เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 967
บทที่ 967 รักษาความอบอุ่น
เจสันคิดแบบนั้นจริงๆ
เมื่อเขาพูดสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดอยู่ในใจ จู่ๆ เจสันก็พูดอะไรไม่ออก
ต่อมาเขาได้ยินเสียงของเย่โม่เซินพูดออกมาว่า “ฉันแค่อยากฟื้นความทรงจำ ไม่ได้จะฆ่าตัวตาย”
พูดจบ เขาจึงเริ่มปลดกระดุมเสื้อนอกของเขาทีละเม็ด
ตรงหน้าคือสระน้ำขนาดใหญ่ ที่นี่ใหญ่กว่าที่ที่เคยจำลองเหตุการณ์ค่อนข้างมาก เจสันมองไปรอบๆ แล้วพูดว่า “พวกเราไปหาคนมาดูนายเพิ่มอีกหน่อยดีกว่า ไม่งั้นถ้าเกิดอะไรขึ้น ฉันคนเดียวกลัวว่าจะช่วยนายไม่ทัน”
มือของเย่โม่เซินชะงักไป เขาตอบรับออกมา
ดังนั้นเจสันจึงรีบออกไปหาคน เขาใช้โอกาสตอนที่ออกไป หยิบมือถือขึ้นมาดู พบว่าวีแชทของเซียวซู่ยังคงเงียบ ไม่ตอบกลับเขาแม้แต่ข้อความเดียว
โอ๊ย ไอ้เลวนี่มันเป็นอะไร ไม่สนใจคุณชายเย่ของตัวเองเลยหรือไง
เขาแชร์โลเคชั่นนานขนาดนี้ เซียวซู่ไม่เห็นเลยหรือไง
แต่ไม่นาน เจสันก็พบว่ามีบางสิ่งผิดปกติ
เพราะเมื่อเขาดูบนแผนที่ ตำแหน่งสีเขียวของเซียวซู่อยู่ใกล้เขามาก จนเกือบจะซ้อนทับกันจนเขาแทบจะมองไม่ออก
เมื่อเห็นดังนั้น เจสันดีใจจนแทบจะส่งเสียงออกมา
คิดไม่ถึงว่าเซียวซู่จะมาจริงๆ ไม่เสียแรงที่เขายื้อเวลามาตลอดทาง
เพื่อป้องกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น เจสันจึงไม่ปิดการแชร์โลเคชั่น จากนั้นจึงเก็บมือถือลงในกระเป๋าเสื้อแล้วเดินกลับไป
เย่โม่เซินยืนอยู่ที่เดิม สีหน้าของเขายังปกติ เมื่อเห็นเจสันกลับมา จึงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จะเริ่มได้หรือยัง”
“รออีกหน่อย” หลังจากที่เห็นว่าเซียวซู่กำลังจะมาที่นี่ เจสันจึงตัดสินใจยื้อเวลาก่อนที่เขาจะมาอีกหน่อย วันนี้อาจจะมีผลที่ไม่เหมือนเดิมก็ได้
“ห๊ะ?” เย่โม่เซินเลิกคิ้วขึ้นมองเขา “มีเรื่องอะไรอีก”
“เมื่อกี้ฉันมาคิดดูดีๆ อาการป่วยของนาย ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีรักษา อาจจะไม่ต้องใช้วิธีที่เสี่ยงขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นจากประสบการณ์ของฉัน มีคนน้อยมากที่รักษาอาการความจำเสื่อมโดยใช้วิธีแบบนาย เพราะฉะนั้นเมื่อกี้ฉันเลยคิดอะไรดีๆ ออก”
“วิธีอะไร” เย่โม่เซินถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“วิธีน่ะมีแน่ๆ อยู่แล้ว แต่ต้องวางแผน ฉันเลยคิดว่าวันนี้เราอย่าเพิ่งรีบร้อน กลับไปกับฉันก่อน เดี๋ยวฉันเขียนแผนเสร็จ ถ้านายพอใจ พรุ่งนี้เราค่อยมาเริ่มกัน”
