เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1529
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่1529 ต้องไปให้ได้เลยใช่ไหม
หลังจากวันนั้น เซียวซู่ก็เหมือนรู้แล้วว่าตัวเองทำผิด จึงไม่เข้าไปกวนใจหรือสร้างความรำคาญให้เจียงเสี่ยวไป๋อีก ตอนที่เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขาจริงๆ เขาถึงจะปรากฏตัวให้เธอเห็น หลังจากช่วยงานเสร็จ เซียวซู่ก็จะเดินออกจากสายตาของเธอไปทันที
แตกต่างจากเซียวซู่คนก่อนที่คอยวนเวียนอยู่ข้างๆเธอไม่ห่างลิบลับ ในตอนแรกเสี่ยวไป๋ตกใจกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของเซียวซู่มาก เขาคงไม่ได้กลัวว่าเธอจะโกรธอีก ดังนั้นก็เลยไม่กล้าเข้าใกล้เธอหรอกใช่ไหม
แต่พอมาคิดดูดีๆ เจียงเสี่ยวไป๋คิดว่าเซียวซู่กำลังจะเปลี่ยนแผนใหม่เสียมากกว่า
ฮึ ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีไหน เจียงเสี่ยวไป๋ก็ไม่มีทางเปลี่ยนความคิดอย่างแน่นอน
เธอตัดสินใจแล้ว ว่าเธอจะขอจากไปสักพัก
แต่ช่วงหลายวันมานี้เธอกับลูกใกล้ชิดกันมาก และดูเหมือนว่าลูกจะติดเธอมากด้วย แล้วคำโบราณที่บอกไว้ว่าแม่ลูกสามารถอ่านใจกันออกไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
เพราะเธอมักจะรู้สึกว่าลูกจะรู้ว่าเธอจะจากไปแล้ว แววตาที่ลูกมองมาที่เธอจึงดูน่าสงสารมาก อีกทั้งยังทำตัวเป็นเด็กดีมากตอนอยู่กับเสี่ยวไป๋
เหมือนกำลังจะบอกว่า หนูจะเป็นเด็กดี อย่าทิ้งหนูไปจะได้ไหม
แต่อาจจะเป็นเจียงเสี่ยวไป๋คิดมากไปเองคนเดียว ในความเป็นจริงแล้วลูกเป็นเด็กดีมากอยู่แล้ว
บางครั้ง ตอนที่เจียงเสี่ยวไป๋อุ้มลูก แล้วแตะหรือหยิกแก้มเขาเบาๆ ก่อนจะพูดอย่างอ่อนใจ “ถ้าหากให้ลูกเลือก ลูกจะเลือกพ่อ หรือว่าเลือกแม่นะ”
แน่นอนว่าทารกแรกเกิดยังไม่สามารถตอบคำถามของเธอได้ เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มเศร้า “แม่นี่โง่จริงๆเลย ทำไมถึงได้ถามคำถามแบบนี้กับลูกด้วยก็ไม่รู้ ตอนนี้ลูกยังฟังที่แม่พูดไม่ออกเลย แล้วจะตอบแม่ได้ยังไงกันจริงไหม”
พอพูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ลูบศีรษะของลูก ตอนนี้ผมของลูกเธอยังขึ้นมาได้ไม่เยอะมาก แต่เส้นผมแต่ละเส้นก็นุ่มลื่นมาก พอได้ลูบครั้งหนึ่งก็อยากจะลูบครั้งที่สอง
“แม่ทำใจจากลูกไปไม่ได้จริงๆ ลูกคิดว่าถ้าแม่พาลูกไปด้วย พ่อของลูกจะโกรธแม่ไหม อีกอย่างถ้าหากแม่จะพาลูกไปด้วย เขาคงไม่ยอมให้แม่จากไปง่ายๆแน่นอน”
เจียงเสี่ยวไป๋ถอนหายใจ ก่อนจะเอาแก้มของตัวเองแนบแก้มของลูก ก่อนที่จะมีหยดน้ำตาไหลลงมา
เธอเพิ่งคลอดลูกได้ไม่นาน ก็ต้องแยกห่างกันแล้ว ก่อนหน้านี้เจียงเสี่ยวไป๋นึกว่าตัวเองจะทำได้ แต่พอได้อยู่ด้วยกัน เธอกลับพบว่าตัวเองยิ่งทำใจจากไปยากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น ก่อนหน้านี้ที่เธอไม่ยอมอุ้มลูกเลย ก็เพราะว่ากลัวจะจากไปไม่ได้ แต่วันนั้นเธอกลับใจอ่อนซะได้
