เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 200
บทที่ 200 ไม่สบายก็ต้องกินยา
ภัตตาคาร Rose เป็นภัตตาคารอาคารสไลด์ออสเตรเลียทั่วไป ที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่กลับสวยงามเป็นพิเศษ
ที่นี่ในตอนกลางวันเป็นภัตตาคาร และเป็นบาร์ในตอนกลางคืน ชายหญิงมากมายต่างมาดื่มและเต้นรำอย่างเร่าร้อนในที่แห่งนี้ จนฉากหลังแทบจะระเบิด
แต่ในตอนกลางวัน ที่นี่เป็นร้านอาหารเล็กๆที่เงียบสงบ ถ่วงทำนองของไวโอลินดังก้องอยู่ในหูเบา แสงแดดเบาๆส่องแสงผ่านช่องว่างของผ้าม่านที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ทุกอย่างของที่นี่ ล้วนเป็นบรรยากาศที่พิเศษ
ผู้คนมากมายชอบขอแต่งงานกันที่นี่ ฉากหลังที่โรแมนติก ทำให้เปิดหูเปิดตา
หานฉ่ายหลิงไปตามนัดด้วยความกระสับกระส่าย แล้วมองชายเย็นชาที่อยู่ด้านน้าเธอ หัวใจเธอแขวนอยู่กลางอากาศพลางรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน
“เป็นอะไรเหรอ ไม่สบายใช่หรือเปล่า” ลี่เฉินซีที่กำลังถือเมนูอยู่ ดวงตาที่ดำสนิทของเขาเข้าสบกับดวงตาของเธอ สีหน้าที่ดูกระสับกระส่ายของหานฉ่ายหลิงเป็นที่สะดุดตา
เธอรีบส่ายหน้าอย่างประหม่า แต่จู่ๆก็รู้สึกผิด จึงรีบพยักหน้ารับ
การกระทำเล็กๆที่หาความแน่นอนอะไรไม่ได้ กลับทำให้เขายิ้มได้ แล้วยกมือมาลูบหัวของเธอเบาๆ “กินอะไรก่อนสิ ฉันจะพาเธอกลับโรงพยาบาลเอง”
“……..ที่จริง ไม่รีบพาฉันกลับโรงพยาบาลก็ได้ ฉันยังอยากให้นายอยู่กับฉันให้นานกว่านี้น่ะ! ” เสียงที่ต่ำของหานฉ่ายหลิง กำลังพึมพำอยู่เบาๆ
ลี่เฉินซีไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มออกมา สายตาของเขาจดจ่ออยู่กับเมนูที่อยู่ในมือ และเริ่มสั่งอาหาร
ด้านบนศีรษะคือแสงไฟอ่อนนุ่ม ด้านข้างหูคือเสียงดนตรีที่นิ่มนวล ท่ามกลางเสียงใสๆของไวโอลิน เหมือนหุบเขาที่ว่างเปล่า ที่ปล่อยให้ความคิดล่องลอย
เสียงพูดที่ดูเหมือนดังมาจากที่ไม่ไกล ค่อยๆเล็ดลอดเข้าไปในหูของทุกคน
“ถ้าเธอให้อภัยทุกอย่างที่เกิดก่อนหน้านี้ได้ ถ้าอย่างงั้น พวกเรามาแต่งงานกันเถอะ!”
ชายที่นั่งถัดไป จู่ๆก็หยิบกล่องผ้ากำมะหยี่ออกมาราวกับใช้เวทมนต์ แหวนเพชรแวววาวด้านในกล่องทำให้ผู้คนสนใจ และสาวผมบอล์ที่อยู่ตรงหน้าเขาก็ทำให้รู้สึกตกตะลึงเช่นกัน
นี่คือเรื่องราวความรักแสนน้ำเน่า เมื่อมองไปที่สะพานที่ดูโรแมนติกนั่น หานฉ่ายหลิงก็รู้สึกผิดหวังอย่างมาก เธอเอามือเท้าคางพลางกวาดสายตาอย่างเบื่อหน่าย
สายตาของลี่เฉินซีเหลือบมองไปโดยบังเอิญ จากนั้นพูดเบาๆว่า “เธอเดาสิ พวกเขาจะได้อยู่ด้วยกันไหม? ”
“ได้สิ!” หานฉ่ายหลิงที่เย็นชากับความรู้สึกคนอื่นตลอดมา ขนาดความรักของตัวเองยังยุ่งเหยิง แล้วจะสนใจคนอื่นได้ไงล่ะ?
เมื่อเห็นสภาพที่ท้อแท้ของเธอแล้ว คิ้วที่ได้รูปของลี่เฉินซีก็ขมวดเป็นปม
ตอนแรกคิดว่ามันคือการขอแต่งงานที่มีความสุข สายตารอบข้างมารวมกันมากมาย แต่ผู้หญิงผมบลอนด์มองเขาอย่างเย็นชา และพูดประโยคสุดท้ายว่า “sorry!”
ภาพการแต่งงาน สุดท้ายก็จบลงด้วยถ้อยคำนี้
หานฉ่ายหลิงยิ้มอย่างเย็นชา พนักงานก็เสิร์ฟอาหารมาบนโต๊ะ ทั้งสองคนหยิบซ้อมและมีดแล้วเริ่มรับประทานอาหาร
บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ด้านหน้ายังคงเป็นผู้ชายที่ฉันรักอย่างสุดหัวใจ ไม่ว่าจะชอบอะไร ฉันรู้สึกว่ามันเป็นงานเลี้ยงที่เพลิดเพลิน และยังมีอาหารที่เลิศรส
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ลี่เฉินซีจะส่งเธอกลับโรงพยาบาล
ที่นี่อยู่ห่างโรงพยาบาลไม่ไกลมาก ใช้เวลาเดินเพียงยี่สิบนาที ดังนั้นหานฉ่ายหลิงจึงเสนอให้เดินกลับโรงพยาบาล
บนถนนที่เงียบสงบ ทั้งสองคนเดินเล่นอย่างช้าๆ
ไม่รู้ว่าทำไมบรรยากาศก็เริ่มอึดอัด เธออยากจะกอบกู้สถานการณ์ เธอจับมือของเขา แล้วพูดถึงเรื่องที่น่าสนใจ แต่เห็นได้ว่า ลี่เฉินซีเพียงแค่นิ่งเฉย แม้รอยยิ้มที่คล้ายรอยยิ้ม แต่ลึกลงไปในดวงตานั้น ก็ทำให้ยากจะคาดเดา
การที่เขาเป็นแบบนี้ หานฉ่ายหลิงที่รู้สึกตื่นตระหนกนั้น จิตใจของเธอยิ่งกระสับกระส่ายมากขึ้นอีก เวลาเดินเล่นฉันไม่ได้ใส่ใจอะไร จึงไม่ได้ระวังรองเท้าส้นสูง ร่างกายของฉันทั้งตัวโซเซ แล้วล้มลงไปทันใด โชคยังดีที่ลี่เฉินซีแขนยาว เขาดึงฉันเข้ามาในอ้อมแขน จึงโชคดีที่รอดจากการหกล้ม
เธอนอนอยู่บนแผงอกกำยำของเขา แล้วสัมผัสถึงลมหายใจของเขาที่เป็นเอกลักษณ์ ใบหน้าที่เขินอายเริ่มมีสีแดงเล็กน้อย และกระซิบว่า “เฉินซี…”
ในวินาทีถัดมา เขาก็ปล่อยเธอลง
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” ประโยคห้วนๆที่น้ำเสียงราบเรียบ
เขามักจะทำแบบนี้เสมอ
แม้จะนับว่าอาศัยอยู่ในออสเตรเลียเกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว ทุกวันก็พาเธอไปกินข้าว พูดคุย จากนั้นก็จากไป
เย็นชาและห่างเหิน ราวกับปฏิบัติตต่อเพื่อนคนหนึ่ง ไม่มีการล้ำเส้น และก็ไม่ความคลุมเครือ
สถานการณ์แบบนี้ ไม่เหมือนกับที่เคย!
“ฉันไม่เป็นไร พวกเราเดินต่อเถอะ!” หานฉ่ายหลิงพูดพร้อมกับเดินไปข้างหน้า แต่เดินได้ไม่ถึงสองก้าว ร่างกายของเธอที่มีอาการเจ็บเท้าก็ทำให้เธอโซเซอีกครั้ง และเข่าของเธอก็งอโดยไม่รู้ตัว
ลี่เฉินซีมองไปที่เธอ “เจ็บข้อเท้าหรือเปล่า!”
เธอพยักหน้า ไม่สามารถทำอะไรกับข้อเท้าที่เจ็บได้ “ฉันมันไม่ดีเอง…….”
“ไม่เป็นไร”ลี่เฉินซีมองไปที่เธอ การกระทำหลังจากนั้นคือการนำเธอเข้ามาในอ้อมแขน เขาช้อนมือที่กลางเอวของเธอขึ้นมา และเร่งฝีเท้าเดินหน้าต่อไป
หานฉ่ายหลิงนอนอยู่ในอ้อมที่คับแคบของเขา ใกล้ชิดมาก กั้นเพียงเสื้อผ้าบางๆ เธอสามารถสัมผัสถึงกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งของผู้ชาย จ้องมองไปที่ลูกกระเดือกสุดเซ็กซี่ที่คอของเขาไหปลาราที่ละเอียดอ่อน อยากที่จะ…….
“ที่จริงแล้ว ไม่ต้องพาฉันกลับโรงพยาบาลก็ได้ ทำไมไม่พาฉันกลับโรงแรมล่ะ! ”เธอลดเสียงลง รสชาติที่ชวนหลงใหล ยิ่งดูยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้น
ลี่เฉินซีมองมาที่เธอ “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ เธอเป็นคนไข้นะ คนไข้ก็ควรอยู่ในโรงพยาบาล และได้รับการรักษาถึงจะถูกต้อง ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ฉันจะทนได้อย่างไร? ”
“ไม่เป็นไร ร่างกายของฉันค่อนข้างคงที่แล้ว หมอเองก็พูดแบบนั้น…… ”
ลี่เฉินซีไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแค่อุ้มเธอขึ้นและก้าวเท้าเดิน
หานฉ่ายหลิงรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับผลการตรวจ ‘มะเร็งในกระเพาะอาหาร’เขาไม่เคยถามมาก่อน และไม่รู้ว่าเขาได้คุยกับหมอเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า อีกทั้งยังไม่รู้ด้วยว่าหมอคนนั้นจะช่วยเธอเรื่องนี้ไหม
เขากอดเธอตลอดทางที่กลับมาโรงพยาบาล พาเธอไปนอนที่เตียงอย่างแผ่วเบา ลี่เฉินซีลุกขึ้นยืนพลางคลายเนคไทที่คอ เขาเดินไปที่หน้าหน้าต่างเพื่อสูดลมหายใจ
“เฉินซี เหนื่อยไหม ฉันจะเอาน้ำมาให้นะ”
หานฉ่ายหลิงกำลังจะลุกออกจากเตียง แต่กลับถูกเขาจับไหล่ไว้ “อย่าขยับซี้ซั้ว นี่ถึงเวลาให้น้ำเกลือแล้วนะ!”
ให้น้ำเกลือ?
เธอนิ่งไปพักหนึ่งและฟังเขาพูด “ใช่สิ เห็นพยาบาลบอกว่าตอนกลางวันเธอยังไม่ได้ให้น้ำเกลือเลย ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปร่างกายจะทนไม่ไหวนะ อย่าดื้อเลย”
เขากดเรียกพยาบาลทันที เพื่อต่อเข็มน้ำเกลือให้หานฉ่ายหลิง
เธอนอนอยู่บนเตียงอย่างหมดหนทาง มองดูเข็มที่ค่อยๆดันเข้าไปในเส้นเลือดพร้อมกับน้ำเกลือเย็นๆนั่น เธอบ่นอยู่ในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลางคิดเสียดายที่น่าจะยืดเวลาป่วยออกไปอีก!
แม้ว่าน้ำเกลือและกลูโคสทั้งหมดจะถูกฉีดเข้าไปในร่างกาย แต่เธอสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี เพราะอย่างการฉีดน้ำเกลือจึงไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว!
เมื่อเห็นสีหน้าเจ็บปวดของเธอ ลี่เฉินซีที่อยู่ข้างๆจึงลูบมือเธอเพื่อเป็นการปลอบประโลม ก่อนจะลุกขึ้นเอ่ย “ฉันยังมีธุระต้องไปทำ รอให้ถึงตอนเย็นแล้วฉันจะมาหาเธอนะ!”
พูดจบชายหนุ่มก็เตรียมหันตัวจะกลับ แต่หานฉ่ายหลิงกลับคว้าแขนของเขาไว้
“เฉินซี นายอย่าไปเลยนะ ฉันอยากให้นายอยู่กับฉัน!”
เธอจงใจออดอ้อน ดวงตากลมโตที่มีเสน่ห์จับจ้องไปที่เขาอย่างน่าสงสาร ทำให้เขาไม่อาจปฏิเสธได้ลง
“ถ้าฉันอยู่ แล้วเธอจะอยู่ให้น้ำเกลือและยอมกินยาโดยดีใช่ไหม” เขาถาม
เธอรีบพยักหน้า “อื่อๆ!”
แต่ในใจกลับตอบกลับไปอีกอย่างหรือจะเรียกว่าบ่นอยู่ก็ไม่เชิง แต่เธอทนไม่ได้ที่ต้องเห็นลี่เฉินซีจากไป อีกทั้งยังรู้สึกน้อยใจตัวเอง
ลี่เฉินซีมองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้งเป็นเวลาเนิ่นนาน ที่ริมฝีปากบางยกโค้งขึ้นจนได้รูป
แต่ทันทีที่เขานั่งลง โทรศัพท์ก็สั่น
ลี่เฉินซีค่อยๆหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก็พบว่าเป็นข้อความที่หวางอี้ส่งมาให้ “ประธานลี่ครับ คนในประเทศรายงานว่าคุณผู้หญิงได้ย้ายออกจากวิลล่า และพานายน้อยกลับไปที่อพาร์ตเมนต์ในเมืองครับ”
ทันทีที่เห็นข้อความ ใบหน้าที่หล่อเหลาแทบจะไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา มีเพียงริมฝีปากที่ค่อยๆกลับคืนรูปทรง สายตาเย็นชาราว เย็นยะเยือกราวกับกำลังยืนอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆ
เขาตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
“จัดการด้วย พรุ่งนี้ฉันจะกลับไป!”
ทันทีที่ข้อความถูกส่ง เขาก็เก็บโทรศัพท์ใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกง ลี่เฉินซีได้ยินเสียงเรียกจากหานฉ่ายหลิง ก็เงยหน้าขึ้นพลางยิ้มอย่างเก่า