เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 319
บทที่319 ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น
นี่ก็เป็นวิธีการอย่างหนึ่ง
ในสองวันมานี้เสิ่นเฉียวไม่ได้นึกถึง เธอคิดแค่ว่า จะบุกไปที่วิลล่าไห่เจียง รอจนกว่าเย่โม่เซินจะยอมออก มาเจอกับเธอ
นึกไม่ถึงว่าเสี่ยวเหยียนจะนึกออกแทนเธอ เสิ่น เฉียวพยักหน้าด้วยความดีใจ “โอเค”
คนเหล่านั้นเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบพูด “คุณชายเย่ วันนี้น่าจะไปที่บริษัทจริงๆ งั้นพวกคุณสองคนรีบไปหา เขาที่บริษัทเถอะ”
“ขอบคุณนะ”
ก่อนจะไปเสิ่นเฉียวได้พูดขอบคุณกับเขา จากนั้น จึงเดินออกไปพร้อมกับเสี่ยวเหยียน
คนเหล่านั้นจ้องมองแผ่นหลังของเธอ จากนั้นจึง เริ่มซุบซิบพูด
“ฉันว่าคุณนายน้อยคนนี้ไม่เลวเลยนะ อย่างน้อย เธอก็ดูเกรงใจพวกเรา”
“นั่นนะสิ อีกอย่างคุณชายเย่พาผู้หญิงมาที่นี่ครั้ง แรก ฉันยังนึกว่า….”
“ซู พวกเราอย่าพูดอีกเลย เรื่องแบบนี้มีแต่พวก เขาที่รู้ดี พวกเราก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ” ตอนที่เส่นเฉียวและเสี่ยวเหยียนเดินทางมาถึงบริษัทตระกูลเย่ เย่โม่เซินไม่ได้มีการออกคำสั่งว่าห้าม เธอเข้าบริษัทแต่อย่างใด ดังนั้นเสิ่นเฉียวและเสี่ยวเหยี ยนจึงเดินเข้ามาในบริษัทจากนั้นพวกเธอก็ขึ้นลิฟต์ไป ด้วยกัน หัวใจของเสิ่นเฉียวเต้นแรงดังตุบตับ
“ฉันยังนึกว่า..เขาจะไม่ให้ฉันเข้าแม้แต่ใน บริษัท” เสิ่นเฉียวเอามือกุมไปที่หน้าอก เธอพูดด้วย สีหน้าที่ดูโล่งอก
เสี่ยวเหยียนได้ยินเช่นนี้จึงยิ้มเยาะเย้ยเธอเล็ก น้อย “คุณเข้ามาได้ก็ดีใจไปเถอะ ฉันจะขึ้นไปหาคุณชาย เย่เป็นเพื่อนกับคุณ อีกเดี่ยวพวกคุณต้องคุยกันดีดีล่ะ อย่าถอยล่ะ”
“อืม” เสิ่นเฉียวหายใจเข้าลึกๆเพื่อเพิ่มความกล้า หาญให้ตัวเอง “ฉันจะคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดีดี” “สู้!”
ลิฟต์ค่อยๆเลื่อนขึ้นไปทีละชั้น เสิ่นเฉียวได้รับ กำลังใจจากเสี่ยวเหยียนมากมายจนมีความกล้าหาญอยู่ เต็มอก ตอนที่มาถึงชั้นบนสุด เธอก็หายใจเข้าลึกๆแล้ว เดินออกมาจากลิฟต์ เสี่ยวเหยียนนึกไปนึกมาอยู่ๆจึงพูด “ฉันไปรอคุณที่แผนกการเงินชั้นล่างนะ อีกเดี๋ยวคุณ จัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่อยลงมาเจอฉัน”
เสิ่นเฉียวนึกไปนึกไปจึงพยักหน้าตาม “โอเค งั้น คุณกลับไปที่แผนกการเงินก่อนเถอะ เย็นๆหน่อยฉันจะ ลงไปหาคุณ”
หลังจากที่แยกกับเสี่ยวเหยียนแล้ว ประตูลิฟต์จึงปิดลงอีกครั้ง เส้นเฉียวหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นจึงเดิน ตรงไปที่ห้องทำงาน
ที่นี่คือที่ที่เธอเคยทำงานมาก่อน ดังนั้นเธอจึงคุ้น เคยเป็นอย่างดี แค่ถูกกั้นระหว่างประตูหนึ่งบานเท่านั้น เยโม่เซินก็อยู่ในนั้น
ขอเพียงแค่หาเขาให้เจอ คุยทุกอย่างให้ชัดเจน กับเขาก็พอ
เสิ่นเฉียวยิ้มแล้วเดินมาอยู่หน้าห้องทำงาน จาก นั้นยื่นมือไปเคาะประตู
ไม่มีการตอบสนองใดใดจากด้านใน เสิ่นเฉียว ลังเลใจไปสักพักจึงตัดสินใจเคาะประตูอีกครั้ง ด้านใน ยังคงเงียบเหมือนเดิม
ในจังหวะที่เสิ่นเฉียวกำลังรู้สึกสงสัยแล้วกำลังจะ ผลักประตูเข้าไปนั้น อยู่ๆประตูลิฟต์ก็มีเสียงดังแล้วเปิด ออก เสี่ยวเหยียนวิ่งออกมาจากด้านใน จากนั้นพูดไป หอบไป “ตะก้ตอนที่ฉันลงไปถึงชั้นล่างพบว่าคุณชายเย่ ไปประชุมแล้ว ตอนนี้เขากับเซียวซู่อยู่ในห้องประชุม”
“ห้องประชุม?”
“อืม การประชุมน่าจะต้องใช้เวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก ว่าๆ เธอเข้าไปตอนนี้คงไม่ค่อยเหมาะน่ะ….”
“ฉันรอเขาในห้องทำงานดีกว่า”
“งั้นโอเค คุณรออยู่ตรงนี้ ถ้ามีข่าวอะไรฉันจะ พิมพ์ข้อความทางวีแชทไปบอกคุณ”
เสิ่นเฉียวรู้ว่าในห้องทำงานมีห้องพักผ่อนอยู่ ก่อนหน้านี้เธอเคยอยู่ในนั้น เธอแค่ไปพักอยู่ในนั้นสัก พักก็พอแล้ว รอให้เยโม่เซินกลับมาค่อยคุยกับเขาให้ ชัดเจน
หลังจากที่เสี่ยวเหยียนออกไปแล้วเสิ่นเฉียวก็ ผลักประตูห้องทำงานแล้วเดินเข้าไปด้านใน จากนั้นเดิน ตรงไปที่ห้องพักผ่อน
ห้องพักผ่อนกว้างมาก ถ้าต้องรอตั้งหนึ่งชั่วโมง มันก็โหดร้ายไปหน่อย เสิ่นเฉียวเอนตัวลงนอนบนโซฟา ใหญ่
เธอคิด ยังไงซะก็ต้องรอตั้งหนึ่งชั่วโมง…
งั้นเธอขอมาแอบนอนอยู่ตรงนี้สักหน่อยเถอะ รอ เยโม่เซินกลับมา เธอก็ตื่นขึ้นมาพอดี
เสิ่นเฉียวเข้าสู่ห้วงแห่งความฝันอย่างรวดเร็ว
เดิมทีเธออยากจะนอนไปสักพัก แต่นึกไม่ถึงว่า การนอนในครั้งนี้เธอจะหลับจนเลยเวลา ตอนที่เย่โม่เซิน ประชุมเสร็จแล้วกลับมา เซียวซูเดินตามหลังเขาเข้ามา ในห้อง จากนั้นฟังเขาพูดด้วยความเย็นชา “เย่หลิ่นหาน วันนี้ยังไม่มาทำงานอีกหรอ? ช่างรักกันกะหนังกะหนิ่ง เสียจริง”
คำพูดประโยคหลังเซียวซู่ฟังแล้วเข้าใจในทันที เขารู้สึกอึดอัดและพูดไม่ออก เมื่อผ่านไปสักพักเขาจึง อธิบาย “คุณชายเย่ คุณนายน้อยน่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน กับเขา บางที….อาจจะมีเรื่องอะไรที่ทำให้เขามาล่าช้า”
“นายเริ่มพูดแทนคนอื่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” เย่ โม่เซินพูดด้วยความเย็นชา เขาไม่ได้สนใจคำพูดของ เซียวซูเลยสักนิด
เซียวซู่เดินมาด้านหน้า จากนั้นพูด “คุณชายเย่ ไม่ใช่ว่าเซียวซู่จะมาพูดอะไรแทนใคร แต่คืนนั้นคุณนาย น้อยมายืนรออยู่หน้าประตูทั้งคืน อีกทั้ง…
“รอทั้งคืน?” เย่โม่เซินหัวเราะอย่างเย็นชา “ฉัน ให้เธอรอรีไง? ที่ฉันรอเธอทั้งคืนทำไมนายไม่พูด? อีก อย่างใครบอกว่าเธอรอฉันทั้งคืน? ตอนที่ออกมาในตอน เช้าทำไมไม่เจอเธอ?”
เซี่ยวซู่กลอกตามองบนเขาในใจคุณเองไม่ใช่ หรอที่ไม่ยอมออกมาเจอเธอ เธอจึงล้มลงไง?
