เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 988
บทที่988 ทำไมล่ะ
ในห้องโถงเงียบลงไปชั่วครู่ หานชิงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
“ไม่จำเป็น พวกเธอไม่ต้องไปทั้งหมดหรอก รบกวนผู้ช่วยเซียวไปส่งฉันคนเดียวก็พอ”
พอได้ยินคำนี้ หานมู่จื่อจึงมองไปทางเสี่ยวเหยียน
คำพูดนี้พี่ชายเธอหมายความว่า ก็ไม่ให้เสี่ยวเหยียนตามไปด้วย
เสี่ยวเหยียนสีหน้าซีดขาว มือไม้สั่นเทายืนจังก้าอยู่กับที่ จ้องมองไปทางหานชิง แววตาที่อัดอั้นตันใจจนน้ำตาแทบเล็ด เธออยากจะตามไปด้วย แต่คำพูดนี้ของหานชิงราวกับว่า ตอกย้ำเธอ
ตัวเธอเองอยากตามไป แต่ดูท่าจะหมดหวัง
เห็นเสี่ยวเหยียนเป็นแบบนี้ หานมู่จื่อในฐานะที่เป็นลูกผู้หญิงเหมือนกันเธอก็รู้สึกรับไม่ได้แต่คิดไม่ถึงว่าหานชิงไม่ชายตามองเสี่ยวเหยียนแม้แต่นิดเดียว ได้แต่ถือกระเป๋าเดินทาง“ไปเถอะ”
เขาก้าวฉับๆไปข้างหน้า ไม่ได้หันหลังกลับ ราวกับไม่มีสิ่งใดให้อาลัยอาวรณ์ตรงนั้น
เซียวซู่ตามไป หันกลับไปมองเสี่ยวเหยียน
สุดท้ายเขาถอนหายใจออกมาอย่างไร้สุ้มเสียง จากนั้นก็รีบสาวเท้าตามไป
แบบนี้ก็ดี ตัดขาดแบบนี้ก็ทำให้เสี่ยวเหยียนตายใจได้เร็วขึ้น
ปัง!
หลังจากปิดประตู เสี่ยวเหยียนถึงได้รู้ตัว ดวงตาเธอแดงก่ำวิ่งไล่ตาม แต่หานมู่จื่อขวางไว้
“ช่างเถอะนะ อย่าไปเลย”
น้ำตาเสี่ยวเหยียนร่วงเผาะ“มู่จื่อ ทำไมล่ะ”
ทำไมล่ะ แม้แต่ส่งเขาก็ยังไม่เต็มใจเลยเหรอ หรือว่า เธอกับเขาเป็นไปไม่ได้
เห็นท่าทีของเสี่ยวเหยียน หานมู่จื่อคิดว่าจะพูดอะไรปลอบใจเธอดี ถ้าทำได้เธอก็อยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดกับความเสียใจมาจากเสี่ยวเหยียน แต่เรื่องอารมณ์ความรู้สึกเป็นสิ่งที่แบ่งเบากันไม่ได้
เธอจะไปชี้หน้าด่าหานชิงว่าทำไมถึงไม่ชอบเสี่ยวเหยียนก็ไม่ได้ เรื่องของความรักเป็นสิ่งที่ฝืนกันไม่ได้
ในตอนที่หานมู่จื่อกำลังคิดว่าจะปลอบใจเสี่ยวเหยียนยังไงดี จู่ๆเธอก็ผละหานมู่จื่อออก
แล้วก็เข้าห้องตัวเองไป หานมู่จื่อเห็นสถานการณ์ อยากจะตามไป แต่เย่โม่เซินคว้าข้อมือ เอาไว้
“อย่าไป”
“แต่ว่า……”
“ปล่อยให้อยู่เงียบๆคนเดียว ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเธอ บางทีพอผ่านคืนนี้ไป เธออาจจะเข้าใจอะไรหลายๆ”
ได้ฟัง หานมู่จื่อมองเย่โม่เซินอย่างครุ่นคิด“คุณรู้ได้ไง……”
เย่โม่เซินยิ้ม ยื่นมือออกไปลูบหัวเธอเบาๆ“ความหมายของพี่ชายคุณ มันเด่นชัดแล้ว ถ้าหล่อนยังคิดไม่ได้ ก็หาเรื่องทุกข์ใส่ตัวแท้ๆ”
พูดจบ เขาก็ขยี้หัวเธอเบาๆ หานมู่จื่อรู้สึกแปลกๆ เงยหน้าขึ้น
จู่ๆเธอก็นึกขึ้นได้ว่าตำแหน่งนี้พี่ชายเธอลูบอยู่เมื่อกี้
“ตกลงคุณจะทำอะไร”หานมู่จื่ออยากจะตีมือเขาเบาๆ เธออายุมากขนาดนี้แล้ว เขายังมาจับหัวแบบนี้ ทำอย่างกับผู้ใหญ่จับหัวเด็ก
“ตราประทับ”
“……”
เป็นอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆด้วย หานมู่จื่อดึงมือเขาออกอย่างหัวเสีย“คุณหึงแม้กระทั่งพี่ชายฉันเหรอ!ยังจะมีเหตุผลอีกไหมเนี่ย”
เย่โม่เซินหัวเราะ แววตาสีดำแสดงความรักใคร่
วินาทีถัดไป สีหน้าเขาเปลี่ยน สีหน้าตึงเขม็งขึ้นมา
“เป็นอะไรไปคะ”
หานมู่จื่อเห็นว่าสีหน้าเขาแย่ขึ้นเรื่อยๆ หัวใจก็เต้นตุ้มๆต่อมๆ เย่โม่เซินจับมือหานมู่จื่อเอา ไว้ เม้มปากฝืนกลั้นสีหน้า
“ไม่เป็นไร……”
พูดจบ จู่ๆปวดหัวร้าว ราวกับมีเข็มพันเล่มทิ่มแทงอยู่ในหัว มีภาพแวบเข้ามาในหัว
เย่โม่เซินเจ็บจนยืนไม่ไหว
หานมู่จื่อไม่เคยเจออะไรแบบนี้ สีหน้าเธอซีดเผือด“ตกลงเป็นอะไรคะ อย่าทำให้ฉันตกใจ นะคะ ฉัน ฉันจะไปโทรเรียกรถพยาบาล”
เธอนึกถึงเหตุการณ์ที่จู่ๆเย่โม่เซินเป็นลมไปเมื่อคราวนั้น รวมกับเรื่องที่เย่โม่เซินทำ แล้วถ้าเกิดเขาเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง
เย่โม่เซินปวดหัวจนพูดไม่ออก แต่ยังจับมือหานมู่จื่อไว้แน่น ราวกับดึงรากหญ้ากู้ชีพ
หานมู่จื่อโดนจับมือ ไม่กล้าไป ได้แต่ไปควานหามือถือตัวเองในกระเป๋า เพื่อลองโทรหา รถพยาบาล
“อูยยย……”เย่โม่เซินดูท่าจะทนความเจ็บปวดไม่ไหว ร้องครางออกมาด้วยความเซ็งแล้วล้มตัวลง
หานมู่จื่อสีหน้าเปลี่ยน เธอไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น รีบยื่นมือออกไปประคองเขา
ผัวะ!
มือถือตกพื้น เสียงดังขึ้น ไม่รู้ว่าตกพังหรือเปล่า แต่ว่าเวลาแบบนี้หานมู่จื่อไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เธอประคองเย่โม่เซินนั่งลงบนโซฟา ดูสีหน้าเจ็บปวดและซีดเซียวของเขา ตกใจ จนน้ำตาร่วงเผลาะๆ
“คุณคิดถึงอะไรออกอย่างนั้นเหรอ ถ้ามันปวดมากๆ ก็อย่าเพิ่งคิดเลย ดีไหม ฉันไม่ขอให้คุณรื้อฟื้นความจำ ขอแค่คุณปลอดภัยก็พอ”
ถ้าเป็นเพราะเขาต้องการรื้อฟื้นความจำ แล้วเส้นประสาทเป็นอะไร แบบนั้นหานมู่จื่อคิดว่าสู้เขาลืมความทรงจำนั้นไปชั่วชีวิตดีกว่า
เย่โม่เซินปวดหัวจนแทบจะระเบิด ทั้งตัวราวกับตกลงไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง แล้วจู่ๆก็มีอัน อบอุ่นยื่นเข้ามา แม้ว่ามือนั้นจะเล็ก แต่ก็คอยส่งผ่านความอบอุ่นอยู่ไม่ขาด
นี่……นี่คือ……
“ผมเคยเสียคุณไปแล้วครั้งหนึ่ง ผมไม่อยากจะเสียคุณไปเป็นครั้งที่สอง”
ป๊าบ——
ของเหลวอุ่นๆแปะลงบนหน้าผากเย่โม่เซิน เย่โม่เซินค่อยๆได้สติคืน แววตามีหยดน้ำตารื้น ความรู้สึกแปลกหน้าทำให้เขาหลับตาลง
ชั่วครู่ เขากุมมือขาวๆของหานมู่จื่อ
“อย่าร้องไห้เลย”
หานมู่จื่อตกตะลึงชั่วครู่ ผลักเขาออก“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม”
สีหน้าของเย่โม่เซินตอนนี้ซีดขาวจนน่าตกใจ เลือดฝาดบนริมฝีปากหายไป หน้าผากมีเหงื่อเป็นริ้วๆ เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับความทุกข์ทรมานมากเมื่อครู่
แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้ เขายังคงยิ้มปลอบใจให้กับผู้หญิงที่เขารัก พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ผมยังสบายดีเห็นไหม ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
หานมู่จื่อเซ่อดูเขาอยู่พักหนึ่ง จู่ๆก็โผเข้าไปโอบคอเขา แล้วกอดเขาแน่น
“คุณทำฉันตกอกตกใจหมด เมื่อกี้คุณ……”
“เมื่อกี้ปวดหัวมาก ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว”เย่โม่เซินยื่นมือออกไป ตบบ่าเธอเบาๆ ทั้งๆที่เขาเป็นคนเกิดเรื่อง แต่เขากลับดูไม่เป็นอะไรเลย ส่วนหานมู่จื่อกลับเป็นฝ่ายตกใจใหญ่
ทั้งคู่กอดกันกลมอยู่พักใหญ่ หานมู่จื่อดูเหมือนจะคิดอะไรได้ฉับพลัน เธอผละเย่โม่เซินออก ไปหยิบมือถือ
“ไม่ได้ค่ะ คุณเป็นแบบนี้ฉันไม่ไว้ใจ ฉันจะโทรเรียกรถพยาบาลค่ะ”
เย่โม่เซิน“……”
เขาฝืนยิ้มอย่างอ่อนใจ“ผมไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ จะเรียกรถพยาบาลทำไมเล่า รบกวนพวกเขาเปล่าๆ”
หานมู่จื่อ “แต่ว่าเมื่อกี้คุณ……”
“เมื่อกี้นึกอะไรได้ ก็เลยปวดหัว ตอนนี้ผ่านไปแล้ว”
ระหว่างที่พูดคุย เย่โม่เซินกุมมือเธอไว้ พูดออกมาอย่างอ่อนเพลีย“ไม่ต้องเรียกรถพยาบาล ผมกลับไปพักที่ห้องก็พอ”
เมื่อกี้ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนหนัก ตอนนี้เขารู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรงอย่างไรไม่รู้
นอกจากนี้อาจจะเป็นเพราะการรักษาช่วงนี้ทำให้เขารับไม่ไหว เย่โม่เซินรู้สึกว่าตอนนี้ ขอแค่ได้หลับตา ก็จะถลำเข้าสู่ความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุด