เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 149
บทที่ 149 สามีของคุณจะกลายเป็นสามีของคนอื่น
ข่าวลือที่เกี่ยวกับลี่เฉินซีและหานฉ่ายหลิง คลิปวิดีโอต่างๆที่หลุดออกมา สำหรับคนส่วนมาก มันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าหนังสือพิมพ์หรือตามเว็บต่างๆจะลงข่าวขนาดไหน ซูย้าวก็ไม่ได้สนใจ
และเมื่อโม่หว่านหว่านรีบมานั้น เธอยังคงมุ่งสนใจแต่เรื่องอาหารการกินของลูกชายอยู่ เกี๊ยวตัวเล็กๆและซาลาเปาต่างๆ
ไม่เหมือนกับผู้ใหญ่ทุกอย่างจะต้องเล็กมากๆ ชามถ้วยเล็กที่ใช้เพียงนิ้วปิดก็มิด ทุกอย่างเขาทำอย่างประณีต ฝีมือการทำอาหารของเธอ แม้แต่พ่อบ้านและแม่บ้านก็ต้องตกตะลึง
โม่หว่านหว่านวิ่งหอบมาเคาะประตูเช่นนี้
หลังจากที่เข้ามาแล้ว ยังไม่ทันได้พูดอะไร รีบรินน้ำ รอจนหายใจเป็นปกติ จากนั้นมองดูเจิ้งเอ๋อที่นั่งทานซุปอยู่ แล้วก็ยื่นมือไปเล่นด้วย “หนูน้อย กินอะไร อร่อยไหมครับ?”
เจิ้งเอ๋อเงยหน้ามองเธอ ค่อนข้างใจดี ยื่นชามข้าวอันน้อยๆของตัวเองแบ่งให้เธอ เหมือนกับต้องการให้เธอชิม
“เด็กน้อยคนนี้ น่ารักจริงๆ!” โม่หว่านหว่านหัวเราะพลางหยิบช้อนขึ้นมา
เป็นเกี๊ยวที่ซูย้าวทำให้หนูน้อยเมื่อสักครู่ ในนั้นมีหลากหลายรสชาติ ลูกชิ้น ไส้ผัก แล้วก็มีช็อกโกแลต ถั่วแดงพวกที่เด็กๆชอบ เป็นชิ้นเล็กๆทั้งนั้น
โม่หว่านหว่านกินไปสองชิ้น รู้สึกเยี่ยมไปเลย
จึงยกชามขึ้นมา ซดเกี๊ยวในชามเล็กนั้นกินหมดอย่างรวดเร็ว จากนั้นดื่มซุปตามจนหมดเช่นกัน!
เหลือเพียงชามที่ว่างเปล่า วางไว้ตรงหน้าเจิ้งเอ๋อ ลูบหัวของเขาด้วยความพอใจเป็นอย่างมาก จากนั้นเธอออกมา “อร่อย! ฝีมือแม่ของหนูอร่อยจริงๆเลย!”
เจิ้งเอ๋อมองดูชามที่ว่างเปล่าตรงหน้าตัวเอง แล้วก็ตกตะลึง
หนูน้อยตกตะลึง มองหน้าโม่หว่านหว่านที่ทำหน้าพึงพอใจอยู่ข้างๆ เจิ้งเอ๋อรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนแกล้งอย่างงั้น
สูดลมหายใจที่จมูกตัวเอง ใกล้จะร้องไห้ออกมาแล้ว
ซูย้าวเห็นเช่นนั้น จึงรีบเดินไปข้างๆ พาลูกมาที่ข้างๆเธอ ลูบใบหน้าของเขา แล้วอุ้มขึ้นมาปลอบ
จากนั้นใช้ภาษามือบ่นโม่หว่านหว่าน “เธอโตขนาดไหนแล้ว ยังจะแย่งลูกฉันกินอีก! เธอกินจนหมดเลยได้ยังไง?”
โม่หว่านหว่านที่นั่งอยู่บนโซฟาบึนปากใส่เธอ “ขี้งก! กินของพวกเธอแค่นี้ ก็บ่นฉัน!”
ซูย้าวโมโหจนใช้มือหยิกหัวของเธอ โม่หว่านหว่านก็ไม่สนใจ ยังปัดมือของเธอออก แล้วยังพูดด้วยความดื้อดึง “ก็จะกิน ถ้ามีอีกฉันก็จะกินอีก!”
เหมือนกับเด็กอย่างนั้น เจิ้งเอ๋อได้ยิน ตอนแรกไม่อยากจะร้องไห้ กลับร้องไห้ขึ้นมา
ยังดีที่แม่บ้านเดินออกมาจากห้องครัวพอดี ในมือถือซุปเกี๊ยวร้อนๆออกมาด้วย “คุณหนูคะ อย่าร้องไห้นะคะ! ยังมีอีกนี่ไง!”