ตอนที่เซียวซู่ออกมาในภายหลัง ได้ยินยาม หลายคนที่เฝ้าอยู่ตรงนั้นพูด เขายังอยากที่จะออกไป ยัง ไงซะคุณชายเย่ก็ยังโมโหอยู่ แต่นึกไม่ถึงว่าหลังจากที่ เขากลับไปอยู่ๆคุณชายเยก็ถามว่าเสิ่นเฉียวอยู่ที่ไหน เซียวซูจึงไม่รู้จะตอบยังไงในทันที
เยโม่เซินเงียบไปสักพัก จากนั้นพูดด้วยความเย็น ชา “ได้สัญญาเลยกลับไปแล้วใช่มั้ย? ที่แท้ก็อยากจะ หย่าจนใจจะขาดสินะ?”
“คุณชายเย่ เรื่องราวไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณคิด เช่นนั้น คุณนายน้อยเธอ….”
เขายังไม่ทันได้พูดคำพูดด้านหลัง เขาก็โดนเย่ โม่เซินไล่ออกไปจากวันนั้นเวลาก็ผ่านมาถึงวันนี้
“พูดไปแล้วไม่ใช่หรอ เธอไม่ใช่คุณนายน้อยสอง ของตระกูลเยอีกแล้ว? นายเรียกใคร?”
เซียวซู “เข้าใจแล้ว จากนี้จะไม่เรียกอีกแล้ว”
อยากจะทำเป็นหยิ่งไม่สนใจก็ทำต่อไปเถอะ ยัง ไงซะสุดท้ายคนที่จะเป็นทุกข์ก็คือตัวเขา
เขาเป็นคนกลางก็รู้สึกเหนื่อยมากเช่นกัน มีคำพูด
มากมายอยากจะพูดแต่พูดไม่ได้ ในจังหวะที่จะพูดเย่โม่ เซินก็ไม่ให้โอกาสเขาพูดอีก “เอกสารที่ประชุมในวันนี้ฉันไปจัดเรียงสักแป๊บ
เดี๋ยวเอามาให้” เซียวซู่พูดจบจึงหันหลังแล้วเดินออกไป
จากห้องทำงาน หลังจากปิดประตูแล้วเขาก็ถอนหายใจ
ออกมาอย่างเอื้อมระอา
ภายในห้องทำงานเหลือแค่เยโม่เซินเพียงคน เดียว
เขาเม้มริมฝีปากอันเรียวบาง สีหน้าของเขาเย็น ชาแล้วนั่งอยู่ด้านหน้าของห้องทำงาน เอกสารบนโต๊ะ วางอย่างเป็นระเบียบ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เซียวซู่เป็นคน จัดเรียง
ตอนที่เสิ่นเฉียวยังเป็นผู้ช่วยของเขา สิ่งเหล่านี้ เสิ่นเฉียวจะเป็นคนรับผิดชอบ
แต่ตอนนี้…
เมื่อนึกถึงผู้หญิงคนนั้น แววตาของเย่โม่เซินก็ มืดมนมากขึ้น
ต่อมาเขาจึงเบ้ปากเย้ยหยันตัวเอง
เยโม่เซิน นี่มันตอนไหนแล้ว นายยังคิดถึงผู้หญิง ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้คนนั้นอีกหรอ?
ลืมเธอซะ!
ต่อจากนี้เธอกับนายไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ยัง ไงซะเธอก็เป็นผู้หญิงที่แต่งงานเข้าตระกูลเย่แทนน้อง สาวของตัวเองเท่านั้น อีกทั้งยังท้องลูกของใครก็ไม่รู้
ไม่มีค่าให้คิดถึงอะไร
เยโม่เซินผู้หญิงแบบไหนที่เขาต้องการจะไม่มี เลยรึไง? ต้องมาตัวพันกับผู้หญิงคนนี้เท่านั้นหรอ? น่าตลกสิ้นดี!
แต่เยโม่เซินยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสับสน เพราะตอนที่ เขาต้องการจะทำงาน ผู้หญิงคนนั้นก็ปรากฏอยู่ในหัว สมองของเขาตลอดเวลา ยิ่งเขาอยากจะลบเธอออกไป จากสมองของตัวเองเท่าไหร่ภาพของผู้หญิงคนนั้นก็ยิ่ง ชัดเจนมากขึ้น
ความคิดของเย่โม่เซินรวมไปถึงเรื่องทุกอย่าง เขาสามารถควบคุมมันได้ดีมาตลอด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้า ของเสิ่นเฉียว สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ต้องพ่ายแพ้ให้กับเธอ
มันทำให้เขารู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก
ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น คนอย่างเขาเย่โม่เซิ นทำไมถึงเป็นเช่นนี้?