เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1679
บทที่ 1679 ทำเองเจ็บเอง
เขายืนอยู่ตรงนั้น นัยน์ตาหลุบตาลง ดูจากสภาพแล้วเหมือนถูกทิ้งแบบนั้น
เกิดอะไรขึ้น?
ถางหยวนหยวนแสดงอาการตกใจและประหลาดใจ ทำไมเขาถึงได้ทำท่าทางที่เหมือนว่าถูกเธอรังแกแบบนั้นล่ะ ทั้งๆ ที่วันนี้คนที่น่าจะน้อยใจควรเป็นเธอถึงจะถูกนี่
“เข้าไปเถอะ”
ไม่ทันให้ถางหยวนหยวนตั้งสติได้ ยู่ฉือยี่ซูเริ่มพูดอีกประโยคออกมา น้ำเสียงเหมือนโดนทำร้ายอย่างหนักหน่วง
ถางหยวนหยวนยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับเขยื้อน ผ่านไปชั่วครู่ ยู่ฉือยี่ซูมองมายังเธอ “ทำไม่ยังไม่เข้าไปอีก? ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะสนใจฉันไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อได้ยินดังนั้น ปากของถางหยวนหยวนขยับทันที “ตอนไหนกันที่ฉันบอกว่าอยากจะสนใจคุณ?”
“คุณไม่ใช่แสดงความหมายนี้อยู่หรอกเหรอ?” ยู่ฉือยี่ซูจ้องมองเธออย่างเงียบขรึม
“ฉันเปล่า” ถางหยวนหยวนแก้ตัวให้กับตัวเอง “ถ้าฉันไม่อยากจะสนใจคุณแล้ว ฉันก็คง …”
ก็คงเดินเข้าโรงเรียนแล้ว ทำไมยังมายืนอยู่ตรงนี้แถมคุยกับเขาตั้งยาวยืดอีกเล่า?
“คงอะไร?” ยู่ฉือยี่ซูเม้มริมฝีปากบางเอาไว้ จากนั้นก็ค่อยๆ เดินไปหยุดตรงหน้าถางหยวนหยวน
ถางหยวนหยวนหมดคำพูดทันที
นานชั่วครู่เธอถึงได้เงยหน้าขึ้นมา สายตาจ้องมองยู่ฉือยี่ซูอย่างไม่ถูกใจ “ทั้งๆ ที่คุณโมโหฉันอยู่ ทำไมท่าทางของคุณเหมือนว่าฉันเป็นคนแกล้งคุณเองล่ะ?”
“มีแบบนั้นเหรอ?” ยู่ฉือยี่ซูกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา “ฉันไปโกรธคุณตอนไหนกัน?”
ถางหยวนหยวนเบิกตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไม่คิดเลยว่าเขาจะไม่ยอมรับขนาดนี้
“เด็กน้อย พี่ชายไม่พูดแล้ว คำพูดที่พูดออกไปก่อนหน้านั้นกลัวว่าจะทำให้คุณตกใจจนวิ่งหนีไป ถึงตอนนั้นฉันทำให้คุณตกใจจนวิ่งหนีเตลิดไป แล้วฉันจะไปหาคนที่เหมือนกับคุณแบบนี้ที่ไหนกัน?”
“ทั้งๆ ที่กลัวว่าฉันจะตกใจจนวิ่งหนี งั้นทำไมตอนนี้คุณถึงยอมพูดออกมาได้?”
“ทำไมตอนนี้ถึงยอมพูด หรือว่าคุณไม่รู้?”
น้ำเสียงยู่ฉือยี่ซูเริ่มทุ่มต่ำลง พลางเขยิบเข้าหาถางหยวนหยวน
“ฉัน แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงเล่า?”
สัญชาตญาณของเธอยากจะเบี่ยงตัวหลบไปทางด้านข้าง ทว่ายู่ฉือยี่ซูจับต้นแขนเอาไว้ “วันนี้คุณก็ไปนั่งกินชาบูหม้อไฟกับเด็กชายคนอื่น พรุ่งนี้คงไม่ใช่ยอมไปตกลงเป็นแฟนกับคนนั้นล่ะ?”
“ฉันเปล่า!” ถางหยวนหยวนย่นจมูก พลางส่ายหน้า “พวกเราก็แค่ไปกินชาบูหม้อไฟเท่านั้นเอง และก็ไม่มีความคิดเป็นอื่น”
“คุณไม่มีความคิดเป็นอื่นเหรอ?”
“ไม่มี”
“ส่วนเขาล่ะ? คุณกล้ารับประกันได้ว่าเขาไม่มีความคิดอื่นกับคุณไหมล่ะ?”
“ฉัน …”
“ไม่อาจรับประกันได้ใช่ไหมล่ะ? ก่อนหน้านี้ข้างกายเธอไม่มีคนอื่นอยู่ ดังนั้นฉันก็แค่เก็บมันไม่ยอมพูดมาโดยตลอด เพื่อรอให้ความคิดของคุณได้โตขึ้นสักหน่อย พอนานวันเข้า หรือว่าคุณสามารถมองออกแล้ว ทว่าจนถึงวันนี้ฉันเพิ่งค้นพบว่า ฉันทนไม่ไหวที่ข้างกายของคุณมีคนอื่นมาปรากฏตัว”
ถางหยวนหยวนตกใจและแปลกใจ คิดว่าตนเองฟังผิดไป
เขาทนไม่ได้ที่ข้างกายของตนเองนั้นมีคนอื่นปรากฏกายขึ้นมาเหรอ?
หรือว่าเขาก็ชอบ … ตนเอง?
ทว่าเขาก็ไม่พูดออกมาอย่างชัดเจน ถางหยวนหยวนเกรงว่าตนเองจะเข้าใจผิด พลางกัดริมฝีปาก พร้อมทั้งยืนจ้องมองเขาอย่างนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น
“ทำไมไม่ยอมพูดล่ะ?” ยู่ฉือยี่ซูหยิกแก้มของเธอเอาไว้ “มึนไปแล้วเหรอ?”
“พี่ชาย ความหมายของคุณหรือว่ามันใช่หรือไม่ใช่ …”
“ใช่”
ไม่ทันรอให้เธอได้พูดประโยคข้างหลังต่อ ยู่ฉือยี่ซูตอบทันควัน “ก็คือในสิ่งที่คุณกำลังคิดอยู่แบบนั้นแหละ”
“ดังนั้น กลับไปคิดให้ดีๆ จะตกลงหรือไม่ตกลงฉัน?”
ยู่ฉือยี่ซูจับหัวไหล่เธอเอาไว้ พลางหันตัวของถางหยวนหยวนกลับไป เพื่อมองไปยังประตูโรงเรียน “เข้าไปเถอะ คิดได้แล้วค่อยมาให้คำตอบกับฉัน”
แม้ว่า เขาก็อยากจะได้คำตอบในเวลานี้ แต่ว่ายู่ฉือยี่ซูรู้สึกการต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้นั้นสร้างความลำบากใจให้สาวน้อย เพราะอย่างไรจิตใจและสมองของเธอในตอนนี้มันน่าจะสับสนเป็นอย่างมาก
“เดินตรงไป ห้ามหันกลับมามอง”
“ทำไม …” สัญชาตญาณของถางหยวนหยวนอยากจะหันศีรษะกลับมา แต่ยู่ฉือยี่ซูกลับพูดออกมาแล้ว “ถ้าหันกลับมา วันนี้คุณอาจจะกลับโรงเรียนไม่ได้แล้ว”
ท่าทีของถางหยวนหยวนค้างเติ่ง สุดท้ายได้แต่เดินกลับไปอย่างเดียว
จนท้ายที่สุดเธอก็ผ่อนเท้าลงแล้วมุ่งหน้าเดิมต่อไป
ยู่ฉือยี่ซูจ้องมองเธอเดินมุ่งหน้าไปทีละก้าว แววตานัยน์ตายิ่งมืดหม่นลงเรื่อยๆ มันไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น ก็ปล่อยไปเถอะ การทำแบบนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ยุติธรรมสำหรับเธอแล้ว
สายตาก็เห็นเงาของถางหยวนหยวนใกล้หายลับไปกับตาของตนเอง การเดินของสาวน้อยพลันหยุดลงทันที แววตาของยู่ฉือยี่ซูถูกเงาร่างกายของเธอเกาะกุม
เธอต้องการหันกลับมา?
ช่างน่าเสียดายที่สาวน้อยยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมทั้งไม่ยอมขยับเขยื้อนอยู่นาน แต่ก็ไม่ยอมเดินไปด้านหน้า แต่ก็ไม่มีท่าทีอยากจะหันกลับมาแต่อย่างใด
ในใจของยู่ฉือยี่ซูมีความหวังเพิ่มมากขึ้น พลันดับวูบลง
ที่แท้ ความรู้สึกเช่นนี้ ก่อนหน้านี้เธอจ้องมองตนเองบนความคาดหวังทุกครั้ง แต่ทุกครั้งที่โดนตนเองปฏิเสธไปนั้น ประมาณว่าคงเป็นความรู้สึกเช่นนั้นกระมัง
ยู่ฉือยี่ซูช่างน่าสมน้ำหน้า
ในที่สุดถางหยวนหยวน เดินก้าวเท้าอาดๆ พลันหายไปต่อหน้าต่อตาเขา
ยู่ฉือยี่ซูถอนหายใจ พร้อมทั้งยืนอยู่นาน และมั่นใจว่าถางหยวนหยวนจะไม่ออกมาแล้ว พลางหันหลังเดินจากไป
ถางหยวนหยวนเหมือนว่าเดินถ่วงเวลากลับไปยังห้องพัก พร้อมทั้งรู้สึกเหนื่อยล้าเต็มทน ราวกับมีการตัดสินใจและความพลิกผันขนาดใหญ่มาอย่างนั้น
ความจริงแล้วเมื่อครู่เธอเองก็มีความคิดที่อยากจะหันกลับมาอยู่หลายครั้ง ทว่าพอคิดถึงพี่ชายที่แสดงท่าทีเย็นชาใส่ตนเอง ถางหยวนหยวนรู้สึกว่าตนเองไม่อาจจะตอบตกลงเขาไปอย่างง่ายดาย
ดังนั้น เธอเลยเดินหนีออกมาดื้อๆ
เมื่อผลักประตูห้องพักเข้ามานั้น จางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันก็อยู่ด้านใน เมื่อเห็นว่าเธอกลับมาแล้ว เลยรีบดักหน้าต้อนรับทันที
“หยวนหยวน กลับมาแล้วเหรอ?”
“เสี่ยวลู่ เย่าหัน พวกแกไม่ได้บอกว่า …”
“ใช่ เรากลับมาตั้งนานแล้ว เป็นไงบ้าง? คืนนี้แกกับรุ่นพี่ไปนั่งกินชาบูหม้อไฟแล้วพัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว? หรือว่าพบว่าเขาช่างเอาอกเอาใจและก็ยังคอยดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีมาก?”
“เขาส่งแกกลับมา ใช่ไหม?”
ถางหยวนหยวนไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องที่เกิดในคืนนี้ยังไงดี ทว่าในใจของเธอนั้นชัดเจนอยู่เรื่องหนึ่ง จากนั้นเลยดึงมือของทั้งสองคนเอาไว้ พร้อมทั้งพูดอย่างจริงใจ “ต่อไปพวกแก อย่าได้จับคู่ฉันกับรุ่นพี่เลย”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของสองคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นหยวนเย่าหันก็พูดว่า “จับคู่กันที่ไหน ก็แค่ให้แกเข้าใจเท่านั้นเอง ไม่มีใครที่ต้องกำหนดให้แกไปอยู่กับเขานี่”
“ใช่ หยวนหยวน อีกอย่างตอนนี้แกยังเด็ก การได้มีความรักหลายครั้งแกจะมีประสบการณ์”
“ฉัน ฉันไม่ต้องการประสบการณ์” ถางหยวนหยวนสะบัดมือของพวกเธอออก แล้วก็เดินไปยังขอบเตียงแล้วนั่งลง “ยังไงต่อไปพวกแกไม่ต้องจับคู่ฉันกับเขาแล้ว ฉันไม่ชอบรุ่นพี่จง และก็ไม่มีการพัฒนาอะไรกับเขาทั้งนั้น”
จางเสี่ยวลู่เดินมานั่งด้านข้างของเธอ
“ไม่ชอบก็ไม่ชอบสิ งั้นเราก็เปลี่ยนคน เพราะยังไงในโรงเรียนคนที่ยอดเยี่ยมมีตั้งมากมายก่ายกอง แกพูดออกมาเลยว่าแกชอบใคร พี่น้องอย่างเราจะช่วยแกจัดการถวายถึงมือแกเอง”
“ใช่ แม้ว่าทุกด้านของจงหย่งหรันจะไม่เลวเลย แต่ว่าแกไม่ชอบก็ไม่อาจจะบีบบังคับแกได้ใช่ไหม?”
ถางหยวนหยวนส่ายหน้า “ตอนนี้ฉันไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น ไม่เอาใครทั้งนั้น”
พูดจบเธอก็ลุกขึ้นยืนไปหยิบเสื้อผ้ามา “พอแล้ว ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว”
จางเสี่ยวลู่รีบเดินมาดักหน้าเอาไว้ก่อน “ทำไมแกไม่อยากคิดอะไรล่ะ? หรือว่าแกจะรอแห้งเหี่ยวเฉาตายบนหอคอยพี่ชายของแกเหรอ? ถ้าเขาสนใจแกก็ต้องมาหาแกตั้งแต่แรกแล้ว แกดูนะตั้งแต่เปิดเทอมจนถึงตอนนี้ นานเป็นชาติแล้วยังไม่เห็นเขาเลย ไม่แน่อาจมีแฟนไปแล้วก็ได้ แกอย่าคิดที่จะรอต่อไปเลย”
เมื่อฟังจบ ถางหยวนหยวนก็หันศีรษะกลับมาพูดตอบโต้กับเธออย่างจริงจัง “พี่ชายฉันเขายังไม่มีแฟน”