เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 914
บทที่ 914 สังเกตสีหน้าไม่เป็น
มองเจ้าตัวเล็กตรงหน้า ใส่ชุดจนอ้วนตุ้ยนุ้ย หานมู่จื่อก็อดใจไม่ไหว ยื่นมือไปหยิกแก้มที่อ่อนนุ่มของเขา แล้วพูดขึ้นเสียงเบา “เมื่อกี้หม่ามี๊ละเลยหนูแล้วใช่ไหม? ขอโทษด้วยนะ เกิดเรื่องขึ้นกะทันหัน เมื่อกี้หม่ามี๊ก็รู้สึกตกใจหวาดกลัวเหมือนกัน ดังนั้นเลยไม่มีเวลาที่จะคุยกับเสี่ยวหมี่โต้ว ถ้าเสี่ยวหมี่โต้วโกรธ ก็ตีหม่ามี๊ระบายความโกรธดีไหม?”
เดิมทีเสี่ยวหมี่โต้วแค่อยากจะทำตัวเย็นชานิดหน่อย แต่เมื่อ หานมู่จื่อพูดอย่างนี้ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองอยากจะร้องไห้ขึ้นมาทันที
ฮึ่ยๆ หม่ามี๊เอ๊ย
เช้าไม่สนใจเขา สายไม่สนเขา ก็ไม่ต้องสนใจเขาตลอดเลยสิ
แต่ดันมาสนใจเขาในเวลานี้ แล้วยังพูดซึ้งใจมากมาย เสี่ยวหมี่โต้วก็ไม่อยากทำตัวออดอ้อนต่อหน้าผู้ใหญ่จำนวนมากแบบนี้ เขาเป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชายนะ ด้านที่อ่อนแอ มีเพียงหม่ามี๊เท่านั้นที่สามารถเห็นได้
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เสี่ยวหมี่โต้วก็เลยพูดว่า “หม่ามี๊ เสี่ยวหมี่โต้วไม่ได้โกรธ เสี่ยวหมี่โต้วรักหม่ามี๊มากที่สุด จะไม่โกรธหม่ามี๊หรอก”
“เอาล่ะ” เสี่ยวเหยียนก้าวไปข้างหน้าดึงตัวหานมู่จื่อ “พวกเราข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาคุณเลยนะ เสี่ยวหมี่โต้วได้เจอคุณ ดีใจยังไม่ทันกาลเลย จะโกรธคุณได้อย่างไร?”
คนอื่นจะไม่มีความรู้สึกแบบนี้
แต่หานมู่จื่อเป็นแม่คนแล้ว เธอรู้ดี
เมื่อกี้ตัวเองไม่ได้ใส่ใจเสี่ยวหมี่โต้วเลย ในใจของเด็กจะต้องรู้สึกน้อยอกน้อยใจแน่นอน แม้ว่าตอนนี้เสี่ยวหมี่โต้วบอกว่าตัวเองจะไม่โกรธเธอก็ตาม แต่แม่ลูกมีใจเชื่อมโยงกัน อย่างไรก็ตาม หานมู่จื่อยังคงสามารถรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจข้างในใจของเสี่ยวหมี่โต้ว
แต่ว่า เสี่ยวหมี่โต้วไม่อยากพูด ถ้าอย่างนั้นก็ไม่พูดถึงชั่วคราว
หลังจากเรื่องนี้ผ่านไป เธอค่อยคุยกับเขาดีๆ
“ได้ ถ้าอย่างนั้นหม่ามี๊กลับไปก่อนนะ หนูเป็นลูกผู้ชายนะ ต้องดูแลแดดดี้ของหนูกับลุงเซียวด้วยกัน ถ้าแดดดี้ของหนูตื่นขึ้นมา เขา……”
ประโยคหลังยังไม่ได้พูดจบ เสี่ยวหมี่โต้วก็พูดต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว
“หม่ามี๊ ไม่ต้องเป็นห่วง ทางแดดดี้เสี่ยวหมี่โต้วจะดูแลเอง น้าเสี่ยวเหยียน คุณย่าเล็ก พวกคุณรีบพาหม่ามี๊ออกไปเถอะ ~”
เสี่ยวเหยียนยื่นมือออกไป บีบจมูกของเสี่ยวหมี่โต้วอย่างแรง “งั้นพวกเราไปก่อนนะ มีเรื่องอะไร อย่าลืมโทรหาน้าเสี่ยวเหยียน”
หลังจากที่ทั้งสามคนจากไปแล้ว เซียวซู่ก็ก้มหัวแล้วสบตากับเสี่ยวหมี่โต้วพอดี
ทันใดนั้นเสี่ยวหมี่โต้วก็ยื่นมือออกมา แล้วพูดว่า “ลุงเซียว อยากกอด”
เซียวซู่ “???”
