เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 713
บทที่713 เขาอาจไม่ได้อยู่ที่นี่
ซูจิ่วได้ยินก็พูดย้อนกลับไป:“ใช่แล้วคุณมู่จื่อ คุณเย่ฉลาดขนาดนั้น ต้องสามารถเปลี่ยนเรื่องร้ายกลายเป็นดีได้แน่นอน”
ถึงอย่างไรคำพูดปลอบโยนเหล่านี้ สำหรับหานมู่จื่อแล้วไม่ได้ช่วยได้มากสักเท่าไหร่
“ คุณมู่จื่อไม่ได้กินอะไรมานานแล้วหรือเปล่า?สีหน้าดูไม่ดีเลย ดื่มน้ำร้อนให้ชุ่มคอก่อน แล้วค่อยทานข้าวเสียหน่อย”
หานมู่จื่อไม่มีความอยากอาหารเลยแม้แต่น้อย แม้กระทั่งตอนดื่มน้ำยังรู้สึกอึดอัดในอก
เธอในตอนนี้ รู้สึกเหมือนมีลมหายใจคาอยู่ที่อก หายใจเข้าออกไม่ได้
ค้างคาอยู่อย่างนั้น ติดขัดอยู่ตลอด
อึดอัดที่สุด
เธอเม้มริมฝีปากซีดไม่ได้พูดตอบ
ซูจิ่วมองไปที่หานชิง คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า“คุณมู่จื่อถึงไม่อยากกิน ก็ต้องนึกถึงร่างกายของตัวเองบ้างนะ คุณคิดดู……ถ้าคุณไม่กินไม่ดื่มแล้วป่วยขึ้นมา ถึงเวลานั้นจะตามหาคุณเย่ได้ยังไงล่ะ?”
ประโยคนี้เตือนสติหานมู่จื่อ
เธอเงยหน้าขึ้นมองไปที่ซูจิ่ว
เธอพูดถูก ถ้าตัวเธอไม่กินไม่ดื่มเป็นลมล้มพับไป เธอจะไปตามหาเย่โม่เซินได้ยังไง?
ไม่ได้ เธอจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เธอจะต้องกินอาหารเติมพลัง แล้วไปตามหาเย่โม่เซิน
คิดมาถึงตรงนี้ หานมู่จื่อก็ก้มศีรษะลงดื่มน้ำ
เห็นฉากนี้ จิตใจที่เอาแต่แขวนอยู่ของหานชิงก็ผ่อนคลายลงในที่สุด
แบบนี้…..ก็ดี
โกหกเธอไปก่อน ขอแค่ร่างกายเธอไม่เป็นอะไร ส่วนเรื่องอื่น ก็ค่อยเป็นค่อยไป
เพราะระยะห่างไม่ได้ไกลมากนัก เครื่องบินบินไปได้ประมาณสามชั่วโมง ก็ไปถึงที่หมาย
ตอนที่ลงจากเครื่องบิน หานมู่จื่อเกือบจะหมดแรงล้มลงไปข้างหน้า โชคดีที่ซูจิ่วที่อยู่ด้านข้างตาเร็วมือไวคว้าเธอไว้ หานชิงตัดสินใจอย่างฉับพลันแล้วก้าวไปข้างหน้า“เธอร่างกายไม่แข็งแรง ฉันจะแบกเธอไป”
บนตัวเธอยังคงสวมใส่ชุดแต่งงานที่ไม่ได้เปลี่ยน ระหว่างทางจึงดึงดูดความสนใจของผู้คนไม่น้อย หานมู่จื่อดึงเสื้อสูทบนตัวไว้แน่น ถอนหายใจสองสามครั้งแล้วส่ายหัว
“ไม่ต้องหรอก เมื่อกี้ฉันแค่นั่งนานเกินไป ก็เลยเวียนหัวเท่านั้นเอง พี่ เลขาฯ ซู ฉันไม่เป็นอะไร พวกเธอไม่ต้องเป็นห่วง”
เธอยังต้องไปตามหาเย่โม่เซิน ตราบใดที่ยังหาเขาไม่เจอ เธอจะล้มลงไม่ได้
“ไม่มีปัญหาแน่นะ?” หานชิงมองเธอแล้วถามขึ้น
หานมู่จื่อส่ายหัว“ไม่เป็นอะไร”
