เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 717
บทที่717 หลบหนี
ครืน——
สายฟ้าดูเหมือนจะกลืนไปครึ่งฟ้า
คนที่นอนอยู่บนเตียงเมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้องขึ้นก็เลิกผ้าห่มลุกขึ้นนั่งทันที
ไฟในห้องถูกปิดไปหมดแล้ว ดูเหมือนจะเห็นร่างหนึ่งลุกขึ้นจากเตียงแล้วก็เดินออกไปในความมืดมิด เมื่อเดินไปถึงประตูก็คลำอยู่ชั่วครู่ ท้ายสุดก็เปิดประตูออก
ไฟทางเดินทำให้ภายในห้องสว่างขึ้น ในเวลาเดียวกันก็สว่างจนเห็นเป็นใบหน้าที่เครื่องสำอางแต่กลับดูเปล่งประกายของหานมู่จื่อ
เพียงแค่เธอก้าวเท้าออกไปด้านนอก ก็มีชายสองคนขวางไว้ที่ด้านหน้าของหานมู่จื่อ
“คุณหาน!”
หานมู่จื่อมองหน้าชายทั้งสองอย่างแปลกใจ ริมฝีปากขาวซีดขยับ: “พวกนาย…..”
“ด้านนอกไม่ปลอดภัย ประธานหานจึงสั่งให้พวกผมมาคอยเฝ้าด้านหน้าห้องของคุณมู่จื่อเพื่อคอยปกป้องครับ”
ปกป้องอย่างนั้นเหรอ?
หานมู่จื่ออดไม่ได้ที่จะกระตุกยิ้มแววเย้ยขึ้น: “ปกป้องหรือคอยจับตามองฉันกันแน่? ”
คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของชายทั้งสองแปรเปลี่ยนเป็นลังเล หันมองหน้ากันก่อนที่คนการจับตามองก็คือการปกป้องคุ้มครอง
การมาจับตามองเธอ ไม่ให้เธอออกไปด้านนอกที่ตอนนี้พายุเข้าฝนตกกระหน่ำแบบนี้ ถ้าหากเธอออกไปตอนนี้หล่ะก็จะต้องบาดเจ็บแน่นอน แต่ว่า…..
หานมู่จื่อกัดริมฝีปากของตัวเองก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ตอนนี้ต้องให้ฉันไป ฉันมีเรื่องต้องออกไปทำ”
ชายหนุ่มทั้งสอง: “…….”
“ขอโทษนะครับคุณมู่จื่อ ประธานหานได้สั่งกำชับให้พวกผมเอาไว้แล้วว่า ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น คุณต้องอยู่ในที่พักของคุณไม่ให้ออกไปไหน”
“ถ้าฉันจำเป็นต้องออกไปหล่ะ? ”
“บอกเหตุผลครับ คุณมู่จื่อ ด้านนอกมืดมาก ทั้งยังฝนตกหนัก ถ้าหากคุณออกไป จะต้องมองไม่เห็นทางแน่ๆ ”
“……”
สิ่งที่ชายคนนั้นพูดทำเอาหัวใจของหานมู่จื่อจมดิ่ง
เส้นทางมันยากจะเดินทางอย่างนั้นเหรอ?
“ถอยออกไป! ” จู่ๆหานมู่จื่อก็ยกมือขึ้นผลักชายตรงหน้าให้ถอยออกไป ทำให้พวกเขาถึงกับผงะไป จากนั้นก็เดินออกไป
“คุณมู่จื่อ! ”
เมื่อทั้งสองได้สติ ก็สาวเท้าตามไปขวางเธอเอาไว้
“คุณมู่จื่อ อย่าทำให้พวกผมลำบากใจเลยครับ มันเป็นคำสั่งของประธานหานจริงๆ ด้านนอกตอนนี้พายุฝนแรงมาก ถ้าหากคุณออกไปตอนนี้จะเดินทางลำบากนะครับ”
“ไม่ใช่เรื่องของนาย ปล่อยฉัน”
มือของเธอถูกพวกเขาจับเอาไว้ หานมู่จื่อที่คิดอยากจะเดิน ก็ไปไม่ได้ เธอโกรธจนหน้าซีด เหยียบเข้าไปที่หลังเท้าของชายคนนั้น
เมื่อถูกเหยียบเข้าที่เท้าชายคนนั้นก็ร้องออกมา แต่ก็ไม่กล้าปล่อยหานมู่จื่อไป ทั้งยังเงยหน้าขึ้นบอกเพื่อนอีกคน “รีบไปบอกนายหานว่าคุณมู่จื่อตื่นแล้ว”
อีกคนพยักหน้า แล้วก็หันตัวหายไปอย่างรวดเร็ว
หานมู่จื่อไม่ต่อต้านขัดขืนอีก “ปล่อยฉัน พี่ฉันแค่ให้มาคอยดูฉัน ไม่ใช่บอกให้มามัดมือมัดเท้าฉันไม่ใช่หรือไง ตอนนี้ที่จับมือฉันอยู่ คือจะยังไง? คิดจะไม่ให้เกียรติฉันอย่างนั้นเหรอ? ”
ชายหนุ่ม: “…….”
ให้สิบกล้า เขาก็ไม่กล้าจะล่วงเกินเธอหรอก
หานมู่จื่อเป็นถึงน้องสาวแก้วตาดวงใจของหานชิงประธานบริษัทตระกูลหาน อีกทั้งยังเป็นคุณนายน้อยของบริษัทตระกูลเย่ ถึงแม้งานแต่งงาน….จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นนิดหน่อยก็ตามที
แต่หากหาเย่โม่เซินพบ เธอก็จะอยู่ในตำแหน่งที่เกินจะอาจเอื้อม
เมื่อเห็นใบหน้าของเขาในตอนนี้ หานมู่จื่อก็พูดขึ้นอีก “ยังไม่ปล่อยฉันอีก”
ชายหนุ่มยังคงอยู่ในอาการลังเล
“ไม่ให้เกียรติกันเลย”
หานมู่จื่อไม่คิดว่าชายหนุ่มจะหยัดยืนได้ขนาดนี้ จึงตะโกนออกไปว่าไม่ให้เกียรติ แน่นอนหล่ะเมื่ออีกฝ่ายได้ยินก็ปล่อยมือของเธอทันที
เมื่อได้รับอิสรภาพแล้ว หานมู่จื่อก็หันหลังวิ่งออกไปทันที ชายหนุ่มเมื่อได้สติก็รีบกวดไล่ตามเธอทันที
หานมู่จื่อหันหลังวิ่ง เธอวิ่งอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงหน้าลิฟต์ ก็พอดีลิฟต์เปิดอยู่เพียงครึ่งหนึ่ง เธอไม่คิดใดๆ ทั้งนั้นรีบวิ่งเข้าลิฟต์ไปอย่างรวดเร็ว
ปัง!
เมื่อเข้าไปในลิฟต์แล้วไม่นานลิฟต์ก็ปิด
ชายหนุ่มที่ตามมานั้นกดปุ่มเปิดอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นเมื่อไม่สามารถทำอะไรได้ สายตาก็มองไปยังลิฟต์ที่ลงไปแล้ว เขาทำได้เพียงฮัมเย็นๆ ก่อนลงบันไดที่อยู่ข้างๆ
หานมู่จื่อพอจะเดาออกว่าอีกฝ่ายจะต้องลงบันไดตามตนมา ดังนั้นเมื่อลิฟต์มาหยุดที่ชั้น1 เธอก็ไม่มีความลังเลใดๆ รีบตรงออกไปยังโถงของโรงแรมทันที โดยไม่สนใจสายตาวิพากษ์วิจารณ์อย่างประหลาดใจของคนอื่นๆ ที่มองเธอวิ่งตรงดิ่งไปยังพายุฝน
เมื่อเม็ดฝนก้อนใหญ่สัมผัสร่างกาย เธอก็รู้สึกเย็นวาบไปถึงกระดูก
เห็นได้ชัดว่านี่เพิ่งจะเข้าหน้าหนาว แต่ความรู้สึกแบบนี้นี่มัน…..กลับเหมือนอยู่ในช่วงฤดูหนาวอันเย็นยะเยือกอย่างไรอย่างนั้น แต่ความรู้สึกแบบนี้ก็ไม่อาจจะขวางกั้นเธอให้เดินต่อไปข้างหน้าได้
เธอคิดเพียงอยากจะไปที่หาด เฝ้ารอ รอให้เขากลับมา
หานชิงเมื่อรู้ข่าวก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่ผลคือพอมาถึงที่ชั้นแรกก็เห็นเพียงอีกคน ในขณะที่อีกคนหนึ่งหายไป
“ไปไหนแล้วหล่ะ? ”
“ขอโทษครับประธานหาน ผมไม่อาจจะขวางคุณมู่จื่อเอาไว้ได้ เธอเข้าไปในลิฟต์ เมื่อผมกวดตามมาข้างล่างก็ตามไปทันเธอแล้ว
ซูจิ่วเองก็ถูกปลุกด้วยเสียงดัง ในตอนที่มานั้นหัวของเธอยังกระเซอะกระเซิงอยู่เลยแต่ชุดนั้นก็เห็นได้ชัดว่าเปลี่ยนเสร็จเรียบร้อย
“เกิดอะไรขึ้น? คุณมู่จื่อหล่ะ? ”
ชายคนนั้นรายงานอีกครั้ง สายตาของซูจิ่วเปลี่ยนไป จากนั้นก็มองไปที่หานชิง รีบพูดขึ้น: “พวกนายไปดูห้องกล้องชั้นล่างของโรงแรมถามด้วยว่าคุณมู่จื่อไปที่ไหน จากนั้นก็ออกไปตามหาดู อย่าลืมพกไฟฉายไปด้วยข้างนอกมืดมาก”
การกระทำของซูจิ่วรวดเร็วคล่องแคล่ว ให้คนเตรียมไฟฉายและร่มเสร็จแล้ว ก็ออกไปตามหา
ดึกมากแล้วและฝนก็ตกหนักมา
หานมู่จื่อวิ่งมาถึงข้างทาง ก็เห็นแท็กซี่ เธอจึงยกมือขึ้นโบก แต่แท็กซี่ก็ไม่สนใจเธอ ขับเลยผ่านไป
เธอคิด ว่าสภาพเธอมันดูกระเซอะกระเซิง ควงกลัวว่าเธอจะไม่มีเงินจ่ายเลยไม่ให้เธอขึ้นรถ
อีกอย่าง ทั้งตัวเธอก็เปียกโชกไปน้ำฝน คงกลัวว่าเธอจะทำรถเขาเลอะ
แต่หานมู่จื่อก็ไม่ย่อท้อ เธอรู้อยู่แล้วว่าสถานที่นั้นมันไกลมาก เธอเดินไปไม่ถึง ดังนั้นจึงจะหารถไป
รอจนไม่รู้ว่านานสักเท่าไหร่ได้ ท้ายสุดก็มีรถมา
เธอโบกมือไม่หยุด หวังว่ารถจะหยุดให้เธอ
ครั้งนี้รถหยุดลง คุณลุงด้านในรถเงยหน้าขึ้นมองเธอ
“จะลากรถเหรอ? ”
เขาพูดในภาษาของเขา ซึ่งหานมู่จื่อฟังไม่เข้าใจ ทำได้เพียงพูดภาษาอังกฤษออกไปเพื่อบอกว่าเธอจะไปที่ไหน แล้วถามว่าเขาพาเธอไปได้ไหม
เดิมทีคิดว่าคุณลุงจะฟังเธอไม่เข้าใจ ใครจะรู้ว่าจู่ๆ คุณลุงก็ยิ้มขึ้นมา แล้วใช้ภาษาอังกฤษคุยกับเธออย่างแคล่วคล่อง จากนั้นก็ให้เธอขึ้นรถอย่างกระตือรือร้น เพราะต่อไปก็คงจะแข็งแล้ว
หานมู่จื่อพยักหน้าอย่างปลื้มใจ พอขึ้นรถแล้ว ก็ทำให้รถของคุณลุงเปียกเธอก็รีบขอโทษขอโพย มันน่าอับอายเสียจริง
คุณลุงก็บอกว่าไม่เป็นไร บอกว่าตัวเองกำลังทำในเรื่องที่ดี รถเปียกแค่เช็ดก็หายแล้ว หานมู่จื่อยกยอการใช้ภาษาอังกฤษที่ดีของลุง เขาก็ดูปลาบปลื้ม เพราะลูกชายของเขาเป็นคนสอนเขาพูด
เสร็จแล้วเมื่อเขาได้สติ ก็จึงถามเธอ
“คุณจะไปที่XXทำไมเหรอ? ตามที่ฉันรู้ มันไม่ใช่ที่ที่ดีเสียเท่าไหร่”