เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 310
บทที่ 310 คุณมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อฉัน
ซูย้าวรู้สึกว่าร่างของตัวเองเหมือนถูกเขย่าด้วยแรงมหาศาล รู้สึกท้องฟ้าหมุนติ้วๆ สมองสั่นไหวไปหมด ต่อให้หลับตาลง ก็ไม่สามารถหยุดหมุนได้
เธอเองก็อยากจะลืมตาขึ้น และเธอก็ได้พยายาม แต่เหมือนว่าจะไม่สามารถควบคุมร่างกายได้
รู้สึกหนังตาหนักมาก หนักจนไม่สามารถลืมตาขึ้นได้
ลี่เฉินซีเห็นเธอเป็นแบบนี้ ใบหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษ สีหน้าดูย่ำแย่ จนแทบจะไม่สามารถสาธยายได้ ลักษณะท่าทางราวกับผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่กำลังจะหมดลมหายใจ หัวใจเขาบีบรัดขึ้น สมองผุดแต่ความคิดที่ว่า เธออาจจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก และก็จากเขาไปในที่สุด…..
ถึงแม้ว่าเป็นเรื่องแค่สมมติ แต่หัวใจของเขาก็สั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ มีอาการปวดอย่างรุนแรงที่ซี่โครง ราวกับว่าเขานั้นหายใจไม่ออก
ชั่วครู่เดียว สีหน้าก็เศร้าหมองลง
“ซูย้าว คุณฟื้นสิ! คุณจะเป็นอะไรไปไม่ได้ คุณรู้ไหม คุณจะเป็นอะไรไปไม่ได้!”
เขาไม่สนใจอะไรอีก ขจัดความคิดที่วุ่นวายในหัวสมองออก แล้วเพิ่มแรงในการเขย่าร่างที่นุ่มนิ่ม “คุณตื่นสิ ฟื้นสิ นอนไม่ได้นะ ห้ามนอน ถ้านอนอีกก็จะตายได้นะ ซูย้าว คุณไม่อยากจากลูกไปไม่ใช่เหรอ ถ้าคุณตาย เจิ้งเอ๋อจะทำอย่างไร ซีซีจะทำอย่างไร”
บางทีอาจเป็นเพราะถูกการกระตุ้นจากคำพูดของเขา หรือบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขย่าแรงเกินไป ทำให้ซูย้าวรู้สึกว่าร่างกายเหมือนถูกฉีกออก เจ็บจนต้องขมวดคิ้ว แล้วก็ลืมตาขึ้นในทันใด จากนั้นรวบรวมพลังดึงมือของเขาออกไป พร้อมพูดขึ้นอย่างโมโห “ ลี่เฉินซี คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ!”
“…..”
ครั้งนี้ซูย้าวตื่นขึ้นมาจริงๆ
ถูกเขย่าแรงเช่นนี้ ถ้าเธอไม่ตื่นขึ้นมาอีก คงต้องเกิดปัญหาขึ้นแน่ๆ
เธอลูบอยู่ที่แขนทั้งสองข้างที่เกือบหักเพราะถูกเขาจับ เธอเจ็บจนขมวดคิ้ว “ คุณใช้แรงเยอะขนาดนั้นทำไม ยังไม่ทันได้หิวตาย ก็คงต้องตายเพราะถูกคุณบีบนี่แหละ!”
เห็นท่าทางโกรธของเธอ ลี่เฉินซีที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ถึงกับโล่งใจ
ซูย้าวนวดคลึงแขนของตัวเอง ถึงได้เพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองนั้นไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า จึงรีบดึงผ้าห่มมาปิดเรือนร่างตัวเองเอาไว้ จากนั้นพูดขึ้น “ออกไป! คุณออกไปก่อน!”
“ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นสักหน่อย ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนี้เลย” ลี่เฉินซีบึ้งตึงอย่างไม่พอใจ
ซูย้าวกัดฟันด้วยความโกรธ “ฉันให้คุณออกไป!”
สองสามวันที่ทรมานจากการอยู่บนเรือ ร่างกายของเขาก็รู้สึกเหนื่อยล้า พละกำลังก็สิ้นเปลืองไปมาก ทำให้ไม่มีแรงที่จะมาล้อเล่นกับเธออีก สูดลมหายใจเข้าลึก เดินออกจากห้องโดยสารเรือตามที่เธอต้องการ
…..
คนที่เจี่ยงหลินจัดออกไปตามหาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม ยังคงไม่ได้เบาะแสใดๆ เลขาฯกลับมารายงานว่า “ประธานเจี่ยง คนของพวกเรากับทางตำรวจยังคงพยายามตามหากันอยู่ ตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวใดๆครับ
เขาเช็คดูแผนที่ในหน้าจอคอมพิวเตอร์ ตามที่คนร้ายนั้นได้สารภาพ บริเวณใกล้ๆที่คาดว่าเรือลำนั้นอาจลอยลำไปถึง เขาได้จัดคนเพิ่มออกตามหาแล้ว แต่ทำไมถึงยังไม่มีข่าวคราว
“ประธานเจี่ยง คนของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปได้ติดต่อกับกรุ๊ปk ถามหาตัวประธานลี่ ท่านว่าเรื่องนี้…..”
เจี่ยงหลินขมวดคิ้วขึ้น “กรุ๊ปkตอบกลับไปว่าอย่างไร”
“กรุ๊ปkยังไม่ได้ตอบกลับครับ ส่งคนมาถามหาความคิดเห็นของท่านก่อน แล้วค่อยทำการตอบกลับครับ” เลขาฯกล่าว
เมื่อเลขาฯจากไปแล้ว เจี่ยงหลินได้โทรศัพท์ไปกำชับคนที่รับผิดชอบการค้นหาและให้การช่วยเหลือว่า “ขยายขอบเขตบริเวณที่ค้นหา เมื่อวานสภาพอากาศเลวร้าย บนท้องทะเลก็ยิ่งเลวร้าย ให้เพิ่มขยายพื้นที่การค้นหาให้กว้างยิ่งขึ้น!”
บนท้องทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุด ซูย้าวได้สวมใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว ร่างที่อ่อนแอคลานอยู่บนเตียง มองดูแสงตะวันอันเจิดจ้าด้านนอก ต้องการอยากที่จะเดินออกไปดู แต่เมื่อทำการลุกขึ้น ก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะ ไม่มีแรง จึงได้นั่งลงต่อ
ภายใต้ความหิวโหยที่มากเกินไป ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถทนได้จริงๆ
เธอนอนอยู่ตรงนั้น มองดูเรือประมงที่ซอมซ่อ ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าชาตินี้ตัวเองจะต้องมาจบชีวิตลงที่นี่ ในท้องทะเลแห่งนี้ คาดว่ากว่าจะมีคนมาพบศพ เวลาก็คงผ่านไปนานแสนนานแล้วกระมัง!
ร่างก็คงเน่าเปื่อยจนไม่สามารถแยกแยะออกได้…..
ความคิดที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายของเธอ ลี่เฉินซีเดินที่เข้ามาจากด้านนอก เห็นลักษณะของเธอในตอนนี้ จึงได้เดินเข้าไป แล้วก้มตัวอุ้มเธอเข้ามากอดอยู่ในอ้อมกอด จากนั้นเดินออกมาด้านนอกห้องโดยสารเรือ
“ในเมื่อไม่มีของกิน อย่างนั้นก็ตากแดดสักหน่อยนะ! บางทีอาจจะรู้สึกดีขึ้นจากการสังเคราะห์แสง” เขาปล่อยเธอวางลงบนพื้น อาบแสงแดดสีทองที่แวววับ ช่างอบอุ่นเหลือเกิน
การสังเคราะห์แสงหรือ
ซูย้าวยกริมฝีปากยิ้มขึ้นอย่างอ่อนกำลัง ร่างที่อ่อนแอพิงอยู่กับขอบเรือ มองดูชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า จึงถามขึ้นกะทันหัน “เฮ้ย คุณไม่หิวเหรอ”
“หือ”
ลี่เฉินซีอึ้ง แล้วมองมาทางเธอ “ผมรู้ว่าคุณหิวมาก แต่ว่าตอนนี้ไม่มีอะไรที่สามารถกินได้…..”
“กำลังกายของคุณช่างดีจริงๆ ไม่ได้กินอะไรมานานขนาดนี้ ก็ยังไม่เห็นเป็นอะไร ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ คุณสามารถทนได้นานแค่ไหน”
ซูย้าวครุ่นคิด ตามพละกำลังของเขา ไม่แน่อาจจะทนได้แปดวันสิบวันน่าจะได้!
แต่ใครจะไปคาดคิดว่าประธานที่สง่างาม อายุน้อย และมีพื้นฐานครอบครัวที่สูงส่งอย่างลี่เฉินซี จะมามีสภาพอย่างตอนนี้ได้
คิดๆแล้วก็รู้สึกเหมือนเป็นการประชด เธอยิ้มขึ้นอย่างอ่อนแรง แล้วพูดขึ้นอีก “วิธีการตายแบบนี้น่ากลัวเกินไป! หรือว่าพวกเราหาวิธีที่สะใจกว่านี้!”