จากนั้นเธอก็ยกกระโปรงเดินไปข้างหน้า เนื่องจากชุดแต่งงานเป็นแบบสั่งทำ กระโปรงจึงยาวเป็นพิเศษ ก้าวเดินไม่สะดวกอย่างมาก เมื่อเดินมาถึงจุดที่ไม่มีคน หานมู่จื่อก็ย่อตัวลง ดึงกระโปรงขึ้นมาผูกเป็นปมไว้ตรงน่องขา แล้วจึงยกมันเดินต่อไป
ถ้าแบบนี้ ก็สะดวกขึ้นเยอะ
เนื่องจากสนามบินมีระยะทางห่างจากจุดเกิดเหตุไกลพอสมควร ดังนั้นหลังพวกเขาลงจากเครื่องบินแล้วยังต้องนั่งรถ เปลี่ยนต่อไปอีก ประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าถึงไปถึงที่เกิดเหตุ
ในตอนที่พวกหานมู่จื่อมาถึงสถานที่เกิดเหตุ ก็เป็นเวลามืดค่ำแล้ว
เพราะที่นี่เกิดเรื่องขึ้น เดิมทีจะต้องปิดล็อกไว้ แต่เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างห่างไกลผู้คน ดังนั้นทางการจึงไม่ได้ปิดกั้นที่นี่
ในตอนที่หานชิงพาหานมู่จื่อมาถึงสถานที่ ก็พบว่าคนจากทางการหลายคนยังคงปฏิบัติงานกู้ภัยในเวลากลางคืน หลังจากเห็นพวกหานชิง คนหนึ่งในนั้นก็พูดขึ้น “ที่แห่งนี้กระแสน้ำไหลเชี่ยว จะดีที่สุดถ้าพวกคุณไม่เข้าใกล้”
เขาเห็นบนตัวหานมู่จื่อสวมใส่ชุดแต่งงาน จึงนึกว่าเธอมาที่นี่เพื่อถ่ายภาพแต่งงาน
ถึงยังไงคนหนุ่มสาวสมัยนี้ เวลาถ่ายรูปแต่งงานมักจะชอบไปที่ทะเล ถ่ายรูปเอนตัวบนชายหาดไม่ก็โขดหิน แต่ว่าการกระทำแบบนี้…..ตามจริงแล้วเป็นอันตรายอย่างมาก
เขาจึงพูดเพิ่มเติมอีกว่า “ถ้าจะถ่ายรูปก็เปลี่ยนวันเถอะ ที่นี่พวกเรากำลังทำงานกู้ภัยกัน อีกอย่างพวกคุณอย่ามาถ่ายรูปในสถานที่อันตรายแบบนี้ดีที่สุด หากตกลงไป มันจะไม่คุ้มกับสิ่งที่ต้องสูญเสีย”
เขาเตือนด้วยความหวังดี หานมู่จื่อได้ยินคำนี้ ดวงตาก็ห้ามไม่ได้ที่จะแดงขึ้นมา
ผิวของเธอขาว ประกอบกับเหตุการณ์นี้โจมตีเธออย่างมาก สีหน้าจึงขาวซีดจนแทบจะเป็นสีโปร่งใส ขณะนี้ดวงตาเธอแดง ก็ยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ
ไฟที่สว่างขึ้นรอบด้าน มีหนึ่งดวงส่องกระทบใบหน้าของหานมู่จื่อพอดี
คนจากทางการในตอนนี้ถึงพบว่า ถึงแม้เธอจะสวมชุดแต่งงาน แต่กลับดูตกที่นั่งลำบากมาก เครื่องสำอางและทรงผมก็ดูยุ่งเหยิง ดูไม่เหมือนเจ้าสาวป้ายแดงที่จะถ่ายรูปเลยแม้แต่น้อย
หลังจากสังเกตมาถึงตรงนี้ คนจากทางการก็มองไปที่คนข้างกายเธอ ไม่มีใครถือกล้องถ่ายภาพอย่างที่คิดไว้
หรือว่า เขาเข้าใจผิดไป?
ซูจิ่วที่อยู่ด้านข้างเห็นดวงตาของหานมู่จื่อแดงก่ำ จึงออกหน้าแสดงบัตรประชาชนของตน แล้วพูดอธิบาย “สวัสดีค่ะ พวกเราไม่ได้มาเที่ยวที่นี่เพื่อถ่ายรูปงานแต่งงาน เพื่อนของพวกเราบังเอิญนั่งเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุลำนี้ เพราะฉะนั้น….”