แม้ว่าจะรู้สึกแปลกใจมาก ว่าเจ้าตัวเล็กคนนี้ ทำไมถึงขอกอดตัวเองกะทันหัน แต่เซียวซู่ก็ยังอุ้มเขาขึ้นมาตามคำพูด เด็กที่น่ารักแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ยากที่จะปฏิเสธ
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นลูกของคุณชายเย่ด้วย
“ลุงเซียว ลุงว่าเพราะฉันที่ทำให้แดดดี้ตกใจจนเป็นลมหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวซู่ก็ขมวดคิ้วขึ้น “ทำไมถึงพูดอย่างนี้ เด็กน้อยอย่าคิดมาก เมื่อกี้ไม่ได้ฟังที่หมอพูดเหรอ? แดดดี้ของหนูแค่ได้รับความกระทบกระเทือนทางสมองเท่านั้น จึงทำให้เป็นลมหมดสติ ได้ไม่มีอะไรร้ายแรง”
โอ้” เสี่ยวหมี่โต้วพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ถ้าอย่างนั้นเราจะเข้าไปในห้องผู้ป่วยด้วยกัน รอให้แดดดี้ตื่นขึ้นมาไหม? ถ้าสักพัก แดดดี้ตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นฉัน จะเป็นลมอีกไหม?”
เซียวซู่รู้สึกละอายใจเล็กน้อย “น่าจะไม่แล้วมั้ง”
เซียวซู่คิดสักพัก ก็ยังอุ้มเขาเข้าไปอยู่ในห้องผู้ป่วย
*
หานมู่จื่อกับส้งอาน เสี่ยวเหยียนกลับไปด้วยกัน แต่ทันทีที่ออกจากลิฟต์ ก็เห็นเงาสองร่างที่หน้าประตู
คนหนึ่งถือไม้เท้าไว้ยืนอยู่ที่นั่น และอีกคนหนึ่ง กดออดอย่างมีความอดทน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก มีเสียงดังขึ้น
ดังนั้นทั้งสองคนได้ยินเสียง จึงหันหน้ากลับมา
สายตาหลายคู่สบกันทันที
หยูโปแสดงรอยยิ้มที่เป็นมิตรก่อน “คุณหนูอานอาน คุณหญิงน้อย ที่แท้พวกคุณออกไปข้างนอกแล้ว ถึงว่ากริ่งประตูนี้กดตั้งนาน ก็ไม่มีคนตอบรับเลย”
หยูโปปรากฏตัวที่นี่ได้ หานมู่จื่อกับส้งอานไม่แปลกใจเลย เพราะพวกเธอทั้งสองคน ก็ไม่ได้เกลียดหยูโป แล้วยังคิดว่า หยูโปเป็นคนดีมากด้วย
แต่ว่า อีกคนหนึ่ง……
เขาค้ำไม้เท้าไว้ ยืนอยู่ที่นั่น สีหน้าเคร่งขรึม เหมือนปกคลุมไปด้วยเมฆดำ สายตาที่มองหานมู่จื่อ เต็มไปด้วยความโกรธ
“เธอปฏิบัติต่อผู้หลักผู้ใหญ่อย่างนี้หรือ?”
หานมู่จื่อแน่ใจ ว่าสายตาของเขาจ้องมองมาที่ตัวเอง แล้วถามประโยคนี้ เธอก็รู้สึกถึงแรงกดดันจากพลังอำนาจของยู่ฉือจิน แต่เธอยังไม่เข้าใจในทันที ตัวเองปฏิบัติต่อผู้หลักผู้ใหญ่อย่างไร?
หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง หานมู่จื่อก็คิดว่า อาจเป็นเพราะตัวเองเจอหน้ากัน ไม่ได้ทักทายเขา?
ดังนั้นหานมู่จื่อจึงยิ้มเล็กน้อย แล้วเรียกว่า “สวัสดีค่ะ คุณตา”
ยู่ฉือจินค้ำไม้เท้าไว้ เกือบล้มไปข้างหน้า สีหน้าโกรธเคือง “เธอๆๆ ใครอนุญาตให้เธอเรียกฉันแบบนี้? ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงให้เธอคบกับอาเซิน”
“แล้วคุณมาทำอะไร?”
ส้งอานมือกอดอกอย่างไม่พอใจ ชำเลืองมองยู่ฉือจินอย่างเย็นชา “ในคืนส่งท้ายปีเก่า คุณมาที่นี่ในครั้งนี้ หรือว่าก็เพราะเพื่อที่จะเยาะเย้ยคนอื่น?”
เมื่อได้ยินลูกสาวของตัวเองพูดตำหนิตัวเอง ยู่ฉือจินก็รู้สึกว่าตัวเองเสียหน้าในทันที แต่ก็ไม่อยากที่จะเสียอารมณ์ใส่ส้งอาน ถ้าทำให้เธอตกใจวิ่งหนีอีกจะทำอย่างไรดี?
ลูกสาวคนนี้ยากนักที่จะกลับมาครั้งหนึ่ง?
เมื่อก่อนยู่ฉือจินรู้สึกว่า พวกเธอจะเอาแต่ใจ ก็ปล่อยพวกเธอไป ต่อให้จะไม่กลับมาตลอดชีวิต เขาก็จะไม่ไปหาพวกเธอ
แต่เมื่อส้งอานปรากฏตัวต่อหน้าเขา คนที่มีชีวิตอยู่จริงๆเช่นนี้ คนที่มีชีวิตชีวาเช่นนี้ ยู่ฉือจินถึงตระหนักได้อย่างแท้จริง ตัวเองคิดถึงลูกสาวมากจริงๆ
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ยู่ฉือจินก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “อานอาน เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตของฉันไม่มากแล้ว เธออย่าเป็นศัตรูกับพ่ออีกเลยได้ไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ส้งอานก็เยาะเย้ยที่ริมฝีปาก “นายท่านยู่ฉือ นี่กำลังเล่นบทบาทน่าสงสารกับฉันหรือ? แต่น่าเสียดาย อยู่ที่ฉัน วิธีนี้ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด”
ทุกคนมองหน้ากันไปมา
ส้งอานไม่ไว้หน้ายู่ฉือจินเลยจริงๆ แม้ว่ายู่ฉือจินจะโกรธมาก แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรรุนแรงกับลูกสาวคนสุดท้องของเขา ทำได้แค่ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ได้ๆๆ เธอคิดว่าฉันกำลังเล่นบทน่าสงสาร งั้นฉันก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว แต่วันนี้ฉัน……”
“วันนี้คุณมาทำอะไร? พวกเรากำลังจะทานอาหารข้ามคืนต้อนรับปีใหม่แล้ว ไม่ว่าวันนี้คุณจะมีเรื่องอะไรก็ตาม พวกเราไม่อยากจะฟัง และไม่อยากจะรู้ ดังนั้น เชิญกลับไปเถอะ!”
ส้งอานออกคำสั่งขับไล่โดยตรงอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นก็หันไปด้านข้าง เป็นนัยให้พวกเขาออกไป
เสี่ยวเหยียนที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังหานมู่จื่อ ไม่กล้าแม้แต่ส่งเสียงดัง
แม่เจ้า! เป็นก็คือคุณตาของเย่โม่เซินหรือ? ตอนที่พูดกับมู่จื่อ ดูเหมือนจะดุมาก แต่เมื่อกับลูกสาวของตัวเอง กลับกลายเป็นตัวขี้ขลาด ดูเหมือนว่า…… ก็ไม่เหมือนเป็นคนเลวอะไร
ส่วนหานมู่จื่อยืนอยู่ข้างๆ ก็ไม่รู้จะพูดอะไร เธอดูเหมือน……จะไม่มีจุดยืนอะไร
เพราะยังไงแล้วฐานะของตัวเองในตอนนี้ ไม่ได้รับการยอมรับจากยู่ฉือจินเลย พูดมากหนึ่งคำก็จะทำให้เขาเกลียดเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน ดังนั้นหานมู่จื่อจึงยืนเฉยๆอยู่ด้านข้างไม่พูดอะไรเสียเลย
ยู่ฉือจินแทบจะโกรธเป็นบ้า
ในวันส่งท้ายปีเก่า เขาเข้ามาให้หยูโปกดกริ่ง จุดประสงค์นี้ยังไม่ชัดเจนมากพอหรือไง? ส้งอาน เป็นลูกสาวของเขา รังเกียจเขาเป็นเรื่องธรรมดา แต่หานมู่จื่อล่ะ?
เธอชอบอาเซินไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมไม่ช่วยเขาพูดสักคำ?
ยู่ฉือจินโกรธยิ่งนัก สายตามองพิจารณาไปที่หานมู่จื่อตลอด จากนั้นก็ส่งสายตาให้หยูโป อีก
สังเกตสีหน้าไม่เป็นเลยจริงๆ!