เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 182
บทที่182 ยังอาลัยอาวรณ์
ห้องน้ำที่ตกแต่งอย่างวิจิตร แต่เดิมเป็นช่วงกลางฤดูร้อน อบอุ่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิ แต่เนื่องจากการบุกเข้ามาอย่างกะทันหันของลี่เฉินซี เลยทำให้บรรยากาศเย็นยะเยือกเหมือนหิมะในฤดูหนาว
ซูหยวนคิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอกับลี่เฉินซีที่นี่ และยิ่งไม่เคยคิดเลยว่าจู่ๆเขาก็จะมาปรากฏตัว เพื่อช่วยเหลือซูย้าว
เพียงแค่รออีกสักนิด รอให้ยาขับลูกนั่นทำงาน ซูย้าวเป็นคนใบ้ การแท้งในครั้งนี้ เธอก็ทำได้แค่กัดฟันและกลืนมันลงท้องไปเท่านั้น!
ไม่แน่ว่า ลี่เฉินซีอาจจะกล่าวโทษที่เธอไม่ยอมบอกเขาเรื่องท้อง และทำให้คนในเป็นเหมือนคนนอก ซูหยวนเองก็จะได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากส่วนนั้นด้วย มองดูเธอตกอับ มองดูเธอล้มเหลว!
คิดไม่ถึงว่า……
หลังจากซูย้าวถูกช่วยเอาไว้แล้ว ก็ไม่มีเวลาไปสนใจซูหยวนอีก รีบพุ่งเข้าไปในห้องสุขา เกาะขอบชักโครกและล้วงคอเพื่อทำให้อาเจียน
และคายทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในท้องออกมา แต่เธอก็ยังไม่วางใจ พยายามจนตัวเองพ่นน้ำย่อยออกมา ถึงได้โล่งใจขึ้นมาบ้าง
ภายใต้แววตาสำรวจของลี่เฉินซี ซูหยวนหวาดกลัวจนตัวสั่น ตื่นเต้นจนฝ่ามือชุ่มเหงื่อ พูดเสียงเบาว่า “ฉัน……ฉัน……เมื่อกี้แค่ล้อเล่นเท่านั้น! เป็นแค่การเข้าใจผิดเท่านั้น!”
“เข้าใจผิด ?” ลี่เฉินซีแววตาเย็นชาเหมือนคบเพลิง ใบหน้าอันมืดมนเดิมทีก็เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมอยู่แล้ว “การกระทำที่เธอทำกับซูย้าวเมื่อกี้ เป็นแค่การล้อเล่น ? เข้าใจผิด ?”
หยุดชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นลี่เฉินซีก็ก้าวไปข้างหน้า แล้วคำพูดอีกประโยคหนึ่ง ก็ตามออกมา “ก่อนหน้านี้คุณให้เธอดื่มอะไรเข้าไป ?”
เขามาอย่างรีบร้อน เดิมทีแค่อยากจะไปห้องน้ำชาย แต่พอเดินผ่านก็ได้ยินเสียงของซูหยวนเข้าโดยบังเอิญ ถึงได้ตั้งใจฟังขึ้นมา แน่นอนว่าไม่ได้ยินเรื่อง”ท้อง”
สายตาของซูหยวนกระสับกระส่าย เธอไม่มีทางพูดเด็ดขาดว่าเป็นยาขับลูก แบบนั้นมันเหมือนการรนหาที่ตายชัดๆไม่ใช่หรืออย่างไร
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดเพียงว่า “ฉัน……ไม่มีอะไรนี่! อาจจะเป็นเพราะเมื่อกี้ฉันสั่งซุปเม็ดบัวไปให้ที่ห้องส่วนตัวของน้องสาว แล้วซูย้าวไม่ชอบกินละมั้ง!”
ไม่ชอบกิน ?
ข้ออ้างแบบนี้ ลี่เฉินซีจะไปเชื่อได้อย่างไร!
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สายตาโหดเหี้ยมราวกับราชาเหนือโลก หัวเราะเสียงเย็น “ซูหยวน เธอก่อเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันเห็นแก่หน้าของซูย้าว อดทนต่อเธอครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เธอจำไว้นะ ความอดทนของฉัน มันมีขีดจำกัด!”
“……เข้าใจ เข้าใจแล้ว!” ซูหยวนตกใจจนวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่างอยู่แล้ว จะเอาแรงที่ไหนไปต่อกรกับเขาได้อีก แน่นอนว่าเห็นโอกาสดีก็ต้องรีบคว้า รีบหมุนตัวแล้วหนีไปทันที
พอเหลือกันแค่สองคน ด้วยความที่ซูย้าวอาเจียนอย่างรีบร้อนจนเกินไป ทำให้สีหน้าซีดเผือดกว่าปกติ และดูอ่อนแอยิ่งกว่าเดิม
เธอบ้วนปาก พอหันหลัง ลี่เฉินซีก็มายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้้ว “เธอเป็นยังไงบ้าง ?”
ซูย้าวส่ายหน้า เพื่อแสดงว่าตัวเองไม่เป็นไร
“สีหน้าย่ำแย่ขนาดนี้ ยังจะบอกว่าไม่เป็นไรอีก ?” ลี่เฉินซีขมวดคิ้วแน่น ไม่รอให้ซูย้าวตอบสนอง มือใหญ่คว้าออกไป โอบอุ้มเธอขึ้นมา แล้วเดินออกไปข้างนอก พร้อมพูดว่า “ฉันจะพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาล ถ้าไม่เป็นอะไร จะได้วางใจ”
เธอชะงักไปครู่หนึ่ง และยกเลิกการปฏิเสธไป เมื่อครู่ไม่ว่าอย่างไร เธอก็ดื่มยาขับลูกเข้าไปแล้ว ถึงแม้จะอาเจียนออกมา แต่หากแท้งขึ้นมา มันก็ไม่เป็นผลดีสำหรับเด็ก
อย่างไรก็ไปตรวจสอบสักหน่อย จะได้วางใจ
แต่พอคิดอีกที ก็คิดได้ว่ายังมีเพื่อนร่วมห้องที่อยู่ในห้องส่วนตัวชั้นล่าง รวมถึงโม่หว่านหว่าน หากตัวเองจู่ๆก็จากไปแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะโดนพวกเขาพูดอะไรอีก
ด้านนอกร้านอาหาร หวางอี้รออยู่นานแล้ว ลี่เฉินซีอุ้มเธอขึ้นรถ แล้วไปที่ตำแหน่งคนขับ ก่อนจะมอบหมายหวางอี้ “ไปห้องส่วนตัวแล้วบอกกับคุณโม่ และทุกคน ว่าซูย้าวไม่สบาย ฉันพาตัวเธอกลับไปก่อน!”
หวางอี้พยักหน้า
พอทำตามที่สั่งมาแล้ว ทั่วทั้งห้องก็เริ่มลุกฮือขึ้นมาอีกครั้ง
“ซูย้าวไม่สบายเหรอ ? ไม่สบายตรงไหนกัน ? เมื่อกี้ฉันยังเห็นเธอดีๆอยู่เลย!”
“ต้องเป็นเพราะได้แต่งงานกับเศรษฐี เลยเริ่มหยิ่งยโสไง! ตอนนี้ชาวบ้านเขาเป็นถึงกิ่งทองใบหยก มาร่วมทานอาหารโต๊ะเดียวกับพวกเราแบบนี้ ก็ถือว่าให้เกียรติพวกเรามากแล้ว!”
“โอ้โห แล้วไม่ใช่หรือไง! พวกเราเป็นใครกัน ? เป็นเพียงชาวบ้านตัวเล็กๆเท่านั้นแหละ จะไปเทียบกับศักดิ์ศรีของบริษัทลี่ซือกรุ๊ปได้ยังไง ?”
มีแต่คำพูดริษยาทั้งนั้น ฟังแล้วทำให้โม่หว่านหว่านรู้สึกเบื่อหน่าย ดังนั้นพอหวางอี้หันหลังเดินออกจากห้องไปแล้ว ด้านหลังก็ได้ยินเสียงสนั่นออกมาจากข้างใน
โม่หว่านหว่านโยนตะเกียบทิ้ง และลุกขึ้นยืน หัวเราะเสียงเย็นและจ้องมองเพื่อนร่วมห้องชายหญิงที่อยู่รอบๆ โดยเฉพาะคนที่พูดคำนั้นออกมาเมื่อครู่นี้ แล้วพูดออกไปว่า “อย่างน้อยทุกคนก็เป็นเพื่อนร่วมห้องกัน ก็ถือว่าเป็นโชคชะตา พวกเธอจะอิจฉาริษยาก็พูดมาตามตรงเถอะ จำเป็นต้องพูดแซะคนอื่นเขาแบบนี้ด้วยเหรอ ?”
“เมื่อกี้ตอนที่ประธานลี่เข้ามา ทำไมพวกเธอไม่กล้าพูดแบบนี้ล่ะ ? หืม ?”
“อีกอย่างนะ รู้ว่าบริษัทลี่ซือกรุ๊ปมีความสามารถ ก็อย่าเล่นลิ้นลับหลังคนอื่น ไม่อย่างนั้นหากประธานลี่เกิดไม่พอใจขึ้นมา ชาวบ้านอย่างพวกเธอเองจะเอาตัวเองรอดหรือเปล่า ก็ไม่แน่แล้ว!”
โม่หว่านหว่านจ้องพวกคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างโหดเหี้ยมอีกครั้ง จากนั้นก็หยิบกระเป๋าแล้วเดินออกมาทันที
ซูย้าวรู้ว่าเธอต้องเป็นห่วงแน่ เลยส่งข้อความไปบอกโม่หว่านหว่านทางวีแชท ส่วนรายละเอียด รอกลับถึงบ้านแล้วค่อยคุยกับเธอ
โม่หว่านหว่านเองก็เลยคลายความเป็นห่วง ถอนหายใจโล่งอก แล้วตัวเองก็ไปช้อปปิ้งต่อ
ทางฝั่งโรงพยาบาล ลี่เฉินซีพาเธอมา แล้วตรงไปที่แผนกทางเดินอาหาร เพราะกังวลว่าเธออาจจะทานของที่ไม่สะอาดเข้าไป หรือว่าแพ้อะไรบางอย่าง
แต่ในใจของซูย้าวกลับทำอะไรไม่ถูก เธอควรจะไปตรวจที่แผนกสูตินรีเวชต่างหาก!
แต่ก็เจอกับโอวหยางเช่อที่กำลังเตรียมตัวเลิกงานเข้าโดยบังเอิญ เขาเห็นเธอแต่ไกล เลยรีบเดินเข้ามาทักทาย
พอซูย้าวเห็นเขา ก็ราวกับมองเห็นฟางเส้นสุดท้าย รีบส่งสายตาไปให้ โอวหยางเช่อเองก็ฉลาดมาก รีบถามขึ้นทันทีว่า “ซูย้าวเป็นอะไรไปเหรอ ?”
ลี่เฉินซีจ้องมองเขา แล้วสีหน้าก็เย็นชาลง พูดเพียงว่า “ทานอาหารแล้วอ้วก”
“แสดงว่ากระเพาะมีปัญหาเหรอ ? ตอนนี้ฉันว่างอยู่พอดี เดี๋ยวฉันตรวจให้เธอแล้วกัน!”
ขณะพูด โอวหยางเช่อก็พยุงซูย้าวเดินไปทางห้องทำงานของตัวเอง
ลี่เฉินซีก้าวยาวๆเข้ามาขวางเอาไว้ มือใหญ่อันเย็นยะเยือกดึงเธอออกมาจากมือของโอวหยางเช่อ แววตายิ่งเย็นยะเยือกยิ่งกว่า “โอวหยาง นายเป็นหมอหูคอจมูก แม้แต่แผนกระบบทางเดินอาหารก็จะมาดูแลด้วยเหรอ ?”
โอวหยางเช่อพยักหน้าทันที “ใช่แล้ว โรงพยาบาลของเราเชิดชูผู้มีความสามารถรอบด้าน คุณหมอหลินโม่ป่าย ไม่เพียงดูแลแผนกหัวใจ ขนาดเรื่องของแผนกสูตินรีเวชยังรับผิดชอบดูแลด้วยเลย!”
“……”
วินาทีนั้น ใบหน้าหล่อเหลาของลี่เฉินซีก็เย็นชาขึ้นอีกหลายเท่า ขุ่นมัวไปทั่ว
เห็นได้ชัด ว่าโอวหยางเช่อจงใจยั่วโมโห
พอเห็นว่าลี่เฉินซียังไม่ยอมอนุญาต เขาเลยพูดอีกว่า “หรือไม่ให้ฉันไปเรียกคุณหมอหลินมาให้เอาไหม ให้เขามาช่วยตรวจให้ซูย้าว”
“…….”
ลี่เฉินซีรู้อยู่ก่อนแล้วว่าหลินโม่ป่ายยังอาลัยอาวรณ์ต่อซูย้าวอยู่ จะยอมปล่อยให้เขามาได้อย่างไร!
โอวหยางเช่อยิ้มบางๆออกมา แล้วส่งสัญญาณให้ซูย้าว “มาที่ห้องทำงานฉันเถอะ! เดี๋ยวฉันช่วยตรวจให้เธอเอง”
ซูย้าวเป็นห่วงลูกในท้อง แล้วก็ยังบอกกับลี่เฉินซีตรงๆไม่ได้ ทำได้แค่อดทนต่อสายตาอันเยือกเย็นของเขา แล้วเดินตามโอวหยางเช่อเข้าไปในห้องทำงาน
พอปิดประตูลง เธอก็รีบใช้ภาษามืออธิบายกับเขาทันที แต่ด้านหลัง ลี่เฉินซีก็ผลักประตูเข้ามา
“ภรรยาของฉันตรวจร่างกาย ในฐานะสามี จะอยู่เป็นเพื่อนคงได้มั้ง” เขาถาม
แล้วโอวหยางเช่อจะพูดอะไรได้อีก
ซูย้าวทั้งอึดอัดและหมดคำพูด แต่กลับเริ่มรู้สึกว่าปวดท้องและรู้สึกแย่ อาจจะเป็น……
เธอกุมท้องโดยทันที สีหน้าตื่นตระหนกและร้อนรน ลี่เฉินซีมองสีหน้าของเธอออก รีบพูดขึ้นว่า “เธอเป็นอะไรไป ?”
“ปวดท้อง…….” เธอใช้ภาษามืออธิบาย
โอวหยางเช่อรีบเข้าไปพยุงเธอ “รีบเข้ามาข้างใน นอนบนเตียงเดี๋ยวฉันช่วยเธอตรวจกระเพาะ…….”
เธอนอนลง มองดูม่านกันลมที่บังอยู่ แล้วรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา พิมพ์ข้อความลงบนนั้นอย่างรวดเร็ว เพื่ออธิบายเรื่องราวคร่าวๆให้โอวหยางเช่อ
พอเขาอ่านจบ ม่านตาก็หดลงทันที กินยาขับลูกเข้าไป ? แถมในเวลาแบบนี้ แล้วยังเสียเวลาระหว่างนั้นอยู่นาน ถ้าอย่างนั้นเด็กคนนี้ก็คง..