เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 670
บทที่ 670 เขาคือพ่อของนาย
“ระวังหน่อย”
หลังจากที่เสี่ยวหมี่โต้วลงรถ เย่โม่เซินถึงได้ปิดประตูรถ ทันทีหลังจากนั้นก็ได้คุกเข่าลงอยู่ตรงหน้าของเสี่ยวหมี่โต้วอย่างเป็นธรรมชาติมาก
“พ่ออุ้มลูกเข้าไป?”
เสี่ยวหมี่โต้วได้ถอยไปทางด้านหลังกี่ก้าว และได้พูดอย่างจริงจัง: “แม่ยังไม่ได้บอกว่าคุณคือพ่อ ดังนั้นเสี่ยวหมี่โต้วเดินด้วยตัวเองก็ได้แล้ว”
เมื่อพูดจบก็ได้ข้ามผ่านเย่โม่เซินเดินไปทางด้านหน้า
มองด้านหลังของหนุ่มน้อย เย่โม่เซินก็ประมาณว่าคาดเดาถึงความคิดของเขาได้แล้ว หนุ่มน้อยคนนี้กำลังโกรธตัวเองใช่ไหม?
โกรธที่ตัวเองได้ผ่านไปแล้ว5ปีก็ยังทำหน้าที่ของพ่อได้ไม่ดีเท่าที่ควร? ดังนั้นจึงไม่เต็มใจเรียกเขา? หรือว่าโกรธที่คืนนี้เขาได้พาเพียงตัวเขาเองเข้ามา?
คิดมาถึงตอนนี้ เย่โม่เซินก็ได้คิดถึงแววตากับท่าทางที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมก่อนหน้านี้ของหานมู่จื่อแล้ว น้อยที่สุดก็เห็นถึงเธอที่เหมือนกับวันนี้ที่ได้โกรธพูดกับตัวเองเสียงต่ำแบบนี้
ตอนนี้เมื่อคิดขึ้นมา ก็ยังคงมีความสงสารอยู่บ้างจริงๆ เพียงแต่ว่า……
เย่โม่เซินไม่ได้คิดต่อไปอีก และขาคู่ที่ตรงดิ่งก็ได้ก้าวเท้า ย่างก้าวตามเสี่ยวหมี่โต้วแล้ว
วิลล่าไห่เจียงนั้นใหญ่มาก เงาของเสี่ยวหมี่โต้วก็แทบจะถูกความมืดกลืนไปจนหมดแล้ว อีกทั้งฝีเท้าของเขายังเดินไปเร็วมาก โชคดีที่เขาเตี้ยขาสั้น มิเช่นนั้นเย่โม่เซินก็ยังคงตามเขาไม่ได้จริงๆ
“คุณอา อีกเดี๋ยวคุณอายังจะส่งเสี่ยวหมี่โต้วกลับไปไหม?
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เย่โม่เซินก็ได้ชะงักงัน หลังจากนั้นก็ได้พูด: “คืนนี้ดึกเกินไปแล้ว ฉันก็ได้บอกต่อไปที่แม่นายแล้ว คืนนี้นายจะอยู่ที่พ่อที่นี่”
ฝีเท้าของเสี่ยวหมี่โต้วได้หยุดลง และเป็นชั่วขณะที่เสี่ยวหมี่โต้วรู้สึกว่าลมหายใจได้หยุดไปแล้วครู่หนึ่ง หนุ่มน้อยคนนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่เต็มใจแล้วใช่ไหม?
เสี่ยวหมี่โต้วบิดหัวกลับ และได้มองเย่โม่เซินไว้อย่างจริงจัง
“คุณอา แม่ของฉันรับปากแล้วเหรอ?”
ในค่ำคืนที่ได้เผชิญหน้ากับหนุ่มน้อยที่เหมือนกับสัตว์ป่าตัวน้อยที่มีดวงตาที่จริงจังอีกทั้งเปียกชื้น คาดไม่ถึงว่าเย่โม่เซินจะรู้สึกว่าตัวเองมีความใจอ่อนอยู่หน่อย เดิมทีก็ไม่กล้าไปเผชิญหน้ากับดวงตาของหนุ่มน้อยคนนี้
ด้วยเหตุนี้เย่โม่เซินจึงได้หลบสายตาของเสี่ยวหมี่โต้ว และได้ยิ้มและพูดอย่างจืดจาง
“แน่นอน หากว่าแม่ของนายไม่รับปาก ฉันจะพาลูกออกมาได้ยังไง?”
หัวเม็ดแตงของเสี่ยวหมี่โต้วได้เอียงไปเอียงมา นิ้วมือก็ได้ตั้งขึ้นมาแล้วครู่หนึ่ง: “ก็ใช่นะ ถ้าเช่นนั้นคุณอา……อีกเดี๋ยวฉันต้องการวิดีโอกับแม่ ฉันสามารถยืมโทรศัพท์ครู่หนึ่งได้ไหม?”
เมื่อได้ยินเขาพูดว่าอยากยืมโทรศัพท์ เย่โม่เซินก็ขานรับทันที
“แน่นอนว่าได้”
เกือบจะคือทันที เย่โม่เซินก็นำโทรศัพท์ของตัวเองส่งขึ้นไป เหมือนกับมอบของล้ำค่ายังไงยังงั้น
เมื่อเห็นถึงหนุ่มน้อยได้ยื่นมือเล็กๆนุ่มๆออกมาดึงโทรศัพท์ไปแล้ว อารมณ์ของเย่โม่เซินก็ยิ่งลุ่มลึกมากขึ้นเล็กน้อย
“ขอบคุณครับคุณอา”
เสี่ยวหมี่โต้วดีใจแล้ว จากนั้นก็ได้หมุนตัววิ่งแต้นเข้าไปในห้อง
นี่คือความรู้สึกประเภทหนึ่งแบบไหนล่ะ?
เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ที่คิดว่าเด็กคนนี้เป็นลูกที่เกิดออกมาจากมู่จื่อกับสามีคนก่อน เขาก็พูดโน้มน้าวใจตัวเองเป็นเวลานานมาก ถึงได้ยอมรับเด็กคนนี้
แต่เมื่อหลังจากที่ได้พบ ก็คาดไม่ถึงว่าจะได้พบว่าเด็กคนนี้……เป็นเลือดเนื้อของตัวเอง
และมีหน้าตาที่เหมือนกับตัวเองไม่มีผิดเพี้ยน นอกจากเป็นของเขาแล้ว ยังมีใคร?
เดิมทีก็ควรดีใจจนแทบบ้า ถึงอย่างไรเสียนี่ก็คือเลือดเนื้อของตัวเองไม่ใช่เหรอ?
แต่ว่า……มีความสุข แต่ที่มากกว่าคือความโกรธ
เห็นได้ชัดว่าเป็นเลือดเนื้อของตัวเอง แต่ว่าเขากลับถูกปิดบังมาแล้ว5ปีเต็ม
5ปี……ในชีวิตคนเราจะมี5ปีกี่ครั้ง?
