เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 304
บทที่ 304 ตอนนี้รู้สึกเสียใจไหม
ความสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของซีซีเมื่อสองปีก่อน เมื่อซูย้าวได้กล่าวถึงอีกครั้งขึ้นในตอนนี้ ในใจก็สั่นเทาขึ้น ความกลัวความวิตกกังวลในตอนนั้น ยังคงเป็นภาพที่ติดตาติดใจ
เป็นครั้งแรกที่ลี่เฉินซีได้ยินเรื่องราวเหล่านี้
นัยน์ตาแหลมคมปรากฏความเย็นชาขึ้นทันที ก้าวมาข้างหน้าคว้าข้อมือบางของเธอไว้ และถามขึ้นด้วยความโมโห “ลูกสาวหายตัวไป ทำไมตอนนั้นคุณถึงไม่ติดต่อบอกกล่าวกับผมสักคำ”
“ติดต่อคุณแล้วมีประโยชน์อะไร คุณอยู่ที่เมืองA ส่วนฉันอยู่ต่างประเทศ คุณสามารถนั่งเครื่องบินมาช่วยได้ทันทีไหม”
ลี่เฉินซีจ้องมองเธอ แววตาดำขลับกำลังกลั้นความโกรธเอาไว้ “คุณไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าผมทำไม่ได้”
“…..”
“คุณก็เป็นซะอย่างนี้! กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ชอบคิดไปเอง ตัดสินใจเองว่าอะไรคืออะไร ไม่เคยถามหาความคิดเห็นจากคนอื่นเลย” ลี่เฉินซีปล่อยมือของเธอ
ใบหน้าขรึมขึ้นอย่างเหลืออด ราวกับว่าวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว ต่อให้จะโมโหมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถจะโกรธออกมาได้
ซูย้าวรู้สึกรู้สึกมึนงงเล็กน้อย จึงพูดย้ำขึ้นด้วยความสงสัย “คิดไปเองคือ”
เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดแบบนี้กับเธอ
“หรือว่าไม่จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหย่าในตอนนั้น สิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูก หรือการหนีไปคลอดลูกสาวที่เมืองW แม้กระทั่งการหนีไปต่างประเทศ มีเรื่องไหนบ้างที่คุณเคยถามผม”
ท่าทางการเอนตัวพิงผนังเรืออย่างสบายของเขา แล้วเงยหน้าขึ้นมองเพดานไม้ด้วยใบหน้าที่สับสน หัวสมองแวบเข้ามาเรื่องที่เธอตัดสินใจหย่าในตอนนั้น ท่าทางที่ดูรำคาญ ราวกับเบื่อหน่ายเขาเต็มทน และไม่อยากจะข้องเกี่ยวใดๆกับเขาอีก
อีกอย่าง ตอนที่เผชิญหน้ากันในชั้นศาลอีก เพื่อสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกแล้ว เธอยอมจ้างทนายความมา ‘แก้ต่าง’ด้วยทุกวิธีทุกรูปแบบ และใช้ถ้อยคำที่คมคายในการแจกแจง ว่าเขาคือพ่อที่ล้มเหลวมากแค่ไหน ช่างมีความพยายามในการแย่งสิทธิ์ในการดูแลจากเขาจริงๆ
ใจของผู้หญิงนั้นช่างลึกยากจะหยั่งถึงจริงๆ
เปลี่ยนสีหน้าเร็วยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสือเสียอีก
ก่อนหน้านั้นยังรักใคร่เขา เพื่อเขาแล้วสามารถเดินหลายกิโลท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย โดยไม่เกรงกลัวว่าตัวเองจะได้รับบาดเจ็บ เพียงเพื่อต้องการซื้อยาและขอความช่วยเหลือ
เพื่อป้องกันไม่ให้แผลของเขาติดเชื้อและมีไข้ เธอยอมนำร่างของตัวเองไปแช่น้ำเย็นอย่างโง่เขลาแล้วมากอดร่างของเขาที่ร้อนมากเพื่อลดไข้…..
เห็นได้ชัดว่าเธอรักเขามากขนาดนี้ แต่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เธอก็สามารถตัดความสัมพันธ์ลงได้อย่างง่ายดาย บางครั้งลี่เฉินซีก็ไม่กล้าหวนกลับไปคิดถึงความทรงจำเหล่านั้น เขาแทบไม่กล้ายืนยันว่าตัวตนแบบไหนคือตัวเธอที่แท้จริง
เป็นคนใบ้เงียบๆที่คอยเฝ้าบ้านในตอนแรก และมีจิตใจดี ใช้วิธีแสดงความรักแบบโง่ๆ หรือเธอตอนนี้ที่เป็นผู้หญิงที่โหดเหี้ยมไร้ความรู้สึกและไม่เห็นอกเห็นใจ
“ถามคุณเหรอ” ซูย้าวราวกับได้ยินคำพูดตลก จึงยิ้มขึ้นอย่างขมขื่น “อย่าลืมนะว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับฉันในตอนนั้น ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่จะปรึกษาหารือกันได้ทุกเรื่อง!”
เพียงไม่กี่คำ ก็สะกิดถึงอารมณ์ที่เกือบจะสงบลงได้แล้วของลี่เฉินซี ให้ปะทุขึ้นอีกครั้ง สายตาเย็นชาจ้องมองมาทางเธอ แล้วคว้าไหล่อันบอบบางของเธอขึ้น พูดตะคอกเสียงดัง “อย่างนั้นคุณคิดว่าผมกับคุณคือความสัมพันธ์แบบใดกัน”
“ตอนนี้หรือว่าตอนนั้น” เธอถามขึ้น
“ตอนนี้คือแบบไหน แล้วตอนนั้นเป็นแบบไหน” นัยน์ตาดุจเปลวไฟ จ้องมองแผดเผาอย่างไม่ละสายตา
เธอครุ่นคิด แล้วยกมือผละแขนของเขาออก “ยังสำคัญอีกหรือ”
“คุณคิดว่าไม่สำคัญรึ” รูม่านตาของเขาหดรัดแน่น
“สำคัญหรือไม่ก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในตอนนี้ได้อีกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ในใจของคุณ คิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ชอบคิดไปเอง โหดเหี้ยมใจร้ายไร้ความรู้สึกแล้วไม่ใช่หรือ” เธอพูดเบาๆ เอียงศีรษะพิงเข้ากำแพงเล็กน้อยอย่างอ่อนกำลัง
ลี่เฉินซีจ้องเธอด้วยความโมโห ใช่ ต่อให้อธิบายอย่างไร ก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนความคิดที่เขามีต่อเธอ แต่ว่า แต่…..
ก็เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ ที่ทำให้เขาไม่สามารถปล่อยวางได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา!ราวกับหัวใจถูกมนต์สะกดไว้ ให้ไม่สามารถเดินออกมาได้ และก็เป็นผู้หญิงคนนี้ ที่ทำให้เขายังคงเป็นห่วงเป็นไยเธอจนไม่สามารถมียาใดมารักษาได้!
ลี่เฉินซี ตื่นเสียทีเถอะ!
บางทีอาจเป็นเพราะลูกๆ ใช่ เป็นเพราะลูกๆ…..
เขาหาเหตุผลอย่างลวกๆขึ้น แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นเอนกายพิงผนังกำแพงอีกครั้ง มองดูเรือประมงลำนี้ ทอดถอนใจแล้วพูดขึ้น “ถ้าหากว่าตอนนั้นคุณปรึกษาผมสักหน่อย ฟังความเห็นของผมบ้าง ตอนนี้ก็คงจะไม่เป็นแบบนี้…..”
ซูย้าวที่นั่งอยู่ตรงนั้น หลับตาลง
ถ้าไม่เป็นแบบนี้แล้วจะเป็นแบบไหน
เธอในตอนนั้นกำลังท้องกำลังไส้ ถูกปรักปรำใส่ร้ายว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการคดีลักพาตัว อาจต้องเผชิญหน้ากับการถูกจองจำในเรือนจำ มารดากลับต้องมาเสียชีวิตกะทันหัน จนในที่สุดก็สามารถหลุดรอดได้จากการถูกปรักปรำอย่างยากเย็นแสนเข็ญ สิ่งที่เธออยากทำเพียงอย่างเดียวก็คือหนีไปจากสถานที่แห่งความเจ็บปวดนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเธอไม่จากไปในตอนนั้น แล้วรอให้ลูกคลอดออกมา เจี่ยงเวินอี๋จะยอมให้เธอพาลูกไปด้วยหรือ
เลือดเนื้อเชื้อไขตระกูลลี่ เกรงว่าเธอคงไม่สามารถพาไปได้แม้แต่คนเดียว! ลูกที่เธออุ้มท้องมา เธอจะทนให้ถูกแย่งไปได้อย่างไร
ตอนนั้น เธอต้องการเพียงอยากจากไปให้โดยเร็วที่สุด ไปในสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จัก แล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูก
เพียงง่ายๆเท่านี้
ส่วนที่บอกว่าโหดเหี้ยมใจร้ายไร้ความรู้สึก คิดไปเองอะไรนั่น ก็ไม่เกี่ยวกับเธอ
ไม่ว่าภายนอกจะปกปิดหรือเสแสร้งอย่างไร อย่างน้อยเธอก็เป็นเพียงผู้หญิง ไม่ง่ายเลยที่จะรักษาความเป็นครอบครัวของการแต่งงาน เพียงพริบตาเดียวก็กลับสลายไปกับหมอกควัน ต้องทนเห็นชายอันที่รักไปเชื่อมความสัมพันธ์กับหญิงอื่นต่อหน้าต่อตา แล้วความรู้สึกของเธอล่ะเป็นเช่นไร
ขณะที่เขาตั้งคำถามกับเธอนั้น เคยคิดถึงความรู้สึกของเธอบ้างไหม การแต่งงานครั้งนี้ ทำให้คนรอบข้างต่างบอกว่าไม่คู่ควรไม่เหมาะสม คำพูดเหล่านั้นได้กระทบกระเทือนทำร้ายจิตใจเธอมากแค่ไหน!
เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าวินาทีที่เธอตัดสินใจจากไปนั้น เขาได้ยอมอ่อนข้อถอยให้แล้ว
ลี่เฉินซีได้ตัดสินใจจะยกสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเจิ้งเอ๋อให้กับเธอ ให้เธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชาย ทนายความก็เตรียมดำเนินการถอนฟ้อง แต่สิ่งที่เขากับได้ยินก็คือ ข่าวการจากเมืองAไปของเธอ
เขาคิดว่าอาจจะเป็นเพราะการเสียชีวิตของมารดากระทบกระเทือนเธออย่างหนัก รอเมื่อเธอคลอดลูกแล้วก็คงจะกลับมา พอถึงตอนนั้นค่อยส่งเจิ้งเอ๋อกลับไปอยู่ข้างกายเธอ แต่กลับคิดไม่ถึงคือเมื่อคลอดลูกแล้ว ซูย้าวก็ออกจากเมืองWแล้วไปอยู่ต่างประเทศ
จากไปเป็นเวลาห้าปีเต็ม
ในเวลาห้าปีนี้ ไม่เคยติดต่อใครในประเทศจีนเลยสักครั้ง
ราวกับหายเข้าไปในกลีบเมฆ อย่างไร้ร่องรอย
สลายหายไปกับหมอกควัน แม้แต่ลูกที่ตัวเธอคลอดออกมาเองก็ไม่สนใจไยดี ผู้หญิงคนนี้ช่างใจร้ายนัก!
ซูย้าวมองไปที่มุมห้อง หวนคิดถึงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่ไม่ได้อยู่เคียงข้างเจิ้งเอ๋อ รู้สึกผิดและติดค้างลูกชายเป็นอย่างมาก ขนตายาวเปรอะเปื้อนด้วยหยดน้ำตา ดวงตาที่เปียกซึมสะท้อนภาพในห้องโดยสารเรือที่ทรุดโทรม
เขาหันไปมองหญิงสาวที่อยู่ไม่ไกล ดวงตาดำขลับ “อย่างนั้น ตอนนี้คุณรู้สึกเสียใจไหม”
เธออึ้ง สายตาหยุดไปสักพักก่อนที่จะกะพริบขึ้น จากนั้นริมฝีปากที่เย็นชาได้เอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ “ทำไมต้องเสียใจด้วย แล้วเสียใจเรื่องอะไร”
สักพัก ก็ได้พูดเสริมขึ้น “สิ่งเดียวที่ฉันเสียใจคือ การติดค้างเจิ้งเอ๋อที่มากมายเกินไป ไม่รู้ว่าจะสามารถมีโอกาสได้ชดเชยหรือเปล่า…..”
ติดค้างแค่ลูกชายเหรอ
แล้วพ่อของลูกล่ะ ไม่ได้ติดค้างเขาหรืออย่างไร!
ทันใดนั้น ใบหน้ารูปงามของลี่เฉินซีก็เย็นชาดุจน้ำแข็งทับถมกันเป็นชั้นๆ นัยน์ตาดำขลับลุ่มลึกไม่พอใจขึ้น “พูดแบบนี้ก็แปลว่าในตอนนั้นที่เลือกจะหย่านั้น คุณคิดว่ามันเลือกถูกต้องใช่ไหม”
หย่าในตอนนั้น?
ซูย้าวเงยหน้าขึ้นเผชิญกับใบหน้าหล่อเหลาที่เขียนคำว่าโกรธเอาไว้ ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมเขาถึงโกรธ เพียงแต่ว่าไม่สามารถหาเหตุผลได้
“ทำไมจะไม่ถูกต้อง ฉันก็แค่อยากสงเคราะห์คุณเท่านั้น หรือว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ”
“คุณ…..”
เขากัดฟันด้วยความโกรธ มองร่างบอบบางของหญิงสาว นัยน์ตาลึกดำขลับ หลงเหลือเพียงความเย็นชา
สิ่งที่เขาต้องการนะเหรอ เหอะๆ เขาไม่มีวันเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการ!