เจ้าสาวร้อยเล่ห์ - ตอนที่ 250 เข้าใกล้ความจริง
ซั่งกวนเจวี๋ยรวบรวมข้อมูลอย่างไม่เคยทำมาก่อน แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่เคยดูข้อมูลของเยี่ยนมี่เอ๋อร์เช่นกัน ที่จริงข้อมูลของมี่เอ๋อร์นั้นเรียบง่ายมาก เรียบง่ายจนถึงขั้นที่น่าเบื่อ ก่อนที่ยังไม่ได้แต่งงาน นางแทบจะออกจากประตูนับครั้งได้ ประมาณครั้งสองครั้งต่อปี นอกจากสาวใช้และแม่นมข้างกาย ก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กับผู้ใดอีก ความสัมพันธ์กับนายท่านเยี่ยนนั้นห่างเหินเป็นอย่างมาก ส่วนความสัมพันธ์กับไท่ไท่เยี่ยน พวกอนุภรรยาและพวกพี่น้องตระกูลเยี่ยนก็เย็นชาอย่างถึงที่สุด กระทั่งพบปะพูดคุยกันก็ยังไม่มี
นายท่านเยี่ยนมีลูกสาวแปดคน มี่เอ๋อร์เป็นคนที่ห้า น้องสาวสามคนของนาง ผู้ที่อายุน้อยที่สุดอ่อนกว่านางเพียงหนึ่งปีเท่านั้น คล้ายว่าล้วนแต่เกิดในปีเดียวกันทั้งหมด และมีน้องชายอายุสิบปีอีกหนึ่งคน เป็นลูกของอนุภรรยา ทั้งยังเป็นดั่งแก้ว ตาดวงใจของนายท่านเยี่ยนและไท่ไท่เยี่ยน…อนุภรรยาผู้นั้นยามที่ลูกชายอายุได้ห้าปีก็ถูกไท่ไท่เยี่ยนทำให้ตาย ก่อนจะเลี้ยงดูไว้ข้างกายไท่ไท่เยี่ยนเรื่อยมา
ป้าโม่ แม่บุญธรรมข้างกายมี่เอ๋อร์ผู้นั้น ว่ากันว่าเป็นหญิงหม้ายผู้หนึ่ง ในยามที่มี่เอ๋อร์อายุประมาณสี่ปีก็ปรากฏตัวขึ้นที่ตระกูลเยี่ยน ภูมิหลังเป็นมาอย่างไรกลับว่างเปล่า แต่หลังจากนางมาถึงตระกูลเยี่ยน ก็ดูแลเพียงเรื่องของเยี่ยนมี่เอ๋อร์เท่านั้น เรื่องอื่นล้วนไม่สนใจ และหลังจากที่จงเสวี่ยฉิงจากโลกนี้ไป เรื่องทั้งหมดทั้งมวลของเยี่ยนมี่เอ๋อร์ก็อยู่ในความรับผิดชอบของนาง แม้แต่เรื่องงานแต่งของทั้งสองคน ป้าโม่ก็มีส่วนร่วมเช่นกัน
ป้าโม่ผู้นี้ ตามที่ได้ยินมาเป็นคนที่รูปลักษณ์ธรรมดา จัดอยู่ในประเภทคนที่หากปะปนอยู่ในกลุ่มคนทั่วไปก็แทบจะแยกแยะไม่ออกโดยสิ้นเชิง ดังนั้น ข้อมูลจึงไม่ได้มีมากนัก ยามที่พูดคุยเรื่องงานแต่ง นางก็นอนป่วยอยู่บนเตียงแล้ว ทั้งไม่เคยได้โผล่หน้าออกมาสักครั้ง คาดไม่ถึงว่าคนของตระกูลซั่งกวนจะไม่มีใครเคยพบนางเลย ยามนี้เมื่อลองคิดดีๆ คล้ายกับว่านางนั้นจงใจหลบไม่ให้คนเห็นหน้า
และซั่งกวนเจวี๋ยก็ได้ทราบจากปู่เถาและผู้อาวุโสไม่กี่ท่านรวมทั้งคนเก่าคนแก่ข้างกายซั่งกวนฮ่าวพวกนั้นว่า ซั่งกวนฮ่าวมีคนที่ยากจะแยกออกจริงๆ ว่าเป็นศัตรูหรือไม่เป็นศัตรูอยู่คนหนึ่งในอดีต อวี๋ฮวน บุตรสาวสูงส่งของสำนักสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์อันชั่วร้าย นางเคยเป็นหญิงสาวที่โดดเด่นที่สุดผู้หนึ่งในยุทธภพ นับได้ว่าคบค้าสมาคมกับคนทั่วหล้า ลูกหลานจากตระกูลต่างๆ ศิษย์ของสำนักใหญ่ในยุทธภพ ส่วนมากล้วนกล่าวได้ว่าเป็นสหายกับนาง และความรู้สึกของซั่งกวนฮ่าวกับนางก็ยิ่งไม่ธรรมดา อินหงหลันใช้ชีวิตเติบโตอยู่ข้างกายนางมาช่วงเวลาหนึ่ง เห็นนางเป็นเหมือนพี่สาวและคนในครอบครัวเพียงคนเดียว และซินหรันก็เป็นเด็กกำพร้าที่นางเก็บมาเลี้ยง
นางมีลักษณะที่โดดเด่นมากมายคล้ายกับคุณหนูสุรา บนร่างของนางนั้น ซั่งกวนเจวี๋ยสามารถมองเห็นเงาของคุณหนูสุราอยู่ในนั้น ฉลาดแพรวพราว ร่าเริงสดใส ล่องลอยดั่งสายลมไม่ผูกมัดต่อสิ่งใด…
น่าเสียดายที่นางมีฐานะเกี่ยวข้องกับสำนักสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ เจ้าสำนักเป็นบิดาของนาง ส่วนรองเจ้าสำนักก็เป็นศิษย์พี่ของนาง ทั้งยังเป็นคนรักเพียงคนเดียวของนาง…จุดนี้คล้ายว่าคุณหนูสุราล้วนได้สืบทอดมาจากนาง มีความสัมพันธ์ที่ดีและไม่ธรรมดากับเพื่อนบุรุษเพศ ทำให้บุรุษที่คบหากับนางจำนวนมากถูกนางดึงดูดโดยไม่รู้ตัว ชื่นชอบนางด้วยใจจริง แต่กลับทำให้คนที่มองนางเป็นเพื่อนอย่างแท้จริงนั้น ไม่กล้าที่จะล้ำเส้น ทั้งยิ่งให้ความนับถือมากกว่า
ในยามที่ตระกูลซั่งกวนเป็นผู้นำตระกูลต่างๆ และสำนักในยุทธภพไปทำลายล้างสำนักสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกันที่จะปล่อยนางไป ยิ่งไปกว่านั้นพวกซั่งกวนฮ่าวกลับคิดแผนการให้นางหลบหนีไป แต่ภายหลังเพื่อป้องกันนางปลงไม่ตก ฆ่าตัวตายต่อหน้าหลุมศพบิดาและคนรัก พวกซั่งกวนฮ่าวจึงตั้งใจปิดบังนางว่าฝังศพไว้ที่ใด ทั้งด้วยเหตุนี้ อวี๋ฮวนจึงบุกเข้ามาในตระกูลซั่งกวนหลายต่อหลายครั้ง เพื่อเค้นถามจากซั่งกวนฮ่าว แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จสักครั้ง
ครั้งสุดท้ายที่นางปรากฏตัว เป็นยามที่ตัวเองและมารดาเพิ่งจะกลับมาจากฝูโจว ระหว่างทางพบกับแม่ลูกจงเสวี่ยฉิง และยามที่หมั้นหมายกัน ก็เป็นตอนที่ซั่งกวนฮ่าวเสียใจและเศร้าใจมากที่สุดเช่นกัน หลังจากนั้นก็ไม่มีร่องรอยของนางอีกเลย ครึ่งปีให้หลัง…อินหงหลันได้ทะเลาะกับซั่งกวนฮ่าวอย่างรุนแรง ออกจากลี่โจวไป ออกค้นหาเบาะแสของนางไปทั่วทั้งยุทธภพ(เหมือนกับมู่หรงปั๋วอวี่ในยามนี้ แต่สิ่งที่ต่างกันคืออินหงหลันตามหาครอบครัวคนหนึ่ง คนที่เป็นดั่งมารดาและพี่สาว ส่วนมู่หรงปั๋วอวี่กลับตามหาคนงามในดวงใจ) ภายหลังก็ได้แต่งเป็นเป็นสามีภรรยากับซินหรัน ผู้ที่ออกตามหานางไปทุกที่เช่นกัน และก็เป็นในงานแต่งของพวกเขาที่ได้คืนดีกับซั่งกวนฮ่าว เพียงแต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา อินหงหลันที่ได้รับการยกย่องตั้งแต่เล็กว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ นอกจากวิชาแพทย์ที่พัฒนาขึ้นทุกวันแล้ว เรื่องอื่นๆ ก็ไม่สนใจไม่ไถ่ถามอันใดทั้งสิ้น ใบหน้ามักจะมีท่าทีมึนชาอยู่ตลอดเวลา
ยามที่เขารั้งตัวอยู่ที่ตระกูลซั่งกวนก็มีเพียงตอนที่ซินหรันตั้งท้องและให้กำเนิดลูกในปีนั้น และยามนี้หลังจากที่พบเยี่ยนมี่เอ๋อร์ ส่วนเวลาอื่นๆ ก็เอาแต่ร่อนเร่อยู่ในยุทธภพ จุดประสงค์ก็เพื่อตามหาอวี๋ฮวน
อวี๋ฮวนผู้นี้จะใช่ป้าโม่ที่มี่เอ๋อร์เห็นเป็นดั่งคนในครอบครัวหรือไม่? ซั่งกวนเจวี๋ยไม่กล้ามั่นใจนัก แต่สามารถทำให้อินหงหลันผู้ไม่เคยสนใจเรื่องใดมาโดยตลอด ทั้งชอบคิดเล็กคิดน้อยนั้นเปลี่ยนแปลงท่าทีไปมากเช่นนี้ได้ ใกล้ชิดสนิทกันขึ้นมา ก็ย่อมต้องมีสาเหตุอะไรอยู่เบื้องหลังแน่ๆ!
“คุณชายใหญ่ นี่เป็นการทำบุญที่นายท่านอินทำมาตลอดช่วงสองปีนี้ที่อารามสัตตบุษย์ เดิมทีครอบครัวนายท่านอินก็มักจะไปทุกเดือน เดือนละสองครั้ง ทุกครั้งล้วนแต่จุดธูปไหว้มารดาบุญธรรมผู้นั้นของสะใภ้ใหญ่ขอรับ” โม่เซียงไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ๆ ซั่งกวนเจวี๋ยจึงติดใจเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ผลลัพธ์เช่นนี้ก็ทำให้เขาแปลกใจเช่นกัน นายท่านอินเป็นใครกัน เขามีฉายานามชั้นยอดที่ว่า ‘เป็นศัตรูกับพญามัจจุราช’ ทั้งมีฉายาที่ว่า ‘แม้จะรู้ว่าตายก็ไม่ช่วย’ เช่นกัน แต่ไหนแต่ไรก็คาดไม่ถึงว่าเขาจะคอยให้ความเคารพกับคนตายอยู่อย่างนั้น ทั้งยังเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องคนหนึ่ง
ซั่งกวนเจวี๋ยผงกศีรษะ ความจริงทั้งหมดทั้งมวลคล้ายว่าใกล้จะปรากฏแล้ว! แต่ว่า เขาเผยยิ้มบาง รู้สึกว่าควรจะพูดคุยกับท่านแม่เสียหน่อย ตามที่ปู่เถากล่าว แม้ท่านแม่จะไม่ได้คุ้นเคยกับอวี๋ฮวนผู้นั้นมาก แต่ก็ไม่ถึงกับแปลกหน้าเสียทีเดียว
——————–
“อวี๋ฮวน?” หวงฝู่เยวี่ยเอ้อขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าเหตุใดลูกชายจึงเอ่ยถึงคนที่หายตัวไปนานอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้ อวี๋ฮวน…การได้รู้จักนางคล้ายกับเป็นเรื่องราวของชาติก่อนไปแล้ว
“ใช่แล้ว ท่านแม่ลืมนางไปแล้วหรือ?” ซั่งกวนเจวี๋ยยิ้มกว้างมองใบหน้าของหวงฝู่เยวี่ยเอ้อที่แทบจะขมวดเป็นปม เห็นได้ชัดว่าแค่ได้ยินชื่อนี้ก็ทำให้นางไม่สบายใจ
“จะลืมได้อย่างไร!” หวงฝู่เยวี่ยเอ้อทอดถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ปีนั้นนางเป็นจอมยุทธ์ที่โดดเด่นในยุทธภพ คุณชายของตระกูลใหญ่จำนวนมากต่างก็พยายามหาอัญมณีเพชรพลอยล้ำค่า สรรหาเคล็ดลับและวิธีต่างๆ มอบของหายากในใต้หล้า ส่งตำราวรยุทธ์ชั้นยอด แต่ก็ถูกนางปฏิเสธทั้งหมด แต่คนส่วนมากล้วนฟันธงว่า นางย่อมสามารถแต่งกับลูกชายคนโตภรรยาเอกในตระกูลใหญ่ และกลายเป็นนายหญิงของตระกูลได้แน่ แต่เวลานั้นแม้ผู้นำตระกูลพวกนั้นจะไม่ได้แสดงท่าทีเห็นด้วยอะไรต่อเรื่องนี้มาก แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้ากระโดดออกมา ขัดขวางคุณชายของตระกูลตัวเองไม่ให้คบค้าสมาคมกับนาง เพียงแต่นางนั้นมีคนในดวงใจแล้ว จึงไม่เคยแสดงท่าทีเป็นพิเศษอันใดกับผู้ชายคนอื่นเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นคนที่ใส่ใจแต่นางมาโดยตลอด หรือแสดงความชื่นชมเลื่อมใสต่อนางก็ล้วนถูกนางปฏิเสธทั้งหมด ลุงของเจ้าก็ไม่เว้นเช่นกัน”
เป็นบุคคลที่เป็นบ่อเกิดหายนะอีกคนหนึ่งแล้ว! ซั่งกวนเจวี๋ยถอนหายใจ กล่าวถาม “หน้าตาของนางงดงามหรือไม่? เหมือนกับมี่เอ๋อร์หรือเปล่า?”
“ไม่เลย! ตามที่ว่าต่อกันมากล่าวว่าหน้าตาสะสวย แต่ไม่อาจเทียบเคียงกับความงามล่มเมืองได้ กระนั้นหญิงสาวที่ดึงดูดคนมากที่สุดกลับไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยที่สุด เสน่ห์ของนางทำงานได้อย่างไม่ธรรมดา ท่าทีห้าวหาญไม่เกรงกลัวอันใด ทั้งความอบอุ่นเป็นกันเอง ต่างพูดกันว่าแม้จะเป็นคนที่นิ่งเป็นน้ำแข็งพันปี แต่หากเห็นนางก็ย่อมอดยิ้มออกมาไม่ได้! พ่อของเจ้าคงจะสัมผัสถึงสิ่งนี้ได้มากที่สุด!” หวงฝู่เยวี่ยเอ้อถอนหายใจ
“หรือท่านพ่อก็เคยมีอดีตที่ไม่ธรรมดากับนางมาก่อน?” ซั่งกวนเจวี๋ยแสร้งถามอย่างสงสัย
“ให้มันน้อยๆ หน่อย!” หวงฝู่เยวี่ยเอ้อกลอกตาใส่เขา “หากไม่ใช่ว่าพ่อของเจ้าและนางเกี่ยวข้องอะไรกัน เจ้าจะถามขึ้นมาอย่างแปลกๆ เช่นนี้ได้หรือ? แต่ว่าเจวี๋ยเอ๋อร์ ไม่มีคนเอ่ยถึงนางมานานมากแล้ว นางได้หายไปกว่าสิบสี่สิบห้าปีแล้ว เหตุใดจู่ๆ เจ้าจึงเอ่ยถึงนางขึ้นมาเล่า?”
