เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1466
บทที่1466คุณรักฉันหรือเปล่า
“ไม่เป็นไรค่ะ!”เหลียงหย่าเหอผายมืออย่างละมุนและพูดด้วยรอยยิ้ม:“เด็กผู้หญิงแบบนี้ถึงจะมีชีวิตชีวา อีกอย่างผู้หญิงก็ต้องประคบประหงมอยู่แล้ว นิสัยของเสี่ยวไป๋ แค่ดูก็รู้ว่าถูกพวกคุณที่เป็นพ่อแม่ปกป้องได้เป็นอย่างดี ต่อไปหน้าที่ของเซียวซู่ก็คือต้องปกป้องเธอให้ดีกว่า ประคบประหงมอย่างไม่มีกฎเกณฑ์ค่ะ!”
เพราะตัวเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน อีกอย่างเมื่อก่อนเหลียงหย่าเหอก็เคยถูกแม่สามีปฏิบัติไม่ดีใส่ ดังนั้นเธอจึงเข้าใจความลำบากของผู้หญิงมาก
เมื่อก่อนตอนที่เธอถูกแม่สามีปฏิบัติตัวไม่ดีใส่ก็คิดอยู่ว่า ต่อไปถ้าเธอมีลูกสะใภ้แล้ว เธอจะเอ็นดูลูกสะใภ้ให้สุดๆแน่นอน เป็นแม่สามีที่ใครๆก็ชื่นชมและอิจฉา
ลูกสาวของคนอื่นๆเลี้ยงดูอย่างประคบประหงม ทำไมมาถึงที่คุณก็ได้รับความกล้ำกลืนซะงั้นล่ะ? ไม่ได้แต่งงานมาเป็นแม่บ้านสักหน่อย ดังนั้นจะต้องปฏิบัติดีกับคนอื่นแน่นอนใจ
นี่ก็คือความคิดของเหลียงหย่าเหอ ตอนนี้เธอก็อยากลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง
ตู้เซียวหยู่ไม่รู้เพราะอะไร ถึงได้รู้สึกซึ้งมาก เธอจับจมูกและพูดเสียงเบา:“คิดไม่ถึงเลยค่ะว่าพวกคุณจะดีกับเสี่ยวไป๋ขนาดนี้”
เหลียงหย่าเหอเอาหน้าชิดเข้ามา:“ใช่มั้ยล่ะคะ? คุณตู้เซียวหยู่ หรือไม่เราคุยเรื่องแต่งงานกันหน่อยมั้ยคะ?”
ตู้เซียวหยู่: “…….”
。
ทางฝั่งของเซียวซู่กว่าจะพาเจียงเสี่ยวไป๋กลับมาถึงบ้านและอุ้มเธอเข้าห้องได้ไม่ใช่ง่ายๆ
หน้าผากเขามีเหงื่อซึมออกมา ร่างกายเหมือนมีไฟเผาไหม้ ตอนที่เข้าบ้านฝีเท้าค่อนข้างโซเซ เกือบจะล้มไปด้านหน้า
ในห้องไม่ได้เปิดไฟ มืดมนไปหมด มีแค่แสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาจากนอกหน้าต่าง
เขาควรจะรู้สึกโชคดีที่ตัวเองฟังคำพูดของอาวุโสที่พาเจียงเสี่ยวไป๋กลับบ้าน
ไม่งั้น ทีนี้ก็จบเห่แล้ว
เพราะตอนที่อยู่ในรถ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ไม่นวดหูของเขาแล้ว แต่ได้กอดเขาไว้ จากนั้นก็ทำปากจู๋บอกว่าจะจูบตลอด
ตอนแรกเซียวซู่เพื่อป้องกันเธอเอะอะโวยวาย ก็เลยจูบตามใจเธอไป
แต่พอจูบครั้งแรกยังมีครั้งที่สองอีก จูบไม่นานเธอยังไม่พอใจอีก นั่นมันอยู่บนรถเชียวนะ เซียวซู่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความเก้อเขินจนทำอะไรไม่ถูกของคนขับเลย
ดังนั้นต่อมาเซียวซู่ก็ได้กดเธอไว้ในอ้อมกอดตัวเอง ไม่ให้เธอเอะอะโวยวายอีก
แต่ใครจะไปรู้เจียงเสี่ยวไป๋ได้เอามือล้วงเข้าไปในเสื้อเชิ้ตของเขา ตอนที่เธอสัมผัสโดนจุดของเขา เซียวซู่รู้สึกหลอดเลือดดำของตัวเองก็จะกระตุกขึ้นมาแล้ว
ได้แต่กัดฟันควบคุมตัวเองและกดมือของเธอไว้“เสี่ยวไป๋ หยุดเอะอะโวยวายได้แล้ว กลับไปค่อยโวยวาย อื๊ม?”
“ไม่”เจียงเสี่ยวไป๋ส่ายหัว และลงมือกับเขาต่อ ก้มหน้าไปกัดกระดุมของเสื้อเชิ้ตเขา
ถึงแม้ท่าทางอย่างนี้ไม่ได้สัมผัสโดนผิวของเธอโดยตรง แต่หัวของเธอใกล้มาที่ตรงหน้าของตัวเองและคอยถูไถที่ร่างกายตัวเอง ท่าทางแบบนี้ก็เพียงพอให้เซียวซู่บ้าคลั่งแล้ว
ก็ขัดขวางเธอไว้แบบนี้ตลอด พอถึงเวลาลงรถ ก่อนที่คนขับจะไปยังได้พูดกับเขาด้วยรอยยิ้ม:“พี่ชาย แฟนไม่เลวหนิ ต้องรักและทะนุถนอมดีๆนะ”
จากนั้นก็คือตอนนี้เลย หลังจากผลักประตูเข้าห้อง เซียวซู่ก็ไม่ได้ขัดขวางเธออีก ดังนั้นตอนนี้เสี่ยวไป๋ยิ่งกำเริบเสิบสาน
ไฟทั้งหมดในตัวเซียวซู่ได้ถูกเธอปลุกเร้าขึ้นมา เพราะฉะนั้นตอนเข้าห้องถึงได้โซซัดโซเซ
เขาจับสาวน้อยบนตัวที่ปลุกไฟในตัวไปมั่ว หิ้วเธอขึ้นมาและถามด้วยเสียงแหบแห้ง:“พอเมาเหล้าก็จุดไฟไปทั่วใช่มั้ย? รู้หรือเปล่าว่าแบบนี้จะก่อให้เกิดผลอะไร?”
แรงของเขาเยอะมาก เจียงเสี่ยวไป๋ตัวเล็ก ถูกเขาหิ้วขึ้นมาไม่เปลืองแรงเลยสักนิด มือทั้งสองของเจียงเสี่ยวไป๋คอยทุบตีไปมั่ว“ปล่อยฉันลงมา ฉันจะจูบ จะกอด”
ไม่นานเซียวซู่ก็คุ้นชินกับความมืดมน ท่ามกลางความมืดมนจ้องมองโครงร่างที่สะสวยของเธอ ก้มหน้าแนบชิดกับหน้าผากของเธอ:“วันนี้แสดงเป็นตัวละครตัวไหนอีกล่ะ?”
“หืม? ตัวละคร? ฉันไม่ได้แสดงเป็นตัวละครสักหน่อย ไอ้คนเลว คุณไม่รู้จักฉันแล้วใช่หรือเปล่า?”
“คุณคือใคร?”เซียวซู่ถามด้วยเสียงแหบแห้ง
“อื้อ คนเลวคนเลว คุณไม่รู้จักฉันจริงๆด้วย ฉันเป็นเบบี๋ที่คุณอุ้มกลับมาเมื่อยี่สิบปีก่อนไง”
พู
เซียวซู่เกือบจะส่งเสียงหัวเราะออกมา มองเจียงเสี่ยวไป๋ที่อยู่ตรงหน้าอย่างค่อนข้างจนปัญญา
นี่ทำไมถึงกลายเป็นเบบี๋ที่อุ้มกลับมาเมื่อยี่สิบปีก่อนได้?
ตอนที่เขากำลังหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็เอาริมฝีปากใกล้เข้ามา“ถึงแม้คุณเป็นผู้ชายแก่แล้ว แต่ฉันก็ยังรักคุณนะคะ”
เซียวซู่นิ่งไว้ มองเจียงเสี่ยวไป๋ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมด้วยความอึ้ง
ทั้งสองใกล้กันมาก ฉากแบบนี้เมื่อก่อนใช่ว่าจะไม่เคยมี แต่สารภาพรักกลับเป็นครั้งแรก
เพราะฉะนั้นจึงทำให้เซียวซู่เหม่อลอยไปในชั่วขณะ
เจียงเสี่ยวไป๋เป็นฝ่ายใกล้มาด้านหน้า จูบริมฝีปากของเขา จากนั้นใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมา“ฉันชอบคุณค่ะ”
เซียวซู่อึ้งต่อเป็นประติมากรรม
“ฉันรักคุณค่ะ!”เจียงเสี่ยวไป๋จูบเขาอีก ถึงขั้นได้ยื่นมือกอดคอของเขา ดวงตาจ้องมองอย่างจริงจังและถาม:“ทำไมคุณไม่ตอบฉันคะ?”
ลูกกระเดือกของเซียวซู่เคลื่อนไหว ริมฝีปากอ้าเล็กน้อย แต่กลับพูดไม่ออกสักคำ ราวกับสูญเสียเสียงยังไงอย่างงั้น ครึ่งค่อนวันเขาถึงหาเสียงตัวเองกลับมา แต่เสียงกลับแหบไม่เป็นท่า
“ผม ผมก็…….” รักคุณเหมือนกัน
สี่คำสุดท้ายสุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา เห็นได้ชัดว่าเจียงเสี่ยวไป๋ไม่พอใจแล้ว พยายามถามเขา:“คุณก็อะไร? คุณรักฉันหรือเปล่าคะ?”
เซียวซู่ยื่นมือจับข้อมือของเธอไว้“เสี่ยวไป๋ คุณเมาแล้ว”
“อือ ฉันไม่ได้เมา คุณรีบตอบคำถามฉันเร็วๆ ตกลงคุณรักฉันหรือเปล่า?”
ริมฝีปากของเธอใกล้แค่เอื้อม แดงสดและนุ่มชุ่มชื้น เหมือนกุหลาบที่เพิ่งเบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิ ผ่านการชำระล้างจากน้ำค้างในยามเช้า
สุดท้ายเซียวซู่ก็ควบคุมตัวเองไม่ได้อยู่ดี ก้มหน้าปิดปากเธอไว้ และปิดเธอคำพูดเซ้าซี้ของเธอ รวมทั้งคำนั้น ตกลงคุณรักฉันหรือเปล่า?
เขาหลับตาลงอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
“อื้อ”เจียงเสี่ยวไป๋ครวญคำนึง มือกอดคอของเขาไว้
ตอนแรกแค่จูบริมฝีปาก จูบไปจูบมาก็เสียการควบคุม เพราะยังไงซะมีไฟของก่อนหน้านี้อยู่ที่นั่น ในความมืดมน มองไม่เห็นอะไรเลย แต่ประสาทรับรู้กลับได้กลายเป็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น
เสื้อผ้าของทั้งสองค่อยๆไหลลงมาที่เท้าของทั้งสอง……..
วันถัดมา เจียงเสี่ยวไป๋กุมศีรษะที่ปวดสุดๆลุกขึ้นนั่ง ลืมตาอย่างยากลำบากและมองนอกหน้าต่างแว๊บนึง ตอนนี้ท้องฟ้าสว่างมากแล้ว มองพระอาทิตย์นี้คาดว่าคงจะเที่ยงแล้ว
ไม่นึกเลยว่าเธอจะนอนถึงเวลานี้เหรอ?
เพราะเมื่อคืนได้ดื่มเหล้า เพราะฉะนั้นต่อมาเกิดเรื่องอะไรขึ้นเจียงเสี่ยวไป๋เองก็จำไม่ได้แล้ว เธอแค่เหมือนวันปกติหลังลุกขึ้นจากเตียงก็เตรียมไปอาบน้ำ
ใครจะไปรู้เท้าเพิ่งเหยียบถึงพื้น ขาทั้งสองก็อ่อนยวบยาบ คนทั้งคนล้มลงนั่งบนพื้นที่เย็นเฉียบ
เจียงเสี่ยวไป๋:“? ? ?”
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมขาทั้งสองข้างของเธอถึงได้อ่อนระทวยหมด?
เจียงเสี่ยวไป๋ลุกไม่ขึ้นในชั่วขณะ ได้แต่นั่งอยู่บนพื้นครุ่นคิดเรื่องชีวิต ความรู้สึกแบบนี้ทำไมเหมือนครั้งก่อนเลย?
หรือว่าเมื่อคืนเธอเมาเหล้า แล้วได้ทำเรื่องที่ไม่กล้าสู้หน้าเซียวซู่อีก?
คิดถึงตรงนี้ เจียงเสี่ยวไป๋อดกลืนน้ำลายไม่ได้ มุมปากกระตุกไว้ ทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้อยู่เรื่อยเลย?
เจียงเสี่ยวไป๋กำลังนั่งคิดอยู่บนพื้น จู่ๆมือถือกลับมีข้อความเข้า เธอหยิบมือถือมาดูแว๊บนึง ตู้เซียวหยู่เป็นคนส่งมา
“เสี่ยวไป๋ ลูกเอาวันเดือนปีเกิดของเซียวซู่มาให้แม่ แม่จะดูดวงให้ลูกสองคน”