สีหน้าลี่เฉินซีตึงขึ้น
“คุณหมายความว่าอย่างไร”
“ฉันจำได้ว่าคุณยังมีไฟแช็กหนึ่งอัน จุดไฟเผาเรือลำนี้ซิ” เธอแนะนำขึ้นกะทันหัน
“…..”
สีหน้าลี่เฉินซีดำทะมึนขึ้น แล้วเอามือแตะที่หน้าผากของเธอ ไข้ขึ้นสูงจริงๆด้วย เธอยังเป็นไข้ ดังนั้นจึงพูดเรื่องบ้าๆ
“ไม่ว่าอย่างไรก็ตายอยู่ดี ทำไมยังจะต้องรออีก ตอนนี้เลย เผาตอนนี้เลย!” ซูย้าวก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป ที่จู่ๆมีความคิดสับสนแบบนี้
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็ไม่เคยมองโลกในแง่ร้ายและพยายามที่จะยืนหยัดต่อไปโดยไม่เกรงกลัว แต่ขณะนี้อยู่ๆเธอกลับมีความคิดที่อยากจะฆ่าตัวตาย
ตายๆอย่างสะใจให้รู้แล้วรู้รอด ดีกว่าต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดที่ไม่มีสิ้นสุด
เพราะถึงอย่างไรผลลัพธ์ก็เหมือนกัน
ลี่เฉินซีจ้องมองเธอ “ถ้าพวกเราตายกันหมด แล้วลูกๆล่ะ เจิ้งเอ๋อกับซีซีจะทำอย่างไร”
ใช่สิ ยังมีลูกๆ
เจิ้งเอ๋อยังสลบไม่ได้สติ ซีซีที่ยังก้าวออกมาจากความมืดไม่ได้และปฏิเสธการพูด ลูกสองคน ไม่อาจจะขาดพวกเขาไปได้
ซูย้าวสีหน้าตึงขึ้น เธอดิ้นรนออกจากความคิดที่วุ่นวาย แต่ทว่าร่างกายที่อ่อนแรง ขาดอาหารและขาดน้ำ ทำให้ร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรง จึงไม่ใช่ว่าแสงอาทิตย์จะทำให้ยืนหยัดและอดทนต่อไปได้
ร่างที่อ่อนแรงของเธอซบอยู่ที่อ้อมกอดของเขา ใบหน้าที่เจ็บปวดก็ยิ่งดูย่ำแย่ เสียงที่อ่อนแอ และลมหายใจที่แผ่วเบา “ฉันอาจจะไม่สามารถอดทนต่อไปได้อีก แต่ว่าคุณสามารถ จงยืนหยัดต่อไปให้ได้ เพื่อลูกๆ…..”
“พูดพร่ำอะไรน่ะ! ซูย้าว ผมไม่อนุญาตให้คุณเป็นอะไร !” สีหน้าลี่เฉินซีเศร้าหมอง และเพิ่มแรงจับแขนของเธอ
ซูย้าวเข้าใจร่างกายของตัวเองดี เธอส่ายหัว แล้วพูดขึ้น “คุณฟังฉันนะ คุณต้องมีชีวิตต่อไป เพราะมีเรื่องหนึ่งที่คุณต้องไปทำแทนฉัน…..”
“ความจริงแล้วเมื่อห้าปีก่อนที่ฉันคลอดซีซีนั้น ฉันยังจำได้ว่า ยังมีเด็กอีกคนหนึ่ง…..”
เธออยากจะบอกเขาเกี่ยวกับการสูญหายของลูกชายเธอ แต่เธอยังไม่ทันได้พูดจบ หางตาของลี่เฉินซีก็เหลือบไปเห็นเงาของเรือปรากฏอยู่บนท้องทะเลสีฟ้าใสที่ไกลๆ
“ซูย้าว พวกเรารอดแล้ว!” ลี่เฉินซีวางเธอลง ลุกขึ้นโบกมืออย่างต่อเนื่องไปยังทิศทางของเรือลำนั้น
มีทางรอดแล้วเหรอ
ซูย้าวเงยหน้าชะเง้อมองไปตามทิศทางนั้นอย่างอ่อนกำลัง ยังไม่ทันเห็นเงาของเรือที่อยู่ระยะไกลๆ ร่างกายของเธอก็หมดแรงล้มพับลงกับพื้นแล้วสลบไป