เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1611
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่1611 มีฉันอยู่
ระหว่างทางที่กลับไป ถางหยวนหยวนดึงแขนเสื้อยู่ฉือยี่ซูออกไปด้านนอก ผู้ชายในหอพักทุกคนต่างก็ชะเง้อมองกันอย่างสงสัย อยากดูแต่ก็กลัวยู่ฉือยี่ซู ดังนั้นจึงหลบที่หลังประตู แอบดูอยู่อย่างนั้น ดูสักพักก็หดกลับเข้าไปต่อ
“สวัสดีน้องสาว”
หนึ่งในนั้นมีผู้กล้าทักทายถางหยวนหยวน
ถางหยวนหยวนเขินอายมาก ใบหน้าที่ขาวอมชมพูของเธอก็แดงระเรื่อขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่กล้าทักทายคนอื่นกลับ จึงทำได้เพียงพยักหน้า จากนั้นก็หลบสายตา ก้มหน้าเดินตามหลังยู่ฉือยี่ซู
“ยู้ฮูว สาวน้อยน่ารักเกินไปแล้วนะ? ทำไมโรงเรียนพวกเราไม่มีสาวน่ารักแบบนี้เนี่ย อยู่โรงเรียนตำรวจเหนื่อยแบบนี้นี่เอง วันวันอยู่กับแต่ผู้ชาย”
พอลงจากตึก ผ่านป้อมยาม ลุงก่อนหน้านี้ที่ช่วยถางหยวนหยวนเรียกคนยืนอยู่หน้าประตู
“นี่ ดูแล้วครั้งนี้เป็นน้องสาวของยี่ซูจริงๆสินะ ก่อนหน้านี้ฉันยังคิดว่าสาวน้อยคนไหนที่ชอบยี่ซูแล้วยังส่งของขวัญมาให้อีก”
ยู่ฉือยี่ซูเม้มปากบาง จากนั้นก็พูดว่า: “ลุง ขอบใจมากนะครับ”
“เฮ้อ ชอบใจอะไรกันล่ะ น้องสาวนายมาทั้งทีก็ไม่ง่าย นี่กำลังจะส่งเธอกลับบ้านเหรอ?”
ยู่ฉือยี่ซู: “ส่งเธอกลับโรงเรียนครับ”
“ได้ๆ งั้นเดินทางปลอดภัยนะ”
“ลุง ขอบใจมากครับ ลาก่อน”
“สาวน้อย ต้อนรับหนูมาหาพี่ชายเสมอนะ ครั้งหน้าหนูมา ลุงจะปล่อยเข้าไปทันทีเลย”
“ขอบใจค่ะคุณลุง”
คุณลุงหน้าป้อมยามก่อนหน้านี้มองดูทั้งสองออกจากโรงเรียนไป ต้นไม้ที่ไม่ไกลจากหน้าประตูโรงเรียนมาก ยู่ฉือยี่ซูคุกเข่าลงตรงหน้าสาวน้อย ตบไหล่ตัวเอง อยากให้เธอปีนขึ้นหลังเขา
สาวน้อยยืนอยู่ที่เดิมอย่างเขินอาย ส่ายหน้าพูดอะไรสักอย่าง
ยู่ฉือยี่ซูไม่ได้ลุกขึ้น ยังคงนั่งอยู่อย่างนั้น สาวน้อยก็พูดอะไรอีก จากนั้นเหมือนแพ้ให้กับความตื๊อของยู่ฉือยี่ซู เธอเกาะไปที่คอของเขาและปีนขึ้นหลังเขาไป
และยู่ฉือยี่ซูถือกล่องสองกล่องไว้ด้วยมือเดียว อีกมือก็ค่อยพยุงเธอไว้และลุกขึ้น
ดูถึงตรงนี้ คุณลุงก็ส่ายหน้า ก่อนหน้านี้เห็นเด็กคนนี้เย็นชามาก ผู้หญิงมากมายส่งของขวัญให้ก็ยังทำหน้าแบบนั้นอยู่อีก ไม่คิดว่าเขาจะมีด้านที่อ่อนโยนและใส่ใจคนอื่นแบบนี้
ตอนกลางวันแสกๆ ถางหยวนหยวนเกาะอยู่ที่หลังของยู่ฉือยี่ซู แดดร้อนแรงสาดส่องไปที่ร่างกายทั้งสองอย่างไม่ไยดี ยู่ฉือยี่ซูแบกถางหยวนหยวนไว้อีก ไม่นานเหงื่อก็ท่วมหลังของเขา
ถางหยวนหยวนเองก็มีเหงื่อออกประปรายเหมือนกัน แต่ก็ไม่เยอะมาก เสื้อของเธอต้องเปียกเพราะเหงื่อของยู่ฉือยี่ซู สีหน้าเธอก็แปลกประหลาดทันที
เธอเม้มปาก กำลังจะพูดอะไร พอจะพูดก็พูดไม่ออก
เพราะยู่ฉือยี่ซูแบกเธอไปในที่ร่มๆ
ถางหยวนหยวนอยู่ที่หลังเขานิ่งๆ ถามเขาเสียงเบาว่า
“พี่เหนื่อยไหมคะ?”
ยู่ฉือยี่ซูไม่หอบเลยด้วยซ้ำ เขายิ้มเบาๆ และพูดว่า: “เธอหนักเท่าไหร่เอง พี่ไม่เหนื่อยหรอก?”
“ว่าไงนะ? หยวนหยวน……หนักมากเลยนะ”
แม้ช่วงนี้เธอจะตั้งใจลดน้ำหนักมาโดยตลอด ผอมลงไปบ้าง แต่น้ำหนักเธอก็ยังเยอะกว่าพวกสาวๆหุ่นดีๆ “เด็กสาวโรงเรียนพวกเรา ตัวสูงเท่าฉันเหมือนน้ำหนักจะประมาณสี่สิบห้ากิโล”
และน้ำหนักของเธอพูดออกไปแล้วก็น่าอายจริงๆเลย ถางหยวนหยวนก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจเรื่องน้ำหนักตัวเองเลย
ช่วงนี้ค่อยให้ความสำคัญขึ้นมา จากนั้นถึงเห็นว่าน้ำหนักตัวเองนั้นเยอะมากเกินไปจริงๆ
“เธอไม่เหมือนกับพวกเขา” น้ำเสียงยู่ฉือยี่ซูเรียบเฉย “ไม่ต้องน้ำหนักเหมือนพวกเขาหรอก”
“ไม่ ฉันไม่ได้อยากเหมือนนะ”
ฉันแค่อยากผอมลงมา ยืนอยู่ข้างนายจะได้เหมาะสมกันหน่อย
ตอนที่ถ่ายรูปด้วยกัน หน้าจะได้เล็กลงด้วย
ถางหยวนหยวนคิดในใจ
“เบาลงมากเลยนะ”
นานมาก ยู่ฉือยี่ซูถึงพูดคำนี้ออกมา
คิดแล้ว เขาก็พูดเสริมไปว่า “แบบนี้กำลังพอดีเลย ไม่ต้องลดหรอก”
ถางหยวนหยวนรู้ว่าพี่ชายไม่หลอกเธอ เขาพูดว่าพอดีนั่นก็คือพอดีจริงๆ แต่พอดีนี้คือสำหรับเขา ไม่ใช่คนอื่น
เขาคิดว่าพอดี ที่จริงกลัวว่าเธอจะลำบากตัวเอง ทำลายร่างกายไปเปล่าๆ ไม่ได้ยอมรับในน้ำหนักเธอ
แม้ช่วงที่ลดน้ำหนักที่เหนื่อยมาก แต่ก็มีความสุขอยู่บ้าง
“อืม” ถางหยวนหยวนตอบ และเกาะที่คอเขาแน่นขึ้นเล็กน้อย หน้าแนบไปที่หลังของยู่ฉือยี่ซู
ความใกล้ชิดของสาวน้อยทำเอายู่ฉือยี่ซูชะงัก หัวใจอ่อนฮวบเต้นแรงตึกตักอย่างรัว
เขากระตุกยิ้ม “ที่จริงโลกใบนี้ คนมากมายล้วนแล้วแต่มีความคิดต่างกัน แต่พวกเราไม่ต้องการความคิดจากใครอื่น จริงใจก็ช่าง ไม่จริงใจก็ช่าง เธอแค่ทำสิ่งที่หัวใจตัวเองเรียกหาก็พอแล้ว ทำเรื่องที่ตัวเองชอบ ก็พอแล้วล่ะ”
“อืม” ถางหยวนหยวนพยักหน้า พูดเสียงเบาว่า: “หยวนหยวนก็ฟังเสียงจากหัวใจตัวเองนั่นแหละค่ะ”
ถ้าเธอไม่ชอบพี่ชายละก็ แม้อานเชี่ยนจะบอกเธอว่าทั้งอ้วนทั้งขี้เหร่ยังไง เธอก็คงไม่สนใจ แต่พออานเชี่ยนพูดแบบนั้นแล้ว ตอนที่เธอกับพี่ชายถ่ายรูปด้วยกัน ก็รู้สึกได้ว่าตัวเองอ้วนมากจริงๆ ไม่คู่ควรกับพี่ชายด้วยซ้ำ
“งั้นก็ดี”
“อากาศร้อนเกินไป อย่านั่งรถบัสไปเลย พวกเรานั่งรถไฟฟ้าไปดีกว่า”
“ทำตามอย่างพี่ว่าเลยค่ะ”
พอถึงสถานีรถไฟฟ้าแล้ว คนมีมากขึ้นเรื่อยๆ ถางหยวนหยวนดึงคอเสื้อยู่ฉือยี่ซู: “พี่ ที่นี่คนเยอะเกินไป ปล่อยฉันลงเถอะ”
“เธอพิงหลังพี่หลับไปก่อนเลย”
“แต่ว่า……”
“พี่แบกน้องสาวตัวเอง คนอื่นจะว่าอะไร? ก่อนหน้านี้ยังตกลงพี่เลยไม่ใช่เหรอ ว่าจะฟังเสียงหัวใจตัวเอง? ตอนนี้เธอง่วงแล้ว เหนื่อยแล้ว ยังจะสนใจสายตาอื่นอีกเหรอ?”
พูดมาก็มีเหตุผล
ถางหยวนหยวนเห็นว่าตัวเองตอบโต้กลับไม่ได้
“งั้นก็ได้ค่ะ หยวนหยวนหลับแป๊บหนึ่ง ถึงที่แล้วพี่ปลุกฉันด้วยนะ”
“นอนเถอะ มีพี่อยู่”
มีพี่อยู่ สามคำนี้ ก็ทำให้ถางหยวนหยวนไว้ใจและปล่อยใจตัวเอง
เธอเกาะอยู่บนหลังยู่ฉือยี่ซู ไม่นานก็หลับลงไปทันที
สุดท้ายงีบไปพักเดียว ก็ล้มเลิก
เพราะสถานีรถไฟต้องรูดบัตร และทางผ่านก็ผ่านได้แค่คนเดียว เพราะถางหยวนหยวนไม่ใช่เด็กแล้ว ดังนั้นเธอจึงต้องลงมา
ยู่ฉือยี่ซูมองดูถางหยวนหยวนที่นอนอยู่บนหลังตัวเอง ครุ่นคิดสักพัก ก็เรียกเธอตื่นขึ้นมา
“หยวนหยวน?”
ถางหยวนหยวนลืมตาขึ้น เห็นคนข้างๆต่างก็มองตัวเองกันใหญ่
“ลงมาเดินผ่านทางนี้ก่อน”
“ค่ะ”
ถางหยวนหยวนสไลด์ลงจากหลังยู่ฉือยี่ซู เดินผ่านทางตามหลังเขา
ต่อมา เธอก็ไม่ยอมให้เขาแบกอีกเลย เขาเรียกให้เธอขึ้นมาบนหลังตัวเองอีกครั้ง แต่ทำยังไงเธอไม่ยอม
เขาก้มหน้ามองเธออย่างไร้หนทาง และเบี่ยงสายตาไปมองทางอื่นอย่างทำตัวไม่ถูก
สักพัก ยู่ฉือยี่ซูก็ถอดเสื้อนอกตัวเองออกมา
“สวมซะ”