เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 331
บทที่331 เธอยอมรับจากปากของเธอเอง
* เสิ่นเฉียวมองซูจิ่วอย่างงงๆ ตอนที่ซูจิ๋วเอ่ย พูดประโยคนั้นออกมา ร่างกายของเธอนั้นราวกับว่าไม่ สามารถทนรับกับคำพูดประโยคนี้ได้จึงเกิดปฏิกิริยา ขึ้นมาและดูเหมือนจะต่อต้านอีกด้วย เป็นเวลานานที่ เธอไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา
หลังจากนั้น สีหน้าของเสิ่นเฉียวนั้นก็ซีดขึ้น “คุณ คุณพูดอะไรคะ…”
“ฉันรู้ค่ะไม่ว่าจะเป็นใคร ได้มาพูดถึงเรื่องฐานะ ชีวิตของครอบครัวในตอนนี้ก็อาจจะรับไม่ได้กันทั้งนั้น แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือความจริงที่เป็นแบบนี้ คุณหนู เสิ่น….คุณคือลูกสาวของคุณนายหานจริงๆค่ะ แล้วก็ เป็นคุณหนูของตระกูลหานที่พวกเรากำลังตามหากัน มาตลอดคนนั้นด้วย”
เสิ่นเฉียว : “แล้ว….หานเส่โยวล่ะคะ? ก่อนหน้านี้ พวกคุณไม่ใช่ว่า….”
“พูดถึงตรงนี้แล้ว ก็จะต้องเชื่อมโยงไปกับอีกเรื่อง หนึ่งแล้วล่ะค่ะ หานเสโยวเธอไม่ทันระวังจึงได้รู้เรื่องนี้ เข้า ดังนั้นหลังจากที่เธอเข้าใกล้คุณก็เพื่อที่จะ สวมรอยกับข่าวพวกนี้อย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นก็ ปลอมแปลงเรื่องนี้ขึ้น ด้านคุณหานเองก็รีบร้อนกับการ หาตัวน้องสาว หามาหลายปีขนาดนี้แล้ว ทางลูกน้อง ของเขาก็รู้ว่าเขาร้อนใจ ทุกคนอาจจะพากันรีบร้อนจนเข้าใจผิดกันไปหมด”
ได้ยินแล้ว สีเลือดฝาดบนริมฝีปากของเธอนั้นก็ หายไป
ตอนนั้น …เสี่ยวเหยียนเคยกระซิบข้างหูเธอ
ผู้หญิงคนนั้นตอนที่อยู่มหาวิทยาลัยกลายมาเป็น เพื่อนสนิทเธอก็เพราะมีจุดประสงค์นั่นเอง แบบนั้นใช่ ไหม?
เดิมที เธอยังคิดว่าจะรักษาความรู้สึกทุกช่วงเอาไว้ เป็นอย่างดี แท้ที่จริงแล้ว….กลับมีอะไรปะปนกัน มากมายขนาดนี้เลยอย่างนั้นหรือ?
ไม่….คงจะไม่เป็นแบบนี้
เส้นเฉียวส่ายหน้าด้วยใบหน้าที่ซีดขาว แล้วส่ง เสียงออกมาอย่างยากลำบาก : “พวกคุณ..เข้าใจผิด อะไรกันหรือเปล่าคะ? ถึงอย่างไรฉันกับหานเส่โยวก็ เป็นเพื่อนกันมานานหลายปี ถ้าหากพวกคุณเข้าใจผิด ก็ควรจะรู้กันตั้งแต่แรกแล้วสิคะ”
“น่าเสียใจค่ะ ที่พวกเราไม่รู้จริงๆ แต่ตอนนี้ฉัน สามารถพูดกับคุณได้อย่างชัดเจน ว่าชีวิตของคุณจะ ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน คุณนายเส้นยอมรับจากปาก ของเธอเองแล้วค่ะ”
ปีง!
ราวกับมีสิ่งของบางอย่างพุ่งเข้าชนหัวใจของเสิ่น
เฉียวอย่างแรง
แม่ยอมรับออกมาจากปากแล้วอย่างนั้นหรือ? ยอมรับอะไร? ยอมรับว่าเธอไม่ได้เป็นลูกสาวแท้ๆของ ตระกูลเสิ่นใช่ไหม? เพราะฉะนั้นเพราะฉะนั้นแม่ถึง ได้ปฏิบัติกับเธอและเสิ่นโย่วไม่เหมือนกัน นี่หรือคือ สาเหตุของความไม่ยุติธรรมนี้?
“ความจริงแล้ว หลังจากที่คุณหานหาตัวหานเส่โย วเจอแล้ว ท่าทางที่เขาปฏิบัติต่อหานเส่โยวก็ค่อนข้าง จะนิ่งเฉยค่ะ ถึงแม้ว่าเงื่อนไขแต่ละข้อจะสอดคล้อง ก็ตาม แต่…คุณก็รู้ว่าเรื่องของครอบครัวเป็นสิ่งที่ ละเอียดอ่อน เพราะถึงอย่างไรหากพวกคุณเป็น ครอบครัวเดียวกัน เลือดที่ไหลวนอยู่ในตัวพวกคุณก็ คือเลือดเดียวกัน บางสิ่งก็ดูผิดปกติ คุณหานไม่ได้มี ความรู้สึกเป็นครอบครัวกับหานเส่โยว แต่เนื่องจากว่า เงื่อนไขของเธอนั้นตรงตามนั้น ดังนั้นคุณหานจึงไม่ได้ ตรวจสอบเรื่องนี้อีก จนกระทั่ง….ครั้งที่แล้วที่เจอคุณ หนูเดินที่ร้านอาหาร”
“พูดมาถึงตรงนี้แล้ว ฉันอยากจะพาคุณหนูเสิ่นไป ดูสิ่งของบางอย่างค่ะ” ว่าแล้วนั้น ซูจิ๋วจึงลุกขึ้น : “คุณ หนูเดินมากับฉันเถอะค่ะ รอให้คุณดูสิ่งนี้ก่อนแล้วคุณ อาจจะเข้าใจขึ้นมา”
เสิ่นเฉียวก้าวเท้าเดินตามเธอไปอย่างเลื่อนลอย ทั้งสองคนเดินขึ้นบันไดเลื่อน ตลอดทางที่ผ่านมาความ หรูหรานี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่ในความเป็นจริง จนกระทั่งหยุดอยู่ตรงหน้าห้องๆหนึ่ง ซูจิ๋วถึงได้หยุด เดิน
เธอหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋า หลังจากนั้นก็ เปิดห้องนั้น
ห้องๆนี้ถูกล็อคเอาไว้อยู่ตลอด ตอนนี้เพื่อป้องกัน อุบัติที่จะเกิดขึ้นหานชิงจึงเอากุญแจมาให้กับซูจิ๋ว ตอนที่จำเป็นจะได้สามารถเอาออกมาใช้ได้
ไม่คิดว่าจะได้เอามาใช้จริงๆ หลังจากที่ซูจิ๋วเปิด เข้าไปด้านในห้องแล้วนั้น เสิ่นเฉียวก็เดินตามเข้าไป ด้วย
ภายในห้องมีคนคอยทำความสะอาดโดยเฉพาะ ดังนั้นในห้องจึงไม่มีฝุ่น ทั้งทุกๆด้านยังสว่างอีกด้วย สิ่งของก็จัดวางอย่างเรียบร้อย ทั้งห้องดูแล้วเป็น ระเบียบยิ่งนัก
แต่….อากาศแห้งๆภายในห้องนั้นกลับทำให้รู้ว่า ห้องนี้ไม่ได้มีคนเข้ามาอยู่เป็นเวลานานมากแล้ว
กลิ่นอายที่ดูแปลกไป…
เสิ่นเฉียวเดินเข้ามา หลังจากที่บังเอิญเห็น โปสเตอร์ขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงผนังห้องแล้วนั้น เธอยืน ตะลึงอยู่ตรงที่เดิม
บนโปสเตอร์นั้นมีรูปผู้หญิงที่สวมชุดกระโปรงยาว สีฟ้าอยู่คนหนึ่ง เส้นผมยาวที่ไม่ได้ผ่านการตกแต่งให้ ทันสมัยใดๆปกคลุมลงมาตรงหัวไหล่ กระโปรงยาวสี ฟ้าทำเรือนร่างที่สวยงามของเธอนั้นดูสูงเพรียวขึ้นมา เบื้องหลังของเธอก็เป็นทะเลที่ถูกแสงของดวงจันทร์สาดส่องลงมาราวกับเป็นผงสีเงิน และในขณะเดียวกัน ใบหน้าของเธอก็ดูมีมิติและดูลึกซึ้งยิ่งนัก
ผู้หญิงคนนั้นกำลังยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้ม
บางๆ โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นที่ดูเยือกเย็นและ เงียบเหงา เหมือนกับท้องทะเลที่อยู่ทางด้านหลังของ เธอ ถึงแม้จะสวยงาม แต่กลับยังคงดูเยือกเย็นและ เงียบเหงายิ่งนัก ราวกับไม่มีความรู้สึกใดๆอยู่เลย
แปลก เสิ่นเฉียวนึกถึงเวลาปกติเวลาที่ตัวเองมอง กระจก
ดวงตาคู่นั้น…..เหมือนเธอมาก…
“นี่คือสถานที่ที่คุณนายหานอาศัยอยู่ก่อนที่เธอจะ เสียชีวิตค่ะ” จู่ๆซูจิ๋วก็เอ่ยขึ้น
