เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 953
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 953 โชคชะตาเป็นสิ่งที่ฟ้ากำหนด
ไม่ว่าเธอจะเข้าใจว่านี่คือฝันหรืออะไรก็ตาม หานชิงไม่ได้ทำตามที่เธอขอให้เขาพูดเพราะๆ
ผลสุดท้าย เสี่ยวเหยี่ยนไม่พอใจแล้วใช้แรงมุดเข้าไปที่ตัวของเขา
ไม่ว่ายังไงตอนนี้เธอก็กำลังฝันอยู่
ในความเป็นจริงเธอไม่สามารถทำอะไรเขาได้ งั้นในฝันก็ถือว่าทำได้สินะ
เพราะฉะนั้นเสี่ยวเหยียนจึงเอาแต่วุ่นวายกับหานชิง
“นายมันคนเลว ฉันให้นายพูดเพราะๆ นายก็ไม่ยอม นี่นายยังกล้ามาเข้าฝันฉันอีกเหรอ ตอนกลางวันก็ทิ้งฉันเอาไว้ ในความจริงฉันไม่กล้าทำอะไรนาย ตอนนี้ล่ะฉันจะแก้แค้นนายให้หมด!”
เธอใช้ทั้งขาและมือของเธอดึงเขาไม่หยุด หานชิงทำได้เพียงหลบ แต่เพียงครู่เดียวเธอก็เหมือนปลาหมึกที่เกาะอยู่บนตัวของเขา มือทั้งสองข้างโอบอยู่ที่คอของชายหนุ่ม
“คนเลว นายทิ้งฉันโดยไม่พูดอะไรสักคำ ขอโทษเลยนะ”
หานชิงโดนเธอวอแวจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย เขาก้มหน้าแล้วหายใจเบาๆ จากนั้นจึงมองเธอแล้วพูดว่า “เธอบอกให้พนักงานมาบอกผมว่าให้ออกมาก่อนไม่ใช่เหรอ”
ได้ยินดังนั้น เสี่ยวเหยียนก็เบิกตาโพลง “ฉันบอกให้นายไปนายก็ไปอย่างนั้นเหรอ อย่าบอกนะว่านายไม่รู้ว่าผู้หญิงชอบปากไม่ตรงกับใจ โดยเฉพาะกับคนที่ตัวเองชอบน่ะ!”
หานชิง “……”
เขาไม่รู้จริงๆ
เขาจะเดาความคิดของผู้หญิงออกได้ยังไงกัน?
“ฉันไม่สน นายทิ้งฉัน ฉันต้องคิดบัญชีกับนาย!”
เสี่ยวเหยียนมองใบหน้าอันหล่อเหลาที่อยู่ตรงหน้า ความโกรธทำให้เธอมีความกล้ามาก ในเมื่อเขาปฏิเสธเธอแล้ว เธอจูบเขาในฝันคงจะไม่เกินไปหรอกใช่ไหม?
เมื่อคิดได้ดังนั้น เสี่ยวเหยียนทำปากจู๋แล้วโน้มหน้าเข้าไปหาหานชิง
หานชิงหันหน้าไปทางอื่น สีหน้าเขาเปลี่ยนสี ริมฝีปากนุ่มประทับลงบนใบหน้าของเขา
“นี่ นี่ อย่าหลบสิ!” เสี่ยวเหยียนจูบไม่สำเร็จ เธอโกรธจนพูดออกมาเสียงดัง จากนั้นจึงจูบอีก
หานชิงเอามือจับปากของเธอ ไม่ให้เธอวุ่นวายอีกจากนั้นจึงพูดออกมาว่า “ถ้ายังวุ่นวายอีก ผมจะตีให้สลบเลยนะ”
เสี่ยวเหยียนหยุดการกระทำของตัวเอง เธอกลับไปทำตัวน่าสงสาร น้ำตาคลอเต็มเบ้า เธอกลับไปนั่งบนเตียงแล้วยกมือเช็ดน้ำตาพลางร้องไห้พูดออกมาว่า “ฉันนี่ไม่เอาไหนเลย ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือความฝัน นายก็ไม่ดีกับฉันเหมือนกันเลย”
เธอเช็ดน้ำตาอย่างรุนแรง แล้วหันหลังให้เขา
“นายไปเถอะ”
“.…..” หานชิงพูดไม่พูดอะไร
เห็นแผ่นหลังอันผอมซูบของเธอ หานชิงไม่รู้ควรจะพูดอย่างไร เขาถอนหายใจแล้วพูดออกมาว่า “เธอนอนลงไปเถอะ ห่มผ้าให้ดี แล้วผมจะออกไป”
เสี่ยวเหยียนนั่งนิ่ง จนกระทั่งหานชิงมาดึงมือของเธอ เธอจึงตวาดออกมาด้วยความโมโห “นายไม่ต้องมาเข้าฝันฉันอีกแล้วได้ไหม ฉันให้นายไปแล้ว ใครใช้ให้นายมาเป็นห่วงฉัน ไม่ต้องมาเสแสร้งแล้ว ตอนกลางวันที่นายทิ้งฉันไว้ มีความสุขมากไม่ใช่หรือไง แล้วตอนนี้มาเสแสร้งให้ใครดู”
เมื่อได้ยินดังนั้นแววตาของหานชิงก็เย็นชาลง มองจนเสี่ยวเหยียนรู้สึกหวาดระแวง
นี่มันความฝันไม่ใช่เหรอ ทำไมมันเหมือนความจริงจังเลย อย่าบอกนะว่าหานชิงผู้สง่างามยังไม่ยอมรับความคิดและการควบคุมของเธอแม้แต่ในฝัน
นี่มันเกินไปหน่อยแล้ว
เสี่ยวเหยียนไม่กล้าพูดอะไรออกไปอยู่พักหนึ่ง
“ผมไม่ได้กลับไป”
หานชิงหรี่ตามองเธอแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เสี่ยวเหยียนอึ้งไป “มะ ไม่ได้กลับไปงั้นเหรอ เป็นไปไม่ได้ นะ นายหลอกฉัน!”
น้ำเสียงของเธอดังขึ้น ท่าทางเหมือนไม่อยากจะเชื่อ “เห็นๆ อยู่ว่าพนักงานกลับมาบอกว่านายกลับไปแล้ว ไม่แม้แต่จะหันกลับมา!”
ตอนนั้นเธอรู้สึกเสียใจมาก เขาไม่แม้แต่จะรอเธอกลับไป แสดงว่าเขาไม่ชอบเธอแถมยังเกลียดเธออีกด้วย
แต่ว่าตอนนี้ เขากลับมาบอกว่าเขาไม่ได้กลับไป
เป็นไปได้ยังไงกัน?
เขาไม่ได้กลับไป ถ้างั้นเขาไปไหนล่ะ?
แต่ว่าคำถามข้อหลังเสี่ยวเหยียนถามไม่ทัน เพราะว่าตอนที่เธอพูดประโยคพวกนั้นออกไป หานชิงเพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรออกไป เขาหลับตาลงแล้วดันเสี่ยวเหยียนให้นอนลงไป จากนั้นจึงห่มผ้าให้เธอ
“เธอเหนื่อยแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ”
เสี่ยวเหยียนคิดจะขัดขืน แต่อาจจะเป็นเพราะพิษไข้ ทำให้เธอเหนื่อยจริงๆ เปลือกตาของเธอหนักขึ้นเรื่อยๆ
เธอพยายามลืมตา แล้วเอาแต่พูดพึมพำ “ไม่ นายพูดให้ชัดเจนก่อน”
“ถ้าไม่พูดให้เคลียร์ นายก็ห้ามไป” เสี่ยวเหยียนจับแขนเสื้อของเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
พูดจบไปเสียงของเธอก็เริ่มเบาลงเรื่อยๆ แรงที่จับตรงแขนเสื้อของเขาก็ค่อยๆ หายไป
หานชิงเห็นเธอหลับอย่างที่หวังไว้ เขาถอนหายใจออกมา เขาจัดแขนเสื้อของตัวเองที่เธอทำยับแล้วเดินออกมาจากห้อง
ตอนที่หานชิงเดินออกมาก็เจอกับมู่จื่อที่ยืนอยู่หน้าประตูพอดี
พี่น้องสบตากัน แววตาของมู่จื่อแฝงไปด้วยความสงสัยและอยากรู้
สายตานี่มัน…