คำพูดหลังจากนั้นเธอไม่ได้พูดต่อ อีกฝ่ายน่าจะเข้าใจความหมายของเธอแล้ว
เป็นไปตามคาด อีกฝ่ายอึ้งไปชั่วขณะ แล้วสายตาก็ไปตกลงบนตัวของหานมู่จื่ออีกครั้ง
มิน่าล่ะ…..เธอดูตกที่นั่งลำบากขนาดนี้
ในสถานการณ์นี้ ดูเหมือนตอนแต่งงานจะเกิดเรื่อง?? เพราะงั้นยังไม่ทันเปลี่ยนชุดแต่งงานก็วิ่งมาแล้ว
“เธออย่ากังวล”หานชิงจับมือของเธอ น้ำเสียงนิ่งลึก “เขาอาจจะไม่ได้อยู่ที่นี่”
หานมู่จื่อกัดริมฝีปากล่าง ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาคลออยู่ในดวงตาตลอด
“สามารถ…..เดินไปดูได้ไหม? ”
คนของทางการดูท่าทางของเธอ ดวงตาแดงก่ำน้ำตาคลอเบ้า ถามออกมาด้วยความกล้ำกลืนอย่างยิ่ง เหมือนกับว่าในใจมีความเจ็บปวดและโศกเศร้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในช่วงเวลานั้นทนไม่ได้ที่จะปฏิเสธ ได้เพียงพยักหน้า
“ได้ ผมพาคุณไปดูแล้วกัน พวกคุณตามผมมา คนอย่าเยอะเกินไป”
หานชิงหันกลับมาพูดกับซูจิ่ว “พวกเธอรออยู่ที่นี่”
ซูจิ่วตอบรับทันที “ได้ค่ะประธานหาน”
หานชิงพร้อมกับหานมู่จื่อเดินตามคนของทางการไปข้างหน้า ในที่เกิดเหตุมีตำรวจหลายคน ทีมค้นหากู้ภัย รวมถึงผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคน เห็นคนของทางการนำหญิงสาวสวมชุดแต่งงานพร้อมหญิงสาวในชุดสูทเข้ามา ก็ถามขึ้นด้วยความไม่พอใจ
“มันเรื่องอะไรกัน? ถึงจะไม่ได้ปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุ แต่ที่นี่ก็ให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาไม่ได้”
ชายคนนั้นออกหน้าพูดกระซิบกับเขาอยู่สองสามคำ ชายที่พูดก็ขมวดคิ้ว แล้วสายตาก็เลื่อนมาที่ตัวหานมู่จื่อกับหานชิง ในตอนท้ายจึงพูดขึ้น “ต่อให้ญาติของพวกคุณอยู่ข้างในเครื่องบินที่ตก แต่พวกคุณก็เข้ามาที่นี่ไม่ได้ ผืนทะเลแห่งนี้ไม่ปลอดภัย คนในทีมค้นหากู้ภัยต่างก็ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก นับประสาอะไรกับพวกคุณ”
คำพูดนี้ เปรียบเหมือนเข็มทิ่มแทงใจของหานมู่จื่ออย่างไม่ต้องสงสัย
หน้าของเธอซีดเซียวยิ่งขึ้น ร่างผอมบางก็ดูสั่นเทาภายใต้แสงไฟสลัว
“พวกเราพบผู้รอดชีวิตได้สำเร็จแล้วจำนวนหนึ่ง ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดแล้ว บางที…..พวกคุณลองไปดูหน่อยก็ได้”
คงเป็นเพราะเห็นหานมู่จื่อเป็นแบบนี้ สุดท้ายทนไม่ได้ คนคนนั้นจึงพูดเตือนไป
ไปโรงพยาบาลใกล้เคียงเหรอ?
หานมู่จื่อมองคนคนนั้นอย่างแทบจะวิงวอน
“อย่างงั้นรบกวนถามหน่อย สามีของฉันสูงประมาณร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร เขาจะรีบไปที่งานแต่งงาน บนตัวน่าจะสวมใส่ชุดสูทแต่งงาน”
พูดจบ หานมู่จื่อเหมือนจะคิดอะไรได้ รีบร้อนหยิบรูปถ่ายในโทรศัพท์ออกมาส่งให้อีกฝ่ายดู