“ข้าเพียงได้ยินปู่เถาพูดขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงรู้สึกสนใจขึ้นมาก็เท่านั้น!” ซั่งกวนเจวี๋ยกล่าวอย่างคลุมเครือ เรื่องนี้ทางที่ดีอย่างไรปิดหวงฝู่เยวี่ยเอ้อไว้ก่อนย่อมดีกว่า
“ไม่ถูก!” หวงฝู่เยวี่ยเอ้อนั้นยังสัมผัสไวต่อเรื่องพวกนี้มาก ขมวดคิ้วกล่าว “เจ้าไปพบนางหรือคนรุ่นหลังของนางมา?”
“คนรุ่นหลังของนาง? ท่านแม่หมายถึงลูกของนาง?” ซั่งกวนเจวี๋ยจงใจกล่าวให้หวงฝู่เยวี่ยเอ้อเข้าใจผิด “ช่วงนี้ข้าไม่ได้รู้จักกับผู้หญิงที่มีความเป็นมาไม่ชัดเจนแต่อย่างใด!”
“นางไม่อาจมีลูกหรอก!” หวงฝู่เยวี่ยเอ้อถอนหายใจ “นางเป็นคนที่ยึดมั่นในความรักคนหนึ่ง ทั้งยุทธภพต่างรู้ดีว่าคนที่นางชอบมีแต่ศิษย์พี่ผู้ชั่วร้ายที่ฆ่าคนได้อย่างโหดเหี้ยมเท่านั้น กระนั้นนางก็ยังคงรัก และเพราะศิษย์พี่ นางจึงปฏิเสธลุงของเจ้า พี่ใหญ่มู่หรง แม้ท้ายที่สุดยามที่นางได้หมดหวังต่อศิษย์พี่ผู้นั้นแล้ว ทุกสิ่งล้วนไม่เปลี่ยนแปลง และพ่อของเจ้าได้สังหารศิษย์พี่ของนางกับมือ พวกเขาล้วนไม่อาจยอมให้มีผู้สืบทอดได้หรอก ที่ข้าพูดถึงก็คือศิษย์ของนาง…อาจเป็นหญิงสาวแปลกประหลาดที่ปั๋วอวี่ชื่นชอบคนนั้นกระมัง?”
ซั่งกวนเจวี๋ยคาดไม่ถึงว่าหวงฝู่เยวี่ยเอ้อจะเดาถึงเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้ เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับท่านแม่ใหม่แล้ว เหตุใดนางจึงสัมผัสไวเช่นนี้?
“ยามที่ปั๋วอวี่มาครั้งที่แล้วเคยพูดว่า พวกเจ้ารู้จักนางในเวลาเดียวกัน หญิงสาวผู้นั้นสกุลอะไร?” หวงฝู่เยวี่ยเอ้อจำได้ยิ่งกว่านั้นอีกว่าชุยฮ่าวหรันก็รู้จักหญิงสาวผู้นั้น และครั้งหนึ่งยามที่พวกเขาไปเยี่ยมเยียนหลิงหลง ยังได้ยินหลิงหลงเอ่ยขึ้นว่า ชุยฮ่าวหรันก็มีความรู้สึกที่ไม่ธรรมดากับ ‘คุณหนูสุรา’ ผู้นั้นเช่นกัน ยังพูดอีกว่า ซั่งกวนเจวี๋ยก็ไม่เว้น
“คือว่า…” ซั่งกวนเจวี๋ยถอยหายใจอย่างจนใจ “นางสกุลโม่!”
“สกุลโม่?” หวงฝู่เยวี่ยเอ้อขมวดคิ้ว จากนั้นก็คลายแทบจะทันที “หญิงสาวคนนั้นย่อมเป็นศิษย์หรือลูกสาวบุญธรรมของอวี๋ฮวนเป็นแน่ ศิษย์พี่ของอวี๋ฮวน ‘สกุลโม่’ เป็นไปได้ว่าจะสืบทอดสกุลโม่ของศิษย์พี่ของนาง เจวี๋ยเอ๋อร์ แม่ได้ยินว่าเจ้ามีความรู้สึกที่ไม่ธรรมดากับหญิงสาวผู้นี้ เดิมทีที่เจ้าคัดค้านงานแต่งงานก็เพราะนางใช่หรือไม่? ข้ายังได้ยินมาอีกว่า นางเคยปรากฏตัวที่ลี่โจว ทั้งยังแสดงความรู้สึกชมชอบแก่เจ้า…นางกลับมาหาเจ้าอีกครั้งอย่างนั้นหรือ?”
เช่นนั้นก็พูดได้ว่าป้าโม่อาจจะยืมสกุลโม่ของศิษย์พี่มาใช้ นี่ก็สมเหตุสมผลแล้ว แต่ว่าซั่งกวนเจวี๋ยยังไม่ทันได้คิดความซับซ้อนภายในได้กระจ่างก็ถูกหวงฝู่เยวี่ยเอ้อถามออกมาติดต่อกันจนเวียนหัว
“ข้าขอเตือนเจ้า หากเจ้ากล้าไปมาหาสู่อันใดกับผู้หญิงคนนั้น ข้าจะพาเยี่ยนมี่เอ๋อร์กลับฝูโจวทันที!” หวงฝู่เยวี่ยเอ้อไม่สนใจว่าซั่งกวนเจวี๋ยจะถูกใส่ร้ายหรือไม่ ร้องขึ้นมา “มี่เอ๋อร์เป็นภรรยาของเจ้า ชั่วชีวิตนี้ของเจ้าแม้จะขอข้าให้ช่วยรับภรรยารองที่หนึ่ง ภรรยารองที่สอง หรือจะเป็นอนุภรรยา หรือเมียบ่าว ก็ไม่อาจจะเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับอวี๋ฮวนได้ทั้งนั้น ลุงของเจ้าจนถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่ลืมนาง พ่อของเจ้าก็เช่นกัน ข้าย่อมไม่อาจอนุญาตให้คนที่เกี่ยวข้องอันใดกับนางมาปรากฏตัวต่อหน้าข้าได้หรอก นอกจากข้าจะตายไปเสียก่อน!”
ซั่งกวนเจวี๋ยปวดเศียรเวียนเกล้าไปหมด หากหวงฝู่เยวี่ยเอ้อรู้ว่ามี่เอ๋อร์ที่นางโปรดปรานมากที่สุดก็คือคุณหนูสุรา ทั้งยังเป็นศิษย์ของอวี๋ฮวน นางจะเป็นอย่างไรกัน? จู่ๆ เขาก็สามารถเข้าใจมี่เอ๋อร์ที่เอาแต่เก็บความกังวลใจไว้เรื่อยมา
หวงฝู่เยวี่ยเอ้อกลับคิดไปมากกว่านั้น หากซั่งกวนฮ่าวรู้ว่าหญิงสาวที่ชอบลูกชายเป็นศิษย์หรือลูกสาวบุญธรรมของอวี๋ฮวน ย่อมจะยืนข้างหญิงสาวผู้นั้นเป็นแน่ ถึงเวลานั้น มี่เอ๋อร์และเสี่ยวหมิงเอ๋อร์ย่อมจะน่าสงสารที่สุด…