ได้ยินแล้วเสิ่นเฉียวก็ชะงักไป หลังจากนั้นก็กัดริม ฝีปากล่างของตัวเอง
“ดูรูปนั้นแล้ว รู้สึกว่าเหมือนมองตัวคุณเองบ้างหรือ เปล่าคะ?” ซูจิ๋วหัวเราะออกมาเบาๆ : “จริงๆแล้วตอนที่ เจอคุณครั้งแรกที่สนามบิน คุณใส่ชุดสีฟ้าเหมือนกัน ก่อนเสียชีวิตคุณนายหานก็ชอบที่ฟ้ามากที่สุด ดังนั้น เสื้อผ้าแทบจะทั้งหมดของเธอจึงเป็นสีฟ้า อีกทั้งเธอก็ ชอบไปทะเลมากเลยนะคะ ตอนนั้นฉันยังไม่เคยเห็น รูปของคุณนายหาน ดังนั้น …ฉันไม่รู้ว่าทำไมตอนที่ คุณหานเห็นคุณหนูเสิ่นครั้งแรกแล้วถึงได้มีปฏิกิริยา แบบนั้น จนกระทั่ง….หลังจากที่ฉันได้มารู้ความจริง ได้ มาเห็นคุณนายหาน ถึงได้พบว่าคุณเหมือนกับคุณนายหานมากจริงๆ โดยเฉพาะดวงตาของพวกคุณสองคน ทั้งบุคลิกของพวกคุณด้วย สิ่งเหล่านี้….เป็นหลักฐานที่ ตรงไปตรงมามากที่สุดแล้วนะคะ”
เสิ่นเฉียวไม่ได้พูดอะไรต่อ ก่อนหน้านี้เธอไม่เคย เจอหานชิงมาก่อน นั่นเป็นเพราะยังไม่มีโอกาสนั่นเอง
ถึงแม้ว่าเธอจะเคยบอกหานเส่โยวเอาไว้ว่า ต้องการจะขอบคุณพี่ชายของเธอโดยการเลี้ยงข้าว เธอเองก็รีบตอบกลับเธออย่างลนลานว่าหานชิงยุ่งมาก
ต่อมาก็เป็นเรื่องบังเอิญที่เธอมีโอกาสได้พบกับ หานชิง คุยงานด้วยกันกับเขา
คงจะเป็นเช่นนั้น…..หานเส่โยวคงจะเคยเห็นรูป ถ่ายของคุณนายหานแล้ว ดังนั้นเธอก็คงจะรับรู้แล้ว
นี่คือเหตุผลที่หานเสี่ยวไม่อยากจะให้เธอได้พบ กับหานชิงอย่างนั้นหรือ?
มีเรื่องราวก่อนหน้านี้มากมายที่ไม่เข้าใจ แต่ตอนที่ ความจริงเปิดเผยออกมาแล้ว ตอนนี้เธอมาคิดอย่าง ละเอียด ถึงได้พบว่าเรื่องราวมากมายเหล่านั้นคงจะถูก ต้องทั้งหมดแล้ว
เรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแต่พอมาคิดๆดูแล้วนั้น ก็น่ากลัวอยู่เหมือนกัน นึกไม่ถึงเลยว่าหานเส่โยวจะทำ เรื่องที่เธอคิดไม่ถึงมาตลอดเช่นนี้ ส่วนเธอก็ถูกปิดบัง งมโข่งอยู่อย่างโง่ๆแบบนั้นมาตลอด
“คุณหนูเสิน ฉันรู้ค่ะว่าเรื่องนี้คุณคงจะทำใจยอมรับมันได้ยาก แต่ความจริงเป็นแบบนี้ คุณก็คือคน นั้นที่ตระกูลหานตามหามาตลอดจริงๆ คำพูดเหล่านี้ ฉันขอพูดแทนคุณหานก่อน แล้วเดี๋ยว….”
“ฉันขอตัวกลับก่อนได้ไหมคะ?” เสิ่นเฉียวจู่ๆก็เอ่ย ความต้องการนี้ขึ้นมา
ซูจิ๋วอึ้งไป
“ช่างเถอะค่ะ ฉันสามารถขอสงบสติอารมณ์ของ ตัวเองอยู่ที่นี่ซักพักได้ไหมคะ?”
วันนี้เรื่องราวมากมาย ทำให้สมองของเธอตอนนี้ สับสนยุ่งเหยิงไปหมด ไม่สามารถจะสงบจิตใจลงได้ เลยแม้แต่นิดเดียว เธอเองก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเกิด เรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมจู่ๆสถานการณ์ถึงได้เปลี่ยน มาเป็นแบบนี้แล้ว….
เธอจะต้องทำตัวเองให้สงบลง เพื่อทำความเข้าใจ
ความคิดของตัวเองในตอนนี้ ซูจิ๋วเข้าใจอารมณ์ของเธอ จึงพยักหน้าลง : “ได้ อยู่แล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นคุณก็อยู่ที่นี่ซักพักนะคะ ฉันลง
ไปก่อน เดี๋ยวถ้าคุณหานมาแล้ว ฉันจะพาเขาขึ้นมาหา
คุณหนูเสิ่นนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ” เสิ่นเฉียวเอ่ยขอบคุณเธอ ซูจิ๋วจึง รีบออกไปอย่างรวดเร็ว