เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 270
บทที่ 270 เป็นศัตรูต่อหน้าทุกคน
คนประมูลแหวน ‘โนคีแบร์ ‘ก็คือคนที่ทำหน้าที่ดูแลบริษัทจู้สือกรุ๊ป ภาคประเทศจีนและก็คือซูย้าว
พิธีกรก็ประกาศบนเวที แขกด้านล่างต่างหันมามองเธอพร้อมกัน แล้วก็เกิดเสียงซุบซิบกันตามมา
“จู้สือกรุ๊ป?นั่นไม่ใช่บริษัทที่เก่งที่สุดของฝั่งทะเลตะวันตกเหรอ และยังเป็นบริษัทติดอันดับที่500ของโลกด้วย มีกำลังมากกว่าลี่ซื่อกรุ๊ปหลายเท่าแหนะ!”
“โอ๊ย เธอจะเข้าใจอะไร?ลี่ซื่อกรุ๊ปจะไปเทียบกับจู้สือกรุ๊ปได้ยังไง?”
“แล้วทำไมคนที่ดูแลถึงเป็นซูย้าวได้ล่ะ?จำได้ว่าเธอเป็นอดีตภรรยาของประธานลี่นะ?แถมยังหายตัวไปหลายปีก่อน!”
“อาจจะเป็นเพราะลูกชายเกิดเรื่องก่อนหน้านี้ เธอถึงได้กลับมา!แล้วยังเป็นถึงคนดูแลของจู้สือกรุ๊ปอีก ดูแล้วผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา!”
การวิพากษ์วิจารณ์นั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนที่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมกับจู้สือกรุ๊ปได้ จะไม่ให้ใครพูดถึงได้ไง?
อีกอย่างก่อนหน้านี้ ผู้นำของจู้สือกรุ๊ปนั้นก็เก็บเป็นความลับมาตลอด ไม่มีใครรู้ และสืบไม่ได้ เหมือนกับว่าเป็นสิ่งลึกลับ ที่ถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิด จนคนอื่นยากที่จะรู้ได้
อยู่ดีๆ กลับมาประกาศสถานะแบบนี้ จนทำให้ทุกคนต่างพูดถึงก็ถือว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซูย้าวเองก็เตรียมใจไว้แล้ว แต่พอถึงเวลาจริงๆ เธอเองก็รู้สึกไม่ชินเท่าไหร่
เหมือนกับว่าทุกคนกำลังดูความสนุกตัวเองอยู่ เธอเองก็ไม่ใช่บุคคลสาธารณะจะไปชินได้ยังไง?
สายตาแต่ละคนนั้นก็ต่างกันออกไป
บางคนก็ดูอิจฉา บางคนก็ถอนหายใจ บางคนก็หมั่นไส้ และก็มีบางคน………ที่ดูไม่ดีเลย อย่างเช่น——-
หานฉ่ายหลิงที่เดินเข้ามา แล้วก็จ้องเธอ พร้อมกับพูดขึ้นเสียงแข็ง “เธอเป็นคนดูแลของจู้สือกรุ๊ปงั้นเหรอ?”
ซูย้าวมองเธอด้วยสายตาธรรมดา
“งั้นแหวนที่พึ่งประมูลมาเมื่อกี้ ก็เป็นของเธอใช่ไหม? “หานฉ่ายหลิงพูดอย่างตะลึง
และนี่ถึงทำให้เธอฉุกคิดขึ้นได้ มิน่าล่ะตอนที่เพ้ยส้าวหลี่ถามว่าชอบแหวนวงนั้นไหม เธอก็เอาแต่ปฏิเสธ เพราะตัวเองเป็นคนเอามานี่เอง ก็ต้องไม่ชอบเป็นธรรมดา!
ร้ายกาจ!
หานฉ่ายหลิงกัดฟันแน่น ซูย้าวก็ไม่ได้สนใจเธอ แถมเธอยังเป็นถึงคนสำคัญ แต่กลับไม่สนใจการประมูล ช่างน่าอับอายจริงๆ !
คนที่รอดูอยู่ก็เริ่มซุบซิบกันไม่น้อย เริ่มมีคนพากันพูดขึ้น “เธอเห็นไหม?คนใหม่ชอบของคนเก่า แบบนี้มันเรียกว่า ตาต่อตาฟันต่อฟัน!”
“ต้องสนุกแน่!ของของคนรักเก่าเอามา คนใหม่กลับประมูลได้ แบบนี้มันสื่ออะไรนะ?”
“ของคนอื่นไม่เอา เธอก็ยังจะเอา!”
“ไม่สิ ทำไมฉันถึงลืมไปได้ว่าหานฉ่ายหลิงต่างหากที่เป็นรักแรกของประธานลี่ไม่ใช่เหรอ?”