หานชิงไม่แน่ใจว่าเธอมาตอนไหน เรื่องในห้องเมื่อกี้ไม่รู้ว่าเธอได้เห็นได้ยินไปมากแค่ไหน
แต่ยังไงแล้วเขาก็ไม่ต้องการอธิบาย เขาเม้มปากแล้วพูดว่า “รีบนอนล่ะ คุณหมอกลับไปแล้ว”
“อื้ม” มู่จื่อพยักหน้าแล้วมองเขาไปหาเสี่ยวเหยียนที่หลับไปแล้วอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นจึงหันมามองหานชิง “พี่…”
แววตาและสีหน้าของหานชิงนิ่งเฉย เขาก้าวอย่างมั่นคงกลับไปที่ห้อง
มู่จื่อต้องกลืนคำพูดที่กำลังจะออกมากลับเข้าไป
ช่างเถอะ เธอไม่ควรจะพูดอะไรมาก เรื่องบางเรื่องเธอที่เป็นน้องสาวเข้าไปยุ่งมากเกินไปก็ไม่ดี
ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของความรู้สึก เธอไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้
โชคชะตาเป็นสิ่งที่ฟ้ากำหนด
เสี่ยวเหยียนกับหานชิงจะจบอย่างงดงามหรือไม่ ไม่ใช่เพราะพึ่งคำพูดของเธอถึงจะเปลี่ยนแปลงได้
แต่ว่า เรื่องที่เกิดในห้องเมื่อกี้ เธอไม่รู้อะไรมาก ตอนที่เธอมาได้ยินเพียงไม่กี่ประโยค น่าจะตั้งแต่ตอนที่เสี่ยวเหยียนถามหานชิงว่าทำไมถึงเธอเอาไว้
จากนั้นหานชิงก็ไม่ได้ตอบ
สุดท้ายมู่จื่อกับเสี่ยวเหยี่ยนก็ยังคงสงสัยไม่ต่างกัน
ถ้าหานชิงไม่ได้กลับไปก่อน แล้วเขาไปไหน แล้วทำไมตอนที่เสี่ยวเหยียนนั่งร้องไห้อยู่บนถนนเขาถึงไม่มาห้าม อย่าบอกนะที่เขาพูดก่อนหน้านี้ อยากให้เสี่ยวเหยียนตาสว่าง
เจ็บเพียงชั่วครู่ดีกว่าเจ็บตลอดไป?
คิดไปคิดมามู่จื่อยิ่งปวดหัว สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจไม่คิดอะไรอีก
อีกด้านหนึ่ง
คนที่ถูกรับมาที่ตระกูลยู่ฉืออย่างเสี่ยวหมี่โต้ว เข้าไปได้ไม่นานก็เห็นส้งอานกำลังนั่งอยู่บนโซฟา เธอสวมแว่นสีดำนั่งไขว่ห้างเอามือกอดอก ท่าทางดูน่าเกรงขาม
ยู่ฉือจินนั่งอยู่ไม่ไกลจากเธอ ถ้าเทียบรัศมีกับส้งอานแล้วเขาแพ้เธอค่อนข้างมาก
“คุณย่าส้งอาน” เมื่อเสี่ยวหมี่โต้วเห็นส้งอานก็รีบเรียกเธอทันที
ส้งอานที่มีท่าทีน่าเกรงขาม เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเสี่ยวหมี่โต้วก็รีบเปลี่ยนท่าทีทันที
เธอถอดแว่นแล้วพูดว่า “เสี่ยวหมี่โต้ว?”
แต่เพียงครู่เดียว ส้งอานก็พบบางสิ่งบางอย่าง
ทำไมถึงมาคนเดียว พ่อกับแม่ล่ะ?
เมื่อยู่ฉือจินเห็นเสี่ยวหมี่โต้ว ใจของชายชราก็เต้นแรงขึ้นมาทันที แต่คิดไม่ถึงว่าคนแรกที่เสี่ยวหมี่โต้วเรียกจะเป็นส้งอาน ราวกับว่าคนแก่คนนี้ไม่อยู่ในสายตาของเด็กน้อยอย่างไรอย่างนั้น
จู่ๆ ยู่ฉือจินก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา