เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 316
บทที่ 316 ยังเต็มใจที่จะให้อภัยฉันไหม
ในห้องผู้ป่วยที่เงียบสงบ ผู้หญิงสองคนต่างเผชิญหน้ากัน คนหนึ่งมีใบหน้าที่ตกตะลึงอย่างมาก ส่วนอีกคนก็มีใบหน้าที่สวยงามและสง่า
เมื่อเห็นความสงสัยบนใบหน้าของซูหยวนนั้น ซูย้าวจึงพูดว่า “เธอจ่ายเงินจ้างคนไปเป็นจำนวนมาก เพื่อที่จะให้เอาระเบิดมาเอาชีวิตฉันไปเนี่ยนะ แน่นอนว่าเมื่อจ้างคน จะต้องให้คำสั่งพิเศษบางอย่าง ฉันพูดไม่ผิดใช่ไหมล่ะ!”
แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนที่ซูหยวนได้จ้างมานั้น มีดีแค่ต่อสู้ นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรดีแล้ว
ส่วนเรื่องของระเบิด ก็ระเบิดไม่ได้ เพียงแค่วางมันเอาไว้เท่านั้น
หากต้องการฆ่าใครจริงๆจะต้องออกแบบแผนการและทุกๆรายละเอียดก็จะต้องได้รับการออกแบบมาอย่างดี จะได้ไม่มีการละเว้นแม้แต่น้อย ไม่อย่างนั้นถ้าเรื่องแดงขึ้นมา ถูกจับไปก็จะถูกดำเนินการตามข้อหาและเจอผลหลังจากการจับกุม
แม้ว่าซูหยวนจะไม่ค่อยฉลาดมากนัก แต่ก็ไม่ได้โง่ โตขนาดนี้แล้ว อยากจะจัดการแต่ไม่แต่ไม่รู้ขั้นตอนของกระบวนการที่ชัดเจน เธอเต็มใจที่จะใช้เงินจำนวนมากจ้างคน แต่ทำไมถึงไม่ยอมจ่ายเงินอีกสักหน่อย เพื่อจ้างคนทิ้งระเบิดได้จริงล่ะ?
ในการสอบสวนของตำรวจ ซูย้าวถามคำถามกว้างๆ ก็พอจะเดาความคิดที่แท้จริงของเธอได้
“เธอไม่อยากที่จะฆ่าฉันจริงๆหรอก มันก็แค่เป็นไปตามธรรมชาติแค่นั้น หากชะตากรรมของฉันใหญ่โต ฉันอาจล่องลอยไปยังเกาะเล็ก ๆ ด้วยเรือหาปลาไปแล้วได้รับการช่วยเหลือ แต่เดี๋ยวฉันก็จะกลับจีนแล้ว ที่นั่นมีลูกๆขอฉัน ดังนั้น จุดประสงค์จริงๆของเธอ คืออยากให้ฉันไปจากที่นี่ รีบกลับประเทศไป” ซูย้าวกล่าว
“แก….”
ซูหยวนตกตะลึงอย่างกะทันหัน ราวกับว่านี่เป็นสิ่งสุดท้ายในใจได้ถูกเปิดเผยออกมาอย่างทั่วถึง ความหนาวเย็นก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ
“แต่ก็คงบอกไม่ได้ว่าเธอเป็นคนดี เธอต้องการจะฆ่าฉัน แต่ก็ทนไม่ได้ที่จะลงมือเอง แค่อยากจะเห็นว่าฉันโชคดีเท่าไหร่กันเชียว ถ้าโชคดีก็มีชีวิตอยู่ต่อ แต่ถ้าไม่ ก็ตายไปซะ!”
ซูย้าวพูดออกมาหมดแล้ว เงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงตรงหน้าและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “ตอนนี้มาพูด สิ่งที่เธอพูดเมื่อกี้กันดีกว่า!”
“ยังจะมีอะไรให้พูดอีกล่ะ แกเดาถูกแล้วนี่ ฉันก็คงต้องฟังเท่านั้นแหละ!”
