เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 723
บทที่ 723 ผิดปกติ
ผ่านไปสักครู่ เขาก็ได้เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงราบเรียบ
“ช่วงนี้ ทำให้คุณต้องลำบากแล้ว”
เสี่ยวเหยียนรู้สึกได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝันจนรู้สึกประหลาดใจ ส่ายหัว “ไม่ลำบาก แต่ว่า……ฉันอยากเจอมู่จื่อหน่อย ได้ไหม?”
แม้ว่าเทพบุตรจะสำคัญมาก แต่ว่า……เพื่อนสนิทสำคัญกว่า
ในหัวใจของเสี่ยวเหยียน ยังคงเป็นห่วงหานมู่จื่อมากกว่า
“เข้าไปเถอะ”
ตอนที่เสี่ยวเหยียนถูกพาไปที่ห้องผู้ป่วยของหานมู่จื่อ ซูจิ่วกำลังดูแลเธออยู่ เมื่อเห็นเสี่ยวเหยียนมาถึง สีหน้าผ่อนคลายเล็กน้อย “เสี่ยวเหยียน? เรื่องในประเทศ X ของคุณ จัดการเรียบร้อยแล้วหรือ?”
“อืม จัดการเรียบร้อยหมดแล้ว ฉันได้ยินมาว่ามู่จื่อไม่สบายมีไข้?”
ตอนที่ทั้งสองคุยกัน ดูเหมือนว่าจะกลัวรบกวนถึงหานมู่จื่อ ดังนั้นจึงตั้งใจลดเสียงตัวเองให้ต่ำลงไม่น้อย ซูจิ่วพยักหน้า
“ใช่ มีไข้สูงจนน่ากลัว แต่เธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ ไม่สามารถใช้ยาไปเรื่อย ดังนั้นหมอจึงแนะนำให้การใช้วิธีลดไข้ โดยการให้ความเย็นจาก ภายนอก”
เมื่อได้ยินเข้า เสี่ยวเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “ ท้องจริงๆหรือเนี่ย?”
ซูจิ่วราวกับจับอะไรบางอย่างได้ หรี่ตาลงและมองพิจารณาจางเสี่ยวเหยียน
“ฟังน้ำเสียงของคุณ คุณรู้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่ามู่จื่อตั้งท้อง? แล้วเธอล่ะ ตัวเธอเองรู้เรื่องนี้หรือเปล่า?” เมื่อพูดถึงตรงนี้ ซูจิ่วขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้
ถ้าหานมู่จื่อรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง ยังเที่ยววิ่งไปทั่ว นั้นผลลัพธ์……อาจจะแย่มากจริงๆ
“ฉันแค่คาดเดาเท่านั้น เพราะตอนนี้ได้คุยกับมู่จื่อครู่หนึ่ง เราทั้งคู่ก็ไม่ได้แน่ใจ ตอนนั้นมู่จื่อยังคิดไว้ว่า หลังจากจัดพิธีแต่งงานเสร็จ จะไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกที คิดไม่ถึงว่า……”
ทั้งสองฝ่ายต่างเงียบสงบอย่างพร้อมเพรียงกัน ไม่ได้พูดอะไรต่อ
หลังจากนั้นประมาณสิบกว่าวินาที เสี่ยวเหยียนก็ก้าวไปข้างหน้า รับผ้าเช็ดตัวในมือของซูจิ่ว แล้วพูดเสียงเบา “ให้ฉันมาทำเถอะ เมื่อก่อนตอนที่เธอไม่สบาย ก็คือฉันที่ดูแลเธอ นิสัยบางอย่างของมู่จื่อ ฉันก็รู้ดีหมด”
เพียงแค่เป็นประโยชน์ต่ออาการป่วยของหานมู่จื่อ ซูจิ่วก็จะไม่ปัดออกอยู่แล้ว เธอรีบยื่นผ้าขนหนูในมือ ไปที่มือของเสี่ยวเหยียนอย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็เป็นเสี่ยวเหยียนที่ดูแลหานมู่จื่อต่อ
หานมู่จื่อมีไข้สูงตลอด ก็ไม่รู้ว่า เป็นเพราะมีไข้จนรู้สึกสับสนมึนงงหรือเปล่า พูดไม่กี่ประโยคออกมาเป็นครั้งเป็นคราว แต่ประโยคเหล่านั้น แค่ได้ยินก็รู้ว่า พูดตอนที่ไม่มีสติ
เสี่ยวเหยียนทำได้เพียง ปลอบโยนเธอเบาๆ ในขณะที่ดูแลเธอไปด้วย
ในระหว่างนั้น หานชิงและหมอเข้ามาหลายครั้ง
จนกระทั่งหลังเที่ยงคืน อุณหภูมิสูงบนตัวของหานมู่จื่อ ถึงได้ลดลง การหายใจของเธอก็ค่อยๆกลับมาสม่ำเสมอ เสี่ยวเหยียนเฝ้าอยู่ข้างเตียง นึกถึงข่าวที่เคยเห็นมาก่อนหน้านี้
รายงานคือ คนที่ได้รับการช่วยเหลือในวันแรก มีความหวังที่จะมีชีวิตรอด ที่ถูกส่งไปในโรงพยาบาล ได้รับการกู้ชีวิตกลับมาหมดแล้ว
แต่หลังจากพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืนผ่านไป ชีวิตที่เร่ร่อนอยู่ในท้องทะเลอันไพศาล ก็หายสาบสูญไปอย่างนั้นแล้ว
วันที่สองทีมกู้ภัยออกปฏิบัติการ ที่ถูกกู้ขึ้นมา ล้วนเป็นศพที่ไร้ชีวิต
แต่ว่า หานชิงกลับบอกว่าหาเย่โม่เซินไม่พบ งั้นก็หมายความว่า เขาไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้รอดชีวิต แล้ว……ศพล่ะ?
ทั้งสองคนนี้ ยากลำบากยิ่งนัก ถึงจะเดินมาอยู่ด้วยกัน พระเจ้า……ทำไมถึงต้องพลัดพรากพวกเขาแบบนี้ด้วย?
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะตาแดง แล้วร้องไห้
“โม่เซิน……คุณกลับ……กลับมา……”
ตอนที่เสี่ยวเหยียนเกือบจะร้องไห้ส่งเสียงออกมา หานมู่จื่อที่กำลังนอนหลับอย่างสงบ ในเวลานี้ ทันใดนั้นก็พูดละเมอออกมาประโยคหนึ่ง แต่เสียงเบามาก เสี่ยวเหยียนจึงต้องโน้มตัวไปฟัง
เมื่อได้ยินว่าเธอเรียกชื่อของเย่โม่เซิน น้ำตาก็ยิ่งไหลลงอย่างรุนแรง
“มู่จื่อ เธอไม่ต้องกังวล…… คุณชายเย่ไม่อยากจะเห็นเธอต้องเสียใจอยู่คนเดียวแน่นอน เขาจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน”
*
วันรุ่งขึ้น หลังจากที่ทุกคนทานอาหารเช้าเสร็จ หานมู่จื่อก็ฟื้นขึ้นมา
เนื่องจากเคยมีไข้สูง จึงยังคงมีผลข้างเคียง ตอนที่หานมู่จื่อฟื้นขึ้นมา พบว่าแขนขาทั้งหมดของตัวเองอ่อนแรงไปหมด กล้ามเนื้อปวดเมื่อยทุกที่ และยังหนักหัวยิ่งนัก รู้สึกเหมือนว่า แค่ลุกขึ้นนั่ง ก็เสียพลังมากมาย
“มู่จื่อ คุณฟื้นแล้ว ฉันพยุงคุณ”
เสี่ยวเหยียนโน้มตัวเข้ามาพยุงเธออย่างใกล้ชิด จากนั้นก็นั่งบนขอบเตียงไม่ไปไหน
และคนที่ได้ยินข่าวการฟื้นขึ้นมาของเธอ แล้วเข้ามาด้วยกัน ยังมีหานชิงและซูจิ่ว
หานมู่จื่อถูกเสี่ยวเหยียนพยุงตัวไว้ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้เธออย่างอ่อนแรง “กลับมาแล้วเหรอ?”
เสี่ยวเหยียนชะงักเล็กน้อย แล้วพยักหน้า “อืม กลับมาแล้ว”
“ดีจัง”
เสียงของเธอแผ่วเบา ฟังไม่ออกความสุขหรือทุกข์ แต่แหบแห้งอย่างหนัก เหมือนเสียงที่เดินอยู่ในทะเลทรายเป็นเวลานาน โดยไม่ได้จิบน้ำสักคำ
หานมู่จื่อยกมือขึ้น ตบมือของเสี่ยวเหยียนเบาๆ จากนั้นถึงได้เงยหน้าขึ้น สีหน้าที่ขาวซีด จ้องตรงไปที่หานชิง
“พี่ชาย โม่เซินเขามีข่าวไหม?”
หานชิง “……”
ซูจิ่ว “……”
เสี่ยวเหยียน “……”
ทันทีที่ฟื้นขึ้นมา ก็ถามเรื่องที่เกี่ยวกับเย่โม่เซิน ทั้งสามคนในชั่วขณะหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
กลับเป็นเสี่ยวเหยียน ที่ตั้งตัวได้อย่างรวดเร็ว พูดด้วยรอยยิ้มว่า “มู่จื่อ คุณเพิ่งฟื้นขึ้นมา ต้องมีส่วนที่ไม่สบายแน่นอน และคุณยังหมดสติหลับไปนานขนาดนั้น ตอนนี้ก็ต้องหิวแล้วแน่นอนใช่ไหม? คุณอยากจะทานโจ๊กไหม? ฉันได้เตรียมไว้ให้คุณหลายอย่าง คุณอยากกินสูตรเค็มหรือหวาน?”
น้ำเสียงที่ความเร็วและร่าเริงของเธอ ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าเธออยากจะข้ามหัวข้อนี้ไปมากแค่ไหน
เมื่อซูจิ่วได้ยินเช่นนี้ ก็ตอบสนองในทันที “ใช่เลย เพิ่งฟื้นขึ้นมา อ่อนแอเกินไป ควรกินอะไรก่อนดีกว่า เรื่องอื่นรอกินเสร็จก่อนค่อยว่ากัน”
หานมู่จื่อ “……”
เธอเงยหน้าขึ้นมองทั้งสามคนที่อยู่ตรงหน้า
สีหน้าของทั้งสามล้วนดูไม่ดีนัก รอบๆดวงตายังมีสีเขียวคล้ำ เห็นได้ชัดว่าก็เพราะดูแลเธอ ถึงได้เป็นเช่นนี้ ถ้าเวลานี้ เธอยังสืบสาวราวเรื่อง งั้นก็ต้องทำให้พวกเขาผิดหวังเสียใจไม่ใช่หรือ?
เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้ หานมู่จื่อก็เลยต้องพยักหน้าเบาๆ ส่งเสียงตกลงคำหนึ่ง
แววตาของเสี่ยวเหยียนสว่างขึ้นทันที “แล้วคุณอยากกินหวานหรือเค็ม?”
“ฉันได้หมด”
“งั้นฉันไปตักให้คุณ”
เสี่ยวเหยียนรีบลุกขึ้นทันที รีบไปตักโจ๊กหวานชามหนึ่งให้หานมู่จื่ออย่างรวดเร็ว ตอนที่นั่งตรงหน้าหานมู่จื่อ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ห่วงใย “มา นี่เป็นโจ๊กหวานที่คุณชอบทานมากที่สุดใน ประเทศ X เลยนะ เมื่อกี้ฉันได้ลองชิมแล้ว ร้านนี้ทำได้ต้นตำรับมาก”
เสี่ยวเหยียนตักคำหนึ่งป้อนถึงข้างปากของหานมู่จื่อ อย่างเอาอกเอาใจ
โจ๊กหวานกระจายความหอมหวานออกมาในอากาศ ความร้อนอบอวลอยู่รอบๆ เดิมทีน่าจะชอบมาก แต่หานมู่จื่ออ้าปากกินโจ๊กคำนั้น ตอนที่กลืนเข้าไป กลับไม่รู้สึกถึงความหวานเลยสักนิด
มีเพียง ความขมขื่นที่เต็มไปหมด
อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังกินเข้าไปอย่างช้าๆ เสี่ยวเหยียนป้อน เธอก็กิน
เงียบสงบ เชื่อฟัง จนทำให้คนหวาดกลัวเล็กน้อย
หัวใจของเสี่ยวเหยียน ค่อยๆกังวลขึ้น มักรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ หานมู่จื่อเป็นแบบนี้ เงียบสงบเกินไป และยังไม่ได้ต่อต้านเลยสักนิด กับโจ๊กที่เธอป้อน
รู้สึกว่า นี่ไม่ใช่การตอบสนองที่ควรมีตามปกติเลย
จะเป็นไปได้อย่างไร ที่เธอเพิ่งถามเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเย่โม่เซิน เสี่ยวเหยียนให้เธอทานโจ๊ก เธอก็ทานโจ๊กเลย?
และในตอนที่เสี่ยวเหยียนรู้สึกผิดปกติ ความเร็วในการป้อนโจ๊กช้าลง ในที่สุดหานมู่จื่อก็มีปฏิกิริยา
เธอรู้สึกเหมือนไม่สบาย ทันใดนั้นก็ก้มตัวลง กุมท้องของตัวเองไว้ สีหน้าซีดเซียว ก้มหน้าลง โจ๊กที่เพิ่งกินเข้าไปเมื่อกี้ ก็อาเจียนออกมาในสภาพเดิมทั้งหมด