เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 195
บทที่ 195 ก่อเรื่อง
ซูย้าวนั่งพิงข้างเตียงอยู่บนพื้นไม้ กำลังมองหนูเจิ้งเอ๋อที่หลับสนิทอยู่บนเตียงเงียบๆ ขนตางอนหนา เธอยกมือขึ้นช้าๆ วาดโครงร่างที่หล่อเหลาของลูกชายเบาๆ
เด็กคนนี้ ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนลี่เฉินซีจริงๆ
เหมือนรูปตอนเด็กๆของเขามากเลย พันธุกรรมยังคงเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งเสมอ
เด็กน้อยบนเตียงค่อยๆพลิกตัว ยังคงหลับสนิท
ด้านนอกเป็นเวลาดึกมากแล้ว แม่บ้านกับพี่เลี้ยงที่อยู่ในบ้านก็หลับกันหมดแล้ว ข้างๆเตียง มีกระเป๋าเดินทางใบหนึ่ง
โม่หว่านหว่านแอบเข้ามาทางด้านหลังของคฤหาสน์ ย่องเข้ามาในห้องของเธอ ผลักประตูออก พูดขึ้นเบาๆ “ไปกันเถอะ!”
ซูย้าวกำลังมองเธอ ใช้ภาษามือพูด “จำเป็นต้องทำอย่างนี้ไหม? ลับๆล่อๆ ดึกดื่นแล้วยังแอบเข้ามา……”
ทำเหมือนเธอทำเรื่องที่น่าละอายใจอย่างนั้นแหละ!
โม่หว่านหว่านก้าวเข้าไปใกล้ๆ ลากกระเป๋าเดินทางแล้วพูด “ฉันทำเพื่อเธอทั้งนั้นนะ! เธอคิดจะรอให้ลี่เฉินซีกลับมา แล้วแย่งลูกชายกับเธอหรือไง!”
“……”
“เธอก็รู้ ว่าเขามีฝีมือขนาดไหน จะเรียกบอดี้การ์ดมาสักกี่สิบคนก็ได้ แล้วเธออยากเจอลูกชายก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วนะ! ถึงตอนนั้นเธอจะทำยังไง?” โม่หว่านหว่านพูดขึ้น
“……”
“ตอนนี้พาลูกไปก่อน ซ่อนตัว ถึงตอนนั้นเธอก็พาทนายความสักกี่คนมาฟ้องร้องเขา! ยังไงก็ตามลูกชายอยู่กับเธอทุกวัน ต้องสนิทกับเธอมากกว่าแน่ๆ ก่อนครบสามขวบ ถ้าจะหย่า สิทธิการเลี้ยงดูก็ต้องกลับมาเป็นของแม่ เธอได้เปรียบอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องแย่งลูกกับเขา!”
