เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 602
บทที่ 602 ปมในใจเธอ
“ใช่สิ ตอนที่เธอเข้ามา เจอเย่โม่เซินไหม? เขาไม่ได้อยู่ข้างล่างหรือ?” หานมู่จื่ออดถามไม่ได้
เธอยังคิดว่ามันแปลกๆ
ทันใดนั้นแววตาของเสี่ยวเหยียนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอกัดปาก “อยู่ๆ อยู่ข้างล่างน่ะ”
“อยู่ข้างล่าง?”
หานมู่จื่อขมวดคิ้ว “เมื่อกี้เธอบอกว่าไม่อยู่ไม่ใช่หรือ?”
“ก็ ก็เมื่อกี้ฉันตกใจนี่นา ก็เลย เลย…พูดผิด!” เสี่ยวเหยียนพูดตะกุกตะกัก
แต่หานมู่จื่อกลับเอาแต่จ้องหน้าเธอด้วยแววตาคมกริบ
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เขาเจอมันแล้วหรือ แล้วทำไมเธอถึงพูดตะกุกตะกักแบบนี้?”
เสี่ยวเหยียนหน้าถอดสีพลางรีบส่ายหน้า
“เปล่า ไม่ได้เจออะไรสักหน่อย ถ้าเจออะไรล่ะก็…ฉันจะเอายามาให้เธอได้อย่างไร? ก็แค่…ตอนที่มาเมื่อกี้บังเอิญเจอเขาเข้า เขาถามฉันว่ามาทำอะไร ฉันก็บอกไปว่ามาส่งเอกสาร…เขาก็เลยให้ฉันขึ้นมาหาเธอข้างบน แต่ว่าสีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทำเสียงอย่างกับจะฆ่าคน ฉันก็เลยกลัวๆ”
ในขณะที่พูดออกไป เสี่ยวเหยียนไม่กล้าสบตากับหานมู่จื่อเพราะเธอกลัวว่าหานมู่จื่อจะสังเกตเห็นพิรุธและรู้ว่าเธอกำลังโกหก
เธอก้มศีรษะลงและมองไปที่นิ้วเท้าของตัวเองอย่างไม่สบายใจ เกร็งที่มุมปาก
อันที่จริงตอนที่เธอเข้ามาเมื่อกี้นี้ เธอคิดว่าคงไม่มีใครอยู่ข้างใน เธอจึงรีบขึ้นมาหาหานมู่จื่อที่ห้องนอนชั้นบน
แต่ไม่คิดว่าพอเดินมาถึงตรงหน้าบันได เธอก็ได้ยินเสียงเย็นชาของผู้ชายคนหนึ่งเรียกเธอ
แน่นอนว่าเสี่ยวเหยียนรู้ว่าใคร เนื่องจากรู้ว่าเป็นเขา ดังนั้นเธอจึงกลัวจนไม่กล้าสบตากับอีกฝ่าย และหันไปอย่างสั่นๆ
“เย่ ประธานเย่…”
สายตาที่เยือกเย็นหยุดลงมาที่หน้าเธอ และในที่สุดก็ย้ายไปที่กระเป๋าในมือของเธอ
เสี่ยวเหยียนโดนจับจ้องด้วยสายตาเย็นเฉียบจนเหงื่อแตก แทบจะเป็นลมล้มลงไป
“มาหามู่จื่อหรือ?” เขาถามด้วยความเย็นชา
เสี่ยวเหยียนพยักหน้าซ้ำๆ
เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อาศัยอยู่ที่นี่มาก่อน แต่เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นผู้บุกรุกเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่โม่เซิน ประหม่าจนทำตัวไม่ถูก
“มาหาเธอทำไม?” เย่โม่เซินถาม
เสี่ยวเหยียนนึกถึงคำพูดของมู่จื่อที่พูดในโทรศัพท์ ดังนั้นเธอจึงพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “มีเอกสารของบริษัทที่ต้องเซ็น เพราะฉะนั้น…ฉันก็เลย…เอามาให้มู่จื่อ”
เนื่องจากเสี่ยวเหยียนเตรียมการมาดีแล้ว หลังจากที่พูดเสร็จก็รีบหยิบเอกสารในกระเป๋าออกมา “เป็นเอกสารชุดนี้”
เย่โม่เซินไม่ได้รับเอกสารมาจากมือเธอ
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้อยากรู้ว่าเอกสารชุดนี้เป็นจริงหรือเท็จ เสี่ยวเหยียนก็เก็บเอกสารไว้ที่เดิมและค่อยๆพูดว่า “ใน ในเมื่อประธานเย่ไม่มีอะไรแล้ว งั้น…งั้นฉันขอขึ้นไปหามู่จื่อข้างบนก่อนนะคะ”
พอพูดเสร็จเสี่ยวเหยียนก็เตรียมตัวขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยว” ทว่าเย่โม่เซินกลับเรียกเธอไว้ เท้าของเสี่ยวเหยียนก็หยุดอยู่กับที่ ใบหน้าเย่โม่เซินเผยให้เห็นถึงความเจ็บปวดจนแทบคลั่งอยู่ข้างหลัง
ทำไมเธอต้องเอายามาส่งให้มู่จื่อด้วยนะ มันยากมากแค่ไหนที่ต้องมาแสดงละครอยู่ตรงหน้าปีศาจผู้เย็นชาคนนี้ แค่แป๊บเดียวเธอยังพอทนได้ แต่ถ้าเขาซักไซ้ต่อไปอีกล่ะก็ เธอจะต้องหมดสติในไม่ช้านี้แน่ๆ
“เย่ ประธานเย่??” เสี่ยวเหยียนหันกลับไปมองเย่โม่เซินด้วยความหวาดระแวง
เย่โม่เซินยกมือขึ้นแล้วแบมือออก
“ส่งของมา”
เสี่ยวเหยียนหยุดหายใจไปชั่วขณะและรู้สึกว่าเลือดได้ไหลเวียนไปทั่วร่างกาย หลังจากที่อึ้งไปไม่กี่วิ เสี่ยวเหยียนก็ทำทียื่นเอกสารให้เย่โม่เซิน พลางแกล้งพูดอย่างงุนงง “เย่ ประธานเย่หมายถึงนี่ใช่ไหมคะ? นี่ นี่ค่ะ”
“ไม่ใช่อันนี้” เย่โม่เซินเงยหน้าขึ้นและจ้องมองเธออย่างมีนัย “คุณก็รู้ว่าผมหมายถึงอะไร”
เสี่ยวเหยียน “…”
เธอจำคำสัญญาระหว่างเธอกับหานมู่จื่อได้ เธอจึงตัดสินใจแกล้งโง่ต่อไป
“ประธานเย่ ฉันไม่รู้จริงๆว่าคุณกำลังหมายถึงอะไร”
“ยาคุม”
วินาทีต่อมาเย่โม่เซินก็พูดกับเธออย่างตรงไปตรงมา
เสี่ยวเหยียนนิ่งอยู่กับที่
“ผมจะไม่ให้เธอกินยาคุม” เขาแบมือขึ้นมาอีกครั้ง น้ำเสียงและแววตาเยือกเย็น “อย่าให้ผมต้องพูดมาก”
ดังนั้นเสี่ยวเหยียนจึงยอมจำนน ปากซีดๆของเธอสั่นระริกพลางหยิบยาคุมกำเนิดที่เพิ่งซื้อมาออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
เธอเตรียมทุกอย่างไว้ดีเเล้วเพื่อไม่ให้เย่โม่เซินค้นกระเป๋าเธอ ดังนั้นเธอจึงเก็บยาไว้กับตัว แต่…ไม่คิดว่าพอเย่โม่เซินพูดออกมาเพียงประโยคเดียว ก็ทำให้เธอทำตามอย่างเชื่อฟัง
เป็นแบบนี้ได้อย่างไร…
หากเอายาให้เย่โม่เซิน แล้วเธอจะเอาอะไรไปให้หานมู่จื่อล่ะ
แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากที่เย่โม่เซินเอายาไป เขาก็ยื่นขวดเล็กๆขวดหนึ่งมาให้
“เอานี่ให้เธอ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ยอมรามือง่ายๆ”
คาดว่าผู้หญิงคนนั้นจะยอมรามือไปได้ก็ต่อเมื่อกินยาแล้วเท่านั้น ถ้าไม่เอายาให้เธอกิน ในอนาคตอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกหลายครั้ง
“นี่ นี่มันยาอะไร?” เสี่ยวเหยียนลังเลและไม่ได้ยื่นมือรับยาขวดนั้นมา
เย่โม่เซินตอบกลับไป “วิตามิน”
เสี่ยวเหยียนสูดลมหายใจ นี่หมายความว่าเย่โม่เซินจะให้เธอเปลี่ยนจากยาคุมกำเนิดเป็นวิตามินอย่างนั้นสินะ
“แต่ว่า ถ้าเป็นแบบนี้ เธอจะไม่…”
เย่โม่เซินเงยหน้าขึ้น เป็นครั้งแรกที่เขาตั้งใจจ้องเธอ “คุณอยากให้เธอกินยาคุมอย่างนั้นหรือ?”
“ฉัน…” แน่นอนว่าในใจลึกๆแล้วเสี่ยวเหยียนไม่ได้อยากให้หานมู่จื่อกินยาคุมกำเนิด เธอกับหานมู่จื่อเป็นเพื่อนกันมาหลายปี เธอรู้นิสัยของหานมู่จื่อดี
หานมู่จื่อยังรักเย่โม่เซินมาจนถึงตอนนี้ แม้ว่าปากเธอจะไม่ยอมรับ
ถ้า ถ้าเธอท้อง เธอจะยอมทำตามหัวใจและอยู่กับเย่โม่เซินโดยไม่เจ็บปวดไหมนะ?
เมื่อความคิดนี้เกิดขึ้นแล้วก็ยากที่จะกำจัดมันออกไป
เสี่ยวเหยียนมองดูขวดเล็กๆขวดนั้นอย่างครุ่นคิด เธอพูดว่า “แต่ว่า ฉันไม่อยากโกหกเธอ”
“คุณไม่รู้” ดวงตาเย่โม่เซินดูอึมครึม “ผมแอบเปลี่ยนยาตอนที่คุณไม่ทันระวัง คุณไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
“ฉันจะไม่รู้ได้อย่างไร ก็เห็นๆอยู่ว่าคุณเอามาให้ฉันเอง ฉัน…”
“คุณคิดว่า…ผมจะให้โอกาสเธอกินยาคุมไหม?”
เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปากล่าง แน่นอนเธอรู้ว่าเย่โม่เซินต้องการทำอย่างที่พูด ในเมื่อเขาบอกว่าจะไม่ยอมให้มู่จื่อกินยาคุม อย่างไรเสียมู่จื่อก็ไม่มีทางได้แตะต้องมัน อีกทั้งยังไม่อาจคิดถึงเรื่องนี้ด้วย
เธอรู้สึกวุ่นวายใจอยู่นาน มือก็ยื่นออกไปโดยไม่รู้ตัวและค่อยๆหยิบขวดวิตามินในมือของเย่โม่เซิน
ขวดดูเหมือนยาคุมกำเนิด แต่ว่า…ยาข้างในได้ถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเรียบร้อยแล้ว
เสี่ยวเหยียนหลับตาแล้วถือขวดขึ้นไปชั้นบน
สายตาที่จ้องมองเธอจากทางข้างหลังก็หายไปในมุมมืด
เสี่ยวเหยียนหยุดเท้า จากนั้นก็เอนกายอยู่ตรงมุมและแอบมองไปที่ร่างสูงที่อยู่ชั้นล่าง
ช่างเถอะ เธอจะทำหน้าที่ช่วยเย่โม่เซิน นั่นก็ถือว่าได้ช่วยมู่จื่อไปด้วย
ผ่านมานานหลายปี ปมในใจของเธอก็ควรได้รับการแก้ไข