เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 176
บทที่176 อย่ามาทำตัวน่าขายหน้าตรงนี้
เฟอร์รารีF430สีแดง ด้วยประโยคเดียวของลี่เฉินซี ไม่เกินสามวัน ก็ถูกส่งไปยังเมืองAแล้ว
หวางอี้ไปรับรถด้วยตัวเอง แล้วนำไปส่งที่บ้านตระกูลลี่ แล้วนำกุญแจรถไปส่งให้กับซูย้าวด้วยความเคารพยำเกรง จึงถือได้ว่าทำภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว
เธอมองดูรถยนต์สีแดงคันนั้น แล้วก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ หากขับออกไปข้างนอก คงสะดุดตาเกินไป ไม่เจียมตัวเลยแม้แต่น้อย
ถ้าหากให้เธอเป็นคนเลือก เธอไม่มีทางเลือกสไตล์โฉบเฉี่ยวแบบนี้แน่นอน
เธอส่ายหัวแล้วถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง แล้วส่งกุญแจรถให้กับพ่อบ้าน ให้เขานำรถเข้าไปในโรงจอดรถ แล้วตัวเองก็กลับไปช่วยจัดการเอกสารบัญชีของบริษัทให้เขาต่อ
เดิมทีคิดว่าสิ่งที่ลี่เฉินซีให้เธอนั้น เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย ที่ง่ายดาย แต่กลับไม่เคยคิดมาก่อน ว่าจะเย็นแสนเข็ญ
รายงานต่างๆในช่วงเวลาเกือบห้าปี และเอกสารทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเรียงหรือสรุป ต่างก็จำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควร
โชคยังดีที่ซูย้าวนั้นคุ้นชินกับตัวเลข และความสามารถในการจำ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ใช่ว่าจะทำเสร็จได้หมดในช่วงเวลาสั้นๆ
แต่ก็โชคดีที่เธอไม่มีอะไรทำ และการจัดการเรื่องพวกนี้ ก็เป็นสิ่งที่ซูย้าวชอบอยู่แล้ว เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าเบื่อไปโดยปริยาย
ยุ่งอยู่ตลอดติดต่อกันกว่าครึ่งเดือน เกือบยี่สิบวัน ถึงได้สรุปเอกสารและรายงานต่างๆที่ลี่เฉินซีมอบหมายให้หมด จัดทำเป็นชุดและขั้นตอนที่ละเอียดขึ้น สรุปในช่วงระยะเวลาเกือบห้าปี ช่องโหว่บนหน้าบัญชีของบริษัทลี่ซื่อ ชี้ให้เห็นปลายทางของแต่ละกองทุนที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ เมื่อทำเสร็จทั้งหมดแล้ว ซูย้าวก็นั่งถอนหายใจโล่งอกอยู่บนเก้าอี้
เหมือนว่าได้ทำงานชิ้นใหญ่ให้เสร็จสิ้นลงได้ เธอมองดูโปรแกรมที่เธอออกแบบในคอมพิวเตอร์ด้วยความพึงพอใจ เพียงแค่ดำเนินการตามขั้นตอนนี้ รับประกันว่าแม้จะมีคนต้องการยักยอกเงินของส่วนกลางในอนาคต หรือแอบโกงกินเงิน ก็จะสามารถตรวจสอบพบได้ในทันที
นอกเหนือจากนั้น เธอรู้สึกว่า สมควรออกแบบระบบความปลอดภัยใหม่ให้กับบริษัทลี่ซื่อด้วย
ในขณะที่กำลังคิดอยู่ ก็มีเสียงของแม่บ้านดังมาจากทางด้านนอก “คุณผู้หญิงคะ คุณโม่มาแล้วค่ะ”
ซูย้าวรีบปิดคอมพิวเตอร์ แล้วลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว
โม่หว่านหว่านนั่งรอเธออยู่ที่โซฟาตั้งนานแล้ว ในมือถือแอปเปิลลูกใหญ่ ใช้ปากเล็กๆกัดเสียงดังกรอบ กัดไปคำหนึ่งและกำลังเคี้ยวอยู่
“นี่ เธอช่วยสามีเธอทำงานหนักขนาดนี้ เขาให้เงินเดือนเธอหรือเปล่า ?” โม่หว่านหว่านได้ยินมาตั้งนานแล้วว่าเธอช่วยทำงานให้กับลี่เฉินซี ทำนั่งพิงแล้วทำหน้าไม่ค่อยพอใจอยู่ตรงนั้น ราวกับคุณลุงคนหนึ่ง
ซูย้าวยิ้มเล็กน้อย แล้วนั่งลงข้างๆเธอ
“เขามอบรถให้ฉันคันหนึ่ง จะดูไหม ?” เธอทำภาษามือ
โม่หว่านหว่านรีบพยักหน้าทันที “ต้องดูอยู่แล้วสิ! ของที่ลี่เฉินซีให้เธอ จะต้องแพงแน่นอนสินะ ให้ฉันได้เห็นเป็นขวัญตาหน่อย”
เธอทำหน้ายิ้มๆ แล้วพาโม่หว่านหว่านไปที่โรงจอดรถที่อยู่ด้านหลังบ้าน
พอเธอได้เห็นเฟอร์รารีสีแดงคันนั้น ก็ตาค้างไปในทันที แล้วทอดถอนใจออกมาว่า “พระเจ้า! สามีเธอรู้ได้ยังไงว่าฉันชอบรถรุ่นนี้ นี่เป็นสิ่งที่ฉันวาดฝันเอาไว้เลยนะ!”
“……”
ซูย้าวยื่นกุญแจรถให้เธอ แล้วให้เธอลองขึ้นไปขับดู
แน่นอนว่าโม่หว่านหว่านจะต้องเปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งในตำแหน่งคนขับ จากนั้นก็กวักมือเรียกเธอ “ไป ฉันพาเธอไปรับลม!”
เดิมทีซูย้าวอยากจะปฏิเสธ แต่พอคิดว่าไม่ได้ออกไปไหนนานแล้ว วันนี้ก็ไม่มีอะไรทำพอดี ออกไปเที่ยวเล่นกับเธอสักหน่อยก็แล้วกัน
ทั้งสองคนขับรถออกไป แล้วตรงไปที่ใจกลางเมือง
โม่หว่านหว่านหมุนพวงมาลัยช้าๆ สีหน้าอิ่มเอมใจ “เงินเดือนฉันออกแล้ว เดี๋ยวฉันพาเธอไปช้อปปิ้ง ชอบอะไร ฉันจะซื้อให้เธอหมดเลย!”
ซูย้าวมองดูเธอ แล้วรู้สึกร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก
“ทำสีหน้าอะไรของเธอ ? รังเกียจฉันเหรอ ฉันอุตส่าห์ใจกว้างกับเธอขนาดนี้” โม่หว่านหว่านเบ้ปาก ยื่นมือไปโอบคอซูย้าว
จอดรถในลานจอดรถกลางแจ้งของห้างสรรพสินค้า โม่หว่านหว่านดึงเธอลงจากรถ “ไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันพาเธอไปซื้อเสื้อผ้า แต่งตัวสวยๆทุกวัน แล้วทำให้ลี่เฉินซีหลงจนโงหัวไม่ขึ้นไปเลย เขาจะได้ไม่ถูกพวกจิ้งจอกที่อยู่ข้างนอกคาบไปกิน!”
“……”
ซูย้าวปล่อยให้เธอลากจูงไปแบบนั้น แล้วเดินเข้าไปข้างใน เพิ่งเข้าประตูหมุน ก็เห็นซูหยวนที่ท่าทางหยิ่งผยองอยู่ตรงหน้า
เหมือนว่าเธอจะช้อปปิ้งมาทั้งวันแล้ว ในมือถือถุงช็อปปิ้งหลายใบ ซูหยวนเดินไปทางพวกเธอด้วยท่าทางสง่างาม บนริมฝีปากมีรอยยิ้มเยาะเย้ยเย็นชาที่เหมือนเป็นเอกลักษณ์ประดับอยู่ ท่าทางยโส “โอ้โห ฉันก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็พวกเธอสองคนนี่เอง”
พอโม่หว่านหว่านเห็นเธอเข้า ก็รู้สึกรำคาญใจจนคิ้วขมวดขึ้นมาทันที แล้วตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเราทำไมเหรอ ?”
“ไม่ทำไมหรอก ก็แค่คิดไม่ถึง ว่าในที่แบบนี้ จะมีคนจนอย่างพวกเธอเข้ามาด้วย ต้องรู้ด้วยนะ ว่าห้างCittopแห่งนี้ เป็นศูนย์รวมของสินค้าแบรนด์เนมระดับโลก ของที่ถูกที่สุด ก็เริ่มต้นที่ราคาหลายหมื่นแล้ว ขอเตือนพวกเธอไว้ก่อน อย่าถึงเวลาแล้วไม่มีเงินจ่าย จะอายชาวบ้านเขา!”
ซูหยวนยิ้มเยาะราวกับดวงอาทิตย์ที่ส่องแสง เธอรู้มาตั้งนานแล้ว ว่าถึงแม้ซูย้าวจะแต่งงานกับลี่เฉินซี แต่เรื่องการเงินก็แยกส่วนกัน และไม่ได้รับเงินจากฝ่ายชายเลยสักบาท ดังนั้น จึงได้กล้าดูถูกดูแคลนแบบนี้
โม่หว่านหว่านโมโหจนตัวสั่น อดกลั้นเพลิงโกรธเอาไว้ กัดฟันแล้วพูดออกมาทีละคำอย่างโมโห “ราคาเริ่มต้นหลายหมื่นแล้วยังไง ซูหยวน คิดว่าเธอมีเงินอยู่คนเดียวเหรอ พวกเราจะมีปัญญาหรือไม่แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ!”
“โอ้โหนี่ ฉันก็แค่เตือนด้วยความหวังดี ไม่ได้มีเจตนาร้าย เธอจะมาดุฉันทำไม ?” ซูหยวนรีบสวมลุคที่อ่อนแอและน่าสงสารทันที ท่าทางออดอ้อน ราวกับดอกไม้เล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่ในเรือนกระจก
ซูย้าวปิดตาลงด้วยความเหนื่อยหน่าย เธอไม่ชอบการถกเถียงกันแบบนี้เป็นที่สุด เลยรีบดึงโม่หว่านหว่านเอาไว้ทันที
แต่ว่าเพลิงโกรธของโม่หว่านหว่านถูกจุดขึ้นแล้ว จะให้ดับลงไปทั้งอย่างนั้นได้อย่างไร
“เธอพูดว่าเตือน ฉันกลับนึกอะไรขึ้นมาได้ หลังจากบริษัทซูซื่อล้มละลาย ดูเหมือนว่าจะติดหนี้ก้อนใหญ่กับพวกบริษัทภายนอกมากมายรวมถึงธนาคารอีกด้วย จำได้ว่าเมื่อไม่นานมานี้ พวกทวงหนี้ยังไปตามทวงถึงบ้านตระกูลซูเลยนี่นา!”
ขณะที่โม่หว่านหว่านกำลังพูด ก็กวาดสายตาเย็นชาไปที่ถุงช้อปปิ้งในมือของซูหยวน ยิ้มเย็นชาราวกับดอกไม้ แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปของซูหยวนอยู่หลายรูป
ซูหยวนชะงักไปทันที และเริ่มมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา
และจากนั้น ก็ได้ยินโม่หว่านหว่านพูดขึ้นว่า “เธอว่า ถ้าฉันโพสต์รูปพวกนี้ลงบนอินเทอร์เน็ต เกิดพวกเจ้าหนี้ของตระกูลซูเห็นเข้า จะตอบสนองยังไงกันนะ ?”
มีเงินช้อปปิ้ง ถลุงเงินหลายหมื่นอย่างไม่รู้จักเสียดาย ไม่มีเงินใช้หนี้ ?
แน่นอนว่าต้องไปทวงหนี้สิ
ซูหยวนนิ่งอึ้งไปในทันที และสีหน้าก็ซีดเผือดไป ราวกับสูญเสียความสามารถในการพูด พูดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียว
โม่หว่านหว่านคลี่ริมฝีปากเป็นรอยยิ้มได้อกได้ใจ แล้วคล้องแขนของซูย้าวข้างหนึ่ง “ฉันก็ไม่บังคับเธอหรอกนะ หากเธอพูดขอโทษสักคำ แล้วเกลี้ยกล่อมพวกเราดีๆ รูปภาพพวกนี้ ฉันไม่โพสต์ก็ได้ เป็นยังไงล่ะ ?”
“พวกเธอ……” ซูหยวนโกรธจนหน้าซีด ฝืนอดกลั้นอยู่นาน แต่ก็รีดคำขอโทษออกมาไม่ได้แม้แต่คำเดียว
ซูย้าวไม่อยากฝืนใจคนอีกต่อไปแล้ว เลยดึงแขนโม่หว่านหว่านอีกครั้ง และฉวยโอกาสระหว่างนั้น ซูหยวนก็ทิ้งประโยคหนึ่งไว้อย่างโกรธเคือง “พวกเธออย่าทำเป็นได้ใจไปหน่อยเลย ! ถ้าคิดว่ามีปัญญาก็รอดูได้เลย!” แล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
โม่หว่านหว่านยังอยากจะเดินตามไป แต่ถูกซูย้าวดึงเอาไว้เสียก่อน
“เธอเนี่ยนะ ใจอ่อนเกินไปแล้ว ฉันล่ะเกลียดท่าทางหยิ่งผยองของซูหยวนจริงๆเลย ยโสโอหัง เอาแต่รังแกเธออยู่ได้!” โม่หว่านหว่านเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเธอ
แต่ซูย้าวกลับยักไหล่แล้วยิ้มบางๆ แล้วก็ดึงมือเธอมาทาบบนหน้าท้องที่แบนราบของตัวเอง ใช้ภาษามือพูดว่า “อย่าไปโกรธเธอเลย ฉันบอกความลับอย่างหนึ่งให้เธอฟัง ฉันท้องอีกแล้วล่ะ!”
“พระเจ้า……” โม่หว่านหว่านชะงักไปด้วยความประหลาดใจ ราวกับถูกตรึงไว้ ผ่านไปครู่ใหญ่กว่าจะได้สติกลับมา “ท้องอีกแล้วเหรอ ? ลี่เฉินซีจะเก่งเกินไปหรือเปล่า ฉันจำได้ว่า เธอกินยาคุมกำเนิดด้วยไม่ใช่เหรอ ทำไมถึง……”
ซูย้าวหลุบตาลงต่ำ แล้วใช้ภาษามืออธิบาย “มีหลายครั้งที่ลืมกิน ก็เลยท้องอีกแล้ว!”
“แล้วเธอบอกลี่เฉินซีหรือยัง ?”
เธอส่ายหน้า ยังไม่คิดจะบอกเขาตอนนี้ รอให้ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อนค่อยบอกแล้วกัน
โม่หว่านหว่านพยุงเธอ ราวกับกำลังปกป้องสัตว์เลี้ยง ดูแลอย่างระมัดระวัง “ถ้าอย่างนั้นเธอก็ระวังตัวหน่อย ในท้องยังมีหลานของฉันอยู่อีกนะ!”
เธอยิ้มออกมา แล้วทั้งสองคนก็เดินตรงไปชั้นบน
และในที่ที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ซูหยวนที่หลบอยู่ในมุมมุมหนึ่ง ก็เดินออกมาช้าๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ หลังจากผ่านความเหลือเชื่อไปแล้ว ความรู้สึกโกรธแค้นก็ถาโถมเข้าสู่จิตใจ แล้วกำนิ้วมือแน่น
ซูย้าวที่น่ารังเกียจ ช่างสุขภาพดีเหลือเกินนะ ท้องอีกแล้วอย่างนั้นหรือ!
ส่วนลี่เฉินซีก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ ราวกับว่าสวรรค์กำลังเปิดทางให้ฉันเลยนะ……