เย่โม่เซินยืนงงอยู่ตรงที่เดิม ในหัวก็ได้กะพริบผ่านตอนที่ผู้หญิงคนนั้นดึงได้แขนเสื้อขอร้องเขา ตรงหัวใจแน่นอนว่าคือเจ็บ ผู้หญิงที่ตัวเองสละชีพจีบมา
หากว่าได้ แน่นอนว่าเขาคือจะเก็บเข้ามาในอ้อมอกรักและเอ็นดูอย่างดี
แต่ภายใต้สถานการณ์ตอนนี้ ในใจของเขาก็ยุ่งเหยิงมากจริงๆ
ตอนที่กำลังคิดไตร่ตรอง ในห้องก็มีเสียงลมหายใจของเสี่ยวหมี่โต้วส่งมา
“คุณอา รหัสสัญญาณมือคืออะไรเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้เย่โม่เซินก็ได้สติกลับมา และได้พูดตอบกลับ: “ตัวZตัวเดียว”
เสี่ยวหมี่โต้วขีดตัวZแล้ว ในที่สุดโทรศัพท์ก็ได้ปลดล็อก หน้าจอโทรศัพท์ของเย่โม่เซินกระชับมาก นอกจากการทำงานกับแอพกี่ตัวที่ได้ติดตั้งแล้ว พวกความบันเทิงก็ล้วนไม่มี
กวาดตามองไปกลับทีหนึ่ง เสี่ยวหมี่โต้วก็ได้ถอนใจอยู่ในใจด้วยความจนปัญญา
เป็นผู้ชายที่ไม่น่าสนใจคนหนึ่งจริงๆนะ
ในโทรศัพท์มีเพียงการทำงาน ถ้าเช่นนั้น5ปีก่อนเขาคือผ่านมาได้ยังไงกันล่ะ? ตามผลของการตรวจสอบ ภายใน5ปีที่ผ่านไปของเย่โม่เซิน ผู้หญิงข้างกายสักคนก็ไม่มีนี่
หากว่าไม่ใช่มองว่าเขาอยู่บนสถานะที่สมบูรณ์ไร้ที่ติ เสี่ยวหมี่โต้วก็จะไม่ให้แม่อยู่ด้วยกันกับเขาต่ออีกล่ะ
เมื่อกดเข้าวีแชท การสนทนาด้านบนสุดคือแม่ของตัวเอง เสี่ยวหมี่โต้วได้อยู่บนโซฟาหาอิริยาบถที่สบายซ่อนลงมาแล้ว หลังจากนั้นก็เริ่มรื้อค้นโทรศัพท์ของเย่โม่เซิน
และได้พบว่าในวีแชทของเขานอกจากแม่แล้วก็ไม่มีช่องทางการติดต่อของผู้หญิงคนอื่นแล้ว
เชอะ ก็นับว่าเขารู้จักเอาตัวรอด!
เสี่ยวหมี่โต้วได้ส่งเสียงไม่พอใจอยู่ในใจ หลังจากนั้นก็ได้กดเข้าไปในกล่องสนทนาของหานมู่จื่อ จากนั้นก็ได้เชิญวิดีโอให้กับหานมู่จื่อแล้วตรงๆ
หานมู่จื่อได้พักอยู่คนเดียวในห้องและได้นั่งเงียบๆไว้ ทันใดนั้นก็ได้รู้สึกถึงโทรศัพท์ได้สั่นไปแล้วครู่หนึ่ง เมื่อก้มหัวมองก็เป็นเย่โม่เซินส่งการเชื้อเชิญวิดีโอเข้ามา
ในเวลานี้เย่โม่เซินส่งการเชิญวิดีโอให้เธอมีกี่ความหมาย?
หรือว่าเขาได้คิดได้แล้ว? เมื่อคิดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อก็ได้กดรับการเชิญ ในชั่วพริบตาที่ได้กดตอบรับวิดีโอ หานมู่จื่อก็รู้สึกถึงอัตราการเต้นของใจตัวเองที่เร็วมากขึ้น
บนหน้าจอโทรศัพท์ค่อยๆปรากฏเรือนร่างหนึ่ง ซึ่งเหมือนกับเย่โม่เซินไม่มีผิด แต่……กลับไม่ใช่เย่โม่เซิน
“เสี่ยวหมี่โต้ว?”
“แม่!”
ในชั่วพริบตานั้นที่เสี่ยวหมี่โต้วเห็นถึงหานมู่จื่อ บนใบหน้าชั่วพริบตาก็ได้ปรากฏรอยยิ้มโง่ๆออกมาแล้ว: “คิดถึงฉันแล้วไหม?”
คิดถึงเขาแล้วไหม?
เอ่อ หานมู่จื่อได้มองเขาทีหนึ่งอย่างจนปัญญา: “นายเพิ่งจะจากไปได้นานแค่ไหน ก็ถามว่าฉันคิดถึงนายแล้วหรือยัง?”
“เชอะ แม่พูดแบบนี้ได้ยังไง? แม่คือไม่รักเสี่ยวหมี่โต้วแล้วใช่ไหม? เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวหมี่โต้วได้จากไปนานมากแล้ว อีกทั้งเสี่ยวหมี่โต้วก็คิดถึงแม่มาก แต่ว่าคาดไม่ถึงว่าแม่จะไม่คิดถึงเสี่ยวหมี่โต้ว”
หานมู่จื่อ:“……”
เธอได้ไอเบาๆเสียงหนึ่ง หลังจากนั้นก็ได้พูดอธิบาย: “ไม่มีนี่ แม่เพียงแค่รู้ว่านายไปไหน ดังนั้นถึงได้วางใจไง ไม่ใช่ไม่คิดถึงนาย”
เสี่ยวหมี่โต้วได้ยกลูกตาดำขึ้นและแววตาก็ได้มองไปยังเลนส์กล้องทางด้านนั้นของหานมู่จื่อที่อยู่ไกลลิบๆ มุมสายตาทั้งหมดก็ได้เห็นถึงเย่โม่เซินกำลังเดินเข้ามาจากตรงประตูพอดี ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้เปิดปากถาม
“คุณอาคนนั้นบอกว่าเป็นแม่รับปากให้เขาพาฉันกลับบ้าน เป็นเรื่องจริงไหม? แม่?”
หานมู่จื่อได้ชะงักงันไปแล้วครู่หนึ่ง เธอรู้ว่าคุณอาที่ออกจากในปากของเสี่ยวหมี่โต้วคือใคร ที่จริงตอนที่เย่โม่เซินพาเสี่ยวหมี่โต้วไปเรื่องทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้บอกกับเธอเลย ดังนั้นรอตอนที่เธอมีปฏิกิริยาตอบโต้เข้ามาเสี่ยวหมี่โต้วก็ไม่อยู่ในบ้านแล้ว
“ยังมียังมี แม่……ทำไมคุณอาถึงมีหน้าตาเหมือนกับฉันไม่มีผิด เขาบอกว่าเขาคือพ่อของฉัน จริงไหม?”
เย่โม่เซินเดินไปถึงประตู มองเห็นหนุ่มน้อยอุ้มโทรศัพท์นั่งอยู่ตรงนั้น ก้อนเล็กๆก้อนหนึ่ง ตอนที่หนุ่มน้อยคุยโทรศัพท์ก็ได้มีน้ำเสียงหน่อมแน้ม ที่สวมใส่บนตัวก็คือเสื้อเชิ้ตสีขาว ทำให้คนรู้สึกถึงก้อนข้าวเหนียวนุ่มประเภทหนึ่ง ก็เหมือนกับเป็นก้อนใยฝ้ายก้อนหนึ่ง
มองฉากแบบนี้ไว้ เย่โม่เซินก็รู้สึกว่าในใจคล้ายกับได้ฉาบไปด้วยน้ำผึ้งแล้ว
แต่ว่าวินาทีถัดไปเพราะว่าคำพูดของเขาและได้ตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว
หากว่ามู่จื่อไม่ยอมรับ ถ้าเช่นนั้นหนุ่มน้อย……ก็จะไม่ยอมรับพ่อคนนี้อย่างเขาแล้ว?
เย่โม่เซินได้กลั้นหายใจไว้ และรออย่างสงบเงียบ
ก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เย่โม่เซินก็ได้ยินถึงเสียงที่อ่อนโยนของผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้เปิดปากพูด
“อืม เขาคือพ่อของลูก”