เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 276
บทที่276 เรียกลุงเถอะ
วิลล่าคฤหาสน์ที่หรูหราและสวยงาม หานฉ่ายหลิงนั่งอยู่อย่างมีเสน่ห์ริมหน้าต่างที่ยื่นจากหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน พร้อมกับถือแก้วไวน์ในมือ
เมื่อตะกี๊เพิ่งกล่อมชาร์ลีนอนหลับ เด็กน้อยมีไข้มาแล้ววันหนึ่ง หลังจากฉีดยาไปไข้ก็ลดลง หวังว่าพรุ่งนี้จะดีขึ้น
ตอนแรก ฉันคิดว่าการเกิดมาของเด็กคนนี้ เป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่ง แต่เมื่อชาร์ลีเติบโตขึ้น ก็รู้สึกว่านี่ไม่ใช่ความผิดพลาด แต่เป็นของขวัญที่สวยงามที่พระเจ้าทรงเมตตามอบให้มา
เด็กทุกคนคือทูตสวรรค์ เป็นของขวัญที่ดีที่สุดจากสวรรค์ ไม่ว่ามนุษย์คนนั้นจะเป็นอย่างไร ต่างก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นพ่อแม่ได้เหมือนกัน
นี่คือสิ่งมหัศจรรย์ของโลกใบนี้ และยังเป็นความสมบูรณ์แบบในการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
เพียงแค่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ก้าวลงไปชั้นล่าง ก็ทำลายความคิดที่สวยงามในหัวของเธอทันที หานฉ่ายหลิงมองชายคนนั้นที่ลงไปชั้นล่าง ด้วยสายตาที่เริ่มเย็นชา
“หานต้าเฉิง!”
เรียกชื่อเขา ด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น “หานต้าเฉิง!”
หานฉ่ายหลิงเกิดความโกรธขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูก หานต้าเฉิงก็ชะงัก มองเธอด้วยความประหลาดใจ “จู่ๆคุณเกิดประสาทอะไรขึ้นมา?
“เมื่อสองปีก่อน สิ่งที่ฉันให้นายไปทำ นายทำยังไงเหรอ?”หานฉ่ายหลิงถาม
เมื่อกล่าวถึงสองปีก่อนอย่างกะทันหัน หานต้าเฉิงตะลึงไปชั่วขณะ หลังจากได้สติเขาก็หัวเราะเบาๆ และยักไหล่ เอนกายอยู่บนโซฟา “ผ่านไปนานขนาดนั้นแล้ว คุณใช้ให้ฉันไปทำธุระทั้งวัน ใครจะไปจำได้ว่าเป็นเรื่องไหน?”
หานฉ่ายหลิงโกรธมากขึ้น ขณะที่ในมือถือแก้วไวน์ไว้แน่นมาก “เรื่องไหนก็สำคัญเท่ากับเรื่องนั้นหรอก! หานต้าเฉิง นายอย่ามาเสแสร้งกับฉันนะ สองปีก่อน ฉันให้นายไปฆ่าไอ้เด็กคนนั้น แต่กลับนายทำอะไร?
ขณะรอหานต้าเฉิงพูด เขาหยิบบุหรี่ออกมาจุด นั่งดูดบุหรี่ไปคิดไป “ผมจำได้ เด็กคนนั้นผมฆ่าตายไปแล้วหนิ!”
“ตายเหรอ?” หานฉ่ายหลิงประหลาดใจ วันนี้เธอเห็นจะๆว่าซูย้าวอุ้มเด็กผู้หญิงคนนึงไว้ ตัวพอๆกับชาร์ลี
หานต้าเฉิงพยักหน้า “ใช่ ตอนนั้นเด็กนั้นน่าจะเพิ่ง3ขวบ ยังเด็กมากๆ ผมทิ้งเขาไว้ในบ้านร้าง ไม่มีน้ำไม่มีอาหาร และยังเป็นฤดูหนาวอีก ไม่หนาวตาย ก็คงอดตายแล้วหล่ะ!”
ฟังเขาพูดเช่นนั้น หานฉ่ายหลิงก็ยิ่งโกรธ “ทำไมนายถึงสะเพร่าขนาดนี้?”
ถ้าเธอรู้ว่าหานต้าเฉิงจะจัดการแบบนี้ ตอนนั้นก็คงไม่ให้เงินมหาศาลกับเขาหรอก!
“แล้วยังไงเหรอ?”
อีกฝ่ายแบะมือทั้งสองข้าง ท่าทางไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทำให้หานฉ่ายหลิงโกรธมากยิ่งขึ้น
“นาย……”
เธอโกรธจนแทบพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
หานต้าเฉิงดูดบุหรี่ทีนึง แล้วพูดว่า “ได้โปรดเถอะ ผมก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน เด็กน้อยคนนั้นอายุเพิ่งกี่ขวบเอง ผมจะฝืนลงมือทำไปได้ยังไง?”
หลังจากนั้น มองไปที่หน้าหานฉ่ายหลิงที่เต็มไปด้วยความโกรธ เธอตระหนักได้ทันที “หรือเด็กคนนั้นอาจจะยังมีชีวิตอยู่?”
เธอกัดฟันด้วยความโกรธ “นายรู้หรือไม่ว่า ความคิดที่ขัดแย้งของนาย อาจทำลายทุกสิ่งที่ฉันมี”
ก็เพราะมีเด็กคนนั้นเกิดมา ต่อไปลี่เฉินซีอาจเห็นแก่เด็กและเอนเอียงไปทางซูย้าวมากขึ้น!
หรือจริงๆแล้ว หล่อนคลอดเด็กออกมาสองคนตั้งแต่แรก แต่คนที่เธอส่งไปอุ้มกลับมาแค่เพียงคนเดียว เธอคิดว่าแค่นี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว ไม่คิดว่าจะมีปัญหาในอนาคต แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปี ก็พบว่าข้างกายซูย้าวยังมีเด็กอีกคนหนึ่ง!
หานต้าเฉิงเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเธอ หลายปีที่ผ่านมาก็แทบจะไม่มีเรื่องให้ได้ทำอะไรเลย ใช้เวลาทั้งวันอยู่ตามสถานบันเทิงต่างๆ ไม่ได้จริงจังอะไร ส่วนพวกเรื่องอาชญากรรม ก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียว
เธอคิดว่าพี่ชายตัวเอง ไม่น่าจะหลอกเธอ แต่ไม่เคยคิด เวลาที่สำคัญเช่นนั้นหานต้าเฉิงก็ยังคงไม่ลงมือ และยังหลอกตัวเองมาตลอดสองปี
“นาย……ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ!”
หานฉ่ายหลิงเงยหน้าขึ้นด้วยความโกรธและดื่มไวน์ในแก้วจนหมด วางแก้วลง แล้วเดินขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว
……
เมื่อซีซีฉีดยาเสร็จ ก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว
ลูกของฉันรู้ภาษาตั้งแต่ยังเล็ก นี่เป็นครั้งแรกที่กลับประเทศ เมื่อไปถึง น่าจะยังไม่ชิน หรืออาจเป็นความทรมานในการนั่งเครื่องบินเป็นสิบๆชั่วโมง ขณะเพิ่งถึงโรงแรม ก็อาเจียนไม่หยุด ก็ถือว่ายังดี ที่ครั้งนี้ฉีดยามาก่อน
ก่อนกลับ ซูย้าวอุ้มซีซีขึ้นไปนั่งข้างบนเตียงผู้ป่วย ซีซีมองดูเด็กผู้ชายท่าทางแปลกๆที่นอนอยู่บนเตียง เอียงศีรษะ แววตาของเธอดูเหมือนจะถามว่าคนนี้คือใคร?
“เขาก็คือพี่ชาย”
ซูย้าวอุ้มลูกสาว แล้วมองไปที่ลูกชายที่นอนอยู่บนเตียง สูดหายใจด้วยความปวดร้าว “เขาก็คือลี่เจิ้งคนที่แม่พูดถึงอยู่บ่อยๆ เขาเป็นพี่ชายแท้ๆของลูก”
พี่ชายเหรอ?
ซีซีดูตกใจเล็กน้อย จากนั้นมองไปที่ลี่เจิ้งที่นอนอยู่บนเตียง สายตาของเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
“เขาก็เป็นลูกของแม่ ลูกคนแรก เป็นพี่ชายของหนู”
ซูย้าวค่อยๆอธิบาย พร้อมกับยกมือกุมมือของลูกชายไว้ ยังจำได้ตอนนั้นที่จากไป เขายังเป็นเด็กตัวเล็กๆ มักจะชอบให้อุ้มอยู่ในอ้อมแขน ในเวลาไม่กี่ปี ก็โตขึ้นแล้ว
ซีซีดูท่าทางของเขา และยื่นมือเล็กๆ ออกมา จับมือของลี่เจิ้ง
ซูย้าวยิ้ม “ซีซี พี่ชายเหนื่อยแล้ว ก็เลยหลับไป ถ้าเขาตื่น เมื่อเห็นลูกต้องมีความสุขมากๆแน่นอน”
ซีซีขมวดคิ้ว อาจจะยังรู้สึกไม่คุ้นเคยกับลี่เจิ้ง เลยปล่อยมือของเธอออก แล้วหันกลับมากอดคอซูย้าวไว้ และดูเหมือนเธอจะสื่อว่าความรักจากแม่คนเดียวก็เพียงพอแล้ว
แม้ว่าในสองปีมานี้ เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยพูดมาก่อน แต่หลังจากที่หล่อนเป็นคนที่เลี้ยงดูเด็กมากับมือ มองด้วยตาก็รู้ว่าในใจเธอคิดอะไร?
“ พี่ชายก็จะรักเธอมากเช่นกัน เจิ้งเอ๋อเป็นเด็กดีมาตั้งแต่เล็กๆ รู้เรื่องและเชื่อฟัง เขายังไม่รู้เลยว่ามีน้องสาว รอเขาตื่นขึ้นมา แม่จะพาหนูมาเยี่ยมพี่เขาให้เร็วที่สุด ดีไหม?”
ซีซีคิดอยู่สักพัก สุดท้ายเขาก็พยักหน้าอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
อาจจะยังไม่คุ้นเคยสินะ!
เจอกันครั้งแรกในรอบห้าปี
ลี่เจิ้งยังหมดสติอยู่ ซีซีก็ไม่พูด แล้วจะคุ้นเคยกันได้ไง? แต่จะใจร้อนเกินไปก็ไม่ได้
ในเวลานี้ด้านนอกประตูก็มีเงาของลี่เฉินซียืนอยู่ มองดูภายในห้อง อารมณ์แบบบอกไม่ถูก
เมื่อหล่อนกับลูกสาวออกมา ทั้งสองก็บังเอิญพบกัน โม่หว่านหว่านที่นั่งอยู่ที่เก้าอีกด้านนึง เมื่อเห็นหล่อนออกมาเขาจึงลุกขึ้น
ซูย้าวจูงมือน้อยๆของซีซีอยู่ เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมองไปที่ชายร่างเขา ในตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ซีซี นี่คือ……”
ซูย้าวพูดไม่ถูก ไม่รู้จะอธิบายยังไง
สูงใหญ่ใกล้ๆ
จะบอกไปตรงๆว่าเป็นพ่อ ก็กลัวลูกจะไม่ยอมรับ
ลี่เฉินซีเห็นความลำบากใจของหล่อน เขายิ้ม แล้วพูดว่า “เรียกฉันว่าลุงเถอะ!”
เด็กจะปรับตัวได้ต้องใช้เวลาสักพัก
หล่อนพยักหน้า “ซีซีทักทายคุณลุงสิจ๊ะ”
ซีซีเงยหน้าขึ้นมองเขา ด้วยสีหน้านิ่งเฉยและไม่ตอบสนองอะไร
ซูย้าวทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ถอนหายใจ โม่หว่านหว่านเดินมา แล้วอุ้มเด็กน้อยขึ้น “อย่าทำให้เด็กลำบากใจเลย ฉันจะพาเธอไปรอคุณชั้นล่างนะ”
หลังจากที่ทั้งสองคนไปแล้ว ซูย้าวพูดว่า “อย่าไปโทษซีซีเลย เธอ……เจอใครก็ตามก็มีท่าทีแบบนี้แหละ”
ลี่เฉินซีจะโทษลูกสาวตัวเองได้อย่างไร เขาแค่สงสัยนิดหน่อย แม้ว่าจะเป็นการพบกันเพียงสั้น ๆ แต่เขารู้สึกว่า เด็กคนนี้และคนอื่นในวัยเดียวกัน ดูเหมือนว่า……จะไม่ค่อยเหมือนกัน
“นั่นคือซีซีงั้นเหรอ……”
เขาก็พูดไม่ออกเช่นกัน หยุดลังเลเล็กน้อยอยู่พักหนึ่ง
ซูย้าวเงยหน้ามองไปที่เขา และรู้ว่าเขาจะพูดอะไร “สิ่งที่คุณต้องการจะพูด ก็คือซีซีเป็นเหมือนฉันก่อนหน้านี้ เป็น……”
‘เป็นใบ้’ ยังไม่ทันได้พูดสองคำนี้ออกมา ก็ถูกลี่เฉินซีขัดไว้ “ไม่ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น แค่รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ที่เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะความไม่คุ้นเคย
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอก็ยิ้มอย่างเย็นชา และพูดไปตามตรงว่า “ไม่ใช่ไม่คุ้นเคย ความรู้สึกของคุณถูกต้องแล้วซีซีไม่พูดกับใครเลยรวมถึงฉันด้วย”
ทันใดนั้น ลี่เฉินซีรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าและเขาก็อึ้งไป “คุณว่าไงนะ?”