เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 21
บทที่21 คุณนี้มีชีวิตอยู่ก็ไม่ต่างอะไรกับหมาตัวหนึ่ง
สามวันต่อมา โรงแรมโฟร์ซีซั่น งานเลี้ยงบุกเบิกโฉมใหม่กำลังดำเนินอยู่
ในห้องโถงใหญ่ มีผู้คนพลุกพล่านมากมาย คึกคักเป็นพิเศษ
ทายาทตัวน้อย บริษัทลี่ซื่อ เดิมทีในวงสังคมนี้ ก็มีผู้คนไร้ประโยชน์มากมายที่อยากจะเข้าหาผู้มีอิทธิพลอย่างตระกูลลี่ พวกที่อ้างเหตุผลเด็กน้อย การประจบประแจงต่างๆ ชนแก้วไปมา ล้วนพูดคุยปรึกษาธุรกิจการลงทุน
ซูย้าวยืนกลัดกลุ้มอยู่ในมุมที่ไม่เตะตา จิบเครื่องดื่มเงียบๆ
สายตาจ้องมองไปที่ที่ห่างออกไปไกล เจี่ยงเวินอี๋อุ้มหนูลี่เจิ้ง ยิ้มอย่างสดใสต่อหน้าผู้คน ไม่สนใจเธอเลยสักนิด
พูดบอกให้เธอมาร่วมงานเลี้ยง ก็พูดเป็นพิธีเท่านั้น สุดท้าย แม้แต่โอกาสที่จะได้อยู่ใกล้ลูกก็ไม่ให้เลย……
ซูย้าว ก้มหน้าลง กลัดกลุ้มอยู่ในใจเหมือนกับมีปุยฝ้ายก้อนใหญ่ยัดอยู่ด้านใน ทรมานมากเหลือเกิน
“โอ้โอ้ นี้ไม่ใช่ คุณผู้หญิงลี่หลอกเหรอ? ”
เสียงที่ไม่คาดคิดของผู้หญิงก็ดังแทรกขึ้นมา ซูย้าวไม่ได้ตอบรับกลับไป ก็สามารถแยกแยะออกได้ว่าเป็นน้ำเสียงของซูหยวน
เธอสวมใส่ชุดราตรีกระโปรงยาวสีชมพู แต่งตัวสง่างามเหมือนกับเจ้าหญิงน้อย แต่แสดงสีหน้าที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ทั้งดวงตาและคิ้วล้วนแสดงถึงการดูถูก
“ในฐานะที่เป็นคุณผู้หญิงของตระกูลลี่ เหลือบมองคุณที่อยู่นี้ชั่งน่าเวทนา! ถูกคนไล่ให้มาอยู่ในมุม ไม่มีใครถามถึง แตกต่างอะไรกับหญิงที่หย่าแล้วล่ะ? ”
ซูหยวนมาอย่างนี้ คำพูดทั้งแหลมคมทั้งเจ็บปวด ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่นเลยสักนิด
ซูย้าว ไม่สนใจ แค่ลดสายตาลงแล้วดื่มเครื่องดื่มต่อ
“ดูท่าทางแบบนี้! ซูย้าว คุณนี้มีชีวิตอยู่ก็ไม่ต่างอะไรกับหมาตัวหนึ่งนะ! ”
ซูหยวน พูดคำพูดทำร้ายจิตใจต่อ ซูย้าวกลับทำเหมือนแค่ลมที่ผ่านหูเท่านั้น ไม่สนใจ หมุนตัวแล้วเดินไปที่อื่น
ไม่ใช่เพราะว่าเธอพูดไม่ได้ แล้วจะให้ซูหยวนดูถูกกลั่นแกล้งเธอ
แค่สิ่งที่เธอพูดล้วนเป็นความจริง ที่ของตัวเธอเองในตระกูลลี่ ก็ไม่ต่างอะไรกับหมาตัวหนึ่งจริงๆ……
“อย่าไปซิ! ”
ซูหยวนยับยั้งเธอ จงใจพูดอีก “ถูกฉันพูดแทงใจดำแล้วล่ะซิ! ซูย้าว คุณนี้น่าสงสารจริงๆนะ แม้แต่ลูกของตัวเองยังไม่มีสิทธ์ิที่จะอุ้ม……”
ได้ยินประโยคนี้ ซูย้าวเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่ใสสะอาดมองไปที่เธอด้วยความเย็นชา และเต็มไปด้วยความเงียบสงัด
ซูหยวน เกลียดสายตาแบบนี้ของเธอมากที่สุด ถึงแม้จะไม่พูด แต่ก็เหมือนกับมีคำพูดหมื่นล้านคำมากมายในนั้น เยือกเย็นหนาวเหน็บจนเข้าไปในกระดูก
ช่วงขณะนั้น ซูย้าวก็ไม่อยากจะสู้รบขับสู้กับเธอไปอีกแล้ว เดินหมุนตัวกลับ แต่ก็ถูกซูหยวนจงใจสะดุดเท้าของเธอ กระเป๋าที่อยู่ในมือหล่นลงที่พื้น เธอจำเป็นต้องโค้งตัวก้มลงไปเก็บ
การออกแบบชุดราตรีเกาะอก ด้านหลังประดับด้วยลูกไม้อย่างไม่ต้องสงสัย ช่วงที่ก้มโค้งนั้น หน้าอกด้านหน้าก็ปรากฏขึ้นมาอย่างฉับพลัน เหมือนวิวทิวทัศน์ในฤดูใบไม้ผลิสวยงามเกินคำบรรยาย
เพศตรงข้ามไม่น้อยที่อยู่บริเวณนั้นถึงกับกลั้นหายใจ ช่วงเวลานั้น ก็เหมือนกับอากาศร้อนอบอ้าวขึ้นมาอย่างฉับพลัน!
ผมของซูย้าวก็ตกลงมา ตามเส้นโค้งข้างแก้มอันงดงามของเธอ ด้วยเสน่ห์ที่ไม่อาจบรรยายได้
ทันใดนั้น แขนที่แข็งแรงบังเธอ ไม่รอปฏิกิริยาตอบสนองของคนอื่น ซูย้าวที่กำลังก้มโค้งอยู่นั้น ก็ถูกแขนของคนหนึ่งดึงขึ้นมา
ในขณะเดียวกัน กระเป๋าถือเล็กๆของเธอใบนั้น ก็ถูกหยิบขึ้นมาเหมือนกัน
ซูย้าวรู้สึกแค่ว่าโลกมันกำลังหมุน ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ก็ล้มลงไปในอ้อมอกที่แข็งแรงกว้างใหญ่แล้ว
ดวงตาที่ลึกซึ้งของเพ้ยส้าวหลี่มองไปที่เธอ อย่างอ่อนโยน และนุ่มนวล
ซูย้าว ตกใจ เท้าถอยหลังไปอย่างอัตโนมัติ ร่างกายยังไม่มั่นคง ก็ถูกพละกำลังแรงดึงข้อมือเข้าไปอีก แค่ดึง ก็พุ่งไปด้านหลังแล้ว
ตอนที่เธอตั้งตัวได้ ร่างกายที่ผอมและอ่อนแอถูก ลี่เฉินซีดึงไปด้านหลัง สายตาที่เยือกเย็นของเขาจ้องมองที่เธอ เย็นชาเหมือนมีดในฤดูหนาว และทำให้คนใจสั่น
“รบกวนประธานเพ้ยแล้ว! ”
ลี่เฉินซีมองดูผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า แล้วยื่นมือยาวออกมา
เพ้ยส้าวหลี่ยิ้มๆ แต่ก็ไม่ได้เอากระเป๋าถือยื่นให้ ลี่เฉินซี ยื่นส่งไปด้านหน้าให้ ซูย้าวเลย
“คุณซู ครั้งหน้าระวังหน่อย! ” คำพูดเรียบง่าย แต่มีความอบอุ่น ผู้ชายที่เคร่งขรึม ฉีกยิ้มริมฝีปากที่อบอุ่น
ผู้ชายอย่างนี้ ทำให้ผูหญิงใจสั่นได้ง่ายๆ
แต่ว่าซูย้าวจะไม่คิดเอาเองฝ่ายเดียว แค่รับกระเป๋ามาอย่างมีมารยาท
เพ้ยส้าวหลี่ มองเธอ ดวงตาที่ลึกซึ้งมีความซับซ้อนมากมาย
ในช่วงเวลานั้น เหมือนสายตาของทุกคนจะจับจ้องมาที่พวกเขาสามคน ลี่เฉินซีใช้สายตาที่เข้มแข็งกวาดตามองเพ้ยส้าวหลี่ ความเย็นชาและมืดมนแทรกซึมเข้าไปในคน
ซูย้าวลดสายตาลงอย่างอึดอัดใจ ขนตายาวหนาสีดำของเธอ เธอก้มศีรษะลงครึ่งหนึ่ง ปล่อยให้ความเย็นชาครอบคลุมตัวเอง
“เฉินซี——”
เสียงของหานฉ่ายหลิงดังขึ้นมาพอดี รบกวนพวกเขา และก็ทำลายความอึดอัดใจได้
“คุณป้าให้มาเรียกคุณ ไปถ่ายรูปครอบครัว! ” หานฉ่ายหลิงเดินเข้ามาพูด
การแต่งหน้าที่งดงามละเอียดอ่อน ดวงตาสีแอปปริคอทตรวจตรามองไปที่พวกเขาอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็เงยหน้าขึ้น พูดด้วยสีหน้าอ่อนโยนว่า “เร็วหน่อย! ไม่อย่างนั้นเจิ้งเอ๋อก็จะได้เวลาไปดื่มนมแล้ว! ”
ลี่เฉินซีไม่ได้พูดอะไร กลับหมุนตัวแล้วเดินจากไปพร้อมกับหานฉ่ายหลิง
ซูย้าวรู้สึกโล่งใจขึ้นมา แต่ก็รู้สึกชะงักใจขึ้นมาฉับพลัน ไปถ่ายรูปครอบครัวกับ หานฉ่ายหลิง
“โอ้โห้ เห็นหรือยัง? ถ่ายรูปครอบครัวก็ไม่มีคุณนะ! คุณทำหน้าที่เป็นภรรยา ที่มีความสามารถจริงๆนะ! ” ซูหยวนพูดเยาะเย้ย และหัวเราะดูถูกไปด้วย และเดินไปที่อื่น
มีซูย้าวกับเพ้ยส้าวหลี่ เธอฝืนยิ้มอย่างอึดอัดใจ หลังจากแสดงความขอโทษแล้ว ก็อยากจะเดินจากไป ข้อมือเล็กกลับถูกฝั่งตรงข้ามจับไว้ ไม่คำนึงถึงปฏิกิริยาของซูย้าว แล้วลากเธอออกไปด้านนอก
เหมือนกับใช้แรงทั้งหมด ลากเอาซูย้าวออกมาจากห้องโถงงานเลี้ยง
ระเบียงทางเดินที่เงียบและกว้างใหญ่ เพ้ยส้าวหลี่ถึงได้หยุดฝีเท้าลง และปล่อยเธอ ซูย้าวเหมือนกระต่ายน้อยที่ตกใจตื่นตูม ตกใจกับการกระทำของเขา เบิ่งตากว้างมองที่เขา หัวคิ้วขมวดขึ้นนิดหน่อย
“คุณไม่รู้เรื่องของเขากับหานฉ่ายหลิง? ” เพ้ยส้าวหลี่เปิดปาก
สายตาของซูย้าวเชื่องช้าลง และในตาที่มืดมิดก็สว่างขึ้น
ลี่เฉินซีกับหานฉ่ายหลิง
เคยเป็นคู่รักที่รักกันมากจนผู้คนนับไม่ถ้วนอิจฉา ถูกเรียกว่าสวรรค์ส่งมาให้คู่กัน คู่กิ่งทองใบหยก
ปีนั้นมีข่าวลือว่าทั้งสองคนเลิกกัน มีชาวเน็ตมากมายด่า แม้กระทั่งพูดว่าไม่เชื่อในความรักอีกแล้ว!
จะเห็นได้ว่าทั้งสองคนนั้นรักกันมาก
เพ้ยส้าวหลี่ มองเห็นรอยความเงียบเหงาวังเวง ในดวงตาของเธอ และคาดเดาในใจ “ในเมื่อคุณรู้แล้ว ทำไมถึงเป็นแบบนี้ พยายามใช้ลูก มาฉุดรั้งรักษาชีวิตสมรสที่ไม่มีความรัก มีความหมายไหม? ”
ซูย้าวคิดอยู่ในใจ แต่ก็ต้องยอมรับคำพูดที่ เพ้ยส้าวหลี่ พูดออกมา
“ในความทรงจำของผม คุณไม่ใช่ผู้หญิงโง่ที่ไม่รู้เรื่องอะไร ซูย้าว คุณไม่ควรที่จะใช้ชีวิตแบบนี้ ”
เขาพูดอีก แต่ก่อนที่เสียงนั้นจะออกมา ก็กลับถูกเสียงผู้ชายที่เย็นชาแทรกขึ้นมา คำพูดที่รวดเร็วนั้นแทบจะบดขยี้เสียงช่วงสุดท้ายของ เพ้ยส้าวหลี่
“งั้นเธอควรใช้ชีวิตแบบไหน? ประธานเพ้ย ”
ซูย้าวตกใจ เหลือบตามองไป ที่ไม่ไกลจากด้านหลังของทั้งสองคนมากนัก ไม่รู้ว่า ลี่เฉินซีมายืนสูงตระหง่านอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร รูปร่างสูงตรง สง่าผ่าเผยดี ดวงตานกฟีนิกซ์เปล่งประกาย มีความดุดันและความชั่วร้าย
เพ้ยส้าวหลี่ฉีกยิ้มอย่างเยาะเย้ย ยื่นแขนยาวออกไป ดึงซูย้าวเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง พูดอย่างเย็นชาชั่วร้ายว่า “เธอควรมีชีวิตที่ดีมีความสุข มีสามีและลูกที่รักเธอ ”
“เหอะ! ”
ลี่เฉินซีฉีกยิ้ม รอยยิ้มที่แข็งแกร่งราวกับกลบคนตายได้ “ไม่รู้ว่าคำพูดที่ประธานเพ้ยพูดว่าสามีในชีวิตที่มีความสุขนั้น คือใคร? ”