“โอ๊ย ตกลงใครเป็นรักแรกกันแน่ ใครจะบอกได้?แต่ยังไงฉันก็รู้สึกว่าซูย้าวต่างหากที่เหมาะสมกับประธานลี่”
“เออใช่ ความสัมพันธ์ของสามีภรรยา ถึงจะหย่ากันแล้ว ยังไงก็เปลี่ยนแปลงเรื่องจริงไม่ได้!”
ทุกคนเริ่มพูดกันมากขึ้น และแน่นอนว่าไม่มีใครสามารถควบคุมคำพูดของพวกนั้นได้ หานฉ่ายหลิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล จะไม่ได้ยินได้ยังไง?
แต่เธอไม่มีเวลามาเล่นงานพวกนี้ เพียงแค่มองเห็นแหวนที่พนักงานพึ่งจะส่งมาให้ก็ฉุนขึ้นมาทันที อยากจะทิ้งไป แต่มันก็ราคาตั้งห้าล้าน จึงทำไม่ได้
และในตอนที่คิดอยู่นั้น ก็ถึงเวลาที่ซูย้าวควรจะพูดบ้าง เธอจึงพูดขึ้นเสียงเรียบ “คุณหานอาจจะยังไม่รู้ ว่าอัญมณีสีน้ำเงินบนแหวน “โนคีแบร์”นั้นยังมีเรื่องเล่าที่ดีอีกเรื่อง และก็ดูเหมาะสมกับคนอย่างเธอด้วย”
เธอมองอย่างไม่สนใจ แต่ค่อยๆ หยักคิ้วขึ้น ยิ่งทำให้หานฉ่ายหลิงรู้สึกแค้นมากกว่าเดิม!
“ตอนนั้นราชาอาทิตย์ได้เตรียมแหวนวงนี้ให้กับรักแรกของเขา คาดไม่ถึงว่า คนรักของเขากลับนอกใจไปรักคนอื่น จนวางแผนจะฆ่าเขา สุดท้ายก็โดนลงทัณฑ์ โดยการเผาต่อหน้าประชาชน”
ซูย้าวเล่าออกมาอย่างชัดเจน ด้วยสายตาเยือกเย็น เพื่อแทงใจดำของหานฉ่ายหลิง พลางยิ้มออกมาหน้าตาเฉย ยิ่งทำให้รู้สึกยั่วโมโห “และด้วยเหตุนี้ แหวนวงนี้จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความอัปมงคล และมีคนพูดต่อกันมาว่า ต้องมีใจซื่อสัตย์ สำหรับความรัก ห้ามคิดร้ายกับคนอื่นเด็ดขาด”
คำพูดที่ดูสองแง่นี้ แสดงให้เห็นว่า ซูย้าวมั่นใจมากว่าอุบัติเหตุและสารพิษบนตัวลี่เจิ้งนั้น ยังไงก็เกี่ยวกับหานฉ่ายหลิงอย่างแน่นอน!
สำหรับคนที่คิดจัดการเธอเมื่อห้าปีก่อน จนเกือบไปเหยียบนรก แล้วยังวางแผนทำให้รถแม่เธอคว่ำจนตาย รวมถึงใช้วิธีสกปรกมาทำร้ายลูกชายของเธอจนเกือบตายอย่างหล่อน ซูย้าวได้หมดความอดทนไปนานแล้ว
ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะต้องการตามหาลูกชายที่หายไป เธอก็คงไม่มาเสียเวลาทำแบบนี้ และคงจัดการประจานหล่อนต่อหน้าทุกคนไปแล้ว!
พอได้ยินแบบนั้น หานฉ่ายหลิงก็อึ้งจนตาค้าง สีหน้าเธอนั้นแทบจะดูไม่ได้ “ซูย้าว!เธอสาปแช่งฉันเหรอ?”
“ทำไมคุณหานถึงพูดจาแบบนี้ล่ะ?แหวนวงนี้คุณเป็นคนประมูลมันเอง ฉันก็แค่หวังดีพูดเตือนคุณเอง! “ซูย้าวทำหน้าตาใสซื่อ เหมือนกับว่าตัวเองทำเรื่องดีกลับโดนว่าซะงั้น แล้วก็ทำสายตาแสดงความบริสุทธิ์ใจ
หานฉ่ายหลิงพูดไม่ออก ทำได้แค่โกรธอยู่ลึกๆ พร้อมกับจ้องหน้าซูย้าว เหมือนกับงูเหลือมที่อยากจะแลบลิ้น แต่ก็ยากที่จะทำอะไรได้
ซูย้าวที่ไม่ได้โมโหอะไรเหมือนหล่อน จึงทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
ต่อหน้าคนอื่นนั้น เธอแสดงถึงความใจดีและอ่อนโยนอย่างที่สุด
เพ้ยส้าวหลี่เองก็ค่อยๆ เดินมา แล้วพูดขึ้น “ดึกมากแล้ว ต้องการจะกลับไหม?”
เธอพยักหน้า ก็พลางได้ยินเสียงเขากระซิบข้างหู “งั้นผมไปส่งนะ!”
เธอยากที่จะปฏิเสธ และก็มีหลายสายตากำลังจับจ้องอยู่ ถ้าจะปฏิเสธตรงๆ ก็จะดูไม่ดี เธอจึงทำได้แค่ยินยอมให้เขาไปส่งอย่างเต็มใจ
แต่ก่อนที่จะออกไปนั้น พอเห็นหน้าของหานฉ่ายหลิงก็รู้สึกยังไม่พอใจ อดไม่ได้จึงพูดขึ้นอีก “ผู้หญิงที่เก่งไม่จำเป็นต้องพึ่งผู้ชาย คุณหาน คุณว่าไหม?”
เธอหันไปมองซูย้าวที่กำลังจะออกไป อีกเดี๋ยวก็แทบจะระเบิดออกมาแล้ว และข้างๆ ก็ยิ่งมีเสียงซุบซิบและเสียงหัวเราะดังขึ้นอีก
“แหวนวงนี้เป็นของประธานลี่ประมูลมา โธ่ ช่างเป็นหญิงที่พึ่งแต่ผู้ชายจริงๆ สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครได้ดีสักคน!”
“จะบอกว่าไม่มีใครได้ดีไม่ได้ เพราะถ้าเอาแต่อาศัยผู้ชายแล้ว พอไม่มีผู้ชาย แค่วันเดียวก็อยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว…….”
หานฉ่ายหลิงกำมือแน่น นังแพศยาซูย้าว ฉันประมาทแกมากไปจริงๆ ที่กล้าเล่นงานฉันแบบนี้!
ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ว่าแหวนวงนี้เธอเป็นคนเอามา ถึงจะชอบมากแค่ไหน ก็ไม่มีวันประมูลอย่างแน่นอน!
เหตุการณ์คืนนี้นั้น ทำให้อับอายมาก อับอายไปจนถึงชาติตระกูล!
หานฉ่ายหลิงพยายามเป็นผู้หญิงอ่อนโยนมาหลายปี ทำอะไรก็สำรวมมาก เพียงแค่คืนเดียว กลับโดนโค่นจนไม่มีชิ้นดี ซูย้าวนังสารเลว คอยดูเถอะ!
ในขณะที่โมโหอยู่ หานฉ่ายหลิงหันไปมองรอบๆ เพื่อมองหาร่างที่คุ้นตา แต่หายังไงก็ไม่เจอ จึงร้องตะโกนขึ้น “เฉินซีล่ะ?”
“ตั้งแต่ประธานลี่ออกมาจากห้องน้ำ ก็บอกว่ามีธุระเลยออกไปแล้ว! “กัวหลินพูดขึ้น
ออกไปแล้วงั้นเหรอ?
เพราะงั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เขาถึงมาช่วยเธอไม่ทัน…….
เธอมีสีหน้าสิ้นหวังที่ยากจะอธิบาย และก็เกิดความรู้สึกในใจขึ้น ในตอนที่ผู้หญิงคนหนึ่งต้องการเขา มันก็แค่ไม่กี่ครั้ง และยิ่งเป็นเหตุการณ์แบบนี้ แต่ในทุกๆ ครั้งเธอกลับรอเขาไม่ได้เลย
……..
ตลอดทางที่กลับมาโรงแรม เพ้ยส้าวหลี่เป็นคนขับรถ และในระหว่างทางที่ขับรถมา เขาก็หันไปมองผู้หญิงที่นั่งมาด้วย แล้วอยู่ดีๆ ก็รู้สึกสงสัย จึงถามขึ้น “ทำไมไปอยู่โรงแรม?”
เขาจำได้ว่าเธอก็มีบ้านที่นี่
และทั้งบ้านเก่าและบ้านใหม่ของตระกูลซู พอหลังจากปีนั้นที่เซียวควนกับซัวฉ่ายลี่ตาย ซูย้าวเองก็หายตัวไป ทุกอย่างเลยกลายเป็นชื่อของเธอ
ซูย้าวเอนตัวหันไปมองบรรยากาศในยามค่ำคืนข้างนอกหน้าต่าง และสีหน้าของเธอก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา เพียงแค่ตอบเขาประโยคเดียว “โรงแรมสะดวก ไปมาง่าย”
เพ้ยส้าวหลี่ยิ้มออกมา “ก็จริง แต่ว่าวันนี้เธอแสดงตัวว่าเป็นศัตรูกับหานฉ่ายหลิงต่อหน้าทุกคน ต่อไปต้องระวังตัวให้มากนะ”
เป็นศัตรูต่อหน้าทุกคน?
ซูย้าวเบาะปาก เดิมทีที่เธอกลับมาครั้งนี้ ก็ไม่ได้คิดจะมาญาติดีกับหานฉ่ายหลิงอยู่แล้ว ผู้หญิงอันตรายอย่างหล่อน ก็เหมือนกับหมาป่าที่อยู่ในร่างแกะยังไงยังงั้น
เป็นศัตรูกับหล่อน ซูย้าวไม่ได้แคร์อยู่แล้ว