เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1579
เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 1579 ไม่สนใจ
“พี่ชาย?”
ได้ยินว่าพี่มาหาตนเอง ถางหยวนหยวนก็ดวงตาเป็นประกายทันที
“เขารออยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนใช่ไหมคะ?”
“อื้ม เขารอเธออยู่ที่ประตูใหญ่ บอกให้เธอไม่ต้องรีบ ค่อยๆเดินไป”
“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
จากนั้นถางหยวนหยวนจึงกลับไปบอกเมิ่งเข่อเฟยที่หน้าเตียง : “เฟยเฟย พี่ชายฉันมา พอดีเลยจะได้ให้เขาพาเธอไปหาหมอ เธอเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้วนะ”
ได้ยินที่ถางหยวนหยวนบอก จะให้พี่ชายของเธอพาตนเองไปหาหมอ ใบหน้าที่ซีดเซียวของเมิ่งเข่อเฟยก็แดงระเรื่อขึ้นมา “ไม่ ไม่ต้อง ฉันไม่ไป”
ทั้งตัวเธอเต็มไปด้วยบาดแผล ถ้าต้องไปหาหมอ ก็คงโดนพบเข้าจนได้ ถึงตอนนั้นเธอจะตอบคำถามอย่างไร?
พูดตามความจริงใช่ไหม? หลังจากพูดไปแล้วงานของแม่เธอที่โรงงานทอผ้าจะเป็นอย่างไร? เธอไม่กล้าเดิมพัน ไม่กล้าเลย
“เฟยเฟย เธออย่าคิดมาก สถานการณ์เธอตอนนี้ค่อนข้างหนักนะ เธอรอฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะไปหาพี่ เดี๋ยวกลับมานะ”
พูดจบ ถางหยวนหยวนก็ไม่สนใจคำคัดค้านของเมิ่งเข่อเฟยแล้ว วิ่งออกไปนอกหอพักทันที
เมิ่งเข่อเฟยลุกขึ้นมานั่งด้วยความกังวล แต่เพราะรีบร้อนเกินไปจนตึงบาดแผล ความเจ็บปวดที่รุนแรงในท้องแพร่ออกมา เหงื่อเย็นๆของเธอถึงกับผุดออกมาทันที
ไม่รู้ว่าวันนั้นโดนเตะที่ท้องแรงเกินไปหรือเปล่า กี่วันนี้ปวดท้องตลอดเลย บางเวลาปวดจนเหงื่อเย็นๆผุดมาทั่วทั้งร่าง แทบจะใช้ผ้าเช็ดไม่ไหวจนตนเองอยากจะกลิ้งไปตามพื้น
แต่เมิ่งเข่อเฟยไม่อยากไปโรงพยาบาลกับพวกเธอจริงๆ ทำได้เพียงฝืนเจ็บลุกขึ้น ใส่รองเท้าคิดจะหลบเลี่ยงไปเส้นทางอื่น
แต่ยังเดินไม่ถึงประตู ความมืดมิดด้านหน้าก็โจมตีเข้ามาอย่างฉับพลัน ชั่วครู่ เมิ่งเข่อเฟยก็ล้มลงไปบนพื้น หมดสติทันที
ประตูโรงเรียน
จงฉู่เฟิงกำลังถือถุงขนมถุงใหญ่อยู่ มืออีกข้างสอดอยู่ในกระเป๋าเสื้อ ยืนพิงกำแพง วันนี้อากาศดีมาก อารมณ์ของเขาจึงดีไปด้วย นึกถึงอะไรบางอย่าง มุมปากก็ยิ้มมากขึ้น
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบร้อน จึงเดาได้ว่าถางหยวนหยวนน่าจะมาแล้ว
“พี่!”
ถางหยวนหยวนรีบวิ่งมาที่ด้านหน้าของจงฉู่เฟิง ตอนที่เห็นว่ามีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น ความเปล่งประกายในแววตาก็หายไปเล็กน้อย “ทำไมมีแค่พี่ฉู่เฟิงคนเดียวล่ะคะ?”
คนนั้นไม่ได้บอกว่าพี่ชายของเธอมาหาเธอเหรอ?
จงฉู่เฟิงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าประกายในดวงตาของเธอหายไป จึงรู้สึกว่าหัวใจของตนเองโดนแทงอีกแล้ว “น้องหยวนเธอยังคงทำร้ายจิตใจของพี่จริงๆนะ คราวก่อนเคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ พี่ชายเธอค่อนข้างยุ่ง จึงมีแค่พี่เท่านั้นที่มาหาเธอ”
พูดเสร็จ จงฉู่เฟิงก็ส่งถุงขนมในมือไปให้ถางหยวนหยวน
“ดูสิ พี่ฉู่เฟิงเอาของอร่อยมาให้เธอตั้งเยอะ”
อย่างที่คิด หลังจากเห็นของกิน แววตาของถางหยวนหยวนก็เป็นประกายอีกครั้ง แต่ทว่าอย่างรวดเร็วเธอก็นึกถึงอะไรบางอย่าง “ใช่แล้ว พี่ฉู่เฟิง พี่มาพอดีเลย เฟยเฟยไม่สบาย เมื่อกี้ฉันอยากจะพาเธอไปหาหมอ แต่ยังไงเธอก็ไม่ยอม”
“เมิ่งเข่อเฟย?”
“อื้ม”
“เธอเป็นอะไร?”
“กี่วันนี้เธอเอาแต่นอนอยู่บนเตียง แต่สีหน้ากลับไม่ดีขึ้น กินก็น้อย ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย” ถางหยวนหยวนพูดแล้วก็ดึงมือของจงฉู่เฟิงไปด้วย “พี่ฉู่เฟิง งั้นพี่ไปช่วยฉันโน้มน้าวเธอหน่อย”
“ไป”
จงฉู่เฟิงเข้าไปในโรงเรียนกับถางหยวนหยวนอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากเป็นหอพักหญิง จึงไม่อนุญาตให้ผู้ชายเข้าไปตามใจชอบ ถางหยวนหยวนจึงต้องบอกป้าดูแลหอพักว่าเมิ่งเข่อเฟยไม่สบาย จงฉู่เฟิงเป็นพี่ชายของเธอ มาพาเธอไปโรงพยาบาล
ป้าดูแลหอพักถึงยินยอม แต่ยังไม่ค่อยวางใจ จึงตามขึ้นไปข้างบนด้วย อย่างรวดเร็วก็ถึงหน้าหอพักแล้ว
เพิ่งผลักประตูเข้าไป ทุกคนก็พบเมิ่งเข่อเฟยที่หมดสติอยู่บนพื้น
“เฟยเฟย!”
ป้าดูแลหอพักแค่เห็นภาพนี้ก็ตื่นตกใจทันที “ทำไมเป็นลมไปแล้วล่ะ รีบส่งโรงพยาบาลเร็ว”
จงฉู่เฟิงทั้งสูงทั้งผอม บวกกับแรงเยอะด้วย วางถุงขนมในมือทันทีแล้วก้าวเข้าไปใกล้ๆนั่งยองๆลงไป ประคองเอวของเมิ่งเข่อเฟยที่หมดสติขึ้นมา
คนกลุ่มหนึ่งรีบๆร้อนๆออกไปข้างนอก
ถางหยวนหยวนร้องไห้ด้วยความกังวล น้ำตาไหลไม่หยุด แต่เธอไม่กล้าส่งเสียงร้องออกมา ทำได้เพียงเช็ดน้ำตาแล้วก็วิ่งตามไปข้างๆด้วย
จนกระทั่งถึงโรงพยาบาล เมิ่งเข่อเฟยโดนส่งเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ดวงตาของถางหยวนหยวนแดงไปหมดแล้ว ส่วนจงฉู่เฟิงก็เหนื่อยจนสำลัก
หันไปเห็นสาวน้อยตาแดงราวกับกระต่าย ในใจเหมือนกับโดนเข็มทิ่มเข้ามาอย่างฉับพลัน หยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าโน้มตัวลงไปเช็ดน้ำตาให้ถางหยวนหยวน
“หยวนหยวนอย่าร้องเลยนะ ถึงโรงพยาบาลแล้ว หมอช่วยเธอได้อยู่แล้ว”
แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ถางหยวนหยวนก็ยังหยุดร้องไห้ไม่ได้ น้ำตาเม็ดใหญ่ร่วงเผลาะลงบนมือของจงฉู่เฟิง
เวรแล้ว!
จงฉู่เฟิงรู้สึกว่าใจของตนเองกำลังจะขาดแล้ว
เขานั่งยองๆลงด้านหน้าของถางหยวนหยวน “แม่ทูนหัว พี่เรียกเธอว่าแม่ทูนหัวได้ไหม อย่าร้องอีกเลยนะ ถ้าเธอยังร้องต่อไป”
ใจของเขาคงต้องแตกเป็นเสี่ยงๆ
แน่นอนว่าคำนี้จงฉู่เฟิงไม่ได้พูดต่อหน้าของถางหยวนหยวน
“พี่ฉู่เฟิง ฮือๆ……เฟยเฟยเธอ……”
“เธอไม่เป็นไร หมอช่วยเธอได้อยู่แล้ว พวกเราอยู่ข้างนอกรอเธอออกมานะ ดีไหม?”
พูดจบ จงฉู่เฟิงดึงมือของสาวน้อย ไปนั่งที่เก้าอี้ด้านข้าง “พี่ฉู่เฟิงจะรอเป็นเพื่อนเธอตรงนี้”
ทั้งสองคนทำได้เพียงนั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน แต่ถางหยวนหยวนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว “เป็นฉันที่ผิดเอง ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าไม่สบาย ฉันควรจะพาเธอมาโรงพยาบาลให้เร็วกว่านี้สิ ถ้าเป็นอย่างนี้ เฟยเฟยก็จะไม่หมดสติแล้ว”
“นี่ก็โทษเธอไม่ได้ โชคดีที่ตอนนี้พวกเรามาแล้ว ยังทันเวลานะ”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ๆถางหยวนหยวนก็อยากเจอยู่ฉือยี่ซูมากๆ ยื่นมือไปดึงชายเสื้อแจ็กเก็ตของจงฉู่เฟิงอย่างน่าสงสาร
“พี่ฉู่เฟิง”
“มีอะไรเหรอ?”
“พี่ชายฉันยุ่งมากจริงเหรอคะ?”
ฟังแล้ว จงฉู่เฟิงชะงักงัน เข้าใจความหมายของเธอทันที
“เธออยากให้เขามา?”
“ได้ ได้ไหมคะ?”
เธอสะอึกสะอื้นแล้วถามไปด้วย
“ได้แน่นอน”
เผชิญหน้ากับถางหยวนหยวนที่กำลังน้ำตาร่วง คำขอร้องของเธอ จงฉู่เฟิงจนปัญญาที่จะปฏิเสธอยู่แล้ว
“เธอรออยู่ตรงนี้นะ พี่จะไปโทรหาพี่ชายเธอ”
“ค่ะ!”
แล้วจงฉู่เฟิงก็ถือมือถือเดินออกไป ถางหยวนหยวนหลับตาซบหน้าลงไปในหัวเข่าของตนเอง
ผ่านไปครู่หนึ่ง จงฉู่เฟิงกลับมาแล้ว
“พี่ฉู่เฟิง?”
อารมณ์บนใบหน้าของจงฉู่เฟิงค่อนข้างอึดอัด “เอ่อ พี่เธอเขา……ไม่รับโทรศัพท์”
“อะไรนะคะ?”
“อาจจะเป็นเพราะมือถือปิดเสียงไว้เลยไม่ได้ยิน แต่พี่ส่งข้อความไปให้เขาแล้ว ถ้าเขาเห็นก็คงรีบมา”
ในที่สุดประกายในแววตาของถางหยวนหยวนก็จางหายไปหมดแล้ว เธอไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่ฟุบอยู่ที่หัวเข่าของตนเองกำลังคิด พี่ยุ่งมากจริงๆ เพราะมีผู้หญิงมากมายชอบเขา อยากจีบเขา ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลามาสนใจน้องสาวอย่างเธอแล้ว
นึกถึงตรงนี้ ในใจของถางหยวนหยวนก็กลัดกลุ้ม จนแทบจะหายใจไม่ออก แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร