เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 604
บทที่ 604 กำราบสามี
ชั้นล่าง
เย่โม่เซินคีบกับข้าววางในถ้วยของตัวเองอย่างช้าๆไม่รีบร้อน ท่าทางของเขาเป็นไปอย่างสง่างาม ดูก็รู้แล้วว่าเป็นคนมีชาติตระกูลสูงส่งที่ได้รับการสั่งสอนมาอย่างดี ตอนที่เขาทานอาหารก็มีรอยยิ้มจางๆผุดตรงมุมปาก พอคิดว่าตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นกินวิตามินเข้าไป เขาก็ยิ่งรู้สึกพอใจ
เธอคลายความหวาดระแวงลงแล้วและเลิกกังวลกับเรื่องยาคุมกำเนิด แค่เพียงกินวิตามินขวดนั้นเข้าไป เขาก็จะได้มีลูกของตัวเองได้เร็วยิ่งขึ้น
ฮึ มีลูกกับสามีเก่าแล้วยังไง? เขาจะทำให้ลูกคนต่อไปของหานมู่จื่อนามสกุลเย่และเป็นของเขาทั้งหมด พอคิดว่าในอนาคตจะมีลูกสาวขี้อ้อนกับลูกชายที่น่ารักอยู่ล้อมรอบตัว อีกทั้งยังเรียกเขาว่าแด๊ดดี้ รอยยิ้มบนริมฝีปากของเขาก็ยิ่งลึกซึ้ง
เขาต้องการให้ทั้งชีวิตของหานมู่จื่อมีเพียงเขา
ตอนบ่ายเย่โม่เซินก็ออกปากชวนว่าอยากพาเธอไปเดินเล่นในซุปเปอร์มาร์เก็ต หานมู่จื่อตอบปฏิเสธในตอนแรก แต่พอคิดว่าไม่กี่วันมานี้เธอเอาแต่นอนอุดอู้อยู่บนเตียงจึงอยากออกไปเดินเล่นบ้าง เพราะถ้าหากเป็นเเบบนี้ต่อไป เธอคงลุกออกจากเตียงไม่ได้
การรวมตัวของชายหล่อหญิงงามมักจะดึงดูดความสนใจจากสายตาคนภายนอก อีกทั้งยังเป็นคู่ของหานมู่จื่อกับเย่โม่เซิน พอทั้งสองเดินออกจากที่พักก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนไม่น้อยตลอดทาง เมื่อมาถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตพวกเขาก็บังเอิญเจอลุงอ้วนที่เคยเจอกันในลิฟต์มาก่อน
คราวนี้ข้างกายลุงอ้วนก็มีคนคนหนึ่งมาด้วย เป็นผู้หญิงรูปร่างเพรียวบาง
เพียงแค่ดูก็รู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคุณนายวัยกลางคน แม้ว่าจะมีอายุแล้วแต่ก็ยังมีเสน่ห์ล้นเหลือ พอยืนคู่กับลุงอ้วนแล้วก็ดูเหมาะสมกันเลยทีเดียว
“น้องสาวมาเดินซุปเปอร์มาเก็ตกับสามีหรือ?”
ลุงอ้วนมักจะดูกระตือรือร้นเมื่อได้พบกับหานมู่จื่อ หลังจากที่ทักทายกับหานมู่จื่อก็หันไปยิ้มให้เย่โม่เซิน ทว่าเย่โม่เซินกลับไม่อยากสนใจเขา
ดังนั้นผู้หญิงที่อยู่ข้างลุงอ้วนก็ยื่นมือออกไปบิดเขาเบาๆ “คุณทำอะไรเนี่ย? ทักทายใครอยู่?”
“เมียจ๋า นี่เป็นคู่รักคู่นั้นที่ผมเคยเล่าให้ฟังว่าบังเอิญเจอกันในลิฟต์ก่อนหน้านั้นไง”
ผู้หญิงคนนั้นมองหานมู่จื่อและคนอื่นๆด้วยความประหลาดใจ
“พวกเขาก็คือคู่รักคู่นั้นน่ะหรือ? ที่เคยอยู่ในลิฟต์ด้วยกันในที่พักเดียวกันกับพวกเราอ่ะนะ?”
“ใช่แล้วๆ น้องสาวคนนั้นแหละ คนนี้คือเมีย เมีย เมีย ฉัน ฉัน ฉันเอง”
ในขณะที่แนะนำว่าเป็นภรรยาของเขา ลุงอ้วนก็หน้าก็แดงขึ้นมาทันที เขาเขินเล็กน้อย และเหลือบไปมองผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเขา ผู้หญิงคนนั้นจ้องเขาอย่างดุร้าย “พูดก็พูดไม่ชัด เสียดายข้าวจริงๆเลย”
หน้าลุงอ้วนยิ่งแดงขึ้นพลางถูมือตัวเองด้วยความประหม่า
หานมู่จื่อมองดูฉากนี้อย่างอายๆ และชำเลืองมองผู้คนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว ด้วยลักษณะท่าทางของคู่ลุงอ้วนกับภรรยาของเขา คาดว่าคงไม่เกิดขึ้นกับคู่ของเธอและเย่โม่เซิน
“น้องสาวอย่าไปสนใจเขาเลย เขาเป็นคนพูดไม่เป็น ตอนที่ฉันอยู่กับเขา ปากโง่ๆของเขาก็ไม่ค่อยทำให้ฉันพอใจสักเท่าไหร่ ถ้าไม่เป็นเพราะเขาเป็นคนซื่อสัตย์ ฉันคงไม่อยู่กับเขาหรอก”
ภรรยาของเขาเป็นคนมั่นใจในตัวเองดี เธอเดินมาจับมือหานมู่จื่อแล้วพูดว่า “มาเดินซื้ออะไรในซุปเปอร์มาเก็ตหรือ? เดินด้วยกันเถอะ เราก็เพิ่งจะมาถึง”
หานมู่จื่ออยู่ในห้องมาสองวันโดยไม่ได้คุยอะไรกับใคร พอได้ยินคนอื่นมาชวนเธอแบบนี้ เธอจึงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะปรายตามองเย่โม่เซินที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาไม่เห็นด้วยหรือ?จริงๆแล้วเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ถูกตามประกบก็ทำพวกเขาตกใจจะแย่อยู่แล้ว ใครจะรู้ว่าจะมาเจอกันที่ซุปเปอร์มาเก็ตแห่งนี้อีก?
พอนึกถึงเรื่องนี้ หานมู่จื่อก็ลืมนึกไปเลยว่าจะถามเขาว่าวันนั้นใครเป็นคนสะกดรอยตามเธอกันแน่?
นานขนาดนี้แล้วเขายังตรวจสอบไม่พบอีกหรือ? หรือว่าจะตรวจสอบเจอเเล้วแต่ไม่ยอมบอกเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะต้องหาเวลาถามเขาหน่อยแล้ว
คาดว่าอาจจะได้ยินเสียงพึมพำในใจเธอ จู่ๆเย่โม่เซินก็พูดด้วยความสงสาร “งั้นก็เข้าไปด้วยกันเถอะ”
ลุงอ้วนดีใจเล็กน้อยเพราะเขายังคิดว่าเย่โม่เซินผู้มีใบหน้าเย็นชาคนนี้จะตอบปฏิเสธไปตรงๆ ใครจะรู้ว่าเขาจะยอมตอบตกลง นี่ไปกินยาอะไรมา?
หานมู่จื่อดีใจแต่ก็สงสัยเล็กน้อย เธอจ้องหน้าเย่โม่เซิน “คุณตกลงจริงๆหรือ?”
ริมฝีปากเย่โม่เซินขยับราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าภรรยาของลุงอ้วนกลับจับมือหานมู่จื่อไว้แน่น จากนั้นก็ดึงเธอมาข้างๆ ในขณะนั้นก็พูดเหมือนอบรมเล็กน้อย “นี่น้องสาว เธอทำแบบนี้ไม่ได้นะ จะทำอะไรทำไมต้องถามความเห็นจากเขาด้วยล่ะ เธออยากทำอะไรก็ทำไปเลย ถ้าเขาไม่พอใจที่เธอทำแบบนี้ก็เลิกกันไปซะ”
ทันทีที่สิ้นเสียง ภรรยาของลุงอ้วนก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองด้วยความเย็นชาและแฝงไปด้วยความมุ่งร้าย แต่เธอก็ไม่ได้มีความเกรงกลัวใดๆ กลับยิ้มมุมปาก “โอ้โห เธอดูสิ คนคนนี้ดูแข็งข้อเสียจริงๆ ฉันแค่พูดออกไปแบบนั้นก็โมโหแล้ว ถ้าเธอเลิกกับเขาจริงๆ เขาคงไม่พลิกแผ่นฟ้าไปเลยล่ะ”
เขาจะพลิกแผ่นฟ้าหรือไม่ หานมู่จื่อไม่รู้ แต่ที่เธอรู้ก็คือถ้าหากเธอเลิกกับเย่โม่เซินแล้วล่ะก็ คาดว่าคนคนนี้คงจะคอยหาวิธีทรมานเธอไม่หยุด ใช้วิธีรุนแรงพวกนั้นจนกระทั่งเธอยอมอยู่เคียงข้างเขา
“น้องสาว ฉันในฐานะที่เคยผ่านโลกมาก่อน ฉันอยากจะบอกเธอว่าอย่าทำตัวว่าง่ายเกินไป มิฉะนั้นเธอจะถูกรังแกได้ในอนาคต เธอดูฉันตอนนี้สิ ไม่ว่าฉันจะพูดอะไร เขาก็ไม่กล้าต่อปากต่อคำ ถ้าฉันให้เขาไปซ้าย เธอคิดว่าเขาจะกล้าไปขวาหรือ?”
“เธอจะต้องเด็ดขาด เด็ดขาดเพื่อควบคุมเขาให้ได้ อัยหยา! ผู้หญิงอย่างเราสองคนต้องเป็นช้างเท้าหน้า พี่สาวจะสอนวิชาให้เธอเอง ”
หานมู่จื่ออับอายจนเหงื่อตก แต่พี่สาวก็ยังคงกระตือรือร้นที่สอน เธอดึงมือหานมู่จื่อเดินตลอดทางจนเธอเดินตามแทบไม่ทัน
ลุงอ้วนที่อยู่ข้างหลังหัวเราะชอบใจอยู่ข้างๆเย่โม่เซิน “เราก็รีบตามไปเถอะ”
เย่โม่เซินมองเขาด้วยความเย็นชา “ปกติคุณใช้ชีวิตแบบนี้หรือ?”
ลุงอ้วนตะลึงไปชั่วขณะก่อนจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง เย่โม่เซินกำลังหมายความว่าอย่างไร? เขาเอื้อมมือขึ้นมาเกาหัวตัวเอง สีหน้าของเขายุ่งเหยิงเหมือนขมวดปมเล็กน้อย แต่เขาก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็วและแทนที่ด้วยรอยยิ้มเรียบๆ
“ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ เป็นสามีภรรยากันแล้ว นำไปก้าวถอยหลังไปก้าวก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ? แล้วอีกอย่างถึงเธอจะชนะก็ชนะอยู่ตรงหน้าฉัน ไม่ไปไหน แล้วมันยังไงล่ะ? ถึงอย่างไรฉันก็เป็นสามีของเธอ เป็นธรรมดาที่ฉันจะต้องยอมเธอ”
เย่โม่เซินเห็นด้วยกับประโยคหลัง เขาคิดว่าตัวเองสามารถยอมหานมู่จื่อได้ แต่เขาทนไม่ได้ที่เธอไม่ต้องการให้กำเนิดลูกของตัวเอง และทนไม่ได้ที่เธอติดต่อกับผู้ชายคนอื่น
“ฉันเข้าใจ นายเองก็คงคิดว่าฉันไร้ประโยชน์ แต่ฉันมีความสุข แค่นี้ก็พอแล้ว”
ลุงอ้วนยังคงพูดต่อไป เย่โม่เซินถอนสายตาและทิ้งประโยคไว้อย่างเย็นชา “พูดมาก!”
ลุงอ้วนเดินตามมาพลางจ้องหน้าเขา “พอเห็นนายเป็นเสียแบบนี้ นายคงกำลังประสบปัญหาอยู่ล่ะสิ? ?”
เย่โม่เซินขมวดคิ้วและพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “เกี่ยวอะไรกับคุณ!”
“เกี่ยวอะไรกับฉันงั้นหรือ? พวกเราเป็นเพื่อนบ้านกันไม่ใช่หรือไง? ทั้งยังใช้ลิฟต์ตัวเดียวกันอีกนี่? การพบกันแบบนี้ล้วนเป็นโชคชะตา นายกับเมียนายมีปัญหากัน ต้องการให้ฉันบอกเคล็ดลับไหมล่ะ?
เคล็ดลับ? เย่โม่เซินยิ้มอย่างเยือกเย็น “งั้นมันคืออะไร?”
เขาจำเป็นไหม?