เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 987
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่987ฉันชอบเธอจริงๆ
ในเวลานี้ เสี่ยวเหยียนหลบอยู่ในห้อง เธอไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
หวังว่าพวกมู่จื่อไม่ได้ค้นพบอะไรเข้านะ ถ้าเกิดรู้ว่าเธอโดนเซียวซู่จูบ แบบนั้นเธอ……คงจะไม่มีหน้าไปพบหานชิงอีกจริงๆ
เสี่ยวเหยียนยืนพิงประตู อยากจะลองฟังดูว่าข้างนอกคุยอะไรกัน แต่คิดว่าคงจะไกลเกิน ไป หรือว่าประตูคงจะเก็บเสียงดีเกินไป
เธอต้องพยายามอย่างหนักกว่าจะได้ยินเสียงพูดคุยกันจากข้างนอก
แต่รายละเอียดพูดอะไรเธอไม่รู้ได้
เสี่ยวเหยียนทั้งร้อนใจทั้งหงุดหงิด ตกลงเซียวซู่จะยังไงกันแน่ ทำไมจู่ๆต้องมาจูบเธอด้วย
แม้ว่า……จูบนั้นจะเหมือนกับแมลงปอ
แต่ว่าต่อมา เขาเหมือนกับว่า……
คิดมาถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว
จนกระทั่งข้างนอกไม่มีเสียงแล้ว เสี่ยวเหยียนใจเต้นตุ้มต่อม และก็ไม่รู้ได้ว่าหานชิงกลับมากับพวกเขาหรือเปล่า เธออยากรู้เหลือเกิน แต่ก็ไม่กล้าออกไปดู
ในตอนที่เสี่ยวเหยียนตื่นเต้นจนแทบจะทนไม่ไหว จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูมาจากข้างนอก
พอได้ยินเสียงนี้ เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกขนลุก ลำตัวตรงดิ่ง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
ใครกันนะ
มาเคาะประตูเอาเวลานี้
“ไม่ได้เปิดเผยอะไรหรอก สบายใจเถอะ”
ในตอนที่เธอกำลังสงสัย เสียงคุ้นเคยก็ส่งผ่านประตูเข้ามา
นี่คือ……เสียงของเซียวซู่นี่นา!
เสี่ยวเหยียนสงบสติอารมณ์ จากนั้นดึงประตูให้เปิด ปรากฏว่าเป็นเซียวซู่ที่ยืนอยู่ตรงประตูจริงๆ เธอกระพริบตาปริบๆ“ไม่ได้เปิดเผยจริงๆเหรอ นายแน่ใจนะ”
เซียวซู่เม้มปาก พยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“งั้น……หานชิงกลับมาแล้วเหรอ”
“กลับมาแล้ว”
เสี่ยวเหยียนอยากจะไปหาเขา แต่ว่าสารรูปแบบนี้ไปหาเขา……เขาคงจะ……
“ถ้าอยากจะไปหาเขา ก็ไปเถอะ”เซียวซู่พูดขัดจังหวะความลังเลของเธอ“เขาคงจะไปแล้วในไม่ช้า”
ได้ฟัง เสี่ยวเหยียนสีหน้าเปลี่ยนทันที เธอหมุนตัวกลับห้องไปเก็บเสื้อผ้า แต่ดูเหมือนจะนึกอะไรออกจึงหยุดฝีเท้าลง
เซียวซู่ขมวดคิ้วมองดูเธอ
“เป็นอะไร”
“ช่างเถอะ”เสี่ยวเหยียนตาละห้อย สายตาทอดมองปลายเท้าตัวเองอย่างหมดอาลัยตายอยาก“ฉันว่านายพูดถูกนะ คิดเองเออเองก็ต้องมีขอบข่าย เขาไม่ได้ชอบฉันตั้งแต่ต้น เขาแหนงหน่ายฉัน แต่ฉันก็ยังถลำเข้าไป แบบนี้ยิ่งจะทำให้เขาแหนงหน่าย”
