโรงพยาบาลจะพยายามรักษาภรรยาของคุณและเด็กคนนี้ไว้ แต่ต้องเซ็นสัญญาข้อตกลงหนึ่งฉบับ”
ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ก็นำสัญญามาให้หนึ่งฉบับ
หานชิงมองดูสัญญาฉบับนั้น ลังเลอยู่นานสักพัก จากนั้นจึงยื่นมือออกไปรับและเซ็นชื่อของตัวเองอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณครับ รบกวนดูแลภรรยาของผมให้ปลอดภัยด้วยนะครับ”
ดูเหมือนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เจ้าหน้าที่พยาบาลพยักหน้าลง จากนั้นประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกปิดลงอีกครั้ง
บรรยากาศในทางเดินเงียบสงัด เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ดังนั้นตอนนั้นจึงไม่มีใครพูดอะไร
ทันใดนั้น เซียวซู่ยื่นมือเข้าไปกระชากเสื้อหานชิง กำหมัดต่อยไปที่เขาอย่างจัง
ตุบ!
คางของหานชิงโดนต่อยเข้าเต็มๆ จนต้องถอยหลังไป จากนั้นจึงค่อยๆทรงตัวยืนขึ้น
หานมู่จื่อตกใจตะลึง ร้องตะโกนด้วยความตกใจ จะเดินเข้าไปด้านหน้า แต่กลับถูกเย่โม่เซินที่อยู่ด้านข้างกอดเอวไว้ได้ก่อน ทำให้เดินเข้าไปไม่ได้ สีหน้าของเขาเย็นชามาก ราวกับรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
“หานชิง นายเป็นผู้ชายรึเปล่า? งานแต่งงานเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นายจัดการเรื่องยังไง?”
ต่อยออกไปหนึ่งหมัดยังไม่สะใจพอ เซียวซู่จึงเข้าไปกระชากเสื้อของหานชิง และต่อยเขาไปอีกครั้ง พยายามต่อยเข้าไปทั่วทั้งหน้าของเขา
ดูเหมือนหานชิงเป็นฝ่ายผิด เขาไม่เอาคืนฝ่ายตรงข้ามเลยสักครั้ง ปล่อยให้เซียวซู่ต่อยอยู่เช่นนั้น
แต่หานมู่จือที่ยืนอยู่ด้านข้าง เห็นแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจมากเหลือเกิน แต่เมื่อลองคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และคิดถึงเสี่ยวเหยียนที่นอนอยู่ด้านใน จึงทำได้เพียงยืนกัดริมฝีปากอยู่ที่เดิม
ผู้ชายย่อมมีวิธีการจัดการปัญหาของพวกเขาเอง แม้ว่าการทะเลาะกันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่เมื่อมองดูสถานการณ์ในตอนนี้ หากจะให้ทั้งสองคุยกันดีๆก็คงเป็นไปไม่ได้ ทำได้แค่รอต่อไป
เป็นไปตามที่คิดไว้ หลังจากเซียวซู่ต่อยระบายอารมณ์ไปหลายครั้ง หานชิงก็รับหมัดของเขาไว้
“ใช่ ฉันดูแลหล่อนไม่ดีเอง”
“นายเองก็รู้ตัวดีว่านายดูแลหล่อนไม่ดีใช่ไหม? อดีตที่นายเคยทำร้ายหล่อนก็ปล่อยมันไป ตอนนี้นายคบกับหล่อนแล้ว นายก็ต้องดูแลหล่อนให้ดี งานแต่งงานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถ้าหล่อนเป็นอะไรขึ้นมา นายรับผิดชอบไหวไหม?!”
บทที่ทั้งสองทะเลาะกัน พ่อกับแม่ของเสี่ยวเหยียนก็รีบตามมาทันที
ก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นห่วงลูกสาวมาก แต่บทที่ลูกกับหานชิงถูกส่งขึ้นรถไป พ่อจางรู้สึกว่าในเมื่อวันนี้แขกมากันหมดแล้ว หากเจ้าภาพอย่างพวกเขากลับกันหมดคงจะดูไม่ดี ยังไงไปส่งโรงพยาบาลกันหมดแล้ว จึงตัดสินใจอยู่จัดการเรื่องและปัญหาที่เหลือกับหลัวหุ้ยเหม่ย จากนั้นจึงวานให้หานมู่จื่อกับเสี่ยวหมี่โต้วรีบตามมาที่โรงพยาบาลก่อน
หลังจากที่จัดการเรื่องเสร็จหมดแล้ว จึงรีบตามมาที่นี่
ใครจะไปคาดคิดว่าหลังจากที่มาถึงแล้วจะเห็นเซียวซู่กับหานชิงทะเลาะกัน จึงรีบเข้าไปห้ามพวกเขาทันที
“พวกนายเป็นอะไร? บาดเจ็บกันขนาดนี้แล้วทำไมยังทะเลาะกันอีก? ยังเจ็บกันไม่พออีกใช่ไหม?”
เมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อแม่ของเสี่ยวเหยียน เซียวซู่ไม่ได้ก่อเรื่องอะไรต่อ และที่เขาต่อยเขาไปหลายครั้งเมื่อครู่ หานชิงก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับเลย ตอนนี้เขาจึงรู้สึกใจเย็นลงแล้ว
ตอนแรกที่ได้ยินว่าเสี่ยวเหยียนท้องแต่กลับต้องมาสูดดมควันไฟ และหล่อนต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก หัวของเขาจึงแทบจะระเบิดออกมา
หลังจากที่หลัวหุ้ยเหม่ยแยกพวกเขาทั้งสองออกจากกัน สังเกตเห็นรอยแผลบนหน้าของหานชิง จึงรู้สึกสงสารขึ้นมาทันที
“เป็นอะไรรึเปล่า? เรียกหมอมาดูหน่อยไหม?”
“แม่ ไม่เป็นไรครับ”
เมื่อหลัวหุ้ยเหม่ยถูกหานชิงเรียกว่าแม่เช่นนี้จึงรู้สึกมึนๆเล็กน้อย แต่ไม่นานนักก็ตั้งสติขึ้นมาได้ ถ้างานแต่งงานเป็นไปอย่างราบรื่น เขาก็คงได้เป็นลูกเขยของตัวเองอย่างแน่นอน เรียกตัวเองว่าแม่เหมือนเสี่ยวเหยียนเป็นเรื่องปกติมาก
แม้ว่าครั้งนี้เกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่เมื่อเห็นลูกเขยบุกฝ่าไฟไหม้ที่ลุกโชนเข้าไปช่วยคน หล่อนจึงรู้สึกประทับใจขึ้นมา
เพราะคนที่ลูกสาวแต่งงานด้วยเป็นคนที่เห็นลูกสาวสำคัญกว่าชีวิตของตัวเอง ต่อไปหล่อนไม่ต้องเป็นห่วงอะไรแล้วจริงๆ
ชีวิตหลังจากนี้ แม้ว่าจะรู้สึกกลัวบ้าง แต่ถ้าไม่เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น ก็ไม่รู้ว่าคนนี้ทุ่มเทเพื่อเธอมากเท่าไหร่
“พวกนายไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว เรื่องเป็นถึงขนาดนี้แล้ว อีกอย่างพวกนายยังเจ็บหนักมากอีกด้วย กลับห้องไปพักกันก่อนเถอะ พวกเราจะเฝ้าอยู่ตรงนี้เอง”
พ่อจางไม่ได้อ่อนโยนเหมือนหลัวหุ้ยเหม่ย ตอนนี้เขาเพียงแค่เป็นห่วงอาการของลูกสาวเท่านั้น ดังนั้นจึงรีบถามขึ้น: “เหยียนเหยียนเป็นอย่างไรบ้าง? ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม?”