ทันใดนั้น ซูหยวนก็เหมือนกับไก่ที่พ่ายแพ้ สูญเสียความมั่นใจ ทรุดลงนั่งที่โซฟาอย่างอ่อนแรง ดวงตาที่ว่างเปล่าแสดงให้เห็นถึงความไม่เต็มใจในสายตาของเธอ
“หากว่า หากว่าฉันโหดร้ายกว่านี้สักหน่อยล่ะก็!”เธอรู้สึกเสียใจภายหลัง หากเธอไม่ใจอ่อนปวกเปียกล่ะก็ หากเธอโหดร้ายกว่านี้สักนิด อย่างงั้นคนที่นั่งเอนหลังอย่างผ่อนคลายนี้ก็คงจะเป็นเธอไปแล้ว!
เมื่อฟังเธอพูดแบบน้น ซูย้าวก็ยิ้มออกมา “ฉันทำให้คนเกลียดขนาดนั้นเลยเหรอ?เกลียดจนคิดอยากฆ่าเลยหรือไงกัน?”
“ฉันพูดไปแล้วว่าแกชอบต่อต้านฉันตลอด ชอบแย่งทุกอย่างไปจากฉัน ในชีวิตฉันผู้ชายที่อยู่รอบตัวฉันต่างถูกแกแย่งไป!”การแสดงออกมาของซูหยวนนั้นช่างดูรุนแรง ดวงตาที่ขุ่นเคืองของเธอนั้นแดงก่ำ
คำเหล่านี้ เธอได้ยินมามากหลายครั้งแล้ว ได้ยินจนรู้สึกไม่สบายใจ จึงต้องโต้ตอบกลับไปว่า “ฉันไม่เคยคิดที่จะแย่งอะไรไปจากเธอเลยนะแม้ว่าตอนเด็กพ่อจะเอ็นดูฉัน แต่ก็ไม่ได้ไม่สนใจเธอเลยสักน้อย เพียงแค่เธอเอาทุกอย่างมาลงที่ฉันเท่านั้นเอง เป็นเธอต่างหากที่ละเลยความรักที่พ่อมีต่อเธอ!แล้วหันมาโกรธฉันต่างหาก!”
ซูย้าวถอนหายใจออกมา ก่อนจะพูดอีกครั้งว่า “แล้วเรื่องของลี่เฉินซี ที่ฉันต้องแต่งงานกับเขาก็เพราะว่าเป็นเรื่องที่คุณย่าร้องขอไว้ก่อนจากโลกนี้ไป ฉันแต่งงานกับเขาเพราะความตั้งใจนี้ของคุณย่าเท่านั้น จะมาโทษฉันไม่ได้นะ!”
แล้วหลังจากที่แต่งงาน ซูย้าวก็มีสิทธิที่จะดูแลครอบครัวและสามีของเธออยู่แล้ว จะไปยินยอมยื่นมือให้ผู้ชายได้อย่างไรกัน?
ตั้งแต่ต้นจนจบ ซูย้าวต้องการที่จะปกป้องการแต่งงานและลูกของตนเท่านั้น ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายใคร ยิ่งไปกว่านั้นยิ่งการแข่งขันกับคนอื่นยิ่งไม่ต้องพูดเลย
“แกพูดออกมาว่าไม่ได้สู้ไม่ได้แย่ง แต่ว่าการที่แกเป็นแบบนี้ คนที่ฉันแคร์ทุกคนก็โดนแกดึงดูดไปหมด ไม่ว่าจะเป็นพ่อ ลี่เฉินซี จนถึงตอนนี้ หลิน…ทุกๆคนก็ต่างพากันแคร์แก เป็นห่วงแก ถึงจะบอกว่าไม่ได้สู้ไม่ได้แย่งอะไร แต่การกระทำของแกทั้งหมด มันก็ไม่ต่างอะไรกับการต่อสู้แย่งชิงหรอก!” ซูหยวนกล่าวอย่างโกรธเคือง
ซูย้าวยิ้มด้วยความโกรธ พร้อมกับพูดอย่างใจเย็นว่า “นี่คือสิ่งที่เธอคิดให้คนอื่นเป็น”
“หึหึ ก็อาจจะใช่”
เรื่องมาจนถึงตอนนี้ ซูหยวนก็เข้าใจตัวเองแจ่มแจ้งแล้ว “ไม่ว่าฉันจะผิดหรือถูก หรือไม่ว่าแกจะจงใจสู้กับฉันไหม แต่ว่าซูย้าว ความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงของเราก็คือ การที่ได้มาเป็นพี่น้องกัน ไม่ควรจะมาอยู่ในครอบครัวเดียวกันแบบนี้!”