ทั้งที่รู้ว่าเป็นแผนของบรรดาแม่ๆของเธอ แต่เธอก็เดินเข้าไปด้วยตัวเอง เพราะเธอเป็นแม่ของลูก
วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ไม่นานเจียงเสี่ยวไป๋ก็อยู่เดือนจนครบ ทุกคนจึงไม่มีเหตุผลจะไม่ให้เธอออกไปข้างนอกแล้ว ช่วงนี้เจียงเสี่ยวไป๋จัดการเก็บของทุกอย่างไว้จนพร้อม
เธอซื้อของหลายๆอย่างไว้ให้ลูก เธอค้นหาข้อมูลทุกอย่างผ่านอินเตอร์เน็ต สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจเตรียมของใช้ทุกอย่างให้ลูกใช้จนถึงอายุสิบแปดปี
เรื่องนี้เซียวซู่เองก็รู้เรื่อง แต่ช่วงนี้เขาเองก็คิดทบทวนอย่างดี ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะขัดขวางการตัดสินใจของเธอ
จนถึงตอนที่เจียงเสี่ยวไป๋เก็บกระเป๋าเรียบร้อย ซื้อตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย แล้วเดินลากกระเป๋าเดินทางลงมาจากชั้นบน แล้วมาเจอเซียวซู่นั่งรออยู่ชั้นล่าง
ตอนที่เซียวซู่เห็นเธอเดินลากกระเป๋าเดินทางลงมา หัวใจของเขาเหมือนถูกทิ่มแทงด้วยมีดคม
ช่วงนี้เขาพยายามลดตัวตนของตัวเองลง ไม่เข้าไปรบกวนเธอ และหวังว่าจะใช้ช่วงเวลานี้ทำให้เธอใจเย็นลงได้
เขาคาดหวังอย่างสูง ว่าเธอจะสามารถคิดได้
แต่ความคาดหวังมันก็คือความคาดหวัง
เจียงเสี่ยวไป๋คิดไม่ถึงเลยว่าจะเจอเขา นี่เขาคิดจะมาขวางไม่ให้เธอจากไปอย่างนั้นเหรอ
“ต้องไปให้ได้เลยใช่ไหม”
สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจมากก็คือ เขาดูนิ่งสงบมาก ฟังไม่ออกว่าตอนนี้เขากำลังรู้สึกยังไง เหมือนเขาเตรียมทำใจไว้อยู่แล้ว
เขามีท่าทางนิ่งสงบมาก ทำให้เจียงเสี่ยวไป๋ไม่มีกะจิตกะใจจะทะเลาะกับเขา จึงแค่พยักหน้า
“อืม”
เดิมทีเธอคิดว่าเซียวซู่จะโมโห แต่ใครจะไปรู้ว่าเขาจะนิ่งสงบได้ถึงขนาดนี้ เขาพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะถามต่อ “คุณซื้อเป็นตั๋วรถหรือว่าตั๋วเครื่องบิน เดี๋ยวผมไปส่ง”
เขาพูด โดยไม่ทันจะมีเวลาให้เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกประหลาดใจ เขาก็ชูกุญแจรถขึ้นมา
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เธออยากจะไปเอง แต่เขากลับบอกว่าจะไปส่ง มันรู้สึกแปลกๆยังไงชอบกล ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋จึงตอบปฏิเสธเขาไป
แต่เซียวซู่กลับเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ แล้วดึงกระเป๋าเดินทางของเธอมา “ให้ผมไปส่งเถอะ ถือว่าเป็นครั้งสุดท้าย”
พอเข้าใกล้เขา เจียงเสี่ยวไป๋ได้กลิ่นบุหรี่โชยออกมาจากตัวเขา
เรื่องที่เซียวซู่อารมณ์ไม่ดีแล้วดื่มเหล้าเพื่อคลายเครียดเรื่องนี้เจียงเสี่ยวไป๋รู้อยู่แล้ว แต่เรื่องที่เขาสูบบุหรี่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธอรู้เรื่องนี้
“คุณสูบบุหรี่ด้วยเหรอคะ”
เธอเอ่ยถามออกไปตรงๆ
เซียวซู่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับสั้นๆ “สูบครับ”
“เพิ่งเริ่มสูบช่วงนี้เหรอคะ”
“ไม่ใช่ครับ ผมสูบเป็นตั้งนานแล้ว”เขาเพิ่งสูบเมื่อสองสามวันนี้จริงๆ แต่เซียวซู่กลัวว่าถ้าเขายอมรับ เจียงเสี่ยวไป๋จะโทษว่าเป็นเพราะตัวเอง
ในเมื่อตัดสินใจจะปล่อยเธอไป เขาก็ไม่อยากให้เธอเอาความรู้สึกผิดจากไปด้วย
เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินเขาตอบแบบนี้จึงไม่ถามอะไรอีก หลังจากนั้นเซียวซู่ก็ยกกระเป๋าเดินทางของเธอไปไว้ที่กระโปรงท้ายรถ ตอนที่ก้มตัวลง เจียงเสี่ยวไป๋สังเกตได้ว่ากระดูกของเขาโผล่ออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ช่วงนี้เขาผอมลงไปเยอะมาก ร่องตาก็ลึกขึ้นด้วย
เธอรู้สึกปวดใจเล็กน้อย แต่เธอก็ยังก้าวข้ามเรื่องนั้นไปไม่ได้ เธอรีบเก็บสายตากลับมา แล้วรีบขึ้นไปนั่งข้างคนขับ ก่อนจะรัดเข็มขัดนิรภัยไว้เรียบร้อย
รอจนเซียวซู่เข้ามานั่งในรถ เธอจึงบอกออกไปตรงๆ
“ไปส่งฉันที่สนามบินค่ะ”
หลังจากพูดเสร็จ เจียงเสี่ยวไป๋ก็หลับตาลง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากจะคุยต่อ
ตลอดทางทั้งสองคนตกอยู่ในความเงียบ ถนนหนทางในยามเที่ยงคืนตกอยู่ในความเงียบ คนทั้งเมืองกำลังอยู่ในสภาวะหลับใหล แต่ไฟบริเวณข้างถนนยังคงส่องสว่าง จนมาถึงสนามบิน
หลังจากเดินลงจากรถ เซียวซู่ก็เดินลงไปยกกระเป๋าเดินทางให้เจียงเสี่ยวไป๋ เดิมทีเธอคิดจะรับมาลากเอง แต่เขากลับพูดขึ้นมาซะก่อน
“ให้ผมไปส่งคุณถึงตรงจุดตรวจคนเข้าเถอะนะ”
พอพูดเสร็จเขาก็เดินเข้าไปก่อน กระเป๋าเดินทางของเธอยังอยู่ในมือเขา เธอจึงทำได้แต่เดินตามหลังเขาไป
หลังจากเซียวซู่ดำเนินขั้นตอนต่างๆจนเสร็จตามกระบวนการให้เธอเสร็จ ก็เหลือแต่นั่งรอคิว
ถึงแม้จะเป็นช่วงเที่ยงคืน ก็ยังมีคนมายืนรอคิวอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย แต่ก็มีบางแถวที่มีคนค่อนข้างน้อย เซียวซู่แถวที่มีคนยืนต่อแถวเยอะให้เจียงเสี่ยวไป๋
ทั้งสองยืนมองผู้คนที่เดินไปเดินมา เขาเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงบางเบา
“เมื่อไหร่จะกลับมา”
เจียงเสี่ยวไป๋ “ไม่รู้ค่ะ”
“ได้ครับ ผมจะรอคุณอยู่ที่บ้านของเรา คุณอยากจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้เสมอ”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ตอบกลับ บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนดูน่าอึดอัดมาก คนในแถวเดินผ่านจุดตรวจไปทีละคน ไม่นานก็จะถึงคิวของเจียงเสี่ยวไป๋แล้ว เซียวซู่ดึงเธอเข้ามากอดอย่างกะทันหัน
การกระทำที่รวดเร็วของเขาทำให้เจียงเสี่ยวไปตกใจมาก ยังไม่ทันที่เธอจะตั้งตัว ริมฝีปากของเธอก็ถูกประกบไปซะแล้ว ที่นี่มันสนามบินนะ…
เจียงเสี่ยวไป๋อยากจะผลักเขาออกไป แต่มือของเซียวซู่ที่รั้งแขนของเธอไว้มันแข็งแกร่งมาก ริมฝีปากที่ประจบจูบเธออยู่ก็รุนแรงมากเช่นกัน ทำให้เธอเริ่มรู้สึกเจ็บ