ในเมื่อเขากำลังจะจากไป งั้นเธอก็อย่าไปแส่หาเรื่องใส่ตัวจะดีกว่า
เซียวซู่“……”
คำพูดของเขาเมื่อครู่คือพูดตอนมีอารมณ์ แม้ว่าในใจเขาจะคิดแบบนั้นจริงๆก็เถอะ
เงียบงันชั่วครู่ เซียวซู่อธิบายเสียงค่อย“ที่ฉันพูดแบบนี้ย่อมมีสาเหตุ ฉันแค่ไม่อยากให้ผู้หญิงที่ตัวเองรักต้องเจ็บ ไม่ได้มีเจตนาจะดูแคลนอะไรนะ”
เสี่ยวเหยียนตัวแข็งทื่อ เธอส่ายหน้ามองเซียวซู่อย่างตะลึงงัน
“นาย นายเมื่อกี้……ว่าไงนะ”
ผู้หญิงที่รักเหรอ
เธอฟังผิดแล้วมั้ง
เซียวซู่……นี่กำลังสารภาพรักอยู่เหรอ
จากนั้นเซียวซู่จึงเผชิญกับแววตางุนงงของเธอโดยตรง แล้วกลับยิ้มให้เล็กน้อย พยักหน้า“เธอฟังไม่ผิดหรอก ฉันชอบเธอจริงๆ”
เสี่ยวเหยียน“……เป็นไปได้ไง”เธอเอามือกุมปากถอยหลังไปสองก้าว ส่ายหน้าอย่างไม่น่าเชื่อ“ก่อนหน้า ตอนที่ฉันถามเธอที่ห้องครัว เธอปฏิเสธแล้วนี่”
จากนั้นเสี่ยวเหยียนรู้สึกว่า ผู้ชายที่ซื่อสัตย์อย่างเซียวซู่ คงจะไม่หลอกตนเองหรอก
ดังนั้น……เธอจึงรู้สึกว่าเซียวซู่ไม่น่าจะชอบเธอได้
แต่ว่าตอนนี้ล่ะ เขาบอกว่าเธอเป็นยอดหญิงในดวงใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้น
เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าค่ำคืนนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ตอนนี้ในหัวเธอสับสนยุ่งเหยิงไปหมด เธอเองก็ไม่รู้ว่าควรจะจัดการยังไง
“ตอนนั้นฉันแค่คิดว่ายังไม่ถึงเวลา”
แล้วตอนนี้ล่ะ ตอนนี้ถึงเวลาแล้วเหรอ
“ตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลาหรอก แต่ว่าฉันจูบเธอไปแล้วไง……”
พอได้ยินคำว่าจูบ เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกขนลุก เดินถอยหลังไปหลายก้าว ส่วนเซียวซู่ที่เห็น อาการแบบนี้ก็ตะลึง แววตามืดหม่นลงไป
“ขอโทษนะ ฉันไม่น่าจะพูดคำนี้ออกมาเลย ตอนนี้ฉันก็แค่อยากจะอธิบายให้เธอฟัง ฉันรักเธอมาตลอด ไม่มีเจตนาจะลวนลามเธอแน่นอน”
เสี่ยวเหยียนเข้าใจความหมายเขาในที่สุด หันหน้ากลับไป
“เอาล่ะ รู้แล้วนะ ไม่ต้องอธิบายแล้ว”
“งั้นเธอ……จะโกรธฉันไหม”
เซียวซู่มองตามเงาของเธอ อดที่จะถามขึ้นไม่ได้
เสี่ยวเหยียนอยากจะตบเขาอีกสักฉาด ให้เขาตื่นสติหน่อย เรื่องนี้เธอก็บอกไปแล้วไม่ต้องพูด แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะถามขึ้นมาอีก นี่แหละที่เรียกว่าผู้ชายซื่อจนเซ่อ
“ขี้เกียจพูดด้วยแล้ว!”พูดจบ เสี่ยวเหยียนจึงเดินเข้าห้องปิดประตู ล๊อคเซียวซู่เอาไว้ด้านนอก
เดิมทีเซียวซู่คิดอยากจะลองใจเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าจะโดนตอกกลับจมูกมอม เขายืนลูบ คลำจมูกตัวเองอยู่ด้านนอก รู้สึกอ่อนใจเล็กน้อย
ช่างเถอะ เกลียดก็เกลียด
เขาก็คงไม่ออกห่างเธอเพียงเพราะว่าเธอเกลียดเขาหรอก
ในขณะที่กำลังครุ่นคิด ก็มีเสียงลอดเข้ามาอีก
เซียวซู่หันหน้ากลับมา เห็นหานมู่จื่อหิ้วกระเป๋าสัมภาระของหานชิง
ตอนหานชิงมาไม่ได้เอาสัมภาระมาด้วย แต่ว่ามาอยู่สองสามวัน เขาก็ซื้อกระเป๋าสัมภาระกับเสื้อผ้าผลัดเปลี่ยน แล้วก็มีคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค แล้วเขาก็ได้นำของใส่กระเป๋า
สัมภาระแล้ว
อย่างไรเสียก็เป็นคนรู้จักกัน จะไปอยู่แล้ว เซียวซู่จึงเดินเข้าไปทักทาย
“คุณหานครับ จะไปคืนนี้หรือครับ”
ได้ฟัง หานชิงจึงมองไปที่เขา ทั้งคู่จ้องมองกันกลางอากาศ
“อืม ตั้งใจว่าจะไปพักที่โรงแรมแถวสนามบิน”
“เที่ยวบินพรุ่งนี้ค่อนข้างเช้าน่ะค่ะ เลยต้องพักใกล้ๆจะสะดวกกว่า”หานมู่จื่อตอบอธิบายแทนหานชิง
“ที่แท้เป็นแบบนี้ ผมไปส่งคุณหานนะครับ”
“ไม่ต้องหรอกเซียวซู่ คุณไปพักผ่อนเถอะ พี่ชายฉันก็ให้โม่เซินไปส่งนั่นแหละ”
ก็ควรจะให้เย่โม่เซินไปส่งหรอก
“คุณชายเย่สุขภาพไม่ค่อยดีช่วงนี้ ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ให้ผมไปส่งเถอะครับ”เซียวซู่ไม่ได้ตั้งใจจะหาภาระใส่ตัวหรอกนะ แต่เขาเป็นห่วงสุขภาพเย่โม่เซินจริงๆ
หานมู่จื่อได้ฟังเซียวซู่พูดถึงสุขภาพของเย่โม่เซิน ก็รู้สึกว่าเขาพูดได้มีเหตุผล แต่ว่า……
“ตกลง งั้นรบกวนคุณแล้วกัน”
ในตอนที่หานมู่จื่อกำลังสับสน หานชิงได้ตัดสินใจแทนเธอเรียบร้อย
“พี่คะ……”
“ไม่เป็นไรหรอก ครั้งนี้ไม่ได้ส่งครั้งหน้ายังมี ต่อไปเขามีโอกาสได้ส่งแน่นอน ห่วงอะไรเล่า”
คิดไม่ถึงว่ามองปราดเดียวเขาก็รู้ความในใจเธอ หานมู่จื่ออยากให้เย่โม่เซินสร้างความรู้สึกที่ดีกับพี่ชายของเธอจริงๆ อย่างน้อยมารยาทขั้นพื้นฐาน
แต่คิดไม่ถึง……
“เอาล่ะ ไปก่อนนะ”
พอหานชิงพยักหน้าให้เซียวซู่ ก็เตรียมจะออกเดินทาง
เย่โม่เซินกลับโผล่ออกมาในเวลานี้ พูดเสียงเรียบเฉย“ผมไปกับพวกคุณแล้วกัน”
ปัง!
เสี่ยวเหยียนโผล่ออกมาจากห้อง“ฉัน ฉันไปด้วย!”
หานมู่จื่อ “……”
นี่หมายความว่าจะไปกันยกขบวนเลยใช่ไหม
เธอตัวแข็งทื่ออยู่ชั่วครู่ เชิดริมฝีปากถาม“ต้องการ……ต้องการรถเพิ่มอีกคันไหมคะ”