เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 153
บทที่ 153 ยังจะเสแสร้งอีกเหรอ
ปากแก้วเพิ่งสัมผัสริมฝีปาก ยังไม่ทันได้กลืนน้ำลงไป โทรศัพท์ของลี่เฉินซีก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
ลู่ส้าวหลิงโทรมา
บริเวณด้านล่าง หลังจากที่ลู่ส้าวหลิงไปเรียกซูย้าวมา ผลปรากฏว่าพวกเขาตามหาจนทั่วห้องโถงก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของลี่เฉินซีกับหานฉ่ายหลิง
ดังนั้นจึงโทรมาถาม ว่าไปอยู่ไหนกันแน่?!
ถ้ากลับไปก่อนล่วงหน้าแล้ว ก็น่าจะบอกกันสักหน่อยสิ! ถึงยังไงงานในครั้งนี้บริษัทLGก็เป็นเจ้าภาพนะ ในฐานะเจ้าภาพและมิตรสหายที่ดีต่อกัน ก็ควรจะไว้หน้ากันหน่อย
ลี่เฉินซีกวาดสายตามองโทรศัพท์ ในตอนที่กำลังจะหยิบขึ้นมารับ โทรศัพท์ก็ถูกหานฉ่ายหลิงแย่งไปเสียก่อน
เธอรีบกดรับอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พูดออกมาว่า “ส้าวหลิง คุณกำลังตามหาเฉินซีอยู่ใช่ไหม? เขาอาบน้ำอยู่น่ะ!”
เฉินซีที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอ ก็ขมวดคิ้วในทันที
จากนั้น ไม่รู้ว่าลู่ส้าวหลิงพูดอะไรมาบ้าง เธอก็ตัดสายไปแล้ว
ความตรงไปตรงมา และน้ำเสียงที่ใช้พูด ไม่มีความหวาดกลัวใดๆเลยแม้แต่นิด
เมื่อวางสาย ก็วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ จากนั้นเธอก็เลิกคิ้วมองมาที่เขา พร้อมทั้งยกริมฝีปากสีแดงขึ้นเล็กน้อย “คุณว่า ฉันพูดไปแบบนี้ เขาจะคิดยังไงนะ?”
ดวงตาของลี่เฉินซีเริ่มขุ่นมัว
เขาไม่ใช่คนหวั่นกลัวต่อข่าวลือ เพียงแต่ว่าบางเรื่อง ถ้าเขาทำ เขาก็กล้ายอมรับ แต่ถ้าไม่ได้ทำ เขาก็ไม่ควรถูกคนอื่นปรักปรำทั้งที่ตัวเองบริสุทธิ์ไม่ใช่หรือไง!
“เฉินซี ฉันรู้สึกว่า…….” หานฉ่ายหลิงหัวเราะออกมาเบาๆ มือบอบบาง ค่อยๆลูบลงบนขาของเขาอย่างช้าๆ
การกระทำของเธอแผ่วเบา และเชื่องช้า
เธอค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ต้นขาของเขาทีละนิด
จากนั้น ก็พูดต่อว่า “คุณไม่กล้าแล้วเหรอ?”
ดวงตาปราดเปรื่องของลี่เฉินซีทอแววประหลาดพาดผ่านนัยน์ตาสีเข้ม ทั้งยังพกพาความอดกลั้นมาด้วย เขาวางแก้วในมือลง “ฉ่ายหลิง วันนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบาย คุณรีบพักผ่อนเถอะ ผมขอตัวก่อน!”
พูดจบ เขาก็พยายามลุกขึ้น พยายามข่มกลั้นมรสุมที่ก่อตัวขึ้นมาในร่างกายเอาไว้ และพยายามประคองสติที่หลงเหลืออยู่เอาไว้ให้ได้มากที่สุด
เมื่อหานฉ่ายหลิงมองแก้วใบนั้น ดวงตาของเธอก็ไหววูบ จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินตามไปกอดเขาเอาไว้จากข้างหลัง “อย่าไป! ให้ฉันได้อยู่กับคุณสักพักนะ แค่อีกสักพัก ไม่ได้เลยเหรอ?”