เมื่อเห็นของกิน เจิ้งเอ๋อจึงหยุดร้องไห้งอแง
นั่งลง ใช้ช้อนเล็กคนเกี๊ยวที่อยู่ในชามเพราะร้อนมากไป เขาจึงต้องรอให้เย็นกว่านี้ค่อยกิน
โม่หว่านหว่านใช้มือเท้าคาง พลางจงใจพูดขึ้น “ร้อนมากสินะ? มาเดี๋ยวน้าเป่าให้ไหม?”
เจิ้งเอ๋อไม่หลงกล รีบใช้มือเล็กของตัวเองผลักเธอออก แสดงท่าทีไม่ยอมให้เธอกินแม้แต่คำเดียว
โม่หว่านหว่านบึนปากไปทางซูย้าวพูดขึ้นว่า “ดูลูกชายเธอสิ ขี้งกจริง!”
ซูย้าวหมดคำจะพูด เธอโตมากแล้ว แต่ยังแกล้งแย่งอาหารเด็กกินอยู่อีก!
แต่เมื่อโม่หว่านหว่านและลี่เจิ้งเล่นกันอยู่สักพัก ก็เหมือนนึกธุระสำคัญขึ้นมาได้ รีบลุกขึ้นมานั่ง แล้วจับหนูน้อยนั่งอีกทาง จากนั้นพูดขึ้น “ซูย้าว เธอดูข่าวแล้วหรือยัง?”
เธอที่ผูกผ้ากันเปื้อนรีบห่อเกี๊ยวอยู่นั้น แป้งเลอะเต็มมือ แล้วส่ายหัวด้วยความสงสัย
“เธอนี่นะ จะให้ฉันพูดยังไงดี? บอกแล้วไง ว่าให้เฝ้าสามีเธอไว้ดีๆ ก็ไม่ฟังฉัน! ตอนนี้มีข่าวฉาวกับหานฉ่ายหลิง เขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว!”
โม่หว่านหว่านยังหยิบมือถือเธอขึ้นมาเปิดเว่ยป๋อ ไม่ต้องไปเสิร์ชหา ก็ขึ้นข่าวของสองคนนี้มาในหน้าแรกเลยทันที แถมยังติดอันดับข่าวฮอต ชื่อหานฉ่านหลิงก็ติดอันดับอยู่ด้วย
เธอถือโทรศัพท์ไปเปิดให้ซูย้าวดู “เธอดูนี่สิ ดูดีๆ ถ้าเธอยังไม่สนใจอีก สามีของเธอจะเป็นสามีของคนอื่นแล้วนะ!”
“……”
ข่าวพวกนี้ซูย้าวเห็นมาแล้วผ่านๆ
ก็แค่มองผ่านๆอีกครั้ง แล้วรีบปิดโทรศัพท์ ไม่ได้ดูต่อ
ยิ่งดูเยอะ ก็ยิ่งเสียใจ แล้วจะหาเรื่องให้ตัวเองไม่สบายใจไปทำไม?
เธอคิดเช่นนี้ แต่โม่หว่านหว่านคิดไม่เหมือนกัน เธอดึงซูย้าวขึ้นมา ให้แม่บ้านและพ่อบ้านเป็นคนจัดการ จากนั้นสองคนพากันขึ้นชั้นบน
ในห้องน้ำ ซูย้าวล้างมือ โม่หว่านหว่านยืนพิงกับประตู แล้วพูดขึ้น “ครั้งก่อนที่หานฉ่ายหลิงหลุดจากคดีได้ ก็เพราะเธอช่วยใช่ไหม?”
ซูย้าวตกตะลึง ฟองสบู่อยู่เต็มมือ เปิดก๊อกน้ำล้างมือให้สะอาด
“เธอไม่ต้องอธิบาย ฉันให้คนไปสืบมาแล้ว หลินโย่ควนหายตัวลึกลับก่อนหน้านี้ นั่นเป็นเพราะเข้าร่วมแผนการปกป้อง บังคับให้เขาทำความผิด และยังปรากฏตัวในประเทศ นอกจากเธอแล้ว ก็ไม่สามารถเป็นคนอื่นได้!”
เป็นเพื่อนกันมานานหลายปี โม่หว่านหว่านเข้าใจซูย้าวมากเกินไปแล้ว ไม่ว่าจะตอนไหนที่ไหน ระหว่างความจิตใจและผลประโยชน์นั้น เธอดูจะเป็นอย่างข้างหน้าเสียมากกว่า
ซูย้าวใช้ผ้าขนหนูเช็ดมือจนแห้ง โม่หว่านหว่านพูดต่ออีก “เธอบ้าไปแล้วรึเปล่า! จะไปช่วยนังเมียน้อยนั่นทำไม?”
เดินออกมาจากห้องน้ำ ซูย้าวตอบด้วยภาษามือ “อย่าว่าคุณหานแบบนั้น เธอเป็นคนดีนะ!”“คนดีเหรอ? คนดีแย่งสามีเธอเหรอ! คนดีเป็นเมียน้อยเหรอ! คนดียังรู้จักหนีความผิด ยังมีข่าวฉาวกับคนอื่นงั้นเหรอ?”
โม่หว่านหว่านบึนปากด้วยความไม่พอใจ แล้วตามไปบ่นเธอต่อ “เธอมีสติหน่อยได้ไหม! ฉันเคยเตือนเธอแล้วไง ให้ระวังผู้หญิงคนนี้ หล่อนกำลังเสแสร้ง! เธอดูไม่ออกเหรอ?”
ซูย้าวหยุดเดิน แล้วหันกลับไป ตอบด้วยภาษามือ “ดูไม่ออก ฉันแค่รู้สึกว่าคุณหานไม่เลวเลย”
โม่หว่านหว่านยิ้มเย็นเยือก แล้วเหมือนกับคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงลากซูย้าวนั่งลง เธอพูด “ครั้งก่อนเธอช่วยหล่อนแล้ว แสดงว่าได้ตรวจสอบบัญชีของหล่อนแล้วใช่ไหม?”
ซูย้าวพยักหน้า บัญชีการเงินของบริษัทHSในช่วงสิบปีมานี้ เธอตรวจสอบจนหมดแล้ว
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เธอไม่เจออะไรที่น่าสงสัยบ้างเหรอ?”
พูดแค่คำเดียวทำให้รู้สึกตื่นขึ้นมา
ซูย้าวจำรายละเอียดบัญชีเหล่านั้นได้ การเงินช่วงไม่กี่ปีมานี้ ทุกๆไตรมาสจะมีการเคลื่อนไหวของเงินก้อนใหญ่
บนบัญชียังไม่เจอปัญหาอะไร
แต่เงินก้อนนั้นมาจากไหนยังไม่ทราบ แล้วใช้จ่ายในเรื่องอะไรก็ไม่ทราบ ไม่มีการแสดงที่ชัดเจน
โม่หว่านหว่านมองอารมณ์บนใบหน้าของเธอ สัมผัสถึงบางอย่างได้ เธอยกมุมปากขึ้นแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย “แล้วตรวจเจออะไรบ้าง!”
ซูย้าวขมวดคิ้ว เมื่อก่อนเธอไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เท่าไหร่ อย่างไรซะตอนแรกประเด็นอยู่ที่หลินโย่ควน ไม่ใช่หานฉ่ายหลิงและไม่ใช่ปัญหาบนหน้าบัญชีของหานฉ่ายหลิง
แต่กลับถูกโม่หวานหวานเตือนขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว…
“ย้าวย้าว ฉันบอกเธอตั้งแต่แรกแล้ว เบื้องหลังของหานฉ่ายหลิงมีลับลมคมใน ผู้หญิงคนนั้น ไม่ธรรมดา! เธออย่าถูกหล่อนหลอกเอาได้!” โม่หวานหวานเตือนอีกครั้ง
ซูย้าวมีท่าทีตกใจ ในหัวเธอมีภาพตอนคุยกับหานฉ่ายหลิงมากมาย แล้วความสงสัยก็เริ่มปรากฏขึ้นมา
“หลังจากนี้เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหานฉ่ายหลิง เธออย่ามายุ่งอีกเลย! เธออย่าทำตัวเป็นชาวนาเลย! เธอช่วยงูเห่า แต่กลับถูกงูเห่าแว้งกัดกลับ!” โม่หว่านหว่านพูดเปรียบเทียบต่างๆพร้อมท่าทางประกอบ
ซูย้าวถอนหายใจ แต่เธอเข้าใจว่าโม่หว่านหว่านหวังดี จึงพยักหน้ารับ
“แล้วก็ เธอต้องระวังหานฉ่ายหลิง อย่าให้หล่อนมาอ่อยสามีเธอได้!” โม่หว่านหว่านพูดอีก
เธอยิ้มแล้วก็ก้มหน้า
“เช็ดตาเธอให้สว่างซะ ผู้หญิงคนนั้นเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ถ้าไม่ระวัง สามีเธอก็จะโดนคาบไป!” โม่หว่านหว่านพูดเสริมไม่หยุด
ซูย้าวฟังเธอบ่นจนรู้สึกรำคาญ พยักหน้ารับแบบส่งๆ ท่าทางเหมือนกำลังเปรียบเธอเสมือนบรรพบุรุษ
“ฉันแค่หวังดีกับเธอ พรุ่งนี้เธอไปกับฉันที่หนึ่ง ให้เธอเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของผู้หญิงคนนั้น!” โม่หว่านหว่านกอดคอของเธอพลางกล่าวด้วยความรู้สึกเป็นปริศนา