เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 299
บทที่ 299 สัญชาตญาณของผู้หญิง
“เร็วเข้า อย่ามัวชักช้า!”
พวกผู้ชายเข็นรถทำความสะอาด รวดเร็วว่องไว ออกจากลานจอดรถ ไปทางทะเลที่อยู่ไกลออกไป
ทางนั้นคือท่าเรือส่วนตัว จอดเรือสปีดโบ๊ทส่วนตัว พูดได้ว่ามีทั้งคนดีคนเลวปะปนกัน และเป็นสถานที่ทราบกันทั่วไปว่าเป็นสถานที่ผิดกฎหมาย
ที่นี่มีชื่อเสียงไปทั่ว ต่อให้เกิดอะไรขึ้นจริงๆ ตำรวจอยากจะยื่นมือเข้ามา ก็ต้องใช้เวลายาวนานสืบสวนสอบสวน คนในพื้นที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่เคยให้ความร่วมมือกับคนนอก
รถยนต์สีดำริมถนนไกลออกไป หานฉ่ายหลิงเอียงตัวพิงเบาะหลังรถ สายตาเย็นชาเหลือบมองไปนอกหน้าต่าง ไกลออกไป มองเห็นคลื่นทะเลรุนแรง ปะปนกับเสียงจ้อกแจ้กจอแจของพวกนักท่องเที่ยว กระทบโสตประสาทไม่หยุด
“คุณแน่ใจนะว่าวิธีนี้ได้ผล” เธอกลอกตามองซูหยวนที่นั่งอยู่ข้างๆ
ริมฝีปากแดงของหญิงสาวยกขึ้นนิดหนึ่ง รอยยิ้มกว้าง มีรัศมีเย็นชาโหดเหี้ยม “ยาก็เป็นของคุณ ถ้ายาไม่ผิดพลาด ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้น สลบเหมือนคนตาย คนพวกนั้นที่ฉันส่งไปคุณวางใจได้ พวกเขาจัดการอะไร ไม่เคยผิดพลาด”
“คุณมั่นใจขนาดนั้นหรือ” หานฉ่ายหลิงยังไม่วางใจ รู้สึกว่าในใจยังกังวลอะไรอยู่ เหมือนจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น
ซูหยวนกลับพูดว่า “ไม่ใช่ฉันแค่มั่นใจ แต่รับประกันไม่มีทางพลาด! ที่นั่นเป็นสถานที่ผิดกฎหมายที่มีชื่อเสียง ผู้หญิงคนนั้นสลบไม่มีสติ โยนลงไปบนเรือประมง รอยาหมดฤทธิ์ เธอตื่นแล้ว เรือนั้นก็ไม่รู้จะลอยไปถึงไหนแล้ว ไม่มีอะไรกิน ผ่านไปหลายวันหลายคืน เธอต้องไม่รอดแน่!”
ต่อให้มีคนพบว่าเธอหายตัวไป ไม่ว่าจะแจ้งตำรวจหรือสืบสวน ก็ต้องใช้เวลา ไม่มีคนเห็นเธอออกทะเลไปอย่างไร
ต่อให้สืบเจออะไร ก็แค่ประสบอุบัติเหตุโดยไม่คาดฝันเท่านั้น
แผนนี้ หานฉ่ายหลิงรู้ดี และเป็นผลจากการหารือกันของสองคน ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่เห็นด้วยกับแผนนี้
แต่ไม่รู้เพราะอะไร พอเริ่มลงมือ ในใจเธอกลับหวั่นไหว รู้สึกกระวนกระวาย “ถ้าพลาดล่ะ ถ้าซูย้าวโชคดี มันไม่เป็นอะไรจะทำยังไง”
เกาะแถวนี้เยอะมาก ทะเลแม้ว่าจะกว้างใหญ่สุดสายตา เกาะใหญ่น้อยมากมาย ไม่พูดถึงเกาะร้าง เฉพาะเกาะที่ถูกพัฒนาเป็นเขตท่องเที่ยวและเหมาะกับที่พัก เยอะจนนับไม่ถูก
ถ้าโชคดีหน่อย เรือลอยไปติดเกาะเล็กๆ ผ่านความลำบากมาหลายวัน เธอยังได้รับความช่วยเหลือ
ถึงตอนนั้น หานฉ่ายหลิงไม่กล้าคิดต่อไป สายตาสับสน “ถ้าเธอไม่ตาย ก็สาวถึงตัวฉันกับคุณได้ง่ายๆ!”
ซูหยวนยิ้มบางๆ “วางใจเถอะ! กลัวอะไรล่ะ คุณคิดว่าฉันไม่ใจพอเต็มที่ จะปล่อยให้เรือออกไปหรือ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สายตาหานฉ่ายหลิงหยุดนิ่ง “คุณเตรียมอะไรไว้อีกบ้าง”
“บนเรือลำนั้น ฉันให้คนติดระเบิดไว้แล้ว ตั้งเวลาไว้เรียบร้อย หลังออกจากท่า ประมาณ 48 ชั่วโมง ก็จะระเบิดอัตโนมัติ”
ซูหยวนมองเล็บของตัวเองที่เพิ่งทำใหม่เมื่อวาน สีแดงสดสะดุดตา สีแดงเลือด เป็นสีที่เธอชอบที่สุด “ช่วง 48 ชั่วโมงนี้ คนของฉันจะคอยจับตาเรือลำนั้น เฝ้าดูทุกความเคลื่อนไหว ถ้าเกิดเข้าใกล้ฝั่ง ก็จะมีคนเจอเรือลำนั้นทันที รีบจัดกันคนข้างในทิ้ง จัดการอย่างที่พระเจ้าไม่รู้ทีเดียว”
เมื่อเธอพูดเช่นนี้ หานฉ่ายหลิงที่ยังกังวล ก็เริ่มวางใจ
แต่เมื่อคิดอีกที ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ ซูหยวนผู้หญิงคนนี้ จะประมาทไม่ได้
“ทุกปีมีเรือที่เกิดอุบัติเหตุในทะเลเยอะแยะ เยอะจนนับไม่ไหว อีกอย่างก็แค่เรือประมงลำเล็กๆ ไม่ใช่เรือบรรทุกนักท่องเที่ยวเต็มลำ ไม่มีใครสนใจหรอก ตอนที่เจอ มันก็คงระเบิดไปหลายวันแล้ว!”
ซูหยวนค่อนข้างอ่อนล้าจนหาวออก สองวันนี้เพราะเตรียมแผนนี้ เธอยุ่งมาก และเหนื่อยล้า พูดขึ้น “เอาล่ะ ยุ่งมาหลายวัน ฉันเหนื่อยแล้ว จะกลับไปพักผ่อนก่อน คุณอย่าคิดมาก รอฉลองข่าวดีเถอะ!”
พูดจบ ซูหยวนก็หยิบกระเป๋าใบเล็กราคาแพง เปิดประตูลงจากรถ
หานฉ่ายหลิงยังนั่งในรถ สายตามีประกายเคร่งขรึม ถ้าเป็นเช่นนี้ กำจัดซูย้าวได้ราบรื่น ย่อมเป็นเรื่องดี แต่ซูหยวนโหดเหี้ยมอำมหิต เกินกว่าที่เธอคิดไว้ เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว ผู้หญิงคนนี้ เก็บไว้ไม่ได้!
เธอมองกัวหลินที่นั่งอยู่ที่นั่งคนขับ “ที่มาของยานั้น เธอไปจัดการหน่อย ควรจะทำยังไง เธอรู้ใช่มั้ย”
กัวหลินยิ้มมุมปาก พยักหน้า “ประธานหานวางใจเถอะค่ะ ฉันจัดการแล้ว ไม่ว่าใครมาสืบ ก็ไม่มีทางสาวมาถึงตัวคุณ”
“อึม งั้นก็ดี”
หานฉ่ายหลิงค่อยวางใจหน่อย นั่งพิงเบาะหลังถามขึ้นอีก “กลับไปแล้วเธอเก็บของหน่อย คืนนี้พวกเราเดินทางกลับ”
“ค่ะ”
กัวหลินออกรถ หานฉ่ายหลิงหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความ
“เฉินซี ฉันเก็บของเรียบร้อยแล้ว คืนนี้เราขึ้นเครื่องกี่โมงคะ”
เมื่อวานทั้งสองคนคุยกันแล้ว วันนี้เดินทางกลับ แต่เพราะลี่เฉินซีมีธุระที่ยังต้องทำ จึงยังไม่ได้กำหนดเวลาแน่นอน
หลังจากส่งข้อความ รออยู่สิบกว่านาที ก็ยังไม่มีคนตอบกลับมา
หานฉ่ายหลิงหยิบมือถือขึ้นมาสงสัย เปิดหน้าจอดูอีกครั้ง อ่านข้อความที่ตัวเองส่งแล้ว ขมวดคิ้ว
ดูจากนิสัยของลี่เฉินซี ค่อนข้างผิดปกติ!
ไม่ว่าเธอส่งข้อความอะไร เขาก็จะตอบกลับ และเวลามักจะผ่านไปไม่นาน ถ้าเขามีธุระ ก็จะบอก วันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่
หานฉ่ายหลิงถือมือถือ สีหน้าเคร่งขรึม
กัวหลินมองสีหน้าสับสนของเธอผ่านกระจกมองหลัง จึงพูดขึ้น “ประธานหาน ประธานลี่อาจจะยุ่งอยู่ รอหน่อยค่อยติดต่อมั้ยคะ”
“…คงจะเป็นอย่างนั้น!”
หานฉ่ายหลิงรู้สึกสับสนบอกไม่ถูก ความรู้สึกหลายอย่างเกิดขึ้นในใจลึกๆ อาจจะเป็นเพราะสัมผัสที่หกของผู้หญิงทำงาน เธอรู้สึก วันนี้จะต้องเกิดเรื่องแน่…
เธอพึมพำกับตัวเองครู่หนึ่ง คิดไปในมุมต่างๆ ก็ยังระงับอารมณ์ไม่ได้ โทรไปหาอีกฝ่าย
ได้ยินเสียงริงโทนนวนซ้ำๆ จากปลายสาย
ไม่มีคนรับสายเสียที
ริงโทนร้องวนหลายรอบ กระทั่งสุดท้ายไม่มีคนรับสาย ก็ตัดสายไปอัตโนมัติ
หานฉ่ายหลิงปล่อยมือ มองมือถือ สายตาประหลาดใจฟุ้งซ่าน
โทรไปหาลี่เฉินซีอีกครั้ง
ยังคงเหมือนเดิม
เสียงดังหลายรอบ แต่สุดท้ายไม่มีคนรับสาย ตัดสายอัตโนมัติ
เขาไม่มีทางไม่พกมือถือ ถ้าไม่อยากรับ ก็น่าจะตัดสายทิ้งมากกว่า เขาไม่เคยเป็นอย่างนี้ นอกจาก…
เกิดเรื่องอะไรขึ้น!
“หยุดรถ!” สีหน้าของหญิงสาวที่กังวลใจออกคำสั่ง
เสียงหยุดรถกะทันหันดังขึ้นทำลายความเงียบสงบ กัวหลินหันมามองเธอแปลกใจ “ประธานหาน เกิดอะไรขึ้นคะ”
“ฉันก็ไม่รู้ เธอไปสืบหน่อย หาดูซิวันนี้ตารางงานของเฉินซี ไปเจอใครบ้าง แล้วก็ พวกเรากลับโรงแรมเดี๋ยวนี้!” เธอออกคำสั่งอีกครั้ง
กัวหลินพยักหน้า แล้วออกรถไปอีกทางหนึ่ง
บางครั้ง สัมผัสที่หกของผู้หญิงแม่นยำมาก
หานฉ่ายหลิงคาดเดาไม่ผิด แทบจะเวลาเดียวกันนั้น มุมหนึ่งของท่าเรือประมง มือถือเครื่องหนึ่งตกอยู่บนพื้น หน้าจอแตกละเอียด เสียงมือถือดังครั้งแล้วครั้งเล่า…
เสียงมือถือดังนานมาก หลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่อาจเรียกความสนใจจากเจ้าของได้ เพราะหานฉ่ายหลิงเดาไม่ผิด เจ้าของมือถือเครื่องนั้น ก็คือลี่เฉินซี เกิดเรื่องแล้วจริงๆ