เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 833
บทที่ 833 หรือว่าเขาฟื้นความทรงจำแล้ว
หลังจากที่ตวนมู่เสว่ออกมาจากห้องทำงาน สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที ไม่ได้ท่าทางอ่อนแอเหมือนเมื่อกี้ ที่อยู่ในห้องทำงาน เธอยกกระโปรงของตัวเองไว้ เดินกะเผลกไปข้างหน้า
เห็นด้านข้างมีห้องน้ำ เธอเดินตรงเข้าไปด้วยความโกรธ
เธอพลางเดินไปพลางเช็ดน้ำตาไป ในแววตาส่องแสงอย่างประหลาด
เย่โม่เซิน ถึงกับทำแบบนี้กับเธอ
เธอล้มจนมีสภาพแบบนี้แล้ว เขาก็ยังคงไม่มองเธอเพิ่งแม้แต่สักนิด ซ้ำยังถอดชุดสูทที่ตัวเองเคยแตะออกอีก!
ในใจของตวนมู่เสว่ เกลียดแค้นยิ่งนัก ตกลงเธอไม่ดีตรงไหนกันแน่? ทำไมถึงไม่เคยอยู่ในสายตาของเย่โม่เซินได้เลย
แต่เธอเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลตวนมู่ เธอจะไม่ให้คนพวกนี้หัวเราะเยาะเย้ยตัวเธอ จึงต้องเข้าไปในห้องน้ำ จัดเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบ แล้วค่อยออกจากที่นี่อย่างสวยสดงดงาม
หลังจากที่ตวนมู่เสว่เข้าไป หยิบแป้งพัฟของตัวเองออกมาเติมหน้าตรงกระจก เมื่อเห็นว่าริมฝีปากถูกตัวเองกัดจนแตก เธอเจ็บจนหายใจด้วยความตกใจ ดวงตาก็คับแค้นใจตาม
ในห้องน้ำ มีเสียงกดชักโครกดังขึ้น ตวนมู่เสว่ ก็หันกลับมามองด้านหลังอย่างระแวงในทันที
“ใคร??”
คงจะไม่มีใครเห็นความอัปลักษณ์ของเธอในตอนนี้ใช่มั้ย?
เสียงกดชักโครกค่อยๆหายไป ประตูห้องน้ำเปิดออก ตวนมู่เสว่ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง เดินออกมาจากข้างใน
หลังจากที่เห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจน แววตาของตวนมู่เสว่ ก็สั่นไหวอย่างรุนแรง
ทำไม…… ถึงเป็นเธอ?
เมื่อเห็นหานมู่จื่อเดินออกมาจากด้านในอย่างสงบ ตอนที่สบตาเธอ เหมือนไม่รู้สึกแปลกใจเลย ตวนมู่เสว่ บีบแป้งพัฟแต่งหน้าในมือจนผิดรูป จ้องมองเธอด้วยสายตาเคียดแค้น
“คุณนั้นเอง!”
หานมู่จื่อยิ้มเบาๆ สายตาเรียบเฉย
ท่าทางที่ไม่แยแสเช่นนี้ ดูเหมือนจะไม่มองเธออยู่ในสายตาเลย ตวนมู่เสว่เกลียดแค้นจนกัดฟันแน่น แล้วพูดว่า “ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่ ??”
เจอหานมู่จื่อที่นี่ คือสิ่งที่ตวนมู่เสว่ ไม่เคยคาดคิด
เพราะยังไงเรื่องของเย่โม่เซินนั้นเธอรู้ดี เรื่องที่คุณปู่ยู่ฉือทำ เธอรู้ทุกอย่าง แต่คุณปู่ยู่ฉือไม่รู้ว่า เธอรู้จัก เย่โม่เซินมาก่อน ดังนั้นเมื่อคุณปู่ยู่ฉือ ทำเรื่องทั้งหมดนี้ ตวนมู่เสว่ไม่ได้พูดอะไรเลย
ตอนนั้นเธอรู้สึกว่า แม้แต่พระเจ้ายังช่วยเธอ เย่โม่เซินสูญเสียความทรงจำ และคุณปู่ยู่ฉือก็ลบประวัติทั้งหมดของเขาในอดีต นี้ก็คือเพื่อให้เธอได้มีโอกาสเข้าใกล้เขาอีกครั้งไม่ใช่หรือ?
เพียงแค่เธอไม่คาดคิดว่า เย่โม่เซินที่สูญเสียความทรงจำแล้ว ก็ยังคงเป็นเหมือนเมื่อก่อน ไม่ว่าเธอจะทำอะไร เขาก็ยังมีท่าทางดื้อดึงมีทิฐิสูง
แม้ว่าเธอจะโกรธแค้นโมโหมาก แต่เธอก็ยังไม่คิดที่จะยอมแพ้เธอจะต้องหาวิธีได้ตัวเย่โม่เซินแน่นอน
แต่ตอนนี้ล่ะ?
เธอถึงกับเห็นหานมู่จื่ออยู่ที่นี่
หัวใจของตวนมู่เสว่ ก็กระวนกระวายขึ้นมาทันที เพราะยังไงความสัมพันธ์ระหว่างหานมู่จื่อและเย่โม่เซิน ตวนมู่เสว่รู้ดี
“คำถามนี้ คุณไม่ควรถามฉัน” หานมู่จื่อตอบเธออย่างเรียบเฉย เธอโน้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อล้างมือ จากนั้นก็ไปเป่าแห้งที่เครื่องเป่ามือ เสียงเป่าลมก็เติมเต็มห้องน้ำที่เงียบสงบในทันที
แต่ทันใดนั้น ตวนมู่เสว่ก็เดินย่ำเท้าไปหาเธอ
“ทำไมคุณอยู่ที่นี่? คุณหาเขาเจอได้อย่างไร? คุณปรากฏตัวตั้งนานแล้วใช่ไหม?”
เธอไม่ได้สังเกตเลยด้วยซ้ำ คิดว่ามีคุณปู่ยู่ฉือคอยบงการอยู่ข้างหลังก็ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น ห่วงได้มากขนาดนี้หากเขาอยู่หลังดาบ แต่คาดไม่ถึงว่า หานมู่จื่อก็ยังคงปรากฏตัวอยู่ดี
เธอถามเสียงดังมากด้วยความสงสัย
สายตาที่เรียบเฉยของหานมู่จื่อ ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างหมดคำพูด จากนั้นก็พูดหัวเราะเยาะ “คุณตื่นเต้นขนาดทำไม? ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่ คงไม่จำเป็นต้องอธิบายให้คุณฟังมั้ง? สำหรับฉันหาเขาเจอได้อย่างไร น่าจะเป็นกระแสจิต เพราะว่า…… เราเป็นสามีภรรยากัน”
คำว่าสามีภรรยา กระทบกระเทือนจิตใจ ตวนมู่เสว่ทันที เธอโยนของในมือทิ้ง เข้าไปจับไหล่ของหานมู่จื่อโดยตรง
“ไม่! พวกคุณไม่ใช่สามีภรรยา! เขาไม่ได้ไปงานแต่งงานนั้นเลย ในงานแต่งงานมีเพียงคุณคนเดียวเท่านั้น เจ้าสาวที่ถูกทอดทิ้งแล้วโดนสื่อมวลชนหัวเราะเยาะ พวกคุณถือเป็นสามีภรรยาแบบไหนกัน?”
เธอออกแรงเยอะมาก บีบจนทำให้หานมู่จื่อรู้สึกเจ็บ เธอขมวดคิ้วไว้ สายตาที่มอง ตวนมู่เสว่ยิ่งเยือกเย็นเรื่อยๆ
“ปล่อยมือ”
ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะพลังอำนาจในตัวเธอแข็งแกร่งเกินไป หรือว่าสายตาของเธอ มีพลังน่าเกรงขาม หรือเพราะอะไรก็ตาม ตวนมู่เสว่ก็ได้ปล่อยมือออกอย่างเชื่อฟังจริงๆ
เมื่อเธอรู้ตัวอีกทีก็ได้เชื่อฟังคำพูดของเธอไปแล้ว หลังจากปล่อยมือออก ก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า แค่พูดอย่างเยาะเย้ย “เขาไม่ปรากฏในงานแต่งเลยด้วยซ้ำ ไม่ได้อยากจะแต่งงานกับคุณเลย คุณเองก็ไม่คิดทบทวนดูหน่อย อย่างคุณจะคู่ควรอยู่กับเขาเหรอ? เชอะ ถึงกับไล่ตามมาถึงที่นี่อย่างไร้ยางอาย ทำไม คุณคิดว่าคุณไล่ตามถึงที่นี่ เขาก็จะอยู่กับคุณเหรอ?”
แม้ว่าตวนมู่เสว่อยากจะรักษาภาพลักษณ์ฐานะคุณหนูไฮโซของเธอ แต่เพราะโกรธจนเสียหลัก เวลาที่เธอพูด การแสดงออกบนใบหน้า อดไม่ได้ที่จะบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด
และเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องทำงานตอนเมื่อกี้ หานมู่จื่อได้ยินจากนอกทั้งหมดแล้ว ตอนที่ ตวนมู่เสว่ออกมา เธอเลยเข้าไปในห้องน้ำ
เธอคิดว่า ถ้าตวนมู่เสว่ ก็เข้ามาเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นพวกเธอก็จำเป็นต้องเจอหน้ากันจริงๆแล้ว
ถ้าเธอไม่เข้ามา งั้น…… เธอจะถือว่าวันนี้ไม่ได้เจอเธอ
แต่ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่า แม้แต่พระเจ้าก็ต้องการให้พวกเธอเจอกันในวันนี้
“ถ้าจะสู้ความไร้ยางอาย ฉันคิดว่าจะมีใครกล้าสู้กับคุณเลย ทั้งๆที่รู้ว่าคนอื่นมีคู่ครองในใจแล้ว แต่ยังได้เข้ามายั่วยวนอย่างไร้ยางอาย”
พูดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อเอามือกอดอกไว้ ชำเลืองมองอีกฝ่ายด้วยความสมเพช “คิดไม่ถึงว่า ลูกสาวที่ตระกูลตวนมู่อบรมสั่งสอนออกมา กระตือรือร้นที่จะเป็นเมียน้อยมากขนาดนี้ ฉันอยากรู้จริงๆ ตั้งแต่เล็กจนโต คุณได้รับการศึกษาแบบไหน?”
ตวนมู่เสว่ จ้องเขม็งทันที “คุณว่าใครเป็นเมียน้อย?”
หานมู่จื่อ “ใครกินปูนร้อนท้อง ก็คือใคร”
ตวนมู่เสว่ “คุณ!”
เมื่อมองหานมู่จื่อตรงหน้า ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงอะไรบางอย่าง และยิ้มอย่างมีชัย
“เธอยังคงไม่รู้สินะ? ตระกูลยู่ฉือและ ตระกูลตวนมู่ เป็นตระกูลที่ผูกมิตรกันหลายชั่วโคตร ฉันกับเขาจะหมั้นกันในเร็วๆนี้ ถึงเวลานั้น เขาไม่เพียงจะหมั้นกับฉัน แต่ยังจะแต่งงานมีลูกกับฉันด้วย สำหรับคุณ…… ฮิฮิ บางทีเมียน้อย กำลังพูดถึงตัวคุณเองนะ”
“จริงเหรอ?” หานมู่จื่อยิ้มจางๆ พูดอย่างเฉยเมย “ถ้าวันไหนพวกคุณหมั้นกับจริงๆ ยินดีต้อนรับคุณส่งการ์ดเชิญให้ฉัน”
ถ้าเธอโมโหจนสติแตก งั้นตวนมู่เสว่ ก็จะดีใจมาก สามารถพูดยั่วยุปลุกปั่นอารมณ์เธออีก แต่อีกฝ่ายสงบเรียบเฉยขนาดนี้ เสมือนไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ก็ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
ท่าทางนี้…… ถ้าไม่ใช่เพราะมั่นใจเต็มเปี่ยม จะไม่เป็นแบบนี้แน่นอน!
ดังนั้น ทำไมเธอถึงมั่นใจเต็มเปี่ยมเช่นนี้ หรือว่า……เย่โม่เซิน ฟื้นความทรงจำแล้ว?
ไม่ เป็นไปไม่ได้!
เป็นไปไม่ได้ที่เย่โม่เซินจะฟื้นความทรงจำได้เร็วขนาดนี้ แล้วทำไมเธอถึงมั่นใจขนาดนี้?
ตวนมู่เสว่ รู้สึกกลัวเล็กน้อย เธอจ้องไปที่หานมู่จื่อที่อยู่ตรงหน้า เดินไปหาเธอทีละก้าว
“ทำไมคุณถึงมั่นใจขนาดนี้? คุณไม่รู้หรือว่า แม้ว่าตัวเขาเองจะไม่เห็นด้วยกับการหมั้น แต่คุณปู่ยู่ฉือก็จะกดหัวบังคับเขา ให้เขาอยู่กับฉัน? ถ้าคุณพูดจารู้เรื่อง ฉันแนะนำให้คุณตอนนี้รีบจากไปโดยเร็ว อนาคตจะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง”