เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 328
บทที่328 เธอไปไหน
“โย่วโย่ว ทำไมแกถึงคิดแบบนี้? ไม่ใช่นะ! เสิ่น เฉียวกลายเป็นคุณหนูตระกูลหานนับว่าเป็นเรื่องที่ดี สำหรับแม่ เพียงแค่เธอบินไปเกาะอยู่บนกิ่งไม้ พวกเรา ตระกูลเสิ่นก็จะเป็นผู้มีบุญคุณของตระกูลหาน พวก เราก็จะสามารถได้รับประโยชน์ด้วย ต่อไปเราก็จะใช้ ชีวิตสุขสบายแล้ว!”
“ไม่!” เสิ่นโย่วถอยหลังไป เธอปิดหูตัวเองเอาไว้ : “แม่ไม่เข้าใจอะไรเลยต่างหาก? เงินค่าขนมหนูแม่ไม่ เคยให้พอหนูใช้เลย! แม้แต่ครั้งที่แล้วที่แม่เอาเงินของ พี่มาให้หนูก็ยังไม่พอใช้ด้วยซ้ำ! แม่ หนูไม่เคยคิดเรื่อง ชีวิตพวกนี้เลย แม่รู้ไหมว่าพวกเพื่อนๆหนูมีเงินมากกัน ขนาดไหน? พ่อแม่ของพวกเขามีความสามารถกัน ขนาดไหน? หนู….หนูก็อยากเป็นเหมือนพวกเขา แต่….ทำไมต้องเป็นแต่เสิ่นเฉียว?? ทำไมพี่ถึงแตกต่าง ไปจากหนูได้? ทั้งๆที่….หนูเก่งกว่าพี่อีก”
พูดมาถึงตรงนี้แล้ว เสิ่นโย่วราวกับว่ารับการกระ ตุ้นนี้ไม่ไหวแล้วจึงกรีดร้องออกมา หลังจากนั้นเธอจึง หันหลังวิ่งออกไป
“โย่วโย่ว!”
คุณแม่เสิ่นเรียกเธอเอาไว้ แต่ถึงอย่างไรเสิ่นโย่วก็ เป็นเด็กผู้หญิง วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เพียงแค่แวบ เดียวก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอแล้ว
ช่างเถอะ เด็กผู้หญิงในใจจะรู้สึกไม่สมดุลก็คง เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว รอให้เธอคิดได้ก็จะรู้ว่านี่จะเป็น
เรื่องดีสำหรับพวกเขา
คิดถึงหนี้พนันที่สามารถหาใช้คืนได้ อีกทั้งต่อไป ยังสามารถได้รับประโยชน์จากตระกูลหานทำให้ตระ กูลเสิ่นบินได้สูงขึ้นไปด้วยนั้น ในใจของคุณแม่เสิ่นก็ รู้สึกดีใจยิ่งนัก
อีกทางด้านหนึ่ง เสิ่นเฉียวนั้นกำลังตกอยู่ ท่ามกลางความทุกข์ยากลำบาก
หลังจากที่เสี่ยวเหยียนโทรหาเย่หลิ่นหานแล้วนั้น ไม่นานเย่หลิ่นหานก็มาถึงสถานที่ที่เธอบอกเอาไว้
“คนล่ะครับไม่อยู่หรือ?” เย่หลิ่นหานเอ่ยถามด้วย สีหน้าจริงจัง
เสี่ยวเหยียนร้อนใจจนแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่ แล้ว “เมื่อครู่นี้ฉันหาไปแล้วรอบหนึ่งแต่ไม่พบแม้แต่เงา ของเธอเลยค่ะ ทั้งๆตอนที่ฉันโทรหาคุณเธอยังอยู่ ฉัน กระพริบตาลงแค่นั้นก็ไม่เห็นแล้ว ฉันเองก็หาไม่เจอ เหมือนกัน …..ฉันไม่รู้ว่าเธอไปไหน…ขอโทษนะคะ ฉันดูเธอไม่ดีเอง ถ้าหากเธอเกิดอะไรขึ้น ฉันจะ ต้อง….ไม่ยกโทษให้ตัวเองแน่ๆ”
เย่หลิ่นหานมองไปยังเสี่ยวเหยียน เห็นเธอร้อน ใจเสียจนขอบตาแดงไปหมด น้ำตาแทบจะไหลออกมา อยู่แล้วนั้น คงจะเครียดมากเหมือนกัน จึงไม่ได้ตำหนิ เธอ เพียงแต่เอ่ยขึ้นมาเบาๆ : “ใจเย็นๆหน่อยดีกว่าครับตอนนี้คุณใจร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่สำคัญคือ ตอนนี้เราต้องหาเธอให้เจอก่อน คุณกับเธอสนิทกัน ขนาดนั้น คุณใจเย็นๆแล้วลองคิดดูก่อนนะครับว่ามี ที่ไหนที่เธออาจจะไปได้บ้างหรือเปล่า?”
“สถานที่ที่เธออาจจะไปได้หรือคะ?”
ปัญหานี้ดูจะยากสำหรับเสี่ยวเหยียนแล้ว ถึงแม้ว่า เธอกับเสิ่นเฉียวจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันก็จริง แต่ ช่วงเวลาที่ทั้งสองคนรู้จักกันนั้นถือว่าไม่นาน เสิ่นเฉียว สำหรับเธอแล้วนั้นเธอก็ไม่ได้เข้าใจคนๆนี้ดีซักเท่าไร นัก
ถ้าหากพูดถึงสถานที่ที่เธอนึกได้นั้น เสี่ยวเหยียน ยังคงนึกคำตอบไม่ได้จริงๆ
ถ้าหากมีคนที่จะเข้าใจเสิ่นเฉียวจริงๆล่ะก็ คาดว่า คงจะต้องเป็นหานเส่โยวแล้วล่ะ
ถึงแม้ว่าหานเส่โยวจะไม่ได้เป็นคนดีนัก แต่ในเมื่อ เธอเสแสร้งต่อหน้าเสิ่นเฉียวมานานตั้งหลายปี ในช่วง เวลาหลายปีมานี้เธอคงจะรู้เรื่องอะไรของเสิ่นเฉียว บ้าง
ไปถามเธอคงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
แต่ หลังจากที่ทั้งสองคนทะเลาะจนกลายเป็นศัตรู หัวใจกันแล้วนั้น หากไปหาหานเส่โยวอีก ก็คงจะไม่ เหมาะสมเท่าไรนัก เธอกลัวว่าหานเส่โย่วจะมีความคิด อะไรขึ้นมาอีก ถึงตอนนั้นหากทำให้เสิ่นเฉียวตกอยู่ในอันตรายมากกว่าเดิมจะทำอย่างไร?
เห็นเธอหน้านิ่วคิ้วขมวดเช่นนี้ เย่หลิ่นหานเดาได้ ว่าเธอคงจะคิดอะไรไม่ออก เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจาก นั้นจึงเอ่ยออกมาเบาๆ : “ถ้าหากนึกไม่ออก คุณก็อย่า เพิ่งรีบร้อนเลยครับ ผมจัดให้คนมาแล้ว พวกเขาจะ ช่วยกันหารอบๆนี้ก่อน ถ้ามีข่าวอะไรพวกเขาก็จะรีบมา รายงานผมทันที”
เสี่ยวเหยียนมองเย่หลิ่นหานด้วยความซาบซึ้งใจ : “รองประธานเย่ ขอบคุณคุณมากนะคะ โชคดีที่คุณอยู่ ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร”
“เราไปหาบริเวณรอบๆนี้ก่อนดีกว่าครับ อย่า ปล่อยให้พลาดไปแม้แต่มุมเดียว”
“ค่ะ”
หลังจากที่ทั้งสองคนเอ่ยขึ้นมาแล้วนั้นก็แยกย้าย กันออกไปตามหา เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าที่เย่หลิ่นหานพูด นั้นก็มีเหตุผล ที่เธอไปหาก่อนหน้านี้เธอไม่ได้สังเกต ตามมุมต่างๆ ถ้าหากครั้งนี้สังเกตดีๆก็อาจจะหาตัวเสิ่น เฉียวเจอใช่หรือเปล่า?
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เธอจึงจุดประกายความหวังขึ้น มาใหม่ แล้วออกตามหาตัวเสิ่นเฉียวไปตามทาง
หลังจากที่เย่หลิ่นหานเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวนั้น จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เขากดรับ “เป็นอย่างไรบ้าง?”
แยจื่อ : “รองประธานเย่คะ ได้ออกตามหาบริเวณ พื้นที่ใกล้ตามที่คุณสั่งแล้ว แต่ผมรู้สึกว่าถ้าเป็นไปได้ เราไปดูกล้องวงจรปิดด้วยจะดีกว่านะครับ”
ได้ยินแล้วนั้น เย่หลิ่นหานจึงขมวดคิ้วขึ้น : “เธอ หายไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง หาจากกล้องวงจรปิดจะไม่ เป็นไปตามสถานการณ์จริง แล้วอีกอย่างในมุมที่เป็น มุมอับ กล้องวงจรปิดอาจจะจับภาพไปไม่ถึง นายจัด คนมาเยอะหน่อย ให้พวกเขาไปหาตามมุมต่างๆ ที่อยู่ บริเวณแถวๆนี้ดู และแน่นอนว่าอย่าลืมถามคนที่ผ่าน ไปผ่านมาแถวนั้นด้วย ถ้าได้ข่าวคราวอย่างไรแล้วรีบ รายงานฉันทันที”
แยจื่อ: “ทราบแล้วค่ะ”
หลังจากที่วางสายไปแล้ว เย่หลิ่นหานก็มองดู รอบๆ ในใจนั้นรู้สึกสะเทือนใจอยู่บ้าง
เฉียวเฉียว คงไม่เกิดอะไรขึ้นกับเธอนะ
และก็ไม่รู้ว่าหากันเป็นเวลานานขนาดไหน เย่หลี่ นหานก็ไม่เจอตัวเสิ่นเฉียวเลย และโทรศัพท์มือถือนั้น ก็ปราศจากความเคลื่อนไหวใดๆเช่นกัน เดิมทีที่เย่หลี่ นหานค่อนข้างดูสงบนิ่งอยู่นั้น แต่ตอนนี้กลับไม่ สามารถนิ่งเฉยได้แล้ว
เสิ่นเฉียวไปอยู่ที่ไหนกันแน่?
เย่หลิ่นหานหยุดเดิน แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้น มา อดที่จะกดโทรไปถามถึงสถานการณ์กับเสี่ยวเหยียนไม่ได้
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าถ้าหากเสี่ยวเหยียนหาตัวเธอเจอ แล้ว จะต้องโทรมาบอกเขาอย่างแน่นอน แต่ก็อาจจะ เป็นไปได้ที่เธอหาตัวคนเจอแล้วแต่ยังไม่ทันได้โทร
บอกเขา
ตอนที่เสี่ยวเหยียนรับสายของเย่หลิ่นหานนั้นยังดู รู้สึกตื่นเต้นเสียด้วยซ้ำ : “รองประธานเย่ คุณเจอเฉียว เฉียวแล้วใช่ไหมคะ?”
ได้ยินเช่นนี้แล้ว เย่หลิ่นหานก็รู้แล้วว่าทางเสี่ยวเห ยียนนั้นก็คงจะหาเสียเที่ยวเหมือนกัน
“คุณก็ยังหาไม่เจอเหมือนกันหรือคะ?” เสี่ยวเหยี ยนได้ยินเขาไม่ได้พูดอะไรออกมานั้น ก็รู้เช่นกันว่าเขา ก็คงจะยังหาตัวเสิ่นเฉียวไม่เจอ และทันใดนั้นเองเธอก็ รู้สึกร้อนใจเสียจนแทบจะร้องไห้ออกมา : “ทำอย่างไร ดีคะ? คนออกตามหาเยอะขนาดนี้แล้ว ยังไม่มีข่าว คราวอะไรเลย? เธอจะไปที่ไหนได้กันนะ? รองประธาน เย่..เป็นเพราะฉันเองค่ะที่ดูเธอไม่ดีพอ”
นี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวเหยียนสูญเสียการควบคุม ขนาดนี้ เย่หลิ่นหานเองเดิมที่จิตใจของเขาก็สับสน รุ่นวายอยู่แล้วนั้น ถูกเธอกวนแบบนี้แล้ว จู่ๆเขาเองก็ ไม่รู้จะพูดปลอบใจอย่างไร หาตัวเสิ่นเฉียวไม่เจอ เขา เองก็รู้สึกกระวนกระวายใจเช่นกัน
ดวงตาของเย่หลิ่นหานนั้นมองไปรอบๆ ริมฝีปาก บางเม้มเข้าหากัน แล้วจึงเอ่ยออกมาในที่สุด : “วางใจเถอะครับ ผมจะต้องหาเธอให้เจอ จะต้องเจออย่าง แน่นอน” ว่าแล้วนั้น เขาก็วางสายไป
หลังจากนั้นเย่หลิ่นหานก็มุ่งตรงไปยังด้านหน้าต่อ แล้วหาคนแถวๆนั้นเพื่อสอบถาม
“ขอโทษนะครับคุณป้า รบกวนหน่อยนะครับ ว่า เห็นผู้หญิงคนนึง…” เย่หลิ่นหานอธิบายลักษณะของ รูปร่างหน้าตาและเสื้อผ้าของเสิ่นเฉียวที่ใส่ในวันนี้ตาม ที่เสี่ยวเหยียนบอกเขา
สตรีคนนั้นได้ยินแล้วจึงกระพริบตาลงด้วยท่าทาง ที่ดูงงๆ ในใจของเย่หลิ่นหานนั้นได้แต่ถอนหายใจออก มา คิดว่าคงจะถามไม่ได้ความแล้ว แต่จู่ๆเธอกลับเอ่ย ขึ้น : “อ๋อ คุณจะหาเด็กผู้หญิงที่ใส่ชุดกระโปรงสีขาว คนนั้นน่ะหรือ! เมื่อกี้นี้ฉันเพิ่งเห็นเธอไปเอง!”
ได้ยินแล้วนั้น เย่หลิ่นหานก็เปลี่ยนสีหน้าในทันที : “เห็นเธอ? ที่ไหนครับ?”
“ฉันเห็นเธอ….เธอขึ้นรถคันหนึ่งไป รถคันนั้นสวย มากเลยนะ!”
“ขึ้นรถคันหนึ่งไป?” เย่หลิ่นหานขมวดคิ้วขึ้นมา อีกทั้งรถคันนั้นยังสวยมากอีกด้วยหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็ คงจะไม่ใช่รถแท็กซี่แล้ว แล้วเธอจะขึ้นรถใครไปได้ กัน?
คิดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของเย่หลิ่นหานจึงเปลี่ยนไป