เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 689
บทที่ 689 ทำให้ดีที่สุด
“นายกำลังโทษว่าเป็นเพราะเธอไม่เชื่อใจนายใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่โม่เซินก็หลบสายตา ก่อนจะปรากฏรอยยิ้มขมขื่นขึ้นมาเล็กน้อย
“ผมจะไปโทษเธอได้ยังไง? ตอนนั้นเป็นผมเองที่ไม่เชื่อใจ แล้วผมจะขอให้เธอเชื่อใจผมให้มากขึ้นได้ยังไง?” หานชิงมองเขาที่แววตาเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง
“ดูเหมือนว่านายค่อนข้างจะรู้ตัวเองดีเลยนะนายถึงรู้ว่าระหว่างพวกนายไม่มีความเชื่อใจกันและกัน แต่ทำไมถึงยังต้องมายุ่งกับเธอกันอีก แถมไม่แน่ว่านายอาจจะทำผิดซ้ำรอยเดิมเมื่อห้าปีที่แล้วก็ได้นี่?”
เย่โม่เซินเงยหน้าขึ้นมามองด้วยแววตามุ่งมั่น เขาจึงได้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความสงสัยของหานชิงโดยตรง “ไม่แน่นอนครับ เวลาห้าปีในชีวิตของนายและมู่จื่อมันมากขนาดนี้ ไม่คิดว่าตัวเองจะเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆเหรอ?”
หานชิงพูดขึ้นอย่างเย็นชา
“ใครจะไปรู้ล่ะ? เพราะครอบครัวนายมันทำให้อารมณ์ของนายมันผิดเพี้ยนไปอย่างง่ายๆ อีกอย่างนายต้องการทรมานมู่จื่อลูกสาวของตระกูลหานด้วย เพราะงั้นฉันไม่ยอมให้เธอแต่งงานกับนายง่ายๆแน่”
“แล้วอะไรที่ทำให้คุณไม่ยอมให้เธอแต่งงานกับผมล่ะครับ?”
หานชิงขมวดคิ้วและมองไปที่เย่โม่เซินด้วยความไม่พอใจ ในขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาของเย่โม่เซินกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สงบและดวงตาก็เต็มไปด้วยความสบายใจจนดูเหมือนว่าเย่โม่เซินไม่กลัวหานชิงเรื่องไม่เห็นด้วย
“เย่โม่เซิน อย่ามาล้อเล่นแถวนี้อีก ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อพูดคุยเรื่องแต่งงานของนายกับมู่จื่อ แต่ฉันมาเพื่อเตือนให้นายห่างจากมู่จื่อซะ”
เย่โม่เซินยิ้มจางๆ “อย่างไรก็ตามคุณก็รู้ว่านี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เราไม่มีทางเลิกกัน หากไม่มีกันและกันทั้งชีวิตนี้ของเราคงต้องตายอย่างโดดเดี่ยวไปเท่านั้น”
ในตอนนี้คำพูดของเย่โม่เซินหยุดลงชั่วขณะและเขาก็เหลือบตามองอย่างอยากรู้อยากเห็นไปที่หานชิง
“ถึงแม้คุณจะเป็นพี่ชายแถมตัวเองยังไม่อยากแต่งงาน แล้วยังคิดจะดึงน้องสาวให้อยู่เป็นเพื่อนแล้วอยู่อย่างโดดเดี่ยวจนแก่เหรอครับ?”
หานชิง: “……”
สิ่งนี้ทำให้เขาโกรธจนทำให้ดวงตาฉายแววความไม่พอใจ
“คุณต้องการทำลายความรัก แต่คุณขอร้องน้องคุณไม่ได้ใช่ไหม?”
หานชิงมองไปอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะค่อยๆกำมือเข้าหากันแน่น
“ใครบอกว่าฉันอยากจะขัดขวางความรักกัน?”
“ถ้าไม่ใช่ต้องการจะขัดขวางความรักของน้องสาวตัวเอง งั้นคุณก็ไม่ควรมาขวางแบบนี้ เพราะแค่ห้าปีสำหรับเรามันก็เพียงพอที่จะยืนยันได้มากพอแล้ว”
หานชิงขมวดคิ้วมุน แม้ว่าเขาจะไม่พอใจกับชายหนุ่มนามว่าเย่โม่เซินเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาตอนนี้นั้นถูกต้อง มู่จื่อกับเขาแยกจากกันไม่ได้จริงๆ ทั้งชีวิตเขาอาจจะไม่ตกหลุมรักใครได้อีกและนั่นทำให้พวกเขาจะต้องตายอย่างเพียงลำพัง
เขาคิดหาทางให้น้องสาวเขาคืน จากนั้นก็อยู่เคียงข้างกันต่อไป
แม้ว่าเธอจะไม่ได้แต่งงานและต้องอยู่ในตระกูลหานไปตลอดชีวิต แต่นั่นก็ไม่ได้สำคัญอะไร เขาสร้างรายได้เองได้ และสามารถสนับสนุนเธอและเสี่ยวหมี่โต้วไปตลอดชีวิตได้
เธอต้องการอะไร อยากทำอะไรเขาจ่ายได้ทุกอย่างที่ต้องการ
หากเธอยืนยันที่จะแต่งงานกับใครสักคน หานชิงรู้สึกว่าเธอจะพบคนที่สามารถไว้วางใจและจัดการดูแลภายใต้การควบคุมของเขาเอง และเป็นคนที่ไม่กล้าจะมีใจให้กับหญิงอื่น และไม่กล้าที่จะทำตัวร้ายกาจใส่เธอ
เพราะอย่างน้อยเขาก็รับมือได้
แต่มันต้องไม่ใช่เย่โม่เซิน
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขามีรูปร่างหน้าตาดี แต่ในเมืองเป่ยนี้ที่ถึงแม้ว่าตระกูลหานจะเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่โต แต่หากเขาเผชิญหน้ากับตระกูลเย่เข้า เกรงว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมเย่โม่เซินได้เลย
นอกจากนี้พวกเขาสองคนเคยมีอดีตบาดหมางกันมาก่อน ดังนั้นหากให้น้องสาวเขาแต่งกับเย่โม่เซิน เขาในฐานะพี่ชายจะสบายใจได้ยังไงกัน?
“หน้าจอทั่วทั้งถนนกำลังจับจ้องมาเพื่อให้ทุกคนรู้ว่าเธอกำลังจะกลายเป็นภรรยาของผม”
เหอะ——
หานชิงหัวเราะออกมาดังๆในใจ และเย่โม่เซินก็หยิบซองกระดาษสีน้ำตาลข้างตัวเขาออกมา และกล่าวด้วยเสียงทุ้มก่อนจะวางลงตรงหน้าของหานชิง
“แน่นอนว่านี่คือทั้งหมดของความจริงใจจากผมเอง”
จริงใจจริงหรือ?
หานชิงมองไปที่ซองสีน้ำตาลนั้นสักพัก จากนั้นจึงหยิบมันออกมาแล้วเปิดดูข้างใน
เมื่อเขาเห็นประโยคเกี่ยวกับการโอนหุ้นแล้ว หานชิงรู้สึกว่าคิ้วของเขากระตุกอย่างแรง เกิดการคาดเดาขึ้นภายในใจว่าเป็นไปได้ไหมที่เย่โม่เซินจะโอนหุ้นบางส่วนของบริษัทตระกูลเย่?
ให้มู่จื่อ?
เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้ข้อนี้ หานชิงจึงเหลือบตามองไปที่เย่โม่เซิน
ว่ากันตามฐานะของตระกูลเย่ในเมืองเป่ยนี้ ถ้าเขาเต็มใจจะแบ่งหุ้นให้กับมู่จื่อจริงๆนั่นแปลว่าเขาจริงใจจริงๆ
ยิ่งเขามองย้อนกลับมา ยิ่งทำให้หานชิงรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นเมื่อเขามองดูสัญญาทั้งหมดเข้า เย่โม่เซินยิ้มและยื่นปากกาด้ามทองให้ “ให้พยานลงนามครับ”
เขามองค้างที่ปากกาด้ามนั้น ก่อนจะมองความเจ็บปวดที่ปรากฏออกมา จนทำให้หานชิงรู้สึกสงสัยในสัญญาที่อยู่ตรงหน้าฉบับนี้เข้า
“อย่าสงสัยเลย สัญญาฉบับนี้เป็นของจริง ถ้าคุณไม่เชื่อโทรถามทนายผมตอนนี้ได้เลย”
หานชิงเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เขา
เย่โม่เซินยิ้มเล็กน้อย
“คุณเห็นถึงความจริงใจของผมบ้างยังครับ? พี่เขย?”
หานชิง:“……”
หานชิงกัดฟันแน่นและพูดว่า “ใครคือพี่เขยนาย? อย่าพูดพล่อยๆ!”
“ตะโกนทำไมล่ะครับ?” เย่โม่เซินยกยิ้ม “เมื่อผมแต่งงานกับมู่จื่อ ถึงคุณไม่อยากจะเป็นคุณก็ต้องเป็นอยู่ดี”
หานชิงหลับตาข่มความโกรธที่เย่โม่เซินกำลังโจมตีเขาอยู่ หลังจากนั้นเขาจึงเงยหน้าขึ้นจ้องไปยังชายที่อยู่ตรงข้ามเขา “เธอเห็นหรือยัง?”
เมื่อได้ยินดังนั้นเย่โม่เซินก็เลิกคิ้ว “ไม่จำเป็นครับ เพียงแค่เธอแต่งงานกับผม ผมไม่ได้ต้องการให้เธอถูกกดดันในแง่แบบนี้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หานชิงก็กลับมองเขาด้วยความชื่นชมเล็กน้อยและรู้ว่าจะซ่อนเรื่องของวันนี้ไม่ให้มู่จื่อได้รับรู้
“ถ้านายบอกให้เธอรู้ว่านายให้เธอถือหุ้นทั้งหมด เธอจะกล้าแต่งงานกับนาย”
“ดูเหมือนพี่เขยจะยอมให้เราสองคนแต่งงานกันเลยนะครับ”
เมื่อได้รับคำตอบที่ต้องการ เย่โม่เซินก็ยืนขึ้นก่อนจะยกยิ้มด้วยความพอใจ “ถ้างั้นผมไม่รบกวนแล้วครับ”
หานชิงตกตะลึงไปชั่วครู่เพราะตัวเองยังไม่ได้ตอบตกลงอะไรไปเลย แต่เย่โม่เซินกลับหยิบกุญแจรถออกไปแล้ว ใบหน้าของหานชิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อเขาต้องการเก็บสัญญาที่ยังอยู่บนโต๊ะเพราะกลัวว่าคนอื่นจะถือออกไป ก่อนจะก้มลงมองเอกสารสัญญาที่อยู่ในมือพลันดวงตาของหานชิงก็ค่อยๆซับซ้อนขึ้น
เย่โม่เซินให้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดแก่มู่จื่อ
ตราบใดที่มู่จื่อใช้นามสกุลเย่อย่างถูกต้องตามกฎหมายและหุ้นครึ่งหนึ่งของเย่โม่เซินก็จะถูกโอนให้เธอโดยตรง แต่ถ้าหากทั้งสองคนหย่าร้างกันกลางคันหรือมีอะไรเกิดขึ้นหุ้นของเย่โม่เซินและทรัพย์สินทั้งหมดภายใต้ชื่อของเธอจะเป็นของหานมู่จื่อทั้งหมด
หรือกล่าวอีกนัยคือถ้าทั้งสองหย่าร้างกันเย่โม่เซินจะไม่ได้รับอะไรเลย
แม้แต่เงินแดงเดียว โอ้ไม่สิ….. ไม่ใช่แค่เงินแดงเดียว แต่แม้สักนิดก็ไม่ได้รับเลย
ที่เขาสบายใจได้ขนาดนี้เป็นเพราะเย่โม่เซินทุ่มไปทุกอย่างแล้วและไม่กลัวคำปฏิเสธพี่ชายอย่างเขาเลย
หานชิงถอนหายใจเฮือกใหญ่
มู่จื่อนะมู่จื่อ ทำไมเธอถึงมีชีวิตยากขนาดนี้?
ถ้าไม่ใช่เพราะความเสน่หาจะมีชายหนุ่มคนไหนจะยอมเอาทรัพย์สินทั้งหมดของตัวให้หญิงสาวต่อหน้าแบบนี้?
ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่ให้เธอรู้เรื่องราวนี้ด้วย