เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 317
บทที่ 317 ทำไมเธอถึงไม่มีแฟน
เช้าวันถัดมา ผู้ช่วยของเธอได้เข้ามาจัดการเรื่องขั้นตอนการออกจากโรงพยาบาลของเธอ ซูย้าวพักสักครู่ก่อนจะไปที่สนามบินอย่างเร่งรีบ
หลังจากที่อยู่ที่มาครึ่งเดือนกว่า เกิดเรื่องมากมายไปหมด ความอดทนนั้นสั้นกว่าที่คิด ในเวลาที่เกือบตายนั้น มันทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับลี่เฉินซีนั้นมัน…..
เธอนั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมกับหลับตาลง ไม่อยากที่จะไปคิดเรื่องพวกนี้ ตรงกันข้ามเลยคือซูหยวน หวังว่าเจี่ยงหลินจะไม่ปล่อยเธอไป และคืนดีมีมิตรภาพที่ดีกับเธอเหมือนเดิม!
เธอหยิบเอกสารจากผู้ช่วยมาดู กลับไปก็คงมีงานต้องสะสางอีก ไม่กี่วันนี้เธอค่อนข้างจะพักผ่อนเต็มอิ่มดี ดังนั้นตอนที่อยู่บนเครื่องบินเลยไม่เหนื่อย ตั้งใจดูเอกสาร
สิ่งที่ไม่ได้สังเกตก็คือ ผู้โดยสารโดยรอบนั้นกำลังมองเธอ
ในสายตาของชายหนุ่มชาวต่างชาตินั้น ก็คือเห็นผู้หญิงที่ยังสาวนอนเอนกายบนโซฟาถือเอกสารอยู่ ยกมือขึ้นแอบดูจึงเห็นรูปลักษณ์ที่สงบนี้สวยงามอย่างเปรียบไม่ได้
ชัตเตอร์ของโทรศัพท์ส่งเสียง‘แชะ’ขึ้น ทำให้ผู้ช่วยเงยหน้าขึ้นมาดู จึงเห็นชายหนุ่มสองสามคนนั้นอยู่ไม่ไกล
ชายหนุ่มสองสามคนนั้นพูดคุยกัน จากนั้นก็มีคนลุกขึ้นมาหาซูย้าว และเอ่ยปากอย่างสุภาพว่า “คุณผู้หญิง อยากจะถามว่าคุณเป็นคนเอเชียหรือเปล่าครับ?”
ซูย้าวเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่สงบของเธอสบตากับชายหนุ่มคนนั้น จึงพยักหน้าไป“ฉันเป็นคนจีนค่ะ”
“คุณผู้หญิง ผมกับเพื่อนรู้สึกว่าคุณสวยมากๆเลย!”ชายคนนั้นอดไม่ได้ที่จะชื่นชมเธอ
ซูย้าวโค้งริมฝีปากของเธอเล็กน้อย รอยยิ้มที่ยิ้มแย้มมีเสน่ห์น่าหลงใหลมากขึ้น เธอสังเกตเห็นชายสองสามคนที่อยู่ไม่ไกล ท่าทางที่ดูน่าสนใจนั่นทำให้เธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย จึงอธิบายไปว่า“ขอบคุณที่ชื่นชมค่ะ”
“ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงมีแฟนหรือยังครับ?”ชายคนนั้นถามอีกครั้งด้วยหัวใจที่เต้นระรัว
เธอยืนขึ้นพร้อมกับกระโปรงยาวคลุมขา เมื่อเธอยืนขึ้นนั่น กระโปรงของเธอก็พริ้วไสวไปกับสายลม มันช่างมีเสน่ห์ซะเหลือเกิน ทำให้คนเหล่านั้นที่มองอยู่ยิ่งโหยหาหญิงที่อยู่ตรงหน้ามากขึ้นอีก
เมื่อซูย้าวกังวลว่าจะอธิบายอย่างไร จู่ๆก็มีเสียงผู้ชายดังขึ้นข้างหลัง–
“เธอมีแฟนแล้ว!”
ซูย้าวสะดุ้งเล็กน้อย ชายหนุ่มอีกคนก็ตกตะลึงเช่นกัน หลังจากหันไปตามเสียงก็พบกับลี่เฉินซี
ชายหนุ่มรูปหล่อในชุดสูท สวมรองเท้าหนังด้วยรูปร่างสูงตรง ในสนามบินนี้มีผู้โดยสารมากมาย ราวกับว่าเขายืนออกจากฝูงชน มองไปที่เธอด้วยรอยยิ้มจางๆ และก้าวไปเดินหน้าไปหาเธอ
ลี่เฉินซีเดินเข้ามาใกล้ๆพร้อมกับจับแขนของซูย้าวอย่างเป็นธรรมชาติ ดึงเข้ามาไว้ในอ้อมแขนของเขาทันที เธอเลิกคิ้วมองเขา “อยากจีบแฟนของฉัน ก็ต้องดูด้วยว่าฉันอนุญาตหรือเปล่า!”
“ห๊ะ!”ชายคนนั้นรู้สึกอายเล็กน้อย จึงพูดว่า “ขอโทษด้วยครับ ผมแค่รู้สึกว่าคุณผู้หญิงคนนี้สวยมากเท่านั้น!”
ซูย้าวยิ้มให้เล็กน้อยอย่างไม่เสียมารยาท
เมื่อชายคนนั้นจากไป ปฏิกิริยาของซูย้าวจึงกลับมา รีบออกมาจากอ้อมแขนของเขาและถามอีกว่า “นายมาที่นี่ได้ยังไงกัน?”
“ก็ไม่มีอะไรนะ แค่บังเอิญ ผมเองก็จะกลับจีนเหมือนกัน” ลี่เฉินซีอธิบาย พร้อมกับพูดอีกว่า “จะกลับไปกับผมเลยไหมล่ะ?”
เธอรู้ดีว่าลี่เฉินซีมีเครื่องบินส่วนตัวพิเศษ ซึ่งทำให้การเดินทางก็สะดวกกว่ามากแต่เธอก็รู้ว่าข้างกายเขานั้นมีหานฉ่ายหลิง ซูย้าวไม่อยากที่จะมีความสะดวกเพียงแค่ชั่วคราว อีกทั้งยังปล่อยให้หานฉ่ายหลิงหัวเราะเยาะต่อไป
ดังนั้นเธอทำได้แค่ส่ายหัว “ช่างมันเถอะ ฉันจองตั๋วไปแล้ว”
ลี่เฉินซีเองก็ไม่อยากทำให้เธอลำบากใจ พร้อมกับพยักหน้า “งั้นโอเค!งั้นเจอกันที่จีนนะ”
“อืม เจอกันที่จีน”
เมื่อดูชายคนนั้นเดินจากไป ซูย้าวจึงนั่งลงอีกครั้ง ผู้ช่วยของเธอได้เตือนว่าได้เวลาขึ้นเครื่องพอดี ซูย้าวจึงจัดแจงเอกสารให้เรียบร้อย และเดินจากไปกับผู้ช่วย
ในประเทศที่เมืองเอ โรงแรมโซฟีเชีย ห้องเพนต์เฮาส์สวีท
โม่หว่านหว่านก็เพิ่งออกมาจากสถานศึกษา เหนื่อยจนเหงื่อเปียกปอนไปทั่วตัว เมื่อมองไปที่ห้องนั่งเล่นก็พบของเล่นรกเต็มไปหมดที่พื้น ในเวลานั้นอารมณ์มันก็ช่าง…..
“เตียวเตียว อยู่ไหนกันนะ?” โม่หว่านหว่านระงับความโกรธและพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าฟัง
เตียวเตียวซ่อนตัวอยู่ในห้องนอน ไม่กล้าที่จะออกไป
เสียงโม่หว่านหว่านที่ดังอยู่ข้างนอกพูดว่า “ถ้าออกมาป้าจะไม่โกรธหนูน้า จะไม่พูดอะไรเลย ออกมา…”
โม่หว่านหว่านพูดพลางวางไม้ถูพื้น หันกลับมามองแต่ละห้องเพื่อค้นหา
เตียวเตียวที่กำลังคิดจะออกไป ก็โดนซีซีใช้มือจับไว้ “ห้ามออกไป!”
“ทำไมล่ะ? ฉันไม่ได้เป็นคนทำรกสักหน่อย ฉันก็แค่เล่นของเล่นของฉันเอง เธอจะต้อง…”
ยังไม่ทันที่เตียวเตียวจะพูดจบ ก็โดนซีซีปิดปากเป็นที่เรียบร้อย “อย่าพูดเพ้อเจ้อนะ เธอนั่นแหละทำรก!”
“เธอ…” เตียวเตียวมองไปที่เธอ ด้วยความโกรธจึงทำให้ไม่พูดอะไรออกมา
ซีซียืนกอดอกอยู่ด้านข้างด้วยท่าทางที่เก่งกาจ “ไงล่ะ?เธอเป็นคนทำรก!ฉันออกจะเชื่อฟังขนาดนี้ ไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นแน่ๆ!”
“เธอทำแบบนี้ได้ยังไงกัน!” เตียวเตียวรู้สึกว่า เด็กน้อยคนนี้ทำเกินไปแล้ว เธอแค่แสร้งทำว่าดี แต่จริงแล้วเธอมันก็แค่…ปีศาจ!
ชอบกินและปาข้าวของตามอำเภอใจ
แถมยังชอบรื้อของอีกต่างหาก!
สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดก็คือ เธอจะไม่พูดอะไรเลยทั้งวัน เมื่อมีคนอยู่ เธอจะนั่งอ่านหนังสือและการ์ตูนอยู่เงียบๆทำตัวเหมือนเจ้าหญิงที่แสนสงบ แต่พอกลับมาที่ห้องก็กลายเป็นอีกคน
ดูเหมือนว่าจะมีหลายบุคลิกเสียจริง
ด้วยอาการมึนงงปากปูดเล็กน้อย เตียวเตียวเอาแต่พึมพำข้างๆ “เธอป่วยทางจิต!เป็นโรคที่มีหลายบุคลิก เธอเป็นหรือเปล่า?”
“…..”
ซีซีไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดเลยสักนิด อีกอย่างคำนามมากมายขนาดนั้นไปได้ยินมาจากไหนกัน
“ฉันเคยฟังรายการโทรทัศน์มาก่อนหน้านี้ เธอต้องป่วยแน่ๆ!” เตียวเตียวพูด
ใบหน้าที่ขาวและอ่อนโยนของซีซีก็เปลี่ยนเป็นดำคล้ำ ตอบโต้ทันที “เธอก็มียา!”
“ฉันไม่มียา แต่ฉันมีวิธี”เตียวเตียวพูด พร้อมกับรีบวิ่งไปคว้าแขนเล็ก ๆ สองข้างของเธอไว้แน่นทันที จากนั้นหาอะไรมัดเธอไว้
แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไร ประตูก็ถูกผลักออก โม่หว่านหว่านก็มาปรากฏต่อหน้าเด็กสองคนนี้
“เตียวเตียว เธอรังแกซีซีอีกแล้วนะ!” โม่หว่านหว่านกรีดร้องออกมา และรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปล่อยซีซีออกจากมือของเตียวเตียว
กอดซีซีด้วยความห่วงใย ลูบหัวเล็กๆของเธอด้วยความสงสารจับใจ “ลูกคนโตสุดที่รัก มันทำให้หนูเจ็บไหมคะ?หืม?”
ซีซีกะพริบตาทำให้มีหยดน้ำไหลรินออกมาจากดวงตาโตคู่นั้น เธอเชื่อฟังและส่ายหัวเล็กน้อย
โม่หว่านหว่านยังคงรู้สึกเป็นห่วง จึงวางซีซีไว้บนเตียงแล้วหันไปมองเตียวเตียวด้วยสายตาที่เย็นชา “แกมันเด็กไม่ดี ไม่ซื่อสัตย์สักหน่อยเลยเหรอ?ซนเล่นทั้งวัน แถมยังรังแกซีซีอีก แกนี่..”
ไม่มีอะไรสามารถอธิบายเด็กคนนี้ได้เลย โม่หว่านหว่านนั้นโกรธเป็นอย่างมาก ไม่ว่าเตียวเตียวจะพูดอะไรออกมา โม่หว่านหว่านก็ดูฟังไม่เข้าหูเลยสักนิด
โชคดีที่เตียวเตียวหันหลังกับ และวิ่งไปที่ห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว ล็อคกลอนทันที สามารถปิดกั้นโม่หว่านหว่านที่อยู่ด้านนอกประตูได้ ตนก็รู้สึกโล่งใจ
ตรงกันข้าม ซีซีนอนบนเตียงปิดปาก หัวเราะอย่างชอบใจ เธอชอบเล่นอะไรแผลง ๆ และมีความสุขมากที่ได้เห็นการฉากที่น่าหดหู่นี้
หลังจากใช้เวลาบินนานกว่าสิบชั่วโมง เมื่อซูย้าวมาถึงเมืองเอ ก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว หลังจากลงจากเครื่องบิน ผู้ช่วยก็ส่งเธอกลับโรงแรม ก่อนจะจากไป
ก่อนที่เธอจะกลับมา ของขวัญที่ส่งทางไปรษณีย์จากต่างประเทศมาถึงก่อนแล้ว กองอยู่ในห้องนั่งเล่น ซีซีนั่งมองอย่างระมัดระวัง มองแต่ละคนพร้อมกับรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าขาวและอ่อนโยนของเธอ
เมื่อซูย้าวลงจากเครื่องบิน ก็โทรหาโม่หว่านหว่าน ดังนั้นทันทีที่มาถึงโรงแรมก็พบกว่าโม่หว่านหว่าน
“กลับมาสักทีนะ!”
ซูย้าวเปลี่ยนรองเท้า ทันทีที่ก้าวเข้ามาก็พบกับลูกสาวของตน จึงรีบเดินเข้าไป “ไหน มาให้หม่ามี๊ดูซิ..”
เตียวเตียววางของในมือ และรีบเดินไปอย่างเชื่อฟังเข้าไปในอ้อมแขนของเธอ สองมือเล็กๆนั้นวางรอบคอของซูย้าว
ซูย้าวยิ้มและมองไปที่หน้าของลูกสาว “ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน คิดถึงหม่ามี๊ไหมนะ?”
ซีซีพยักหน้าอย่างจริงจัง เธอกอดแน่นด้วยความรู้สึกจริงใจมาก
หลังจากที่คุยกับลูกสาวสักพัก เธอก็อุ้มลูกลง นอกจากสิ่งของในห้องนั่งเล่นแล้ว ก็เห็นแค่โม่หว่านหว่านกับซีซี มองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นร่างเล็กอีกร่างเลย จึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เด็กคนนั้นล่ะ เตียวเตียวอยู่ไหน?”
ทันทีที่เอ่ยชื่อออกมา โม่หว่านหว่านก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ศีรษะทันที เอามือลูบหน้าผากโดยไม่รู้ตัว “เธอยังจะพูดถึงเด็กคนนั้นอีกเหรอ น่าโมโหจริงๆ!”