เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 33
บทที่ 33 น่ากลัวเกินไปแล้ว
ราวกับผ่านไปเป็นศตวรรษ ซูย้าวนอนหน้าซีดขดตัวอยู่มุมเตียง
ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา พอเสร็จครั้งนี้แล้ว ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนที่เขาจะหลีกเลี่ยงเหมือนตัวเองเป็นขยะ แต่ครั้งนี้เขาหลีกเลี่ยงเธออย่างเร็วด้วยความรังเกียจ
อาบน้ำเสร็จก็ออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด จากนั้นก็มายืนอยู่ข้างเตียงแล้วก็จัดระเบียบชุดตัวเองอย่างช้าๆ ทำตาตก พลางติดกระดุมแขนเสื้อเชิ้ต พลางมองซูย้าวด้วยสายตาเย็นชา
อาจจะเป็นเพราะไฟในห้องนอนตรงหัวเตียงเป็นใจ ใบหน้าอันหล่อเหลาที่ไร้อารมณ์ของเขา ช่างดูน่ากลัวเหลือเกิน
ผ่านไปสักพัก เขาก็ทำท่าเหมือนจะพูด ริมฝีปากเย็นเฉียบขยับเล็กน้อย เขากวาดสายตาขุ่นมัว โดยเฉพาะเมื่อมองซูย้าว
ลี่เฉินซีมองไปที่เธอ ขณะที่กำลังจะเอ่ยปากพูด จู่ๆ ก็หยุดไป
สายตากวาดมองไปที่เธอทีละจุดๆ บนผิวขาวๆ ดุจหิมะเต็มไปด้วยรอยช้ำหลากหลายสี เขามองเห็น ทันใดนั้นริมฝีปากก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา
เสียงหัวเราะสั้นกระชับ แต่แฝงไปด้วยคำเยาะเย้ย
ขณะเดียวกัน นัยน์ตาของเขาก็มีความซับซ้อน แต่ในพริบตา ก็ถูกแทนที่ด้วยความไม่แยแส หลังจากนั้น เขาก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ ก็แค่จัดระเบียบเสื้อผ้า และหันหลัง เดินออกจากห้องนอนไป
ประตูห้องได้ปิดลง ขนตายาวของซูย้าวก็เริ่มสั่น หัวเล็กๆ ที่เอาผ้าห่มคลุมไว้ก็โผล่ออกมา
พยายามจะพยุงร่างที่เจ็บจนยากที่จะทนไหว ดิ้นรนลุกขึ้นนั่ง ลงจากเตียงไปเก็บผลตรวจร่างกายที่อยู่บนพื้น
ท่าง่ายๆ แต่เธอก็เกือบจะใช้แรงที่มีอยู่ทั้งหมดของเธอ ร่างอ่อนปวกเปียกพิงเข้ากับหัวเตียง แล้วมองไปที่ผลการตรวจบนนั้น นัยน์ตาก็ขุ่นมัว
วันถัดมา การประชุมช่วงเช้าได้สิ้นสุด หวางอี้ก็เคาะประตูเข้าไปในห้องทำงานของประธาน แล้วยื่นเอกสารหลายฉบับให้
ลี่เฉินซีเปิดอ่านผ่านๆ ไปหนึ่งรอบ แล้วหยิบปากกาขึ้นมาอย่างรวดเร็วและเซ็นตัวอักษรที่แข็งแกร่งและทรงพลังสามตัวในเอกสารแต่ละฉบับ
หวางอี้รวบรวมเอกสาร ขณะที่กำลังหันกลับ ก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเจ้านายดังขึ้นมาจากด้านหลัง—-
“เดี๋ยวก่อน!”
เขาหยุดฝีเท้า ก่อนจะหันกลับมา “ประธานลี่ มีเรื่องอะไรอีกเหรอครับ?”
“ส่งคนไปตรวจสอบของใช้ในชีวิตประจำวันของเธอ และไปตรวจสอบคนอื่นรอบๆ ตัวเธอด้วย”
พูดจบ หวางอี้ก็ไม่เข้าใจราวกับยังไม่ได้สติ จึงถามมากไปอีกหนึ่งคำ “เธอ?”
แต่ว่าเมื่อพูดคำนี้ออกไป หวางอี้ก็นึกเสียใจแล้ว!
‘เธอ’ ที่เจ้านายพูดถึง นอกจากคุณผู้หญิง แล้วยังจะเป็นใครได้ล่ะ
“ครับ ผมเข้าใจแล้วครับประธานลี่!” จู่ๆ หวางอี้ ก็พยักหน้ารัวๆ
ขณะที่เดินออกมา หวางอี้ก็ยังคงสงสัย คุณผู้หญิงเป็นคนสะอาดสะอ้าน อีกอย่างปกติก็ไม่ค่อยได้พบปะกับใคร ทำไมถึงได้ติดโรคแปลกๆ แบบนี้มานะ?
ตัวเขาคิดว่ามันน่าเหลือเชื่อมาก ตอนนี้เห็นที เจ้านายก็คงจะคิดเหมือนกันกับเขา
ชายร่างสูงใหญ่ ลุกขึ้นแล้วเดินไปข้างหน้าต่าง แสงอาทิตย์จากนอกหน้าต่างปกคลุมตัวเขาด้วยแสงสีทอง ในตาของเขา ลึกราวกับทะเล ซับซ้อนยากคาดเดา
ทางฝั่งบ้านตระกูลลี่ เจี่ยงเวินอี๋จู่ๆ ก็โผล่มา และจู่ๆ ก็เคลื่อนไหว ทำเอาซูย้าวรับมือไม่ทัน
ตั้งแต่เข้าประตูมา สีหน้าบูดบึ้งของเจี่ยงเวินอี๋ ราวกับนรกที่เต็มไปด้วยความหลงใหล เธอไม่แม้แต่จะมองซูย้าวที่เดินเข้ามาทักทายใกล้ๆ เธอแค่สั่งเลขาที่อยู่ด้านข้างอย่างเย็นชา “ไป ไปอุ้มคุณหนูมา!”
เลขาพยักหน้า และเดินตรงขึ้นไปชั้นบน
ซูย้าวอึ้งเล็กน้อย คำตำหนิที่รุนแรงของเจี่ยงเวินอี๋ก็ดังเข้ามาในหู “พูดไม่ได้ก็ช่างเถอะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นผู้หญิงที่สำส่อนและไร้ค่าแบบนี้!”
“ถึงกับเป็นโรคติดต่อ? ซูย้าว เธอนี่สุดยอดจริงๆ เลยนะ!ไปติดเชื้อจากคนสำส่อนที่ไหนมา? ดูเหมือนว่า เธอจะยังไม่พอใจกับ ตำแหน่งคุณผู้หญิงตระกูลลี่สินะ! “
แต่ละคำแต่ละประโยค ราวกับมีดอาบยาพิษ ใบมีดเฉียบคม ใจของซูย้าวเต็มไปด้วยบาดแผล
“ไม่พอใจก็บอก!ไม่มีใครขอให้เธออยู่ต่อ ไม่อยากจะอยู่ ก็ออกไป! “
“ฉันไม่อยากให้เธอ มามีผลกระทบต่อความสำเร็จของบริษัทลี่ซื่อแม้แต่นิดเดียว ซูย้าว ทางที่ดีเธอควรรอบคอบหน่อย! “
ซูย้าวดูประหลาดใจ จู่ๆ เจี่ยงเวินอี๋ก็มาพูดปาวๆ ต่อหน้าเธอ เลขาก็อุ้มลี่เจิ้งลงมาจากชั้นบน ตัวเล็กยังไม่ตื่น นอนอยู่ในอกของชายผู้นั้น นอนหลับลึกเลย
เมื่อเจี่ยงเวินอี๋เห็นหลาน ทันใดนั้นน้ำโหก็หายไปไม่น้อย เธอรีบเข้าไปค่อยๆ อุ้มหลานจากมือของเลขา “หลานชายคนโตของฉัน มาให้ย่าอุ้มหน่อย……”
ลี่เจิ้งกำลังหลับฝันอยู่ ถูกเจี่ยงเวินอี๋อุ้มเข้าอ้อมแขน ตาเล็กๆ หลับอยู่ แต่ปาจู๋เล็กน้อย แบบนี้มันยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่
เจี่ยงเวินอี๋รักและทะนุถนอมมาก เธอลูบหน้าเด็กน้อยอย่างเบามือ แล้วพูดอย่างอ่อนโยน “กลับบ้านกับย่านะ เด็กดีของย่า……”
พูดจบ ก็ไม่รอให้สีหน้าตกใจบนใบหน้าของซูย้าวเกิดขึ้น เจี่ยงเวินอี๋หันไปมองเธอ และพูดออกมาอย่างเย็นชา “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะรับเจิ้งเอ๋อไปอยู่ด้วย! “
จากนั้น ก็ไม่สนความเห็นและปฏิกิริยาของซูย้าว เจี่ยงเวินอี๋อุ้ม แล้วก็หันหลังเดินออกไป
ซูย้าวรีบเดินตามไป ไม่รอให้เธอตามทัน ก็ถูกเลขาห้ามไว้ก่อน
ชายวัยกลางคนบุคลิกดี โค้งให้อย่างเคารพ แล้วพูดขึ้น “ตอนนี้ผมว่าอย่าตามไปดีกว่าครับคุณผู้หญิง อาจจะทำให้นายหญิงโมโห สำหรับคุณ……”
เลขาจงใจลากเสียงยาวไม่พูด แต่สุดท้ายอยากจะพูดอะไร ในใจของซูย้าวรู้ดี
ทำให้เจี่ยงเวินอี๋โกรธ ไม่เป็นผลดีต่อเธอ
“คุณผู้หญิงคุณรีบรักษาตัวเถอะครับ! “เลขามองเธออยู่ครู่ ก็จะหันหลังเดินไป
ซูย้าวหยุดยืนตรงระเบียง จากนั้นก็มองไปทางเงาของรถไม่บัคที่ขับออกไป หัวใจหนักอึ้งราวกับถูกเทเหล็กและตะกั่วลงไป
ในห้องอาหารที่ห่างออกมา พ่อบ้านและแม่นมก็นินทาเสียงเบา เพียงไม่กี่คำ เสียงดังเข้าหูของเธอด้วยระดับเสียงที่เบา
“โรคติดต่อ? พระเจ้า!คงไม่ใช่โรคแบบนั้นหรอกนะ! “
“น่าจะไม่ใช่ เมื่อคืนคุณชายยังนอนกับเธออยู่เลยนะ!” แม่นมพูด
พ่อบ้านทำสายตาสงสัย “เธอรู้ได้ยังไง? ”
“เมื่อเช้าตอนเก็บห้องนอน ก็รู้สึกได้ ห้องรกๆ และยังมีผ้าปู……”
ล้วนแต่เป็นคนที่เคยผ่านประสบการณ์มา พ่อบ้านก็เข้าใจได้ทันที ทันใดนั้นก็ใช้มือผลักแม่นมเบาๆ “ต่อไปก็ดูของตัวเองให้ดี ใช้แยกกับเธอ อย่าให้พวกเราติดโรคล่ะ เดี๋ยวจะแย่เอา!”
“มันก็ต้องเป็นแบบนั้นแหละ น่ากลัวเกินไปแล้ว!”
……
คำพูดผ่านเข้ามาในหู ไม่ต้องมองก็รู้สึกได้ถึงความรังเกียจจากผู้อื่น ซูย้าวรีบหยิบเสื้อนอกกับกระเป๋า แล้วเดินออกไป แต่ละก้าวราวกับมีมีดคมๆ มาแทง เจ็บจนใจแตกสลาย
เธอจะไปโรงพยาบาล ต้องตรวจให้ชัดเจน ว่าสุดท้ายแล้วมันเกิดอะไรขึ้น!
เมื่อเดินออกมาจากบ้าน รถสปอร์ตเปิดประทุนสีแดงขับมาจากด้านหลังอย่างรวดเร็ว ดัง “พรึบ” และจอดลงตรงหน้าซูย้าว
ซูหยวนนั่งอยู่บนรถ ใส่แว่นกันแดดอย่างคูล ริมฝีปากสีแดงได้รูปสวย และคำพูดไม่แยแสตามมาทีละคำ ขณะขับมาถึง ก็ทำเอาซูย้าวถึงกับตกใจ
“จะไปโรงพยาบาลเหรอ!”
“เป็นไงบ้าง? ความรู้สึกที่ติดโรค สบายดีมั้ย? ”
ซูย้าวช็อกไป อย่างที่เธอคาดไว้ เป็นซูหยวนที่ก่อเรื่อง!
“ไม่ต้องเสียแรงไปโรงพยาบาลหรอก ก็แค่โรคเล็กๆ น้อยๆ อีกไม่กี่วันก็หาย! “ซูหยวนรู้ดี เธอแค่เล่นตุกติกกับครีมบำรุงผิวนิดหน่อย
จะมีผื่นแดงขึ้น เป็นเรื่องเล็กน้อย มันไม่ติดต่อ
แต่สิ่งที่ต้องการ ไม่ใช่โรคนี้ แต่เป็นข่าวลือและการใส่ร้าย
เห็นสีหน้ามัวหมองของซูย้าว ซูหยวนก็ยิ่งสบายใจขึ้น ถอดแว่นกันแดดออก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จะโทษฉันก็ไม่ได้!ต้องโทษที่เธอใช้ชีวิตอย่างล้มเหลว สามีกับแม่สามี ไม่มีใครเต็มใจออกมาเชื่อเธอเลยสักคน เหอะๆ ……”
คำพูดยังคงวนเวียนอยู่ข้างในหู เสียงหัวเราะอย่างเย็นชาของซูหยวน ดังวนเวียนอยู่ในหูของซูย้าวตลอด เธอมองดูรถสปอร์ตขับออกไป นิ้วเรียวยาวของเธอ ค่อยๆ กำแน่น