“ไว้คราวหน้าแล้วกัน!” เขาข่มกลั้นเสียงแหบพร่าเอาไว้อย่างยากลำบาก จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาเตรียมจะแกะมือของเธอออก
แต่หานฉ่ายหลิงจะปล่อยให้เขาทำสำเร็จยังไง เธอกระชับกอดเอาไว้แน่นกว่าเดิม ถ้าเป็นยามปกติ เขาคงแกะเธอออกแล้ว แต่ในตอนนี้ ร่างกายกับสมองของเขาไม่สามารถรับอะไรไหว เรี่ยวแรงก็หดหายไปอย่างแปลกประหลาด
“ฉันรักคุณ ฉันยินยอมเป็นของคุณ ถึงจะไม่มีสถานะ ฉันก็ไม่สนใจ! เฉินซี ทำให้ฉันเป็นของคุณเถอะนะ ฉันต้องการ…….”
ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ ประตูก็ถูกคนข้างนอกเปิดเข้ามา
ลู่ส้าวหลิงยืนตะลึงอยู่หน้าประตูคีย์การ์ดที่ถืออยู่ในมือ ร่วงลงกับพื้นในวินาทีที่เห็นเหตุการณ์ในห้อง
วินาทีต่อมา เขาก็รีบพูดออกมาว่า “เอ่อ ขอโทษ! ผมนึกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเฉินซี เพราะงั้นผมเลย……มารบกวน! ขอโทษจริงๆ!”
ต่อมา เขาก็หันหลังเดินออกไป แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวไปไหน ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหันกลับมาพูดว่า “เฉินซี นายเมาเหรอ? ให้ฉันไปส่งนายกลับบ้านไหม?”
ลี่เฉินซีพยักหน้า ลู่ส้าวหลิงจึงเดินก้าวยาวๆเข้าไปหา แล้วรีบประคองเขาเอาไว้ ในขณะที่กำลังจะเดินออกไป สายตาก็กวาดมองมาที่หานฉ่ายหลิง จากนั้นลู่ส้าวหลิงก็ถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ
หานฉ่ายหลิงรอโอกาสนี้มานานแต่แผนกลับกำลังจะล่มไปต่อหน้าต่อตาอย่างนี้เหรอ?!
เธอจะไปยอมได้ยังไง!
เธอจึงเดินตามทั้งสองไปด้วยความรวดเร็ว ลู่ส้าวหลิงและลี่เฉินซีเพิ่งเดินมาถึงหน้าห้อง เธอจึงเดินตรงเข้าไปแล้วพูดว่า “ส้าวหลิง ให้เฉินซีอยู่ที่นี่เถอะ! ฉันจะดูแลเขาเอง!”
พูดพร้อมกับเตรียมจะจับตัวของลี่เฉินซี
แต่ลู่ส้าวหลิงกลับไม่ยอม เขาพูดว่า “ไม่เป็นไร! เขาเมาแล้ว พาเขากลับไปให้ซูย้าวดูแลดีกว่า!”
ลู่ส้าวหลิงไม่กล้าอยู่ต่อ เขาจึงรีบประคองลี่เฉินซี เดินออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
หานฉ่ายหลิงหยุดมองภาพตรงหน้านิ่ง ในใจไม่ยินยอม อยากวิ่งพุ่งชนเข้าไป
เธออยากวิ่งเข้าไป ชิงตัวเขามาจากมือของลู่ส้าวหลิง เมื่อสักครู่มีเวลาตั้งเยอะ แต่ไม่ว่าเธอจะทำยังไง เปลืองตัวไปตั้งเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถทำให้สติของลี่เฉินซีพังทลายลงมาได้
เธอไม่สามารถกระตุ้นเขาได้ ไม่สามารถทำให้เขาขึ้นเตียงกับเธอได้
ทำยังไงดี?
ตอนนี้เหลือหานฉ่ายหลิงอยู่ในห้องคนเดียว เธอพิงร่างกายกับผนังอย่างสิ้นหวัง ร่างกายค่อยๆไหลลง ยังไม่ทันได้นั่งลงกับพื้น สายตาก็พลันเห็นรองเท้าส้นสูงสีฟ้าปรากฏตรงหน้า
เมื่อเคลื่อนสายตาขึ้นไปมอง ก็เห็นเป็นซูย้าว
ในตอนนี้ เธอยืนอยู่ตรงหน้าห้อง บนใบหน้าเย็นชา ไม่แสดงอาการยินดียินร้าย ยังคงเรียบนิ่งอย่างที่เคยเป็น เพียงแต่ดวงตาสวยคู่นั้น กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความเยือกเย็นราวกับมีเมฆปกคลุม
ซูย้าวมาถึงตั้งนานแล้ว
เธอขึ้นมาพร้อมกับลู่ส้าวหลิง เพราะเขาลากเธอขึ้นมาด้วย
แต่ซูย้าวไม่ได้เป็นฝ่ายไปเปิดประตู กลัวว่าจะได้เห็นภาพที่ไม่ควรเห็น และก็กลัวว่าจะทำให้เขาขายหน้า
ดังนั้น เมื่อลู่ส้าวหลิงพาเขาเดินออกไป เธอถึงได้เดินออกมาจากมุมๆหนึ่ง แล้วตรงมาที่ห้องนี้
ซูย้าวปิดประตูลง แล้วเดินเข้ามาในห้อง สายตากวาดมองไปรอบๆ สุดท้าย ก็หยุดนิ่งอยู่ที่แก้วน้ำที่ยังไม่ขยับไปไหน
หานฉ่ายหลิงรีบลุกขึ้นมาด้วยความลนลาน ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ชั่วขณะ เธอก็ไม่รู้ว่าควรเอ่ยปากพูดอะไรออกไปดี
ภายในห้องที่กว้างใหญ่ ทุกอย่างเงียบงัน และนิ่งสนิท
บรรยากาศระหว่างหญิงสาวทั้งสองคนเต็มไปด้วยความอึดอัด
พูดตามตรง การบุกรุกเข้ามาอย่างกะทันหันของลู่ส้าวหลิง มันเหนือความคาดหมายของหานฉ่ายหลิงอยู่มาก และการปรากฏตัวของซูย้าวก็ยิ่งทำให้เธอไม่นึกไม่ฝัน
ตอนนี้ ซูย้าวนั่งลงบนโซฟาอย่างน่าเกรงขาม สายตามองมาที่เธออย่างเรียบนิ่ง จากนั้นก็ใช้ภาษามือสื่อสารว่า “เมื่อกี้คุณหานกับสามีของฉัน ทำอะไรกันอยู่ในห้องนี้เหรอ?”
ชั่ววินาที เธอก็เริ่มจู่โจมด้วยการซักถามมือที่สามในทันที
หานฉ่ายหลิงกลืนน้ำลายลงคอ พยายามทำใจให้เย็นๆ แล้วยิ้มสดใสพร้อมกับพูดออกมาว่า “ไม่ได้ทำอะไรเลย! ก็แค่คุยกันไปเรื่อยเปื่อย!”
ซูย้าวมองมาที่เธอ ใบหน้าอ่อนหวาน ที่มักจะทอแววใจดีและอบอุ่นในยามปกติ ในตอนนี้หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ความเย็นชาที่เข้ามาแทนที่ ทำให้เธอเหมือนราชินีผู้สูงส่ง กลิ่นอายน่ายำเกรงแพร่กระจายออกมาทั่วทั้งร่างกาย
“ถ้าแค่คุยกันเฉยๆ คุณหานจะแต่งตัวอย่างนี้เหรอ?” ซูย้าวใช้ภาษามือไวมาก สายตาแหลมคมจดจ้องมาที่ชุดคลุมอาบน้ำของอีกฝ่ายเขม็ง
สาบเสื้อแยกออกจากกันเล็กน้อย เผยให้เห็นชุดชั้นในสีเข้ม และส่วนเว้านูนของร่างกาย แค่ผู้ชายเหลือบตามอง ก็เพียงพอที่จะทำให้ลุ่มหลงแล้ว
หานฉ่ายหลิงเริ่มลนลาน รีบพูดขึ้นมาว่า “ฉัน…..เสื้อผ้าฉันเปียก และฉันก็เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เลยต้องใส่ชุดคลุมอาบน้ำ…”
เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะลนลานไปทำไม!
ก็แค่เผชิญหน้ากับคนใบ้อย่างซูย้าว เธอต่างหากที่เป็นรักแรกของลี่เฉินซี เธอต่างหากผู้หญิงที่เขารัก แล้วเธอจะกลัวอะไร!
หานฉ่ายหลิงกำมือทั้งสองข้างแน่น ไฟโทสะที่ไม่มีชื่อเรียก เริ่มกระจายเป็นวงกว้าง
แต่คำพูดต่อมาของซูย้าว ก็เป็นเหตุผลชั้นดีที่ทำให้เธอเดือดดาล
“มาถึงขนาดนี้แล้ว คุณหานยังจะปกปิดไปทำไมเหรอ?” ซูย้าวใช้ภาษามือย้อนถาม
เมื่อเจอคำถามนี้ หานฉ่ายหลิงก็นิ่งไป
จริงสินะ เธอจะปกปิดไปทำไม? ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว!
ซูย้าวมองมาที่เธอ ในสายตาเรียบนิ่ง ประกอบไปด้วยความหงุดหงิดที่เริ่มก่อตัวขึ้นมาเรื่อยๆ จากนั้นก็ใช้ภาษามือสื่อสารว่า “ยังจะเสแสร้งอยู่อีกเหรอ? ยังเล่นละครไม่พอ?”
คำพูดไม่กี่คำ กระตุ้นความโกรธของหานฉ่ายหลิงได้ในที่สุด
“ซูย้าว!” หานฉ่ายหลิงตวาดเรียกเธออย่างโกรธๆ “ฉันเสแสร้งอะไร? ฉันกับเฉินซีก็แค่คุยกันเอง! ฉันกับเขา…..ไม่ได้ทำอะไรกันทั้งนั้น!”
“แล้วคุณหานอยากให้มีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นไหมล่ะ?” ซูย้าวใช้ภาษามือถามกลับ
หานฉ่ายหลิงเริ่มรับมือไม่ถูก “คุณ…..อย่ามาทำตัวไม่มีเหตุผลนะ! ฉันจริงใจกับคุณและเห็นคุณเป็นเพื่อนคนหนึ่ง ฉันไม่มีทางทำร้ายคุณแบบนั้นหรอก! คุณก็แค่……เข้าใจผิดไป!”
เธอกำลังร้อนตัว ขนาดพูดอธิบาย ยังพูดออกมาอย่างรนๆเลย
ซูย้าวเองก็ไม่พูดทิ่มแทงเธออีกต่อไป เพียงแค่กวาดสายตามองแก้วใบนั้นบนโต๊ะนิ่งๆ จากนั้นก็หยิบขึ้นมา แล้วดันมาไว้ตรงหน้าของหานฉ่ายหลิง ใช้ภาษามือบอกอีกฝ่ายว่า “ในเมื่อคุณพูดมาแบบนี้ ฉันยอมเชื่อก็ได้ แต่ว่าคุณหานลองดื่มน้ำแก้วนี้สักหน่อยเป็นไง?”