นึกออกไหมล่ะ?
การเป็นพี่น้อง ไม่ว่าจะเป็นญาติ ก็ต่างโตมาด้วยกัน คนหนึ่งโดนยกย่องชื่นชม อยู่ในสายตาของผู้คนตลอด เป็นที่รักของพ่อ พอโตขึ้นมา ก็ได้แต่งงานกับชายที่สมบูรณ์แบบ
แม้ว่าจะกลายเป็นยัยใบ้ แต่ก็ไม่อาจบดบังรัศมีของเธอได้ คนรอบตัวมากมายต่างพากันดูแลปกป้องเธอ รักเธอ….
ถึงแม้ว่าเธอจะหย่าแล้ว แต่เธอก็ยังมีอดีตสามีที่ยังหลงใหลเธอเสมอ อัศวินหลินโม่ป่ายผู้ที่รักและปกป้องเสมอมา อีกทั้งคนที่ชอบเธอมาตลอดอย่างเพ้ยส้าวหลี่อีก อีกทั้งยังมีพี่น้องที่รักใคร่เธอ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ซูหยวนคิดฝันมาตลอด แต่ว่ายากที่จะได้รับมา
เพราะเช่นนี้ ความโกรธในใจของซูหยวนนั้นมีมากมายเหลือเกิน ตอนที่เธอเกลียดซูย้าว เธอก็เกลียดตนเองด้วย ทำไมถึงสู้เธอไม่ได้ ทำไมถึงแย่งเธอไม่ได้กันนะ…
“ถ้าเราเป็นชายคนหนึ่งหญิงคนหนึ่งก็ดีน่ะสิ อาจจะโง่ไปรักแก จะได้ไม่ต้องมาเกลียดแกแบบนี้ก็ได้ ..” ซูหยวนหัวเราะเย็นชา
สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดก็คือ พวกเขาเติบโตมาพร้อมกัน เจอสภาพแวดล้อมเหมือนๆกัน แต่คนหนึ่งเป็นดอกไม้ที่งดงามที่สุด ส่วนอีกคนกลับกลายเป็นแค่ใบไม้สีเขียวธรรมดา
ใครมันจะไปยอมทำเพื่อใบไม้สีเขียวธรรมดากันล่ะ?
เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ใครกันที่ไม่หยิ่งผยอง ใครกันที่ไม่เคยคิดฝันจะเป็นเจ้าหญิง ใครกันที่ไม่หวังให้เจ้าชายขี่ม้าขาวมาขอแต่งงาน?
ซูย้าวขมวดคิ้ว คิดตามที่เธอพูดไปเล็กน้อย ถ้าตนเป็นผู้หญิงแล้วซูหยวนเป็นผู้ชายล่ะก็ แล้วเธอมาชอบตนล่ะก็…โอ้พระเจ้า!
เธอไม่อยากจะจินตนาการต่อไป เป็นเรื่องที่น่ากลัวเสียจริง เป็นผู้หญิงยังโหดร้ายขนาดนี้ ถ้าเป็นผู้ชายล่ะก็ เธอคงขึ้นสวรรค์ไปแล้วแน่ๆ?
“ช่างมันเถอะ ที่ฉันกับเธอกลายเป็นแบบนี้ ก็เพราะว่าเธอนั่นแหละที่สร้างมันขึ้นมาเอง เธอบอกว่าฉันแย่งเธอมา แต่พ่อไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่งสักหน่อย อีกอย่างเรื่องของลี่เฉินซี ตอนนั้นเขาเป็นสามีของฉัน ตอนนี้เขาก็เป็นอดีตสามี เป็นพ่อของลูก มันก็แค่นี้เอง” ซูย้าวพูด
ซูหยวนมองไปที่เธอ แล้วเห็นได้ชัดว่าสิ่งที่โฟกัสอยู่นั่นไม่ใช่เรื่องนี้อีกต่อไป
ดวงตานั้นกำลังรอให้เธอพูดต่อไป
เมื่อได้เห็นจิตใจของเธออย่างละเอียดแล้ว ซูย้าวก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “แล้วเรื่องของเจี่ยงหลิน เธออยากได้ยินอะไรกันแน่?”
“แก…”
“แม้ว่าการกระทำบางอย่างของเธอ มันจะไม่น่าให้อภัยก็ตาม หนำซ้ำยังควรโดนลงโทษอีก แต่ซูหยวน ฉันต้องบอกกับเธอว่า ในชีวิตของเธอ สิ่งที่ถูกต้องที่สุดก็คือ การที่ได้พบกับเจี่ยงหลินนะ”
อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องของพี่และน้อง ซูย้าวเองก็ไม่อยากผลักไสเธอไปเจอทางตัน และก็โชคดีที่ครั้งนี้เธอกับลี่เฉินซีนั้นปลอดภัยไม่อย่างงั้น ตอนนี้คงไม่คุยกันอย่างสงบขนาดนี้
ซูหยวนตกตะลึง “หมายความยังไงกัน?”
“เธอไม่ใช่คนโง่นะ ฉันหมายความว่ายังไงฟังไม่ออกเหรอ?ซูหยวน หากเธอต้องการให้ครึ่งชีวิตของเธอมีความสุขขึ้นมาสักนิดล่ะก็ ก็จับผู้ชายคนนี้ไว้ซะ แล้วทำให้ดีที่สุด”
คำพูดของซูย้าวนั้นก็พูดมาได้ถึงเท่านี้ หลังจากเรื่องนี้จบลง การที่เจี่ยงหลินจะปฏิบัติกับเธอดีไหมล่ะก็ คงต้องขึ้นอยู่กับความโชคดีของซูหยวนซะแล้ว
แต่พอมาลองคิดอย่างละเอียดแล้ว เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ซูหยวนเองก็เกือบจะเสียเจี่ยงหลินไป แต่เขายังไม่คิดที่จะทิ้งผู้หญิงคนนี้อีก ไม่สนใจที่จะส่งไปให้ตำรวจอีก นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์มิตรภาพของเขาที่มีต่อเธอ
ยอมรับด้านที่เลวร้ายที่สุดของซูหยวน แล้วจะยังมีเรื่องอะไรที่ยอมรับไม่ได้อีกล่ะ?
เมื่อเห็นซูหยวนที่ยังคงมีสีหน้าที่ว่างเปล่า ซูย้าวก็เอนกายลงเตียงพร้อมกับพูดว่า “ฉันเหนื่อยแล้ว ไม่อยากจะคุยอะไรกับเธออีก ไปได้แล้ว!”
“แก…” ซูหยวนโกรธอย่างอธิบายไม่ถูก อารมณ์ไหนกันเนี่ย!เมื่อเห็นซูหยวนหันหลังกลับ ก็เหมือนเธอจะคิดอะไรบางอย่างออก จึงพูดเสริมไปว่า “ที่ฉันบอกคราวก่อน มันก็ยังถือว่านับนะ”
ซูหยวนตะลึงแล้วหันกลับมา“หมายความว่ายังไง?”
“ถ้าอยู่ที่ไม่ได้ จะกลับมาบ้านเมื่อไหร่ก็กลับนะ ” ซูย้าวทิ้งประโยคที่เย็นชานี้ไว้ แล้วมองไปที่เธอ
ถึงแม้ว่าการพูดจาจะดูเย็นชา แต่ในใจของซูหยวนนั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น
เธอทำผิดหลายอย่าง ทำผิดต่อเธอจนไม่อาจจะให้อภัยได้ ซูย้าวยังคง…เต็มใจที่จะยอมรับเธองั้นเหรอ?
คำเดียว‘กลับบ้าน’เป็นคำที่ครอบคลุมมากเกินไป เกินกว่าเธอจะอดทนไหว
ในขณะที่ทนไม่ไหวอีกต่อไป น้ำตาของเธอก็ไหลออกมา ซูหยวนมองไปที่เธอด้วยน้ำตาที่ไหลริน เธอไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป เธอเดินหันหลังและจากไป
ด้านนอกของประตู มีเจี่ยงหลินยืนรอเธออยู่