เย่โม่เซินนิ่งไป เจสันมองเขาอย่างสงสัย “นายว่ายังไง”
“เหอะ”
เย่โม่เซินแสยะยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “มาถึงขนาดนี้แล้ว นายพูดเรื่องนี้มันจะมีประโยชน์อะไรอีก”
“นายมองออกสินะ โอเค วันนี้ฉันไม่อยากให้นายลงน้ำ สัปดาห์นี้จิตใจนายได้รับการกระทบกระเทือนมาก มันสะสมมาเป็นสัปดาห์ ถ้าวันนี้นายลงน้ำไปแล้วเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่มีปัญญาไปรับผิดชอบหรอกนะ”
พูดจบ เขาก็พูดต่ออีก “แต่เมื่อกี้ฉันคิดวิธีออกจริงๆ นะ หลายคนรักษาหายด้วยวิธีนี้ ถ้านายไม่เชื่อ นายกลับไปกับฉัน แล้วฉันจะอธิบายให้นายฟัง”
เจสันรู้ว่าเย่โม่เซินไม่มีทางกลับไปกับตัวเองแน่ๆ เขาแค่ตั้งใจพูดยื้อเวลาเท่านั้น
ราวกับว่าเย่โม่เซินรู้จุดประสงค์ของเขา ชายหนุ่มไม่สนใจเขาอีก ก้าวอย่างมั่นคงไปที่ขอบสระ
“นะ นี่ โม่เซิน นายอย่าผลีผลามสิ ฟังที่ฉันพูดไปเมื่อกี้หน่อย ฉันพูดว่ามีวิธีก็ต้องมีวิธีสิ หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ในช่วงเวลาวิกฤตนี้จู่ๆ เสียงนุ่มนวลของผู้หญิงก็ดังขึ้น
“หลอกฉันสนุกไหม”
“.…..”
เสียงของผู้หญิงที่ดังขึ้นในช่วงเวลาแบบนี้ สำหรับเจสันแล้วเปรียบเหมือนแสงสว่างจากพระเจ้า เขาหันไปมองตามเสียง เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง
แถมยังมีคนยืนอยู่ข้างๆ ผู้หญิงคนนั้นสองสามคน หนึ่งในนั้นคือเซียวซู่
เห็นได้ชัดว่าพวกเขารีบร้อนมากันเป็นอย่างมาก ลมหายใจของพวกเขาไม่สม่ำเสมอ
ในที่สุดเขาก็ยื้อเวลาได้สำเร็จ โชคดีที่เขาพูดห้าม ไม่งั้นตอนนี้เย่โม่เซินคงจะกระโดดลงน้ำไปแล้ว
เมื่อได้ยินเสียงของมู่จื่อ เย่โม่เซินรู้สึกเหมือนหัวใจของตัวเองปะทะกับอะไรสักอย่าง เพียงครู่หนึ่งเขาขมวดคิ้วขึ้นแล้วมองเจสันเหมือนจะฆ่าเพื่อนอย่างไรอย่างนั้น
เขาเพิ่งหาที่นี่ ดังนั้นเซียวซู่ไม่มีทางรู้ก่อนได้อย่างแน่นอน
คนที่อยู่ข้างเขาก็เหลือแค่เจสัน
คนที่ส่งข่าวต้องเป็นเจสันอย่างแน่นอน
เจสันเห็นสายตาของเขา จึงทำได้เพียงหยิบมือถือออกมา
“ตอนขึ้นรถฉันแชร์โลเคชั่น แต่การที่จะหานายเจอก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาคงจะฉลาดมากและรวดเร็วมากด้วยเช่นกัน”
เฮ้อ เขาเป็นคนเลวจริงๆ
ตอนแรกก็ดีๆ อยู่นะ แต่ตอนนี้เหมือนเย่โม่เซินจะกินเขาอย่างไรอย่างนั้น น่ากลัวมาก
“ฉันกำลังถามคุณอยู่นะ” เสียงของผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นอีกครั้ง เพียงครู่เดียวเท่านั้น เหมือนกับว่าเจสันเห็นความโกรธของเย่โม่เซินหายไปครึ่งหนึ่ง
ชิส์
นี่คงเป็นพลังแห่งความรักสินะ เจสันบ่นในใจ จากนั้นจึงมองไปยังมู่จื่อเหมือนกำลังประเมินอะไร จากความเข้าใจของเขา แม่ของเย่โม่เซินตายไปตั้งนานแล้ว และเขาไม่ได้มีเยื่อใยกับคนในตระกูลเย่มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่เป็นศัตรูกันแค่เพียงพริบตาเดียว
เพราะฉะนั้นเขาคงไม่ฟื้นความจำเพราะคนในครอบครัวแน่ๆ
ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือเพื่อผู้หญิงคนนี้
คิดไม่ถึงว่าเพื่อนรักที่เคยเย็นชาในตอนนั้น จะยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อผู้หญิงคนเดียว
สวยกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้แฮะ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นดูเธอเป็นคนดีมาก
เพื่อนรักของเขาชอบผู้หญิงแบบนี้เหรอ
ดูเหมือนจะมีออร่ามาก แต่คำพูดเมื่อกี้เหมือนจะไม่อ่อนโยนแม้แต่นิดเดียว แถมยังรุนแรงอีกต่างหาก
เหมือนว่าเพื่อนของเขาจะซวยแล้วล่ะ
เป็นไปตามคาด เย่โม่เซินไม่กล้าหันกลับไปมองหน้ามู่จื่อ ยิ่งไม่ต้องพูดเรื่องสบตากับเธอ
บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัด ทั้งๆ ที่คนก็ไม่น้อย แต่กลับเงียบจนไม่ได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจ
เย่โม่เซินไม่ตอบคำถามของมู่จื่อ เดิมทีมู่จื่อยังยืนอยู่ที่เดิม แต่เมื่อเห็นเขาเอาแต่เงียบ เธอจึงก้าวเข้าไปหาเขา
ทุกคนพากันกลั้นหายใจมองภาพนั้น รู้สึกว่าบรรยากาศโดยรอบเย็นจนเหมือนจะเป็นน้ำแข็ง
ห้องที่ไม่ได้อบอุ่นอยู่แล้วยิ่งเย็นเข้าไปอีก
เมื่อเดินเข้าไปจนอยู่ไม่ห่างกับเย่โม่เซิน มู่จื่อหยุดลงแล้วมองไปบนผืนน้ำ “ไม่กล้าพูดหรือมันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะพูด”
ประโยคสุดท้ายทำให้เย่โม่เซินขมวดคิ้ว เขาเม้มปากแน่น จากนั้นจึงค่อยๆ หันกลับมาสบตากับมู่จื่อ
เจสันกระแอมออกมาแล้วพูดว่า “พวกเราออกไปกันก่อนเถอะ”
พูดจบเขาจึงเดินออกไปข้างนอก คนอื่นก็ไม่อยากอยู่ที่นี่เหมือนกัน จึงเดินตามเขาออกไปเช่นกัน
เมื่อเดินมาถึงนอกประตู ลมหนาวพัดผ่านไป เสี่ยวเหยียนยกมือกอดตัวเองอย่างไม่รู้ตัว เซียวซู่ที่ยืนอยู่ข้างเธอเห็นเช่นนั้นจึงถามออกไป “หนาวเหรอ”
พูดจบ เขาจึงถอดเสื้อโค้ตของตัวเองแล้วเอาไปคลุมตัวของเสี่ยวเหยียน
“เธอเพิ่งจะหายไข้ ต้องรักษาความอบอุ่นเอาไว้ ไม่งั้นจะเป็นไข้อีก”
หานชิงกะพริบตาโดยไม่มีใครสังเกตเห็น หางตาของเขามองไปยังเสื้อที่คลุมอยู่บนตัวเสี่ยวเหยียน