เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 747
บทที่ 747 นี่คือสิ่งที่แกควรทำต่อคุณตาแท้ๆของแกเหรอ
“ไม่มีอาการเวียนหัวแล้วใช่มั้ยครับเช่นนั้นคงจะเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ยาที่ผมให้คุณชายเซินยังทานอยู่มั้ยครับ ทานยาตามเวลาและปริมาณ ก็จะเป็นผลช่วยให้ร่างกายของคุณชายเย่กลับมาแข็งแรงปกติ”
เย่โม่เซินพยักหน้า“ขอบคุณคุณหมอเห่าด้วยครับ”
“ในเมื่อคุณชายเซินไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว อย่างนั้นผมก็กลับประเทศอย่างหายห่วงได้แล้ว วันนี้ขอขอบคุณนายท่านยู่ฉือที่ให้การต้อนรับ”
ยู่ฉือจินค้ำไม้เท้ายืนขึ้น พยักหน้า“อาเซิน หลานไปส่งคุณหมอด้วยนะ”
“ไม่ต้องหรอกครับ ไม่ต้องไปส่งผม คนขับรถรออยู่ด้านนอกนี่เองครับ อีกทั้งเส้นทางแถวนี้ผมก็คุ้นชินเป็นอย่างดี ผมออกไปเองได้ครับ”
ผู้อำนวยการเห่าพูดจบก็จากไป ราวกับเกรงว่าเย่โม่เซินจะตามไปส่งเขาจริงๆ
หลังจากรอให้เขาจากไปแล้ว ยู่ฉือจินลูบที่หนวดของตน“ส้นเท้าของหมอเห่านี่ทาน้ำมันอยู่หรือไง วิ่งเร็วขนาดนี้ อาเซินหรือว่า หลานหน้าตาน่ากลัวจนทำให้คนเขาตกอกตกใจจน”
เย่โม่เซิน“???”
ยู่ฉือจิน“ไม่อย่างนั้น ทำไมพอเขาได้ยินว่าจะให้หลานไปส่ง ถึงได้รีบร้อนออกไปขนาดนั้น”
เย่โม่เซินอึดอัดใจ“คุณตาครับ นี่ไม่เกี่ยวกับผมเลยนะครับ”
ยู่ฉือจินเห็นใบหน้าเยือกเย็นดุดันของเขา พ่นเสียงฮึดฮัดในจมูก“เห็นสีหน้าหลานแบบนี้ เหมือนคนอื่นเป็นหนี้หลานอย่างนั้นแหละ แล้วยังจะบอกว่าไม่เกี่ยวกับหลานอีกเหรอ”
“คุณตาเรียกหาผมมีธุระอะไรหรือครับ”
เขาไม่แยแสอะไร แม้แต่น้ำเสียงยังเรียบเฉย
พอยู่ฉือจินได้ยิน ก็ไม่พอใจทันที
“ไอ้นี่ นี่แกทำท่าทางแบบนี้กับคุณตาของแกเหรอ”
สิ้นเสียง ไม้เท้าในมือของยู่ฉือจินก็ยกขึ้นตีลงไปที่เย่โม่เซิน เย่โม่เซินหลบหลีกอย่างรวดเร็ว เอ่ยพลางขมวดคิ้วว่า“คุณตาจะทำแบบนี้กับหลานแท้ๆเหรอครับ ยกไม้เท้าสูงขนาดนั้น ตีลงมาผมก็พิการพอดี”
ยู่ฉือจินมองเขาอย่างสนใจ “แกไม่ได้หลบไปแล้วเหรอ”
เย่โม่เซินสีหน้าเย็นเยือก“ผมหนี กับที่คุณตาจะตีผม มันเกี่ยวกันด้วยเหรอครับ”
ยิ่งเห็นใบหน้าเย็นยะเยือกของเขา ยู่ฉือจินก็ยิ่งรู้สึกถูกชะตาหลานคนนี้ หน้าตาหล่อเหล่าแบบนี้ สมแล้วที่เป็นลูกชายของลูกสาวตนเอง
พอนึกถึงยู่ฉือซินลูกสาวคนโตของตนเอง ใบหน้ายู่ฉือจินก็เผยให้เห็นความเจ็บปวด“แกกับแม่หน้าตาเหมือนกันมาก แต่น่าเสียดาย……”
ก็อกๆ——
ตอนนี้เอง เสียงเคาะประตูห้องหนังสือดังขึ้น
“เข้ามา”
หลังจากผลักประตูเข้ามา คนรับใช้ก็ยืนที่ประตู เอ่ยอย่างนอบน้อมว่า “คุณท่าน คุณชายเซิน คุณหนูตวนมู่มาแล้วครับ”
“ห๊ะ”คิ้วสีดอกเลาของยู่ฉือจินขมวด“เสี่ยวเสว่มาแล้วเหรอ อาเซิน แกรีบลงไปชั้นล่าง ต้อนรับเธอแทนตาหน่อย”
“ไม่ว่างครับ”เย่โม่เซินตอบโดยไม่ต้องคิด ก็ปฏิเสธข้อเรียกร้องของยู่ฉือจินทันที
ยู่ฉือจิน“ไอ้หมอนี่ กล้าปฏิเสธตาแกเหรอ เสี่ยวเสว่มาแล้วไม่ต้อนรับขับสู้ หมายความว่ายังไง ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้เสี่ยวเสว่เป็นห่วงแกมากขนาดไหน แกรู้มั้ย……”
ชายชราเริ่มบ่นขึ้นมาอีก เย่โม่เซินฟังจนปวดหัว นัยน์ตาสีน้ำหมึกปิดลงแล้วลืมขึ้น มีเพียงความมืดมิด จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไป
ทำราวกับว่าไม่ได้ยินอะไรอย่างนั้น
ยู่ฉือจินยังคิดจะตามไปบ่นให้เขาฟัง แต่เย่โม่เซินเพิ่งจะเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงอ่อนหวานดังเข้ามา
“พี่เซิน!”
เย่โม่เซิน“……”
ยู่ฉือจินเผยให้เห็นรอยยิ้มที่สะใจออกมา“เสี่ยวเสว่มาแล้วเหรอ เมื่อครู่ให้พี่เซินไปต้อนรับหนูแทนปู่ ไปเที่ยวให้สนุกนะ”
ไอ้หมอนี่ สาวเจ้าวิ่งมาหามาถึงตรงหน้าแล้ว ดูสิแกจะปฏิเสธยังไง
ตวนมู่เสว่ยิ้มหวานพลางงพยักหน้าให้ยู่ฉือจิน“ขอบคุณคุณปู่ยู่ฉือนะคะ พี่เซิน วันนี้ร่างกายพี่กลับมาแข็งแรงดีหรือยังคะ ดีขึ้นบ้างมั้ยคะ”
เธอรีบก้าวมาด้านหน้า คล้องแขนเย่โม่เซินโดยไม่ลังเล จากนั้นก็แนบลำตัวเข้ามา
ท่าทางแบบนี้……
เย่โม่เซินสะบัดมือหล่อนออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถอยไปด้านข้าง วินาทีต่อมาถอดเสื้อสูทออก เอ่ยด้วยเสียงเย็นว่า“อยู่ห่างๆผมหน่อย”
ตวนมู่เสว่“……พี่เซิน!”
หล่อนขอบตาแดงก่ำต่อหน้ายู่ฉือจิน
ปึง!
มือที่ถือไม้เท้าฟาดลงมา เกือบจะโดนแขนของเย่โม่เซิน
“ไอ้นี่ แกจะทำแบบนี้กับเสี่ยวเสว่ได้ยังไง”
“ว้าย พี่เซิน!”ตวนมู่เสว่เห็นฉากนี้ ก็ตกใจร้องออกมา“คุณปู่คะ อย่าทำแบบนี้กับพี่เซินเลยนะคะ”
“พี่เซิน พี่ไม่เป็นไรนะคะ”ตวนมู่เสว่ก้าวตามาข้างหน้าอีก มองเย่โม่เซินด้วยความเป็นห่วง
เพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ทำให้ครั้งนี้ตวนมู่เสว่ไม่กล้าคล้องแขนเขาอีก แต่ยืนอยู่ข้างๆไม่ไกลมองเขาอย่างกังวล
“เสี่ยวเสว่ ไม่ต้องเป็นห่วงมัน เขาไม่รู้อะไรควรไม่ควรแบบนี้ ก็สมควรต้องถูกลงโทษ อีกอย่างไม้เท้าของปู่ก็ไม่ได้ตีโดนมัน!”
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ตวนมู่เสว่ก็ยังคงมีท่าทีห่วงใย
“คุณปู่คะ ก่อนหน้านี้พี่เซินได้รับบาดเจ็บ เพิ่งจะฟื้นตัว คุณปู่ทำแบบนี้ เสี่ยวเสว่เสียใจมากนะคะ คุณปู่อย่าทำแบบนี้กับพี่เซินเลยนะคะ”
ตวนมู่เสว่ยังออดออ้อนกับยู่ฉือจิน
แต่เย่โม่เซินหันข้างมาทิ้งท้ายไว้ว่า‘ผมยังมีธุระต้องทำ’แล้วก็จากไป
“พี่เซิน!”ตวนมู่เสว่อยากจะตามไป แต่ว่าขาเรียวยาวของเย่โม่เซิน สาวเท้าอย่างรวดเร็ว ครู่เดียวก็ไม่เห็นเงาเขาแล้ว
ไม่มีทางที่จะตามได้ทัน ตวนมู่เสว่ก็กลายเป็นรู้สึกพ่ายแพ้หมดหวังทันที
ดูแล้ว หล่อนอยากจะให้เย่โม่เซินเห็นหล่อนในสายตา คงต้องออกแรงอีกมาก
นี่มันนานขนาดไหนแล้ว ที่หล่อนมักจะมาที่บ้านยู่ฉือเป็นประจำ ก็เพื่อมาแสดงตัวต่อหน้าเขา ตอนที่เขาบาดเจ็บก็คอยดูแลเขาอยู่ข้างๆ ถามไถ่อย่างห่วงใย แต่คิดไม่ถึงเลยว่า……
“เสี่ยวเสว่ อย่าเพิ่งท้อแท้ หมดหวัง”ยู่ฉือจินเห็นท่าทีพ่ายแพ้สิ้นหวังของตวนมู่เสว่ ก็เอ่ยปลอบใจว่า“นิสัยของหลานชายปู่เหมือนกับแม่ของเขา ทิฐิสูงไม่ฟังใคร อยากจะเข้าไปอยู่ในใจเขาไม่ง่าย หากหนูมีความรู้สึกดีๆกับเขาจริงๆ ก็ต้องเตรียมตัวต่อสู้อีกยาวนาน”
ตวนมู่เสว่ได้ยิน ก็แสดงท่าทีขวยเขินออกมา“คุณปู่ยู่ฉือ……ท่าน พูดอะไรคะ”
“ทำไม หรือว่าปู่พูดอะไรผิด หนูไม่ได้รู้สึกดีๆกับเจ้าหลานชายคนนี้ของปู่เหรอ”
ใบหน้าขาวของตวนมู่เสว่ก็แดงเรื่อขึ้นมา“คุณปู่ยู่ฉือ นี่คุณปู่แกล้งเสี่ยวเสว่เหรอคะ แล้วก็……พี่เซินกับเสี่ยวเสว่……”
“เมื่อกี้ปู่ก็บอกแล้วไง ถ้ารู้สึกดีจริงๆ ก็ต้องหนักแน่นอดทน หลานปู่คนนี้….ไม่ได้จีบง่ายๆนะ”
เรื่องราวที่เกิดในช่วงนี้เขาได้ยินมาหมดแล้ว บรรดาผู้หญิงที่เข้ามาจีบเขาล้วนถูกเย่โม่เซินหมางเมิน ไม่เพียงเท่านั้น…..เขายังอนามัยมาก ไม่ยอมให้ใครอื่นถูกตัวเขาเลย
หากตวนมู่เสว่อยากจะอยู่กับเย่โม่เซิน คงจะยาก
แต่ว่า ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
“เอาล่ะ ปู่ยังมีเรื่องต้องทำ เสี่ยวเสว่เที่ยวเล่นเถอะ”
หลังจากที่ตวนมู่เสว่ออกจากห้องหนังสือ ลงไปชั้นล่างแล้ว นึกถึงใบหน้าหล่อเหลาของเย่โม่เซิน มุมปากก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
ยากก็ยาก แต่ว่า…ตอนนี้ก็ยังมีความหวังนี่
ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน
ตวนมู่เสว่รู้สึกว่า คุณปู่จะช่วยหล่อน ไม่อย่างนั้น……จะส่งเย่โม่เซินมาถึงตรงหน้าตนได้อย่างไร
ที่สำคัญที่สุดก็คือ ตระกูลตวนมู่และตระกูลยู่ฉือมีการหมั้นหมายต่อกัน