ที่โม่หว่านหว่านพูดก็มีเหตุผล เพียงแต่ซูย้าวรู้สึกว่า แอบหนีไปอย่างนี้ ค่อนข้างจะ……
อย่างไรก็ตัดสินใจไปแล้ว ต่อให้ต้องเสียใจภายหลัง แต่นึกถึงปัญหาสิทธิการเลี้ยงดูลูกชาย เธอก็ทำได้เพียงยอมรับไปโดยปริยาย
ตามโม่หว่านหว่านออกไปจากบ้านตระกูลลี่ก่อนฟ้าสาง ขับรถกลับไปที่คอนโดในตัวเมืองก่อน
แค่นำของติดตัวมาไม่กี่อย่าง ของอื่นๆ อยู่ที่บ้านตระกูลลี่ทั้งหมด เก็บไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากหย่า ก็จะจ้างรถไปย้ายมาทันที
นั่งอยู่ในห้องนอนที่กว้างโล่งคนเดียว มองรอบๆด้านที่ว่างเปล่า ซูย้าวเหม่อลอยอยู่เหงาๆคนเดียว
แรกเริ่มเดิมที เธอปฏิบัติตามพินัยกรรมของคุณท่านตระกูลลี่ ไปจดทะเบียนสมรสกับเขาที่สำนักงานกิจการพลเรือน แล้วเข้ามาในตระกูลลี่ แค่พริบตา ก็เกือบจะสามปีแล้ว
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นึกเลยว่าจะถึงวันที่ต้องแยกจากกันแล้ว แค่ไม่คิดว่า ถึงวันสุดท้ายที่ต้องไปก็ยังคงรีบร้อนขนาดนี้ ไม่ทิ้งเอาไว้แม้แต่ความทรงจำเพียงเล็กน้อย
เธอถอนหายใจ นึกถึงข้อความวีแชทที่เขาส่งมาก่อนหน้านี้ แต่ละคำๆยังคงปรากฏอยู่ในหัว ตัดสินใจเด็ดขาดขนาดนั้น การเป็นสามีภรรยากัน สุดท้ายแล้วก็แค่ทำให้เขารังเกียจเอือมระอา แค่อยากจะสลัดออกไปให้เร็วที่สุด……
นี่ตนเองแย่ขนาดไหนกัน ถึงทำให้เขาเบื่อหน่ายเช่นนี้?
ด้วยความกังวลว่าเธอเพิ่งจะย้ายเข้ามา แล้วจะจิตใจไม่สงบ โม่หว่านหว่านจึงลางาน พาเธอออกไปชอปปิ้ง
แต่ซูย้าวกลับอุ้มเจิ้งเอ๋อ ตามเธอออกมาด้วยหน้าตาไม่เต็มใจ อากาศร้อนอบอ้าว มาชอปปิ้งเวลานี้ เธออยากจะอยู่บ้านพักผ่อนดีกว่า
แต่โม่หว่านหว่านกลับบอกว่า “เธอเก็บตัวอยู่ในบ้าน แล้วเจิ้งเอ๋อล่ะ? ก็ขลุกอยู่ในบ้านกับเธอทั้งวัน? โตขึ้นมา ต้องกลายเป็นตัวขี้เกียจแน่ๆ!”
ฟังแล้ว เจิ้งเอ๋อที่ดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของซูย้าวก็โต้แย้งทันที “น้านั่นแหละขี้เกียจ!”
“อั๊ยหยา เด็กน้อย เรารู้จักเถียงแล้วเหรอ? เรานั่นแหละตัวขี้เกียจ นอนตื่นสายทุกวัน!”
เจิ้งเอ๋อเบ้ปากเล็กขึ้นมา ส่ายหัวสุดแรงเกิด “ไม่มีสักหน่อย ไม่มีสักหน่อย!”
ซูย้าวเห็นพวกเขาทะเลาะกัน ก็ขมวดคิ้วอย่างจำใจ
โม่หว่านหว่านสังเกตเห็นถึงรองเท้าที่ซูย้าวใส่ ไม่นึกว่าจะมีส้นนิดหน่อย จึงรีบพูดขึ้น “ท้องแล้วนะ เธอยังจะใส่รองเท้าส้นสูงอีก?”
เธอก้มหน้ามองดู แค่ประมาณสองเซนติเมตร ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นรองเท้าส้นสูงสักหน่อย
แต่โม่หว่านหว่านยืนกราน จึงลากเธอไปร้านรองเท้าออกกำลังกาย นั่งลงเลือกรองเท้าออกกำลังกายที่สะดวกสบายสักคู่
ทั้งสองคนกำลังเลือกอยู่ เสียงนุ่มนวลของหญิงสาวก็ลอยเข้าหูมาพอดี——
“สองคู่นี้ใส่ถุงให้ฉันด้วย! พรุ่งนี้ฉันจะใส่ตอนไปปีนเขากับพี่หลิน……”
แค่โม่หว่านหว่านหันไป ก็เห็นซูหยวนที่พิงอยู่ในอ้อมอกของผู้ชาย รูปร่างอรชร แต่งหน้าเข้มกำลังดึงแขนของฝ่ายชายอยู่ ยังคงท่าทางออดอ้อน
เธอก็เห็นซูย้าวกับโม่หว่านหว่านที่เลือกรองเท้าอยู่ที่ด้านนี้แล้ว อดไม่ได้ที่จะยกมุมปาก ยิ้มเยาะเดินเข้ามาหา “ช่างโชคร้ายจริงๆเลย! ออกมาชอปปิ้งทุกทีถึงต้องมาเจอพวกเธอ!”
“ทำไม? ร้านพวกนี้โดนเธอซื้อไว้แล้วเหรอ? อนุญาตให้เธอเดินเล่นได้เท่านั้นเหรอ?” โม่หว่านหว่านลุกขึ้นเถียงกลับ
ซูหยวนคำรามออกมา แต่สายตากลับจ้องไปที่รองเท้าออกกำลังกายสีฟ้าขาวที่อยู่ในมือของเธอ
ชั่วพริบตา ก็แย่งไปจากมือของโม่หว่านหว่านทันที “อั๊ยหยา รองเท้าคู่นี้สวยจัง ฉันก็อยากได้!”
โม่หว่านหว่านกัดฟัน “ฉันเลือกคู่นี้อยู่ชัดๆ เธออยากได้ก็ไปหยิบเองสิ!”
แย่งกลับมาจากในมือของซูหยวน แล้วก็ส่งให้ซูย้าวที่อยู่ด้านข้าง ให้เธอเอาไปลอง
ซูย้าวไม่มีกะจิตกะใจ แล้วก็ขี้เกียจไปลองด้วย แค่ไซส์ใส่ได้ก็พอแล้ว จึงอุ้มเจิ้งเอ๋อแล้วจะเดินไปจ่ายเงิน
แต่ซูหยวนกลับพูดขึ้นมา “ไหนๆฉันกับเธอก็ไซส์เดียวกัน งั้นให้ฉันลองหน่อย!”
พูดจบ พอดีกับพนักงานขายยังไม่ลงมาจากด้านบน พนักงานร้านข้างๆจึงทำตัวไม่ถูกแล้ว
โม่หว่านหว่านอยากจะปฏิเสธ แต่ซูหยวนกลับเดินเข้ามาทันที ยื่นมือไปหยิบรองเท้ามาจากในมือของซูย้าว “ให้ฉันลองหน่อย! ไม่งั้นเธอก็รอก่อนแล้วเอาคู่ใหม่ไป!”
พูดเช่นนี้ ซูย้าวก็ไม่ได้โต้แย้ง หยิบกระเป๋าตังค์ไปรูดบัตรที่เคาน์เตอร์
ตอนที่กลับมา โม่หว่านหว่านกำลังอุ้มเจิ้งเอ๋อแหย่เขาเล่นอยู่ ทั้งยังเลือกรองเท้าสองคู่ที่ถูกใจให้เขาด้วย แล้วให้พนักงานคิดเงิน
“เธอเอาไปเถอะ! ฉันไม่ชอบ! ฉันยังอยากได้สีชมพูคู่นั้นอยู่!” ซูหยวนทิ้งรองเท้าไว้ข้างๆ แล้วชี้ไปที่คู่อื่น
ก็รู้อยู่แล้วว่าเธอจะเป็นอย่างนี้
ซูย้าวไม่แปลกใจสักนิด ไม่โกรธไม่โมโห แค่รับมาจากในมือของพนักงานร้านเท่านั้น แล้วดึงโม่หว่านหว่านออกไป
“เธอคิดจะทำอะไร? ขี้โม้โอ้อวด ต้องขนาดนั้นเหรอ? รองเท้าคู่เดียวก็จะแย่งกับเธอ!” โม่หว่านหว่านโมโห อยากจะกลับไปเล่นงานเธออีกที
แต่ซูย้าวไม่มีอารมณ์นี้ แค่ใช้ภาษามือพูด “จะสนใจเธอทำไม? ตอนนี้บริษัทซูซื่อก็เป็นอย่างนี้แล้ว เธอไม่สามารถก่อเรื่องอะไรได้แล้วแหละ ก็แล้วแต่เธอเถอะ!”
“เธอนี่จิตใจดีเกินไปนะ!” โม่หว่านหว่านอดไม่ได้ที่จะคำรามออกมาเบาๆ พูดกับเจิ้งเอ๋อที่กำลังอุ้มอยู่ “ต่อไปเราต้องเป็นสุภาพบุรุษนะ ปกป้องแม่ของเรา ไม่งั้นเธอใจดีเกินไป จะโดนคนรังแกเอา!”
เจิ้งเอ๋อพยักหน้าเลียนแบบได้เหมือนมาก ท่าทางน่ารักมากเลย
เดินเล่นอยู่พักใหญ่ โม่หว่านหว่านซื้อของกองใหญ่ ระหว่างทางกลับ ผ่านสวนสาธารณะพอดี เห็นต้นฉัตรจีนต้นวิลโลว์ที่อยู่เต็มพื้นที่ด้านใน มีศาลาร่มรื่น ที่ให้คนได้พักผ่อนหย่อนใจหลบอากาศร้อนๆ อยู่ทั่วทุกที่
เจิ้งเอ๋อราวกับหลงใหลกลุ่มคนพวกนั้น ชี้นิ้วเล็กๆอยากจะเข้าไปหา
ซูย้าวพยักหน้า ให้โม่หว่านหว่านจอดรถข้างทาง
สนามหญ้าสีเขียวเข้ม มีคนกำลังปิกนิก มีคนกำลังคุยกัน มีเหล่าคุณแม่ยังสาวที่พาลูกๆออกมาเล่นด้วย แล้วก็มีนักเรียนศิลปะที่กำลังสเกตช์ภาพอยู่ไกลๆ ทิวทัศน์สวยเกินกว่าจะจินตนาการได้
หลังจากพวกเธอนั่งลงแล้ว เจิ้งเอ๋อก็วิ่งไปเล่นกับเด็กน้อยที่วัยพอๆกัน ในนั้นมีหมาน้อยตัวหนึ่ง เป็นลูกหมาฮัสกี้ แม้จะตัวไม่ใหญ่ แต่กลับแสนรู้มาก
เด็กๆชอบวิ่งไล่มัน แค่เจิ้งเอ๋อวิ่ง ซูย้าวก็อยากจะตามไปด้วย วิ่งไปได้ระยะหนึ่ง ก็เหนื่อยแล้ว
โม่หว่านหว่านเห็น ก็รีบไปหยิบรองเท้าออกกำลังกายคู่ใหม่บนรถมาให้เธอ เปลี่ยนแล้วจะได้ไม่เมื่อยเท้ามาก
ซูย้าวเพิ่งเปลี่ยนรองเท้า เห็นเจิ้งเอ๋อวิ่งไปไกลอีกแล้ว กำลังคิดจะตามไป แต่เดินไปได้แค่สองก้าว ฝ่าเท้าก็เหมือนกับโดนอะไรทิ่ม เจ็บปวดขึ้นมาทันที
เธอยันเก้าอี้แล้วนั่งลงไป ถอดรองเท้าออก ถุงเท้าสีขาว โดนย้อมไปด้วยสีแดงหมดแล้ว ชุ่มไปด้วยเลือด
โม่หว่านหว่านเห็นแล้วก็ตกใจมาก ช่วยเธอถอดถุงเท้าออก เห็นบาดแผลใหญ่ที่ฝ่าเท้า ตกใจจนม่านตาหดตัวแน่น “รองเท้าใหม่ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?”
หรือว่าจะเป็น……