เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 137
บทที่ 137 พอใจไหม
สิ่งที่ทำให้ซูย้าวถึงกับคิดไม่ถึง ไม่ได้เจอเพียงไม่กี่วัน ลี่เฉินซีสามารถลงจากเตียงแล้วเดินไปมาได้ อีกทั้งยังออกมาจากห้องผู้ป่วย
รูปร่างที่สูงเพรียว แม้ว่าจะใส่ชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาล แต่ก็ดูหล่อเหลาเอาการ ใบหน้างามที่ขาวเนียนไม่เหมือนกับวันก่อนที่ขาวซีด ดูทรงแล้วอาการดีขึ้นไม่น้อย
ข้างกายมีหานฉ่ายหลิงเคียงคู่ ทุกอย่างของเขาจึงดีขึ้นเกินความคาดหมายจริงๆ
เมื่อคิดเช่นนี้ ในใจก็จี๊ดขึ้นโดยอธิบายไม่ถูก
ซัวฉ่ายลี่ก็คิดไม่ถึงว่าจะเจอกับลี่เฉีนซี จึงตกใจชะงักขึ้น ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อไป
สถานการณ์ต่างจากที่ทุกคนคิด ลี่เฉินซีย่างเดินช้าๆ ค่อยๆก้าวเข้ามาข้างๆพวกเธอสองคน สายตากวาดมองซัวฉ่ายลี่ แต่หางตาแอบชำเลืองมองซูย้าวแวบหนึ่ง และยังเห็นในมือของเธอถือปิ่นโตมาด้วย
ผู้หญิงคนนี้ ไม่ได้มาโรงพยาบาลตั้งหลายวัน เขายังคิดว่าเธอจะใจแข็งไม่มาตลอดชีวิตอีก!
เพื่อหลีกเลี่ยงความคิดเหล่านี้ เขาจึงได้ถามขึ้น “น้าซัว เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะครับ”
ซัวฉ่ายลี่ลนลาน แต่เมื่อคิดถึงสถานการณ์ของลูกสาว จึงไม่สนอะไรทั้งนั้นอีก และเดินหน้าก้าวเข้าไปคว้าขวามือของเขามาจับไว้ “เฉินซีจ๊ะ น้าขอร้องแหละ ได้โปรดปล่อยหยวนหยวนไปเถอะ! เธอต้องถูกใส่ร้ายอย่างแน่นอน! เด็กคนนี้ไม่ได้ร้ายขนาดนั้น!”
“เหรอครับ” ลี่เฉินซีเปิดริมฝีปากขึ้นเบาๆ แล้วพูดออกมาสองคำที่บ่งบอกให้เห็นชัดเจนว่าไม่เชื่อ
ในขณะเดียวกันเขาก็ดึงมือออกมาจากซัวฉ่ายลี่อย่างเรียบนิ่ง ด้วยใบหน้าที่เย็นชา เย็นยะเยือกจนอย่าคิดที่จะไปเข้าใกล้
“เธอไม่สามารถที่จะทำร้ายคุณได้จริงๆ เฉินซี คุณต้องเชื่อน้านะ หยวนหยวนเขาชอบคุณขนาดนั้น แล้วจะทำร้ายคุณได้อย่างไร มันต้องมีอะไรที่เข้าใจผิด หรือไม่ก็ตำรวจสืบสวนผิดพลาด!” จิตใจซัวฉ่ายลี่ร้อนรน จึงเดินหน้าเข้าไปอีก
แต่ก็ถูกลี่เฉินซีผลักออกอย่างเย็นชา ซัวฉ่ายลี่ที่ไม่สนใจสายตารอบข้าง แล้วก็ไม่สนว่าที่นี่เป็นสถานที่ใด เธอได้คุกเข่าพับลงกับพื้น
“วันนี้แม้แต่ศักดิ์ศรีน้าก็ไม่สนแล้ว! เฉินซี ขอเพียงแค่คุณปล่อยหยวนหยวนไป จะให้น้าทำอะไรก็ยอมทั้งนั้น! ขอร้องล่ะได้โปรด หยวนหยวนยังเด็ก เธอจะติดคุกไม่ได้!”
บอกตามตรง ซัวฉ่ายลี่สามารถคุกเข่าลงได้ เป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายจริงๆ
ในภาพความทรงจำของเธอ ซัวฉ่ายลี่ป็นคนที่จิตใจโหดเหี้ยม จอมวางแผน เป็นผู้หญิงที่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ตั้งแต่ที่พ่อเสียชีวิต เธอก็เป็นคนที่ควบคุมธุรกิจของบริษัทซูซื่อ ถึงแม้ว่าเซียวควนจะแอบใช้วิธีสกปรกอย่างลับๆหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่เธอก็รู้ทัน
ซัวฉ่ายลี่ไม่ใช่ผู้หญิงที่แข็งแกร่ง แต่ท่ามกลางหมู่ผู้หญิง เธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่อ่อนแอ และอายุก็ขนาดนี้แล้ว จะไปสนใจอะไรกับคำว่าศักดิ์ศรีได้อีก
การคุกเข่าครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าทำเพราะความรักที่มีต่อลูกสาว
ซูย้าวถอนหายใจอย่างจนปัญญา กำลังคิดที่จะเข้าไปพยุงซัวฉ่ายลี่ แต่ก็ถูกลี่เฉินซีรั้งไว้
ชายหนุ่มที่รูปร่างสูงใหญ่ จ้องมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชา ที่แฝงไปด้วยความดุดัน “คุณอยากให้ผมปล่อยซูหยวน ขอเหตุผลหน่อยสิ”
ซัวฉ่ายลี่มึนงง หรือสิ่งที่เธอพูดเมื่อสักครู่ และการกระทำในตอนนี้ ไม่ใช่เหตุผลหรืออย่างไร!
แต่ก็ไม่กล้าโต้ตอบกลับไป ได้แต่พูดขึ้นว่า “หยวนหยวนยังเด็ก บางทีอาจจะเลอะเทอะจนทำผิดไป ไม่ว่าจะใช่การสืบสวนของตำรวจผิดพลาดหรือไม่ แต่เธอก็เป็นเพียงเด็ก เมื่อรู้ว่าผิดแล้วแก้ไข ก็ได้ไม่ใช่เหรอ เฉินซี น้าขอร้องล่ะ ได้โปรดปล่อยเธอไปเถิด!”
“เธอยังเด็กงั้นเหรอ” ลี่เฉินซีราวกับได้ยินคำที่น่าสนใจ แล้วก็หัวเราะเยาะขึ้น หางตาเหลือบไปมองซูย้าว และยื่นแขนไปคว้าเธอแล้วดึงเข้ามากอดอยู่ในอก แล้วก็เปล่งเสียงเยือกเย็นออกมา——
“แต่เธออายุมากกว่าภรรยาผมตั้งสองปีนะ! ยังเด็กอีกหรือ”
คำพูดของซัวฉ่ายลี่ถูกดักขึ้น จึงลนลาน ดวงตาแดง “แต่เธอก็ไม่ได้ใจร้ายจริงๆนะ! เฉินซี ขอร้องล่ะ! ให้โอกาสหยวนหยวนอีกสักครั้งเถิด! ได้โปรดเถิด!
มือไม้ลนลาน ซัวฉ่ายลี่ที่ต้องการจะช่วยลูกสาว ละทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมด แล้วก้มกราบลงที่พื้นอยู่อย่างนั้น
ภาพนี้ ทำให้หัวใจซูย้าวถึงกับช็อก!
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้กับความแค้นที่ฆ่าพ่อของเธอ
ตอนนั้น เธอเห็นกับตาว่าซัวฉ่ายลี่เป็นคนให้พ่อดื่มยาพิษ จนทำให้ถึงแก่เสียชีวิต แล้วก็ทำลายหลักฐาน อีกทั้งยังโหดเหี้ยมวางยาเธอจนเป็นใบ้…..
เห็นอยู่ว่าเป็นความแค้นทางสายเลือดที่ไม่อาจจะอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกันได้ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ แม้จะถูกดุด่าถูกตีทุกวัน แต่ซัวฉ่ายลี่ก็เป็นคนเลี้ยงเธอมาจนเติบใหญ่ นอกจากความโกรธเกลียดแล้ว ในก้นบึ้งของหัวใจยังมีความรู้สึกอย่างอื่นที่ซับซ้อนอยู่ในนั้น
ไม่ว่าซัวฉ่ายลี่จะทำอะไร ไม่ว่ารอบข้างจะมีคนรายล้อมสักเพียงใด ลี่เฉินซีที่ใบหน้ารูปงามยังคงเย็นชาไม่เปลี่ยน สายตาเฉยเมย รังเกียจ และเหยียดหยาม
เขาสามารถใจจืดใจดำเช่นนี้ต่อได้ แต่ซูย้าวทนต่อไปอีกไม่ได้
ไม่สนใจการขัดขวางของลี่เฉินซีอีก ซูย้าวเดินออกมาจากทรวงอกของเขา แล้วเดินเข้าไปพยุงซัวฉ่ายลี่ที่ก้มกราบกับพื้นอย่างไม่หยุดหย่อนให้ลุกขึ้น
“ซูย้าว เธอไม่ต้องสนใจฉัน! หยวนหยวนยังเด็ก จะติดคุกไม่ได้!” ซัวฉ่ายลี่ต้องการจะผลักเธอออก และก้มกราบต่อไป
ทำไปให้ถึงที่สุดจะดีกว่า เพราะถึงอย่างไรศักดิ์ศรีก็ไม่เหลือแล้ว
เพื่อช่วยชีวิตที่เหลือของลูกสาวให้ปลอดภัยและราบรื่น ต่อให้เสียหน้าไม่เหลือศักดิ์ศรีแล้วก็ตาม ก็ถือว่าคุ้ม !
ซูย้าวรั้งการกระทำของเธอ แล้วพูดขึ้นด้วยภาษามือว่า “พอแล้ว เรื่องของซูหยวนปล่อยเป็นหน้าที่ของฉันเอง! คุณกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ!”
ซัวฉ่ายลี่ชะงักงัน สักพักถึงได้สติ “ซูย้าว เธอรับปากน้าแล้วใช่ไหม”
ซูย้าวถอนหายใจอย่างจนปัญญา ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ
“ดีจังเลย! ซูย้าว น้ารู้อยู่แล้วว่าเลี้ยงเธอไม่เสียข้าวสุกจริงๆ! ถ้าหยวนหยวนรู้ จะต้องดีใจมากอย่างแน่นอน! ดีสุดๆไปเลย!
ซัวฉ่ายลี่ดีใจจนออกหน้าออกตา ราวกับว่าลูกสาวของตัวเองถูกปล่อยตัวแล้ว
เมื่อทำให้ซัวฉ่ายลี่จากไปได้ ซูย้าวจึงหันหลังไปหาลี่เฉินซี แต่พบว่าคนไม่อยู่แล้ว!
ระเบียงทางเดินออกจะกว้างใหญ่ มีคนมุงล้อมอยู่มากมาย แต่รางที่สูงใหญ่กลับหาไม่เจอ
เขา…..คนล่ะ!
เดินหาตามระเบียงทางเดิน ที่สุดก็หาเขาเจอในห้องผู้ป่วย
ชายหนุ่มนั้นเอนหลังลงบนโซฟาเดี่ยว นั่งไขว่ห้างอย่างสง่างาม ในมือถือถ้วยชาร้อนที่เพิ่งจะชงเสร็จ ไอร้อนระเหยขึ้น แสงแดดข้างนอกได้ส่องจ้าเข้ามาจากหน้าต่าง แผ่ลงกระทบพื้น ปกคลุมร่างกายของเขา
ซูย้าวเดินเข้าไปใกล้ แล้ววางปิ่นโตลงบนโต๊ะ จากนั้นก็มองไปทางเขา ลังเลอยู่สักพัก จึงพูดด้วยภาษามือขึ้น “คุณคิดที่จะไม่ปล่อยซูหยวนจริงหรือ”
อันที่จริงเรื่องราวทั้งหมด ซูหยวนก็ถูกใส่ร้ายจริง
ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดก็คือเพ้ยส้าวอี จางฝูฉายเป็นเพียงลูกน้อง และซูหยวนก็เป็นเพียงแพะของเรื่องราวทั้งหมด!
ดังนั้น ต่อให้ปล่อยซูหยวนไป ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ประสบการณ์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการสั่งสอนให้กับซูหยวนก็แล้วกัน
ลี่เฉินซีค่อยๆจิบน้ำชา ขมวดคิ้วมองเธอแวบหนึ่ง แล้วพูดขึ้น “เมื่อสักครู่นั้นคุณพอใจไหม”
“?”
ซูย้าวชะงักอย่างมึนงง ทันใดนั้นดวงตาคู่งามทอประกาย แววตาจริงจังขึ้น
หรือว่าเมื่อสักครู่นั้น ลี่เฉินซีแค่แสดง…..ละคร!
“ความสัมพันธ์ของคุณกับตระกูลซูไม่ค่อยดี จึงให้โอกาสคุณได้ระบายความโกรธ ไม่ดีเหรอ” เขาเย็นชา แล้วก็วางถ้วยน้ำชาลงบนโต๊ะ
ที่แท้ก็อยากให้คนหนึ่งใส่หน้ากากคนดี และอีกคนหนึ่งใส่หน้ากากคนเลว แบบนี้แล้วถ้าซูหยวนถูกปล่อยตัวจริงๆ ซัวฉ่ายลี่ก็จะจำบุญคุณครั้งนี้ของเธอไว้อย่างขึ้นใจ
เธอถอนหายใจขึ้นแล้วใบ้ภาษามือต่อ “ขอบคุณในความหวังดีของคุณ!”
แต่ทว่าน้ำแข็งที่หนาถึงสามฟุต ใช่ว่าจะมาจากความหนาวเพียงวันเดียว ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซัวฉ่ายลี่คิดว่าคงไม่อาจจะกระชับขึ้นได้ในชาตินี้
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ ผมแค่แปลกใจ ว่าเมื่อไหร่คุณจะแก้แค้นให้กับพ่อของคุณ”
แววตาลี่เฉินซีที่เย็นชา ใบหน้าที่เรียบนิ่ง แม้แต่รอยย่นสักนิดก็หาไม่เจอ
เมื่อสิ้นสุดคำพูด หัวใจของซูย้าวสั่นไหว แววตาที่ประหลาดใจก็หันไปทางเขา